“เหลี่ยม ว่าไง ทำไมเงียบไป” ชุ่มโวยมาตามสาย
“เดี๋ยวเจอกันที่เยาวราช” เหลี่ยมวางโทรศัพท์ เดินเข้ามาหาพี่มน
“พี่มน พี่จะไปเยาวราชจริงหรือ” เหลี่ยมพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“จริงซิ พี่อยากกินข้าวต้มปลา เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” พูดจบพี่มนก็หายเข้าห้องไป
“วิไลก็จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนกัน” วิไลวิ่งดีใจขึ้นไปข้างบน ปล่อยให้เหลี่ยม ยืนทั้งยิ้มทั้งร้องไห้อยู่คนเดียว
หน้าตลาดเยาวราช ชุ่มยืนดื่มน้ำเต้าหู รอ การมาของเหลี่ยม สักพักมีแท็กซี่เข้ามาจอด เหลี่ยม วิไล พี่มน ลงมาจากแท็กซี่ ชุ่มเห็นพี่มนถึงกับ สำลักน้ำเต้าหู้
“พี่มน” ชุ่มทักอย่างตกตะลึง
“ไงชุ่ม” ว่าจบพี่มนก็เดินไปสั่งน้ำเต้าหู้สามแก้ว
“พี่มนแกหายแล้วหรือ” ชุ่มกระซิบถามเหลี่ยม
“คงงั้นมั้ง” เหลี่ยมยิ้มตอบ พี่มนเดินกลับมา พูดกับเหลี่ยมและวิไล
“กินน้ำเต้าหูร้องท้องไปก่อนดีกว่า กินข้าวต้มคงไม่ทัน เห็นว่าชุ่มมันกำลังรีบ”
เมื่อมีแม่ครัวอาหารจีนมืออาชีพ นำซื้อของแล้วการจับจ่ายก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยที่ต้องซื้อของหลายรายการ เวลาจึงจวนเจียนเต็มที เหตุนี้เองที่ชุ่มต้องให้เหลี่ยมมาช่วยขับรถ เมื่อขนของขึ้นรถตู้ที่ชุ่มเอามาด้วยแล้ว เหลี่ยมก็ทำหน้าทีคนขับรถ มุ่งตรงไปที่งาน
ในรถชุ่มยังคงโทรติดต่อที่งานเป็นพัลวัน เหตุที่คุณบุญชัย เรียกหาชุ่ม เพราะชุ่ม กว้างขวาง พนักงานระดับสูงถึงล่างชุ่มรู้จักหมด ศรีเลขาคุณบุญชัยที่ว่าแน่แล้ว ยังต้องซูฮก นับถือเป็นผู้กว้างขวางของบริษัท
ที่งาน จัดสถานที่เรียบร้อย ด้านบนเวทีจัดเป็นครัวแสดงการปรุงอาหาร อุปกรณ์ครบครัน มากมายเหมือนครัวในภัตตาคารจีนก็ไม่ปาน ด้านหน้า จัดเป็นโต๊ะอาหารจีน สิบโต๊ะ เพื่อโชว์อาหารที่พึ่งปรุงเสร็จและอาหารแช่แข็งพร้อมเสริฟของนาราการ
ใกล้เวลาเปิดงานอาหารสดก็ถูกลำเลียงออกมาจัดวาง บรรยากาศในงาน คับคั่งไปด้วยสื่อมวลชน และผู้สนใจเข้าชมงานจากหลายฝ่าย งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของนาราการเริ่มขึ้น
ที่โรงพยาบาล ป้าสด เมฆ ดูการถ่ายทอดงานเปิดตัว ทางโทรทัศน์
“นี่ลงทุน มากขนาดให้ถ่ายทอดทางทีวีอย่างนี้ไม่รู้จะคุ้มหรือเปล่า” ป้าสดกล่าว
เมฆเฝ้าดูการถ่ายทอดสดอย่างเงียบๆ
งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของนาราการ สร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการ อย่างแท้จริง แต่เหมือนว่าผู้ชม และสื่อมวลชนจะผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ คุณบุญชัยเห็นดังนั้นก็ประกาศขึ้น
