ความจริงกับความฝันอาจแตกต่าง แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจ  
Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Tag Tag Tag

ในที่สุดก็โดน Tag จนได้ครับ โดนพร้อมกันถึง 2 Tag เลย คนแรกจากคุณกลกาลเจ้าของบล็อกสุดแสนโรแมนติก กับอีกหนึ่งคนคือสาวสวยห้องรัชดา คุณ Im onair ตามธรรมเนียมของ Blog Tag คือต้องเล่าเรื่องความลับของตัวเองที่ไม่มีใครรู้มา 5 เรื่อง แล้วส่งต่อ Tag ไปหาเพื่อนอีก 5 คน ให้เพื่อนๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดูๆคล้ายกลยุทธการขายตรงของสินค้าดังๆหลายยี่ห้อยังไงไม่รู้ ที่ไม่เหมือนกันอย่างเดียวคือไม่ได้เปอร์เซ็นต์การขายน่ะ แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน ทำให้ได้รู้จักเจ้าของบล็อกได้ดีมากขึ้น ต่อไปเป็นเรื่องราวของผมที่ไม่ค่อยมีใครได้รู้มาก่อน เพราะแทบไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย


เรื่องแรก โดนแม่จับโยนลงคลอง

เมื่อตอนเด็กๆ แม่เล่าให้ฟังว่าผมค่อนข้างงอแง ร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลบ่อยๆ จนโดนแม่ตีซะขาลายก้นลายไปหมดเลย มีอยู่วันหนึ่ง แม่พาไปเดินเล่นริมคลองแถวๆบ้าน ซึ่งคลองนั้นพี่ชายผมจะไปทอดแหเป็นประจำ ผมเกิดนึกอยากจะลงไปทอดแหกับพี่ชายมั่ง ร้องขอแม่เท่าไรแม่ก็ไม่ยอม แล้วก็เป็นไปตามคาด ผมลงไปร้องงอแงถีบขาไปมา จนแม่รำคาญทนไม่ไหว เลยจับผมโยนลงคลอง ตูม!!! ผมยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีคือ มีแต่เสียงบุ๋มๆๆๆอยู่ในหู กินน้ำไปหลายอึก หายไจไม่ไหวแล้ว โลกมันเริ่มมืดมิดลงทุกที ที่สำคัญคือผมว่ายน้ำไม่เป็นตะกายเท่าไรก็ขึ้นมาบนผิวน้ำไม่ได้คิดว่าคงตายแน่แล้ว แต่โชคยังดีที่พี่ชายทีทอดแหอยู่โดดลงมาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นคงกลายเป็นผีเฝ้าคลองไปแล้วล่ะ จากนั้นมาผมก็ไม่ค่อยงอแงกับแม่เท่าไร คงกลัวโดนจับโยนลงไปอีกน่ะ


