กุนซือใหญ่ทีมแซมบ้า ชี้ว่าสาเหตุที่ทีมต้องโดนปารากวัย เขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลโคปา อเมริกา เป็นเพราะถูกไวรัสเล่นงานจนนักเตะป่วยกว่าครึ่งทีมจนส่งผลต่อการฝึกซ้อม พร้อมกระตุ้นให้เก็บความพ่ายแพ้มาเป็นบทเรียน เพื่อกลับมามุ่งมั่นทำผลงานดีอีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2018...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 28 มิ.ย. 58 ว่า คาร์ลอส ดุงกา เฮดโค้ชทีมชาติบราซิล ออกโรงแจงเหตุที่ทำให้พลพรรคเซเลเซาต้องแพ้ต่อ ปารากวัย จนร่วงตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโคปา อเมริกา เป็นเพราะนักเตะกว่าค่อนทีมโดนเชื้อไวรัสเล่นงาน ทำให้ไม่สามารถซ้อมเทคนิคกันได้อย่างเต็มที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ทีมแซมบ้าได้ประตูออกนำไปก่อนจากลูกยิงของ โรบินโญ แต่ในช่วงท้ายเกมก็ต้องมาโดนตีเสมอจากลูกจุดโทษของ เดอร์ลิส กอนซาเลซ กระทั่งเกมยืดเยื้อไปจนถึงฎีกา และเป็นฝ่าย ปารากวัย ที่เอาชนะได้ในช่วงการดวลจุดโทษ
หลังจบเกม กุนซือวัย 51 ปี เผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทัพขุนพลแซมบ้า ถูกไวรัสเล่นงานจนป่วยกันค่อนทีม จึงทำให้ไม่สามารถซ้อมกันได้อย่างเต็มที่ในช่วงพักเบรกก่อนถึงรอบน็อกเอาต์
"มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่ผู้เล่นของเรา 15 คน ถูกไวรัสเล่นงาน บางคนปวดหัว บางคนปวดหลัง หนักสุดถึงขั้นอาเจียน ทำให้ต้องลดความเข้มข้นในโปรแกรมการฝึกซ้อมลงเพื่อช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวทันการแข่งขัน ซึ่งในครึ่งแรก วิลเลียน รู้สึกไม่ค่อยดี และ โรบินโญ ถึงขั้นป่วยหนักหลังจบเกม"
"ฟุตบอลโคปา อเมริกา เป็นงานยากสำหรับบราซิลเสมอ เราได้แชมป์รายการนี้มาเพียงไม่กี่ครั้ง เราเสียผู้เล่นถึง 5 คน ไปในการแข่งขันปีนี้ นั้นทำให้ต้องเจอกับงานที่ยากขึ้นอีกเป็นกอง และจำเป็นต้องมีการปรับทีมขนานใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยให้อยู่รอดในการแข่งขันครั้งนี้ได้"
"ส่วนการขาดหายไปของ เนย์มาร์ แน่นอนว่าเขาคือผู้เล่นคนสำคัญ แต่เราก็มีผู้เล่นที่มีคุณภาพอยู่ในทีมอีกไม่น้อย สิ่งสำคัญคือเราต้องนำเอาความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไปเป็นบทเรียน เพื่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุด คือการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2018 " ดุงกา กล่าว
โดยทีมชาติปารากวัย จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ ทีมชาติอาร์เจนตินา ในรอบรองชนะเลิศต่อไป.
ข้อมูลจาก //www.thairath.co.th/