Group Blog
 
 
กันยายน 2567
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 กันยายน 2567
 
All Blogs
 

นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 7

                พาใจเดินเข้าลิฟท์ กดหมายเลขขึ้นไปอีกสองชั้นตามคำเรียกทางโทรศัพท์
               “คุณพาใจ ขึ้นมาพบผมที”
               แม้ปลายสายไม่ได้กล่าวแนะนำตัว เธอจำเสียงได้ดี คุณสาโรจน์เจ้านายใหญ่ หัวหน้าคุณวิทยาอีกที
               ประตูเปิดออก เธอเห็นประตูกั้นอีกชั้น ก่อนเข้าสู่บริเวณทำงาน ยืนเมียงมองสักครู่ก็ได้ยินเสียงกด สัญญาณปลดล็อกประตู ให้เธอเข้าสู่ภายใน
               “มาพบคุณสาโรจน์ค่ะ”
               พาใจพูดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหา
               “นัดไว้หรือเปล่าค่ะ” ผู้หญิงคนนั้น ส่งยิ้มตอบ ยิ้มเผยเหมือนจริงใจเช่นนี้ต้องหมั่นฝึกฝน รอยยิ้มจริงใจ แต่มิได้มาจากภายใน รอยยิ้มเลขาผู้มีหน้าที่ต้องพบปะผู้คนเป็นด่านแรก ต้องใช้รอยยิ้มเช่นนี้
               “ไม่ได้นัดคะ เมื่อสักครู่คุณสาโรจน์โทรศัพท์เรียกขึ้นมาพบ”
               เลขาคนสวนกุลีกุจอไปที่เครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน ยกหูกดพูดสาย ไม่นานวางลง
               “เชิญค่ะคุณพาใจ”
               เลขาเดินนำไปที่ห้อง พาใจรู้สึกตัวพองขึ้นมาเล็กน้อย ผู้บริหารระดับสูงเรียกพบเธอทั้งที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ควรตัวพองแบบนี้มิใช่หรือ
 
               กรกฏเดินยิ้มปรี่เข้าหาพาใจเหมือนเช่นเคย เธอไม่เข้าใจว่าเขาทำได้อย่างไร เขายิ้มจริงใจ แต่เธอรู้เจตนา ว่าไม่ประสงค์ดีกับเธอสักเท่าไร และที่ว่าไม่ประสงค์ดี ก็มาจากใจเช่นกัน
               “คุณไว้ใจผมได้ ผมมาดี”
               พาใจอยากเชื่อเช่นนั้น บางครั้งเธอปล่อยตัวเองให้เชื่อด้วยซ้ำ เธออยากรู้สึกดีกับใครเธอเลือกเชื่อเช่น นั้นได้หรือไม่
               เขายังยืนยิ้ม มิยอมพูดจา เขารอเธอเอ่ย เธอรู้ว่าเขาต้องการใด้ยินอะไร เขารอคำตอบ วันนี้เธอมาเพื่อ ตอบคำถามนั้น
               “ฉันเลือกวันตาม ฆาตกร”
               รอยยิ้มของเขาจางหายไปในทันที คำตอบของพาใจมีผลให้กรกฏนิ่งเงียบไปสักครู่
               “คุณรู้จัก ฆาตกร หรือไม่ก็คุณคือ”
               เธอเผยยิ้มจนเห็นไรฟัน สุดท้ายหัวเราะเบาๆ “ฉันมาตอบคำถามเดียวไม่ใช่หรือค่ะ”
               กรกฏสายหน้าช้าๆ เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะตอบเช่นนี้ เขาใช้ลูกไม้กับงานของเธอเพื่อให้ได้คำตอบ และเธอจะใช้ตีลูกไม้นั้น ตีกลับบ้างไม่ได้เชียวหรือ
               “เอาละ จะให้ผมช่วยงานคุณอย่างไร”
               “คุณเป็นคนผูกก็ต้องเป็นคนแก้ซิค่ะ”
               “ผมผูกไว้หลายปมเพื่อคุณโดยเฉพาะ คุณอยากให้แก้ปมไหน”
               เธอควรกังวลหรือไม่กับคำพูดของเขา จะกี่ปมกี่ปัญหา เธอจะต้องขอความช่วยเหลือ เรื่องงานมาก เพียงใด หรือเธอมิต้องสนใจ เพราะเธอมีเรื่องสนใจเรื่องเดียว หากเขาคิดว่าปมทั้งหลายที่ผูกไว้นั้น จะทำให้ ได้คำตอบต่างๆ ที่ต้องการ พาใจได้แต่ปล่อยให้เขาคิดเช่นนั้น
              
