|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Tag Tag Tag
ในที่สุดก็โดน Tag จนได้ครับ โดนพร้อมกันถึง 2 Tag เลย คนแรกจากคุณกลกาลเจ้าของบล็อกสุดแสนโรแมนติก กับอีกหนึ่งคนคือสาวสวยห้องรัชดา คุณ Im onair ตามธรรมเนียมของ Blog Tag คือต้องเล่าเรื่องความลับของตัวเองที่ไม่มีใครรู้มา 5 เรื่อง แล้วส่งต่อ Tag ไปหาเพื่อนอีก 5 คน ให้เพื่อนๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดูๆคล้ายกลยุทธการขายตรงของสินค้าดังๆหลายยี่ห้อยังไงไม่รู้ ที่ไม่เหมือนกันอย่างเดียวคือไม่ได้เปอร์เซ็นต์การขายน่ะ แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน ทำให้ได้รู้จักเจ้าของบล็อกได้ดีมากขึ้น ต่อไปเป็นเรื่องราวของผมที่ไม่ค่อยมีใครได้รู้มาก่อน เพราะแทบไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย
เรื่องแรก โดนแม่จับโยนลงคลอง
เมื่อตอนเด็กๆ แม่เล่าให้ฟังว่าผมค่อนข้างงอแง ร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลบ่อยๆ จนโดนแม่ตีซะขาลายก้นลายไปหมดเลย มีอยู่วันหนึ่ง แม่พาไปเดินเล่นริมคลองแถวๆบ้าน ซึ่งคลองนั้นพี่ชายผมจะไปทอดแหเป็นประจำ ผมเกิดนึกอยากจะลงไปทอดแหกับพี่ชายมั่ง ร้องขอแม่เท่าไรแม่ก็ไม่ยอม แล้วก็เป็นไปตามคาด ผมลงไปร้องงอแงถีบขาไปมา จนแม่รำคาญทนไม่ไหว เลยจับผมโยนลงคลอง ตูม!!! ผมยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีคือ มีแต่เสียงบุ๋มๆๆๆอยู่ในหู กินน้ำไปหลายอึก หายไจไม่ไหวแล้ว โลกมันเริ่มมืดมิดลงทุกที ที่สำคัญคือผมว่ายน้ำไม่เป็นตะกายเท่าไรก็ขึ้นมาบนผิวน้ำไม่ได้คิดว่าคงตายแน่แล้ว แต่โชคยังดีที่พี่ชายทีทอดแหอยู่โดดลงมาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นคงกลายเป็นผีเฝ้าคลองไปแล้วล่ะ จากนั้นมาผมก็ไม่ค่อยงอแงกับแม่เท่าไร คงกลัวโดนจับโยนลงไปอีกน่ะ
เรื่องที่สอง ปลัดผู้น่าเกรงขาม
สมัยเรียนอยู่ ป.4 ในวิชาที่ต้องออกภาคสนามคือวิชาการเกษตร ต้องออกไปที่แปลงผัก เพื่อปลูกผัก เก็บผัก รดน้ำผัก ไปตามเรื่อง คราวนี้เวลาจะเดินไปแปลงผัก ผมจะต้องเดินผ่านห้องเรียนของรุ่นพี่ ป.5 ทุกครั้ง และทุกครั้งเช่นกันที่ผมจะต้องโดนพี่คนนึงที่นิสัยไม่ดีไถเงินเป็นประจำ ทีละ 5 บาท 10 บาทอยู่เรื่อย ถ้าไม่ให้มันก็จะขวางไม่ให้ไป หรือไม่ก็พาพวกมาขู่อยู่เรื่อย ผมไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องให้ไปทุกที เป็นอย่างนี้เป็นประจำ หลายๆครั้งเข้าก็เลยเกิดความคับแค้นใจ เลยปรึกษาเพื่อนคนนึงว่าจะทำไงดีโดนรังแกอย่างนี้ทุกวันทนไม่ไหวแล้ว เพื่อนที่แสนดีของผมมันก็เอาปลัด...มาให้อันนึงแถมบอกว่าให้คล้องเอวไว้แล้วไม่ต้องกลัวมัน มันทำไรให้สวนกลับไปเลย ด้วยความดีใจ และเชื่ออย่างสนิทใจว่าปลัดนั่นเป็นของขลัง ผมรีบเอาปลัดคล้องเอวแล้วพลางนึกในใจว่า คราวนี้แหละจะไม่ยอมให้มันไถเงินอีกแล้ว และในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง ผมเดินไปที่แปลงผักตามปกติโดยมีปลัดคล้องเอวอยู่ด้วย เป็นไปตามคาดไอ้พี่คนนั้นมันก็เดินมาไถเงินผมอีก จิตใจตอนนั้นฮึกเหิมมากไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย ไม่พูดพร่ำทำเพลง ผมเอามือตบไปบนหัวของมันอย่างแรงดังเพลี้ยะ กะว่าถ้าสวนมาผมเตรียมจะถีบมันให้ล้มเลย แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร คือมันงงมาก เอามือลูบหัวตัวเองเป็นการใหญ่ และที่สำคัญคือ มันร้องไห้แล้วเดินกลับไปในห้องเรียนแต่โดยดี เพื่อนๆทั้งของผมและของมันต่างงงกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่ผมกับเพื่อนที่ให้ปลัดมาเนี่ยแหละที่กระหยิ่มยิ้มย่องเดินไปที่แปลงผักอย่างมีความสุข