เรื่องที่สอง ปลัดผู้น่าเกรงขาม

สมัยเรียนอยู่ ป.4 ในวิชาที่ต้องออกภาคสนามคือวิชาการเกษตร ต้องออกไปที่แปลงผัก เพื่อปลูกผัก เก็บผัก รดน้ำผัก ไปตามเรื่อง คราวนี้เวลาจะเดินไปแปลงผัก ผมจะต้องเดินผ่านห้องเรียนของรุ่นพี่ ป.5 ทุกครั้ง และทุกครั้งเช่นกันที่ผมจะต้องโดนพี่คนนึงที่นิสัยไม่ดีไถเงินเป็นประจำ ทีละ 5 บาท 10 บาทอยู่เรื่อย ถ้าไม่ให้มันก็จะขวางไม่ให้ไป หรือไม่ก็พาพวกมาขู่อยู่เรื่อย ผมไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องให้ไปทุกที เป็นอย่างนี้เป็นประจำ หลายๆครั้งเข้าก็เลยเกิดความคับแค้นใจ เลยปรึกษาเพื่อนคนนึงว่าจะทำไงดีโดนรังแกอย่างนี้ทุกวันทนไม่ไหวแล้ว เพื่อนที่แสนดีของผมมันก็เอาปลัด...มาให้อันนึงแถมบอกว่าให้คล้องเอวไว้แล้วไม่ต้องกลัวมัน มันทำไรให้สวนกลับไปเลย ด้วยความดีใจ และเชื่ออย่างสนิทใจว่าปลัดนั่นเป็นของขลัง ผมรีบเอาปลัดคล้องเอวแล้วพลางนึกในใจว่า คราวนี้แหละจะไม่ยอมให้มันไถเงินอีกแล้ว และในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง ผมเดินไปที่แปลงผักตามปกติโดยมีปลัดคล้องเอวอยู่ด้วย เป็นไปตามคาดไอ้พี่คนนั้นมันก็เดินมาไถเงินผมอีก จิตใจตอนนั้นฮึกเหิมมากไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย ไม่พูดพร่ำทำเพลง ผมเอามือตบไปบนหัวของมันอย่างแรงดังเพลี้ยะ กะว่าถ้าสวนมาผมเตรียมจะถีบมันให้ล้มเลย แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร คือมันงงมาก เอามือลูบหัวตัวเองเป็นการใหญ่ และที่สำคัญคือ มันร้องไห้แล้วเดินกลับไปในห้องเรียนแต่โดยดี เพื่อนๆทั้งของผมและของมันต่างงงกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่ผมกับเพื่อนที่ให้ปลัดมาเนี่ยแหละที่กระหยิ่มยิ้มย่องเดินไปที่แปลงผักอย่างมีความสุข


เรื่องที่สาม โดนเกย์ล่วงละเมิดทางเพศ

ตอนเรียนอยู่ ม.3 ตอนนั้นบ้านผมย้ายจากลาดพร้าวไปอยู่บางแคเกือบๆถึงหนองแขม สมัยนั้นต้องนั่งรถ 3 ต่อคือจากบ้านนั่งสาย 91 มาลงท่าช้างสนามหลวง จากนั้นต่อรถสาย 44 มาลงซอยโชคชัย 4 และต่อรถสองแถวมาถึงโรงเรียน ต้องตื่นออกจากบ้านตี 4 และกลับถึงบ้าน 2 ทุ่มทุกวัน มีอยู่วันนึงขณะที่กำลังนั่งรถสาย 44 ก็มีผู้ชายคนนึงมานั่งข้างๆ พร้อมทั้งชวนคุย ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คุยไปตามปกติ เพราะนั่งรถไกล ถ้าไม่หลับก็นั่งมองข้างทางไปเรื่อย มีเพื่อนคุยก็ดีเหมือนกัน เราคุยจนกระทั่งถึงสนามหลวง ผมก็ลงเพื่อที่จะต่อสาย 91 กลับบ้านตามปกติ และไม่ทันได้ดูว่าผู้ชายคนนั้นลงจากรถแล้วไปไหนต่อ ขณะที่ผมกำลังจะก้าวขึ้นสาย 91 ผู้ชายคนนั้นก็มาดึงแขนผมไว้แล้วบอกว่าขอคุยด้วยหน่อย ผมก็งงว่าจะคุยอะไรอีก แต่ด้วยความอยากรู้ก็เลยตามใจตัวเองสักหน่อย ผมเดินตามผู้ชายคนนั้นไปที่กลางสนามหลวงในขณะที่เวลานั้นค่อนข้างโพล้เพล้แล้ว ผู้ชายคนนั้นบอกให้ผมนั่งคอยก่อนเดี๋ยวจะไปซื้อน้ำกับขนมมาให้กิน ผมบอกไม่ต้องหรอก พี่มีอะไรพี่ก็คุยมาได้เลย ผู้ชายคนนั้นบอกว่างั้นเค้าไม่อ้อมค้อมหละนะ เค้าบอกว่าเค้าชอบผมอยากมีอะไรด้วย ผมก็ตะลึงสิ อะไรกันหว่า ยังไม่ทันตั้งตัวเค้าก็เอามือมาตะปปเข้าที่เป้ากางเกง ผมตกใจมากเลยเอากระเป๋านักเรียนฟาดไปที่หน้าเค้าพร้อมทั้งเอามืออีกข้างปัดมือเค้าออกด้วย แล้วก็วิ่งๆๆๆ ไม่คิดชีวิต โชคดีที่รถสาย 91 ยังไม่ออกจากท่า ผมเลยกระโดดขึ้นรถได้ทัน แต่เค้าก็ไม่วิ่งตามผมหรอกนะ เพราะตอนขึ้นรถไปแล้วผมก็มองลงมา ก็ไม่เห็นเค้าตามมาเลย เฮ้อออ..เกือบเสร็จเกย์แล้วมั๊ยเนี่ย


