เรียนไปเที่ยวไป: เส้นทางบังคับภาคกลาง - Part II: วัดนิเวศธรรมประวัติและพิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา
ความเดิมตอนที่แล้ว
เมื่อจบการบรรยายและนำชมที่พระราชวังบางปะอิน ฟ้าที่เคยแจ่มจ้าก็เริ่มมีเมฆครึ้ม พวกเราจึงต้องเร่งฝีเท้า แล้วมารอคิวนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำไปยังวัด ซึ่งใช้เวลาพอสมควร เพราะมีนักท่องเที่ยวไทยและเทศรอคิวเพื่อไปยังจุดหมายเดียวกัน
เมื่อข้ามมาก่อน ...ก็พอมีเวลาเดินวน ๆ ชมบริเวณรอบ ๆ เก็บภาพไว้ระหว่างรอ
วัดนิเวศธรรมประวัติ เมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 โปรดให้บูรณะและสร้างอาคารให้พระราชวังบางปะอิน ก็โปรดให้สร้างวัดขึ้น เพื่อใช้เป็นวัดประจำพระราชวังตามแบบแผน แต่ให้อยู่นอกรั้ววัง และมีพระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย จำวัด และโปรดให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่ง เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตก สไตลโกธิค โดยมีจารึกพระราชดำริระบุว่า "...ด้วยมีความประสงค์จะบูชาพระพุทธศาสนาด้วยของแปลกประหลาด แลเพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ทั้งปวงชมเล่นเป็่นของแปลก..."
หน้าบันเป็นตราแผ่นดิน ประดับประติมากรรมรูปเทวดา ช่องหน้าตา ช่องประตู ทรงสูง ประดับกระจกสี เมื่อเข้าสู่ภายในพระอุโบสถ ก็ประดับอย่างตะวันตกเช่นกัน
พระพุทธนิรมล ประดิษฐานเป็นประธานในพระอุโบสถ ถัดมาทางด้านล่างมีพระนิรันตราย และมีพระอัครสาวก ด้านซ้ายคือพระสารีบุตร ด้านขวาคือพระโมคลานะ ตรงข้ามพระประธาน หากเป็นแบบไทยประเพณีเราจะเห็นภาพมารผจญ แต่ที่วัดนี้ ประดับกระจกเป็นพระบรมรูปรัชกาลที่ 5
นอกจากนั้นแล้ว เสมาของพระอุโบสถนั้นเป็นหินสลักอยู่แนวรั้ว จึงเท่ากับว่า สามารถทำสังฆกรรมทุกประการได้ภายในพื้นที่วัด และที่นี่ ยังมีสุสานหินของราชสกุลดิษกุล เนื่องจากสมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพทรงผนวชที่วัดนี้
จบการบรรยายก็ต้องรีบกลับ นอกจากฟ้าจะครึ้ม เมฆฝนลอยต่ำ และแล้วชาวคณะก็เจอฝนช่วงนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำจนได้
ข้ามกลับมาครบถ้วนแล้ว ก็ได้เวลาไปกินมื้อเที่ยงกันที่ร้านอาหารกู๊ดวิวพระนคร วิวแม่น้ำ อาหารอร่อย อีกเช่นเคย
มาถึงภาคบ่าย ก็เข้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ซึ่งในขณะนี้อาคารหนึ่งปิดซ่อมบำรุง ส่วนอีกอาคารหนึ่งนั้น จัด นิทรรศการเครื่องทองอยุธยา
ในห้องจัดแสดงนั้น ประกอบด้วยเครื่องทองจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ ซึ่งเป็นวัดสำคัญกลางพระนครศรีอยุธยา และที่พบจากกรุอื่น ๆ มาร้อยเรียงเล่าเรื่อง ได้ทั้งสาระ ความรู้ และได้ชื่นชมฝีมือช่างทองอยุธยา ที่ประณีตและงดงามมาก ๆ อวดนานาชาติได้เลยว่า สมัยอยุธยานั้นรุ่งเรื่องและร่ำรวยยิ่ง
ในธรรมเนียมการสร้างพระมหาธาตุศักดิสิทธิ์ ก็จะมีห้องกรุ บรรจุเครื่องอุทิศถวาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของมีค่า อัญมณี พระพิมพ์ และเครื่องใช้ต่างๆ กรุวัดราชบูรณะแตกปีพ.ศ.2499 – 2500 จึงมีการดำเนินการชุดแต่งทางโบราณคดี และนำของมีค่ามาเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
เครื่องทองที่พบในกรุนั้น ประกอบด้วย เครื่องราชูปโภคที่ใช้งานจริงในช่วงเวลานั้น หรือสร้างใหม่ รวมทั้งชองที่ทำขึ้น เช่น พระพุทธรูแ พระพิมพ์ แผ่นทอง ที่ทำขึ้นเพื่ออุทิศถวายเป็นพุทธบูชา
เป็นนิทรรศการที่ควรค่าแก่การเดินทางไปชมเป็นอย่างยิ่ง เราก็ตั้งใจว่าจะต้องย้อนกลับไปดึ่มดำกับความรุ่มรวยนี้อีกครั้ง
ใช้เวลาเรียนรู้รวมชั่วโมงกว่าๆ ออกจากห้องนิทรรศการ ก็ช้อปปิ้งหนังสือนำชมและหนังสือประกอบนิทรรศการติดไม้ติดมือกลับไปไว้ศึกษา และพากันขึ้นรถ ...เดินทางต่อ ได้ไหว้ศาลหลักเมืองจากในรถ
ติดตามตอนต่อไป: คลิก
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2566 |
|
2 comments |
Last Update : 14 ธันวาคม 2566 17:23:50 น. |
Counter : 563 Pageviews. |
|
|
|
เคยไป..ชอบๆๆค่ะ