ศึก โกปา อเมริกา 2024 รอบก่อนรองชนะเลิศคู่สุดท้าย ที่ อัลลีเจียนท์ สเตเดี้ยม อุรุกวัย ที่คว้าชัยรวด 3 นัด เจอ บราซิล ที่เข้าป้ายอันดับสองของกลุ่ม โดยคู่นี้ใครชนะจะผ่านไปเจอ โคลอมเบีย ในรอบตัดเชือก

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ขงเบ้ง อุรุกวัย วางตัวหลักเช่นเดิม แนวรุกนำโดย ดาร์วิน นูนเญซ ส่วนแผงกลางมี เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ และ มานูเอล อูการ์เต้ คอยคุมเกม

ฝั่ง บราซิล ของ โดริวัล จูเนียร์ ไม่มี โรดรีโก้ เนื่องจากติดโทษแบน ทำให้ เอ็นดริค ไอ้หนูวัย 17 ปีออกสตาร์ทตัวจริง

สองทีมเปิดแลกกันสนุก แต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงยังไม่ได้จบสกอร์กันเท่าไหร่ จนเข้าสู่นาที 33 โรนัลด์ อเราโฆ่ แนวรับคนสำคัญ อุรุกวัย บาดเจ็บแฮมสตริง ทำให้ โฆเซ่ ฆิเมเนซ ต้องลงเล่นแทน

นาที 35 ดาร์วิน นูนเญซ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งแบบไร้ตัวประกบ แต่ควบคุมน้ำหนักไม่ดีเหินข้ามคาน แล้วถัดจากนั้นนาทีเดียว บราซิล ลุ้นทำสกอร์บ้าง ราฟินญ่า กระชากฉีกแนวรับ "จอมโหด" แล้วได้ล่อเป้าด้วยขวาข้างไม่ถนัด แต่ดันยิงไปติด เซร์คิโอ โรเชต์ 

หมดครึ่งแรก อุรุกวัย กับ บราซิล ยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0

นาที 53 เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ เปิดลูกเตะมุมมาหน้าประตู บอลตกมาตรงกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้ว แม็กซิมิเลียโน่ อเราโฆ่ หวดซ้ายตูมเดียวบอลเหินข้ามคานออกไป

นาฮิทาน นานเดซ แข้งอุรุกวัย เข้าบอลหงายปุ่มใส่ข้อเท้า โรดรีโก้ ตอนแรกผู้ตัดสินควักแค่ใบเหลือง แต่เมื่อไปเช็คภาพช้าจึงกลับมาให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้ อุรุกวัย เหลือ 10 คนตอนนาที 74

นาที 84 เอ็นดริค พลิกบอลหลบแล้วส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษด้วยซ้าย แต่บอลเรียด เซร์คิโอ โรเชต์ ล้มตัวเซฟไว้ได้

บราซิล เร่งโหมอาศัยตัวที่มากกว่า แต่ก็ยังเจาะแนวรับอันเหนียวแน่นของ อุรุกวัย ไม่เข้า จบ 90 นาทีเจ๊า 0-0 ต้องไปดวลจุดโทษตัดสิน

และเป็น อุรุกวัย ที่เป็นฝ่ายยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไปได้ 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โกปา อเมริกา 2024 เจอกับ โคลอมเบีย ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม

จบ 90 นาที บราซิล 0-0 อุรุกวัย
จบช่วงดวลจุดโทษ บราซิล 2-4 อุรุกวัย
11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
บราซิล (4-2-3-1) :  อลิสซอน เบ็คเกอร์, ดานิโล, เอแดร์ มิลลิเตา, มาควินญอส, กีเฮเม อารานา, บรูโน กิมาไรส์, เจา โกเมส, ราฟินญา, ลูคัส ปาเกต้า, โรดรีโก้, เอ็นดริค

อุรุกวัย (4-2-3-1) : เซร์คิโอ โรเชต, นาฮิตัน นานเดซ, โรนัล อาเราโฆ, มาเธียส โอลิเวรา, มาเธียส วินา, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, มานูเอล อูการ์เต้, ฟากุนโด้ เปยิสตรี, นิโคลัส เด ลา ครุซ, แม็กซิมิเลียโน อาเราโฆ, ดาร์วิน นูนเญซ


ข้อมูลจาก https://www.siamsport.co.th