เรื่องที่สี่ เป็นทหารแต่ไม่เคยยิงปืน

ผมเป็นคนนึงที่ไม่ได้เรียน รักษาดินแดน(ร.ด.) เพราะไม่มีคนแนะนำว่ามันดียังไง แต่ก็ช่างเถอะ ในที่สุดผมก็ต้องเกณฑ์ทหาร ผมตัดสินใจสมัครให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้เป็นแค่ปีเดียว ในที่สุดก็ได้เป็นจริงๆ ผมอยู่เหล่าเสนารักษ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้เข้าไปใช้ชีวิต กิน นอน ฝึก ทุกอย่างที่นี่ตามแบบทหาร ก็ฝึกไปเรื่อยๆทุกวันจนกระทั่งถึงตอนที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ การฝึกยิงปืน คือฝึกทุกอย่างเกี่ยวกับปืน ตั้งแต่ ถอด ประกอบ ใส่กระสุน ท่ายิงแบบต่างๆ แต่ที่ฝึกทุกอย่างยังไม่ได้ยิงจริง การยิงจริงจะต้องไปยิงที่สนามยิงปืนที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ผมมีความใฝ่ฝันมากว่าจะต้องยิงปืนให้สนุกที่สุด ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง ...แต่โชคกลับไม่เข้าข้าง วันนั้นผมป่วยไม่สามารถไปยิงปืนได้ ทั้งกองร้อยมีผมป่วยอยู่คนเดียว วันนั้นทั้งวันต้องนอนเฝ้ากองร้อย โดยไม่มีโอกาสไปยิงปืนสักนัด ผมว่าผมคงเป็นทหารเพียงไม่กี่คนไนกองทัพหรอก ที่ไม่เคยยิงปืนในขณะประจำการเลยแม้แต่นัดเดียว