เรื่องที่สาม โดนเกย์ล่วงละเมิดทางเพศ
ตอนเรียนอยู่ ม.3 ตอนนั้นบ้านผมย้ายจากลาดพร้าวไปอยู่บางแคเกือบๆถึงหนองแขม สมัยนั้นต้องนั่งรถ 3 ต่อคือจากบ้านนั่งสาย 91 มาลงท่าช้างสนามหลวง จากนั้นต่อรถสาย 44 มาลงซอยโชคชัย 4 และต่อรถสองแถวมาถึงโรงเรียน ต้องตื่นออกจากบ้านตี 4 และกลับถึงบ้าน 2 ทุ่มทุกวัน มีอยู่วันนึงขณะที่กำลังนั่งรถสาย 44 ก็มีผู้ชายคนนึงมานั่งข้างๆ พร้อมทั้งชวนคุย ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คุยไปตามปกติ เพราะนั่งรถไกล ถ้าไม่หลับก็นั่งมองข้างทางไปเรื่อย มีเพื่อนคุยก็ดีเหมือนกัน เราคุยจนกระทั่งถึงสนามหลวง ผมก็ลงเพื่อที่จะต่อสาย 91 กลับบ้านตามปกติ และไม่ทันได้ดูว่าผู้ชายคนนั้นลงจากรถแล้วไปไหนต่อ ขณะที่ผมกำลังจะก้าวขึ้นสาย 91 ผู้ชายคนนั้นก็มาดึงแขนผมไว้แล้วบอกว่าขอคุยด้วยหน่อย ผมก็งงว่าจะคุยอะไรอีก แต่ด้วยความอยากรู้ก็เลยตามใจตัวเองสักหน่อย ผมเดินตามผู้ชายคนนั้นไปที่กลางสนามหลวงในขณะที่เวลานั้นค่อนข้างโพล้เพล้แล้ว ผู้ชายคนนั้นบอกให้ผมนั่งคอยก่อนเดี๋ยวจะไปซื้อน้ำกับขนมมาให้กิน ผมบอกไม่ต้องหรอก พี่มีอะไรพี่ก็คุยมาได้เลย ผู้ชายคนนั้นบอกว่างั้นเค้าไม่อ้อมค้อมหละนะ เค้าบอกว่าเค้าชอบผมอยากมีอะไรด้วย ผมก็ตะลึงสิ อะไรกันหว่า ยังไม่ทันตั้งตัวเค้าก็เอามือมาตะปปเข้าที่เป้ากางเกง ผมตกใจมากเลยเอากระเป๋านักเรียนฟาดไปที่หน้าเค้าพร้อมทั้งเอามืออีกข้างปัดมือเค้าออกด้วย แล้วก็วิ่งๆๆๆ ไม่คิดชีวิต โชคดีที่รถสาย 91 ยังไม่ออกจากท่า ผมเลยกระโดดขึ้นรถได้ทัน แต่เค้าก็ไม่วิ่งตามผมหรอกนะ เพราะตอนขึ้นรถไปแล้วผมก็มองลงมา ก็ไม่เห็นเค้าตามมาเลย เฮ้อออ..เกือบเสร็จเกย์แล้วมั๊ยเนี่ย
เรื่องที่สี่ เป็นทหารแต่ไม่เคยยิงปืน
ผมเป็นคนนึงที่ไม่ได้เรียน รักษาดินแดน(ร.ด.) เพราะไม่มีคนแนะนำว่ามันดียังไง แต่ก็ช่างเถอะ ในที่สุดผมก็ต้องเกณฑ์ทหาร ผมตัดสินใจสมัครให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้เป็นแค่ปีเดียว ในที่สุดก็ได้เป็นจริงๆ ผมอยู่เหล่าเสนารักษ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้เข้าไปใช้ชีวิต กิน นอน ฝึก ทุกอย่างที่นี่ตามแบบทหาร ก็ฝึกไปเรื่อยๆทุกวันจนกระทั่งถึงตอนที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ การฝึกยิงปืน คือฝึกทุกอย่างเกี่ยวกับปืน ตั้งแต่ ถอด ประกอบ ใส่กระสุน ท่ายิงแบบต่างๆ แต่ที่ฝึกทุกอย่างยังไม่ได้ยิงจริง การยิงจริงจะต้องไปยิงที่สนามยิงปืนที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ผมมีความใฝ่ฝันมากว่าจะต้องยิงปืนให้สนุกที่สุด ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง ...แต่โชคกลับไม่เข้าข้าง วันนั้นผมป่วยไม่สามารถไปยิงปืนได้ ทั้งกองร้อยมีผมป่วยอยู่คนเดียว วันนั้นทั้งวันต้องนอนเฝ้ากองร้อย โดยไม่มีโอกาสไปยิงปืนสักนัด ผมว่าผมคงเป็นทหารเพียงไม่กี่คนไนกองทัพหรอก ที่ไม่เคยยิงปืนในขณะประจำการเลยแม้แต่นัดเดียว
เรื่องสุดท้าย โลกมันกลมจริงๆ