“ทางผู้บริหารของเราได้ประชุมกันแล้วว่า” ผู้บริหารที่มางานมองหน้ากันประชุมเรื่องอะไร “ถ้าใครทำอาหารจีนได้ถูกใจนักโภชนาการของเราแล้วละก็” นักโภชนาการของบริษัทก็มองหน้ากันงงไม่แพ้ผู้บริหาร
“ทางเราจะยินดี รับสูตรอาหารของท่านผลิตเป็นอาหารแช่แข็งของนาราการ ออกสู่ตลาดโลก” คุณบุญชัยประกาศเท่านั้นก็มีเสียงวิภาควิจารณ์ แนวคิดท้าทายของนาราการ
“ถ้าใครมีความประสงค์ที่จะแสดงฝีมือ ปรุงอาหารจีนในสูตรของท่าน เชิญเลยครับ”
ผู้ร่วมงานที่มาจากวงการอาหารทั้ง นักชิม นักปรุง นักวิจารณ์ ต่างก็ขยับตัวเข้าหารือกัน
แต่แล้วผู้ที่ก้าวขึ้นเวทีคนแรกคือ อดีตเจ้าพ่อวงการอาหารจีนผู้โด่งดังที่บัดนี้เกษียณอายุแล้วด้วยวัยที่ไม่สามารถยืนปรุงอาหารนานๆได้อีก ด้วยเหตุที่เครื่องไม้เครื่องมือที่ทางบริษัทจัดหามาครบครับ เครื่องปรุงของสดก็มากมาย ยากนักที่ผู้มีวิญญาณในการปรุงอาหารจะอดใจไหว
ผู้ร่วมงาน ปรบมือเป็นเกียรติ กล้องจับภาพมาที่เซฟผู้ยิ่งใหญ่ ด้านล่างเวทีเริ่มมีการจัดลำดับกันขึ้นมา แสดงการปรุงอาหาร คุณบุญชัยส่งให้พิธีกรดำเนินงานต่อ แล้วลงมาข้างล้างเวที คุณบุญชัยมองไปที่นายชุ่มที่มายืนชะเง้อคอ มองดูงานอยู่ ทั้งคู่สบตากัน คุณบุญชัยมองเพื่อนอย่างขอบคุณ นายชุ่มมองตอบอย่างยินดีในความสำเร็จ
หลังจากงานเปิดตัวผ่านพ้นไป มีข่าวออกมาว่า คนึงนิด น้องสาวของคำรณและเคมิน ผู้ต้องหาคดีจ้างวานฆ่า ได้กระโดดตึกตายด้วยความอับอาย เศร้า เสียใจ อันเกิดจากการการทำของพี่ชาย จดหมายที่เขียนทิ้งไว้บอกว่า ตนเองได้มีโอกาสพบกับนายเมฆา นาราการโดยบังเอิญ จากการพบกันครั้งนั้นทำให้รู้ว่าพี่ชายของเธอได้ ทำร้ายชีวิตครอบครัวที่แสนดี ครอบครัวหนึ่ง
ในห้องพักผู้ป่วย เกศรา เหมอมองท้องฟ้าตอนที่นายเมฆ ถามขึ้น
“พี่คงมองผมมีผ้าพันแผล เต็มตัวจนเบื่อ เลยต้องไปมองท้องฟ้าแทน”
“ไม่มีอะไร มาแทนภาพที่เมฆร้องเพราะเจ็บแผลได้หรอกจ๊ะ” เกศเดินเข้ามา หมายจะใช้นิ้วจิ้มลงบนแผลบนศรีษะของน้อง แต่เมฆ เอนตัวหลบได้ทัน
“ถ้าพี่เกศมัวแต่มาจิ้ม แผลผมแบบนี้ กับข้าวป้าสดที่ส่งมาโด๊ปให้เท่าไรก็คงทำให้แผลไม่หายสักที”
“ป้าสดทำอาหารโด๊ปคนป่วยได้ด้วยหรือ”
“พี่เกศคงไม่ค่อยได้กินข้าวบ้าน เลยยังไม่หาย” เกศรารู้ว่าน้องชายหมายถึงเรื่องอะไร
“ไว้หายพร้อมๆกันไหม”
“หาย แต่ไม่ลืมนะ” เมฆกล่าว เขาคงไม่มีวันลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขาเป็นอันขาด
“พี่จะหายพร้อมเมฆ จะไม่ลืมเหมือนเมฆ แต่พี่ขอลบบางคนออกจากความทรงจำ”
เกศราบอกกับน้องชาย มีเรื่องมากมายผ่านเข้ามาให้ชีวิต บางเรื่องควรจดจำบางเรื่อง ควรปล่อยให้มันผ่านไป