เรื่องสุดท้าย โลกมันกลมจริงๆ

ตอนที่ผมจบ ป.ตรี ใหม่ๆมีโอกาสไปสอนคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนแถวๆอนุสาวรีย์ชัยฯ งานสอนก็เป็นไปตามปกติ มีคนมาเรียนมากหน้าหลายตา จนจำไม่ค่อยได้หรอกว่าใครเคยเรียนกับเราบ้าง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปหาหมอที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเพื่อตรวจร่างกายประจำปี ระหว่างที่รอหมอเรียกตรวจก็มีพยาบาลคนนึงเดินมาหาผมแล้วยกมือไหว้ บอกว่าเชิญอาจารย์ที่ห้องตรวจเลยค่ะ ผมก็งง เธอก็บอกว่าจำเธอไม่ได้เหรอ เธอเคยเรียนวิชาภาษา C กับผมที่โรงเรียนไง ผมมองหน้าเธอแล้วก็เดินตามเธอไป พร้อมกับนึกไปด้วย ในที่สุดก็จำเธอได้ เธอยิ้มแล้วก็ส่งผมที่ห้องตรวจพร้อมกับยกมือไหว้อีกครั้งหนึ่ง ผมหันไปหาหมอเพื่อที่จะตรวจ พอหมอเห็นหน้าผมหมอก็ยกมือไหว้อีกคน ผมยิ่งงงมากกว่าเดิม หมอบอกว่าจำผมได้มั๊ยครับ ผมเคยเรียน OS กับอาจารย์ไง ก็เหมือนเดิม พยายามนึกในที่สุดก็จำได้ หมอจริงๆด้วยแฮะที่เรียนกับผม ถึงว่าสิตอนเรียนทำไมอีตาคนนี้ถึงเก่งจัง เก่งกว่าเพื่อนในห้องทั้งหมดเลย ทั้งๆที่อายุมากแล้ว ที่แท้ก็เป็นหมอนี่เอง ผมกับหมอเลยได้พูดคุยกันนานมาก ใช้เวลาในการคุยมากกว่าเวลาในการตรวจซะอีก และที่ผมมารู้ทีหลังคือ หมอมียศเป็นพันเอกด้วย และพยาบาลคนนั้นก็เป็นร้อยเอกหญิง และที่สำคัญต่อมาหมอคนนั้นได้เป็น รอง ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้าด้วย โรงพยาบาลเดียวกับที่ผมเคยเป็นทหารประจำการนั่นเอง


เป็นยังไงบ้างครับ เรื่องราวความลับของผม คราวนี้ก็ได้เวลาที่ผมจะ Tag ต่อเพื่อนๆ อีก 5 คนแล้วนะ (จริงๆ ไม่อยาก Tag เพราะไม่รู้จะ Tag ใครแล้ว เหลือเพื่อนในลิสต์ไม่กี่คนเอง นอกนั้นถูก Tag ไปเกือบหมดแล้ว)

1.ทิวลิปสีน้ำเงิน
2.คนไม่มีค่า
3.ลุงแมว
4.@ ปั๊กกาเป้า @..อิอิ
5. rayasuree


ขอให้ผู้โชคดีที่มีรายชื่อต่อไปนี้ อัพบล็อกด้วยจ้า แล้วผมจะตามไปอ่านนะครับ




Create Date : 14 มกราคม 2550
Last Update : 16 มกราคม 2550 17:13:59 น. 20 comments
Counter : 531 Pageviews.

 




ชอบเรื่องโดนคุณแม่จับโยนลงคลองกับโลกมันกลมค่ะ มีความสุขมาก ๆ น่ะค่ะ




โดย: icebridy วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:16:31:34 น.  

 



โดย: สาวใช้ ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:16:44:48 น.  

 
เท่จัง
มีลูกศิษย์เป็นทั้งหมอ
และพยาบาลเลย


โดย: โสดในซอย วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:16:46:16 น.  

 
ข้อสามนี้ ระทึกขวัญมากๆเลยค่ะ


โดย: ชมพู่น้อย วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:17:09:23 น.  

 

เท่จัง

มีแฟนเป็นหมอด้วย



โดย: สาวใช้ ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:17:18:10 น.  

 
แวะมาทำความรู้จักค่ะ


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:17:38:06 น.  

 
คุณเอ๋ขา....ความลับสนุกๆทั้งนั้นเลยค่ะ
แต่เรื่องที่ 3 นี่น่ากลัวนะคะ

ขอให้หายป่วยไวไวนะคะ รักษาสุขภาพค่ะ


โดย: Htervo วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:18:53:49 น.  

 
สวัสดีคะ
แวะมาอ่านความลับคะ
ข้อหนึ่งเป็นวิธีจัดการเด็กได้ชะงัดคะแต่กลัวไม่โผล่เท่านั้นเอง
ข้อสองเนี้ย เป็นจิตวิทยาที่ยอดเยี่ยมคะ


โดย: nakwan6 วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:18:57:42 น.  