ตอนที่ผมจบ ป.ตรี ใหม่ๆมีโอกาสไปสอนคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนแถวๆอนุสาวรีย์ชัยฯ งานสอนก็เป็นไปตามปกติ มีคนมาเรียนมากหน้าหลายตา จนจำไม่ค่อยได้หรอกว่าใครเคยเรียนกับเราบ้าง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปหาหมอที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเพื่อตรวจร่างกายประจำปี ระหว่างที่รอหมอเรียกตรวจก็มีพยาบาลคนนึงเดินมาหาผมแล้วยกมือไหว้ บอกว่าเชิญอาจารย์ที่ห้องตรวจเลยค่ะ ผมก็งง เธอก็บอกว่าจำเธอไม่ได้เหรอ เธอเคยเรียนวิชาภาษา C กับผมที่โรงเรียนไง ผมมองหน้าเธอแล้วก็เดินตามเธอไป พร้อมกับนึกไปด้วย ในที่สุดก็จำเธอได้ เธอยิ้มแล้วก็ส่งผมที่ห้องตรวจพร้อมกับยกมือไหว้อีกครั้งหนึ่ง ผมหันไปหาหมอเพื่อที่จะตรวจ พอหมอเห็นหน้าผมหมอก็ยกมือไหว้อีกคน ผมยิ่งงงมากกว่าเดิม หมอบอกว่าจำผมได้มั๊ยครับ ผมเคยเรียน OS กับอาจารย์ไง ก็เหมือนเดิม พยายามนึกในที่สุดก็จำได้ หมอจริงๆด้วยแฮะที่เรียนกับผม ถึงว่าสิตอนเรียนทำไมอีตาคนนี้ถึงเก่งจัง เก่งกว่าเพื่อนในห้องทั้งหมดเลย ทั้งๆที่อายุมากแล้ว ที่แท้ก็เป็นหมอนี่เอง ผมกับหมอเลยได้พูดคุยกันนานมาก ใช้เวลาในการคุยมากกว่าเวลาในการตรวจซะอีก และที่ผมมารู้ทีหลังคือ หมอมียศเป็นพันเอกด้วย และพยาบาลคนนั้นก็เป็นร้อยเอกหญิง และที่สำคัญต่อมาหมอคนนั้นได้เป็น รอง ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้าด้วย โรงพยาบาลเดียวกับที่ผมเคยเป็นทหารประจำการนั่นเอง
เป็นยังไงบ้างครับ เรื่องราวความลับของผม คราวนี้ก็ได้เวลาที่ผมจะ Tag ต่อเพื่อนๆ อีก 5 คนแล้วนะ (จริงๆ ไม่อยาก Tag เพราะไม่รู้จะ Tag ใครแล้ว เหลือเพื่อนในลิสต์ไม่กี่คนเอง นอกนั้นถูก Tag ไปเกือบหมดแล้ว)
1.ทิวลิปสีน้ำเงิน 2.คนไม่มีค่า 3.ลุงแมว 4.@ ปั๊กกาเป้า @..อิอิ 5. rayasuree
ขอให้ผู้โชคดีที่มีรายชื่อต่อไปนี้ อัพบล็อกด้วยจ้า แล้วผมจะตามไปอ่านนะครับ
Create Date : 14 มกราคม 2550 |
Last Update : 16 มกราคม 2550 17:13:59 น. |
|
20 comments
|
Counter : 531 Pageviews. |
|
|
|
โดย: icebridy วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:16:31:34 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:16:46:16 น. |
|
|
|
โดย: ชมพู่น้อย วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:17:09:23 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:17:38:06 น. |
|
|
|
โดย: Htervo วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:18:53:49 น. |
|
|
|
โดย: nakwan6 วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:18:57:42 น. |
|
|
|
โดย: TsuTaYa วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:20:04:02 น. |
|
|
|
โดย: ทาสบอย วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:20:06:57 น. |
|
|
|
โดย: บูรพกาล (กลกาล ) วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:22:33:18 น. |
|
|
|
โดย: ปางหวัน วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:22:45:25 น. |
|
|
|
โดย: random-4 วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:7:05:50 น. |
|
|
|
โดย: Im onair วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:9:57:41 น. |
|
|
|
โดย: Moody-Angle วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:15:21:00 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแมว วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:20:58:41 น. |
|
|
|
โดย: opleee วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:22:14:34 น. |
|
|
|
โดย: opleee วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:10:40:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ชอบเรื่องโดนคุณแม่จับโยนลงคลองกับโลกมันกลมค่ะ มีความสุขมาก ๆ น่ะค่ะ