               คุณหฤทัยผู้จัดการฝ่ายการขาย เป็นที่รู้จักกันเฉพาะวงใน และวงแคบเท่านั้น ว่าเธอคือภรรยาลับ ของคุณสาโรนจ์ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ที่รู้เพราะเธอทำงานพลาดบ่อยครั้ง ทุกครั้งคุณสาโรจน์ ต้องกางปีกมิให้เรื่องถึงคณะกรรมการ คราวนี้เธอผิดพลาดอีกครั้ง
               “รับออเดอร์เกินกำลังการผลิต จะทำอย่างไรให้ผลิตให้ทัน” พาใจถามกรกฏ มันคือปม ที่เขาผูก ไว้ใช่หรือไม่
               “ในคำถามของคุณ มีคำตอบอยู่แล้วนะพาใจ” เขาพูดปนยิ้มในแบบของเขา หากประโยคนี้หลุด มาจากปากอีกคน ถือว่ายียวนกวนประสาท
               “ผลิตเกินกำลังอย่างไรเล่า”
               พาใจรู้ว่าเขาตอบคำถามเธออย่างมีชัย เขารู้ว่าสมองน้อยๆของเธอ ไม่ว่าจะพยายามเร่งรัด เรียนรู้ สักเท่าไร ก็ยังคงเป็นเด็กฝึกงานอยู่ดี เธอบอกลาเขาอย่างเป็นมิตร อย่างน้อยก็ในตอนนี้ เขาบอกว่าผูกปมไว้มากมาย เพื่อเธอ เธอจะ ไปพบคนคลายปมอีกคน ที่เขาอยากช่วยเธอเช่นกัน คำถามนี้ภาณุภาพตอบได้เหมือนกรกฏ เธอต้องแน่ ใจใน คำตอบใช่หรือไม่เพราะนั้นหมายถึงเงินสิบล้าน
             “เครื่องจักรสามารถผลิตได้มากกว่านี้ หากเดินเครื่องเต็มกำลัง” เขาอธิบายให้เธอฟัง
เธอบอกปัญหาเรื่องงานกับเขา ว่าได้รับคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูง
               “ผมคำนวณดูแล้ว ถ้าเดินเครื่องเต็มกำลัง จะสามารถผลิตได้ตามออเดอร์ที่ต้องการ” ภาณุภาพส่งกระดาษแสดงการคำนวณให้เธอ วิธีการคำนวณในกระดาษ คือวิธีการผลิตที่ถูกต้อง
              “คุณบอกวิธีนี้กับนายของคุณ แล้วเขาจะหาวิธีดำเนินการเอง”
เธอฟังเขาอธิบายอย่างเงียบๆ เมื่อสิ้นคำ เธอก็ยื่นซองเอกสารให้เขา ภายในคือสำเนาเอกสาร สัญญาที่ต้องการ เขาผงกศรีษะให้เธอเล็กน้อย แสดงความพอใจในเอกสาร
              “ตอนนี้คุณต้องลงภาคสนามดูการทำงานจริง”
              พาใจมองตอบ จะให้เธอขานรับ “ได้ค่ะท่าน” คงทำไม่ลง น้ำเสียงในถ้อยคำ ราวนายสั่งบ่าวผู่น้อย ภาณุภาพ เห็นเธอ ไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบ ก็นึกรำคาญ หันหลังให้แล้วรีบเดินห่างออกไป เขาสิ้นธุระกับเธอแล้ว เขาไม่เคย คุยเรื่องงานกับใคร แล้วไม่ได้รับปฏิกิริยาโต้ตอบ เขาชอบคุยเรื่องงาน ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยงาน เขาจะโกรธ มากหากมีใครไม่สนใจในงาน โดยเฉพาะงานของเขา ผู้หญิงคนนี้ ยื่นเอกสารที่เขาต้องการ เพียงแค่เขาสั่ง ครั้งเดียว โดยไม่มีคำถามหรือคำอิดเอื่อนใดๆ แสดงว่าเธอได้ยินเขาทุกคำพุด เงินสามารถทำงานให้ได้ดั่งใจ เช่นนี้เชียวหรือ หรือเป็นแค่กับผู้หญิงหน้าเงินเท่านั้น
 
               ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการโรงงานทำให้พาใจ ผ่านประตูสู่พื้นที่การผลิต ภายในกว้างใหญ่กว่าที่เห็นตัวอาคารภายนอก อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยเห็นภายในโรงงานมาก่อน เธอเห็นแต่ตัวอาคารจนชินตา พาใจเดินดูการทำงานของเครื่องจักร โดยมีผู้คุมเครื่องคอยตอบคำถาม ไม่นานคุณอนิกวิศวกร ก็มาช่วยตอบเพียงแต่มีคำถามขึ้นมาก่อน
               “มีเรื่องอะไรกันหรือ”
            ภาพผู้หญิงหน้าใหม่เดินเตร่ในโรงงาน โฉบไปที่เครื่องตัวแล้วตัวเล่าขัดใจเขาอยู่มิใช่น้อย
               “มาเรียนรู้งานค่ะ”
               “พี่วิทยาไม่ได้สั่งไว้” น้ำเสียงไม่พอใจจากวิศกรคุมเครื่อง แสดงออกชัดเจน
               “เครื่องจักรกำลังเร่งการผลิตเต็มกำลัง น่าดูไม่ใช่หรือค่ะ”
               คุณอนิก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ คุณสาโรจน์ผู้บริหารระดับสูงสั่งการโดยตรง พร้อมแผนการผลิตที่เสี่ยงต่อการทำงานของเครื่องจักร
               “ที่นี่มีปัญหามากพอแล้ว เชิญคุณกลับไปก่อน” เสียงวีนกึ่งไล่ พาใจได้แต่ยิ้มรับ
               “ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นจริง คุณอนิกมีคำตอบกับคณะกรรมการแล้วหรือค่ะ ในฐานะเป็นวิศวกรคุมเครื่องทำไมถึงไม่ห้ามการผลิตที่มีความเสี่ยงต่อเครื่องจักร”
               “ก็ตอบไปตรงๆละว่าเกิดอะไรขึ้น” วิศวกรรำพึงอย่างหัวเสีย ดูท่าไม่พอใจคุณสาโรจน์สักเท่าไร
               “ถ้าดิฉันได้เรียนรู้งาน เดินดูอะไรอีกสักนิด อาจมีคำตอบเพื่อแก้ปัญหานั้น” พาใจกล่าวมั่นเหมาะ
               คนไม่พอใจมองพาใจอย่างรับรู้อะไรบางอย่าง ผู้หญิงคนนี้หรือที่พี่วิทยาบอกว่า ‘ไม่ต้องเป็นห่วงก็แค่เด็กคนหนึ่ง’
               “ตอนนี้กำลังเร่งการผลิต ยุ่ง ไม่สะดวก”
               คำปฏิเสธคำรบสอง นั่นหมายถึงเขาไม่เชื่อคำของพาใจ ที่บริษัทนี้ต้องใช้มากกว่าคำตอบทางเทคนิค คือต้องมีเทคนิคในการตอบ เส้นสายโยงใยในองค์กรต้องแตะให้ถูก
               “ผู้หญิงสาวๆอย่างดิฉัน มักจะมีคำตอบถูกใจเสมอมิใช่หรือค่ะ”
               คุณอนิกมองสำรวจเธอ ผู้หญิงร่างบางหน้าตา ถ้าแต่งแต้มเพิ่มอีกสักหน่อย  แต่ที่สำคัญลองเอ่ยขึ้นมาเอง เช่นนี้น่าจะเคยตอบถูกใจใครเข้าละมั้ง ผู้บริหารที่ออกคำสั่งนั่นก็ได้ยืนมาบ่อยๆ เรื่องบ้านเล็กบ้านน้อย อาจ ‘ถูกอกถูกใจ’ กันหรือเปล่า
               พาใจใส่ความนัยในคำพูด เธอไม่รู้ว่าคุณอนิก จะคิดเหมือนที่เธออยากให้คิดหรือไม่ แต่มีผลให้เธอ สามารถเดินดูอะไรๆรอบโรงงานได้ดั่งใจ