 
นู๋ซึ..ว่า..ถ้าคุณ BM มาอยู่ใกล้...นู๋ซึ..อาจจะเสียความเป็นชายไปนานแล้วก็ได้นะค่ะ อิอิ


หื่นจริง ๆ เลยตรู..กะแฟนชาวบ้านก็ไม่เว้น


โดย: TsuTaYa วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:20:04:02 น.  

 
โห...คุณแม่โคตรเด็ดขาดเรยยยโยนลงคลองซะ ฮ่าๆๆๆ





โดย: ทาสบอย วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:20:06:57 น.  

 


ขอโทษนะคร๊า ..... เค๊า เปงคนเขียนไม่เก่งอ่ะ ... ไม่ขอ Tag ได้ป่ะ? งั้นเอาแบบนี้ดีก่า... ให้ขอเพลงแทนแล้วกันน๊า .. (ติดสินบน) ถ้าหามาให้ฟังได้จะหามาให้ค่ะ .... แต่ ถ้าจะให้เขียนๆไม่ได้จริงๆ ....


โดย: @ ปั๊กกาเป้า @..อิอิ วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:22:26:01 น.  

 
สวัสดีเจ้าค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกจะตรงข้ามกับข้าเจ้าตลอดข้าเจ้าชอบยิงปืน มีตรงกันคือเป็นการเขียน program อ่านเพลินเลยเจ้าค่ะ อยากรู้จังว่า กระเทยคิดงัยนะเจ้าค่ะ



โดย: บูรพกาล (กลกาล ) วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:22:33:18 น.  

 
สวัสดีค่ะแวะมาทักทาย
ช่วงนี้สนุกกะการอ่านบล็อกที่โดน tagค่ะ
ชอบอ่าน หนุกดี..
โลกกลมนี่เห็นด้วยเลยค่ะ
บางครั้งไม่คิดว่าจะได้เจอยังเจอกันได้เลย


โดย: ปางหวัน วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:22:45:25 น.  

 
เรื่องที่สามอ่ะ กลัวแทน


โดย: random-4 วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:7:05:50 น.  

 
เจ๋งมากค่ะ ทีหลังถ้าขับๆ รถไปแล้วโดนเรียกไถตังค์ก็ตบหัวเค้าทีหนึ่งไปเลยค่ะ บอกว่าพกปลัดมาด้วย ไม่กลัวๆ

หลังจากนั้นก็ตัวใครตัวมันนะคะ


โดย: Im onair วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:9:57:41 น.  

 

มาแอบอ่านความลับ

เพิ่งรู้ว่าคุณ BM มีประสบการณ์ เฉียด ด้วย


โดย: Moody-Angle วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:15:21:00 น.  

 
ไม่อยากบอกเลยจริงๆ มีบางอย่างที่คล้ายๆกัน หุๆๆ คือโดนเกย์ลวนลามบนรถเมล์ สาย 41 (สาย 41 เดิมคงจำได้นะครับ) แถวบางแคเหมือนกันอีก เหอะๆ อะไรจะโชคดีปานนั้น


โดย: ลุงแมว วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:20:58:41 น.  

 




สวัสดีตอนเที่ยงคืนของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ไม่ว่าจะอยู่....ที่ไหน
เธอก็อยู่ใกล้....ใกล้ ฉัน
อยู่ในความคิดถึง....ทุกวัน
ไม่ว่าเวลาใหนก็ .....คิดถึงเธอ



** มีความสุขมากๆๆกับคนที่คุณรักนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:6:28:26 น.  

 
hosting by pHosted.com


แวะเข้ามาอ่านความลับค่ะ สบายดีนะค่ะ


โดย: opleee วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:22:14:34 น.  

 


โดย: opleee วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:10:40:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bond Man
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เมื่อมีโอกาสตัดสินใจแล้ว จงตัดสินใจให้ดีที่สุด ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะไม่เหลือแม้แต่โอกาสและเวลาอีกเลย






ส่งข้อความหลังไมค์ถึงผมครับ




Friends' blogs
[Add Bond Man's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.