               “ตกลงว่าหากมีปัญหา มันจะตกเป็นของคุณ” คุณอนิกกล่าวแคลงใจ ผู้ช่วยคนใหม่ จะทำอะไร ได้หากเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ เขากลัวว่าจะพูดโอ่เสียมากกว่า
               “การให้เครื่องจักรผลิดเต็มกำลังมีผลเสียอย่างไรค่ะ” พาใจถาม
               “เครื่องจักรจะเกิดความร้อนมากเกินไป จะลดอายุการใช้งานและอาจเสียหายได้” วิศวกรผู้แคลงใจตอบ
               “คุณอนิกกำลังบอกว่า ต้องจัดการกับความร้อนใช่ไหมค่ะ” เหมือนได้สติคุณอนิกสังเกต บริเวณภาย ในโรงงาน อากาศร้อนขึ้นจริงๆ เขาน่าจะคิดได้ก่อนหรือไม่สักพักคงรู้ตัว ทำไมถึงต้องคอยให้หน้าใหม่มาสอน
               “ใช่ผมหมายความว่าอย่างนั้น” เขามัวแต่มองเส้นสายโยงใย ว่าจะแตะเส้นไหนถึงจะดี จึงมองข้ามหน้าที่ ของตัวเองไป
               เธอผละไปที่เครื่องจักรตัวอื่นๆ ดูการวางตำแหน่งของเครื่องจักร จนถึงวางแปลนโรงงาน โดยไม่มีใคร ตามมาคุมอีก
               พาใจเดินกลับมาหาคุณอนิกอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่มีเสียงห้วน กึ่งไล่อีกแล้ว
               “มีอะไรจะถามหรือเปล่า”
               “เด็กใหม่อย่างดิฉันต้องมีแน่นอน หากคุณอนิกว่าง”
               เขามองเธอครู่หนึ่ง เขาควรให้รายละเอียดของการผลิตและเครื่องจักกับเธอหรือไม่ ‘พี่วิทยาไม่ได้สั่งไว้’ บอกแต่เพียง ‘เธอแค่ผู้หญิงไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรไม่ต้องกังวล’ พี่วิทยาน่าจะคาดการณ์ผิด ไม่รู้ว่าเธอไต่ขึ้นมาจาก เส้นไหน ถึงมาได้รวดเร็วถึงผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัทใหญ่ เขาเองก็ต้องหาเส้นจับไว้บ้างไม่ใช่หรือ
               พาใจได้รับคำตอบเท่าที่วิศวกรผู้กำลังยุ่งว่าง เวลาเท่านี้เพียงพอแล้วสำหรับการลงสนามครั้งแรก สำหรับการลงสนามครั้งต่อไป พาใจเริ่มต้นด้วยประโยคทิ้งท้าย
               “ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน บางทีก็อาจช่วยอะไรๆได้ จริงไหมค่ะ”
               เธอจะยอมช่วยรับผิดการการผลิตครั้งนี้หากปัญหาเกิดขึ้น คุณอนิกนับว่ามีพวก มิใช่รับความผิดแต่ผู้เดียวในฐานะหัวหน้าวิศวกร มีอีกเส้นให้จับก็ดีกว่ามิใช่หรือ
 




 

Create Date : 13 กันยายน 2567
0 comments
Last Update : 15 กันยายน 2567 9:34:56 น.
Counter : 135 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BlogGang Popular Award#20


 
madam payee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วันหนึ่งฉันจะเขียนิยาย
Friends' blogs
[Add madam payee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.