|
นิยาย ท้องฟ้าพาใจ ตอนที่ 9
ถึงพ่อหนุ่มท้องฟ้า ฉันคือชายชรา ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ที่พ่อหนุ่ม เดินเข้ามาส่งเอกสารให้ฉัน อย่างไรเล่า ฉันไม่ได้ให้พ่อหนุ่ม จำฉัน ว่าเป็นคุณปู่ของเจ้านายเธอหรอกนะ แต่เป็นเรื่องที่ฉันพาพ่อหนุ่มเดินชมบ้าน เล่าเรื่องราวต่างๆ ว่าฉัน เป็นคนคุมงานก่อนสร้างบ้านหลังนี้เอง เดินและยืนเล่าเรื่องได้เป็นเวลานาน พ่อหนุ่มเธอช่วยนำเรื่อง สุขภาพดีของฉัน ไปบอกลูกสาวของฉันทีได้ไหม ฉันแนบซองจดหมาย ที่ลูกเคยส่งมาให้เมื่อหลายปีก่อน มุมซองมีที่อยู่ของเธอ ช่วยฉันทีเถอะนะพ่อหนุ่ม ช่วยยืนยันถึงสุขภาพของฉัน ตามที่เธอเห็น ช่วยบอกลูก สาวของฉันทีว่า ‘ฉันถูกฆาตกรรม’ จดหมายสิ้นสุดเพียงเท่านั้น ไม่มีคำลงท้ายคุ้นเคยดังคำขึ้นต้น ชายหนุ่มเผยรอยยิ้ม คุณท่านนึกสนุก เขียนจดหมายแล้ววานให้ใครมาหย่อนไว้ ในกล่องรับจดหมายหน้าบ้านของเขา ดูเถอะซองแนบตามเนื้อความ ยังปรากฏชื่อตรงมุมซองตามคำกล่าว คุณท่านช่างละเอียดในการนึกสนุก แสตมป์ยังมีดวงตรงประทับจาก ไปรษณีย์ น่าขบขันเสียจริง เขาได้พบคุณท่านเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรก ตัวเขาเองขออาสามาส่งเอกสารด่วน ให้ที่บ้านเจ้านาย เขาอยู่ในหมู่บ้านถัดไปใกล้ๆนี่เอง บ้านเจ้านายเขาใหญ่โต เขาพึ่งเคยเข้ามานบ้านดั่งคฤหาสน์ นี้เป็นครั้งแรก คงดูเร่อร่าจนคุณท่าน ต้องชวนคุยด้วยความเมตตา และกรุณาพาเขาเดินชมคฤหาสน์ ท่านคงอยาก หาเพื่อนคุยตามประสาคนชรา ชายหนุ่มอ่านจดหมายคร่าวๆอีกครั้ง ก่อนพับใส่ซองดังเดิมวางไว้บนโต๊ะ วันนี้เขามีประชุมในตอนเช้า เขาต้องรีบไปทำงาน เขาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการอ่านจดหมายแปลกๆ เขาขี่มอเตอร์ไซด์คันเก่ง ออกจากบ้าน วันนี้ ท้องฟ้าสดใส หากแต่มิใช่ท้องฟ้าที่ปกคลุมพื้นดิน ชายหนุมชื่อท้องฟ้าก็เช่นกัน เขาอมยิ้มให้กับจดหมายนึกสนุก ของชายชรา คุณปู่ของเจ้านาย ท้องฟ้าถึงชั้นทำงานก็รีบไปห้องกาแฟ ชงดื่มเรียกชีวิตชีวาก่อนเข้าห้องประชุม ไม่ทันสังเกตว่า พนักงานคนอื่นๆเดินตามกันเข้ามา “วันนี้งดประชุม” พี่คนหนึ่งกล่าว ท้องฟ้าลดแก้วกาแฟลง ไม่ทันเอ่ยถามเหตุผล “คุณปู่ของคุณภาณุภาพเสียชีวิต” คำตอบแทรกขึ้น เขาไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะคิดอะไร ยืนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่อย่างนั้น “เมื่อวานเห็นว่า ไปส่งเอกสารที่บ้านท่าน” ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา “เห็นคุณท่านหรือเปล่า” เขาเห็นคุณท่าน คุณปู่ของคุณภาณุภาพ เขายื่นเอกสารให้กับมือ เพียงแต่ในตอนนี้ เขาได้แค่กล่าวคำ “ไม่เห็น” ท้องฟ้าตอบ เขานึกถึงจดหมายนึกสนุกฉบับนั้น จึงตอบไปเช่นนี้ ใจหนึ่งคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เรื่องจดหมายกับ เรื่องการเสียชีวิต หากมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเล่า มิเท่ากับว่าท่านเขียนจดหมายเพื่อเป็นการสั่งลาหรอกหรือ “ไม่เห็นจริงหรือ” มีคนถามซ้ำ เขาพยักหน้าแทนคำตอบ ช่วงเช้าท้องฟ้าแทบไม่ได้ทำงาน หยิบจับงานใดก็ลงมือไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน เขาทบทวนเนื้อความ ในจดหมายตลอดเวลา เรื่องบังเอิญหรือเรื่องจริง เขาควรทำอะไรตามเนื้อความในจดหมายหรือเปล่า ท้องฟ้าครุ่นคิดจนถึงที่สุด จึงเดินไปขอลางานในช่วงบ่าย “ผมมีธุระสำคัญ” เขาตรงกลับบ้าน อยากอ่านเนื้อความในจดหมายนั้นอีก บางทีเนื้อความอาจบอกอะไรกับเขา เขาอาจละเลยไป หากแต่พอเดินไปดูที่โต๊ะรับแขก ‘จดหมายหายไป’ “เป็นไปได้อย่างไร” เขาเลียวมองรอบบ้าน ไม่พบสิ่งผิดปรกติ ประตูหน้าต่างอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยงัดเปิด จดหมายหายไปได้อย่างไร เขาค้นทั่วห้องรับแขก ไม่มีจดหมาย มีใครเข้ามาหยิบจดหมายไปอย่างนั้นหรือ จับต้นชนปลายไม่ถูก สับสนจนตัวเองทรุดนั่งลง หรือคุณปู่ถูกฆาตกรรมจริงๆ ‘โธ่น่าสงสาร’ เวลาผ่าน ไปหลายชั่วโมงเขายังคงครุ่นคิดจนอึดอัดทนไม่ไหว ผลุนผลันออกจากบ้านไป ท้องฟ้ามาถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ประตูรั้วเปิดกว้างมีรถจอดอยู่เรียงราย ไร้ผู้คน เขาละล้าละลังควร ถือวิสาสะเดินเข้าไปหรือไม่ จะเข้าไปด้วยเหตุใด แต่ไม่ว่าด้วยเหตุใดผลพาให้เขามาถึงหน้าคฤหาสน์หลังนี้ เขาจะเดินเข้าไปบอกว่าคุณท่านเขียนจดหมายถึงเขา เล่าเนื้อความให้ฟังอย่างนั้นหรือ จดหมายมูลเหตุก็หายไป เขาควรทำอย่างไรดี ท้องฟ้าเดินวนเวียนอยู่หน้าประตูใหญ่ ในที่สุดตัดสินใจเดินจากมา คุณท่านใจดีมีเมตตาอย่างนั้น ทรัพย์สินเงินทองมากมายบรรดามี มิได้แปลกแยกท่านออกจากคนทำงานกินเงินเดือนเลย ท่านพูดคุยดั่ง เขาเป็นลูกหลานคนหนึ่งเลยทีเดียว หากมีเหตุพรากวิญญาณท่านได้ ก็ด้วยการสิ้นอายุขัยเท่านั้น ไม่ควรเป็น การผิดวิธีปรกติสามัญ ดั่งเช่น “ถูกฆาตกรรม” “คุณท้องฟ้ามีมีเอกสารมาส่งอีกหรือครับ” พลันเสียงเรียก นายชุ่มคนขับรถท่าน บ่าวผู้ภักดี น้ำตาคลอเป้า “เปล่า ฉันแค่ มา เออ” จะให้เขากล่าวออกไปอย่างไร ‘ฉันสงสัยในการตายของคุณท่าน’ อย่างนั้นหรือ “ฉันทราบข่าวว่าคุณท่าน เออ” “คุณท่านจากไปแล้ว” คนขับผู้ภักดีร้องโฮ ท้องฟ้าพานจะร้องไห้ตาม “ผมเสียใจด้วยนะครับ” เขาขอตัวเดินจากมา บางทีเขาน่าจะถามอะไรจากคนขับรถนี้ได้บ้างจึงเดินกลับไปหา “ลุงครับ เออ คุณท่านจากไปอย่างไร” คนปล่อยโฮสะอื้นตอบ “ท่านจากไปอย่างสงบ” หากคนรอบข้างรับรู้เช่นนั้นก็เป็นการดี หากมีใครส่งสัยว่าท่านมิได้จากไปอย่างสงบดั่งเข้าใจ จะเป็น เช่นไร ท้องฟ้าไม่รู้ควรทำอย่างไรต่อไป เขารู้เพียงไม่มีประโยชน์หากเขาอยู่ที่นี่ บางทีอาจเป็นเรื่องบังเอิญ อาจเป็นจดหมายนึกสนุก เขียนจดหมายพ้องพอดีกับท่านสิ้นอายุขัย เขาขึ้นมอเตอร์ไซดต์เตรียมกลับสตาร์ทเครื่องโดยไม่ทันเห็นใครเข้ามาใกล้จนยืนขวางหน้ารถของเขาไว้ “เข้าไปคุยกันก่อนซิ ท้องฟ้า” เขาชายตามองขึ้นอย่างประหลาดใจ “คุณภาณุภาพ” เขาเดินตามคุณภาณุภาพ เข้าไปในบ้านอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เจ้านายพาเข้าประตูหน้าบ้าน เดินผ่านห้องโถงใหญ่ เขาได้กลิ่นควันธูปจางๆ คุณภาณุภาพพาเขาเข้าไปในห้องส่วนลึกสุดของตัวบ้าน จนเขามองเห็นกำแพงรั้วอีกด้านหนึ่ง “นายรอตรงนี้สักครู่ ฉันจะไปตามคุณพ่อ” ‘คุณพ่อ’ ท้องฟ้าทวนคำในใจ ท่านประธารบริษัทนะหรือ ที่ต้องต้องการพบเขา ท้องฟ้ายืนคว้างรออยู่ ตอนนี้ใจเขาคิดเรื่องเดียวว่าจะเกี่ยวข้องกับจดหมายฉบับนั้นหรือไม่ เขาเป็นคนนอกยังได้รับจดหมาย แล้วคนในบ้านจะไม่รับรู้อะไรบ้างเลยหรือ มันจะเป็นผลดีหรือผลร้ายกันแน่ เขาชักหวั่นใจ ไม่นานคุณภาณุภาพกลับเข้ามาพร้อมท่านประธาน “สวัสดีครับท่าน” “นายท้องฟ้า ซินะ” “ครับ” “นายคุยอะไรกับคุณพ่อ” “เออ” เขาไม่รู้จะเริ่มเล่าเรื่องอย่างไร สนทนากับคุณท่านหลายเรื่องหลายใจความ “คุณพ่อมีบันทึกให้เงินเธอ ห้าแสนบาทเป็นค่าซ่อมแซมบ้าน” ท้องฟ้าพลันนึกเรื่องหนึ่งที่คุยกับคุณท่านได้ ถึงหลังคาบ้านเขาที่มีน้ำรั่วจน ต้องคอยเอาถัง มา รองน้ำเวลาฝนตก อีกระเบียงชั้นสองของบ้านทรุดโทรม จนเขาไม่กล้าออกไปยืนรับลมด้วยเกรงว่า จะได้รับบาดเจ็บจากการตกลงมา “เออ ครับ” เขาได้แต่ขานรับ “นี่เงินห้าแสนบาทให้เธอรับไว้” ภาณุภาพส่งซองสีน้ำตาลภายในบรรจุธนบัตรห้าแสนบาทให้ท้องฟ้า เขาถอยห่างออกมา “ผมรับไม่ได้ครับ” เงินไม่ใช่ของเขา ไม่มีเหตุใดที่มันควรเป็นของเขา “คุณปู่ท่านให้ก็รับไว้เถอะ” เจ้านายกล่าว “เออ แต่” ยังยืนกรานปฎิเสธ “มันเป็นคำสั่งของคุณพ่อ เธอช่วยรับไว้มิเช่นนั้น ลูกอย่างฉันก็จะได้ชื่อว่า ไม่ทำตามความประสงค์ สุดท้ายของท่าน” “ถ้าอย่างนั้นก็คิดเสียว่าผมรับเงิน แล้วคืนให้ท่านก็แล้วกัน ผมรับไม่ได้จริงๆ” ยืนคำมั่น ภายในห้องบังเกิดความเงียบ น่าอึดอัด “เอาเถอะถ้าเธอไม่รับเงิน ฉันคงจะบังคับไม่ได้ แต่หากฉันจะขอไม่ให้เธอนำเรื่องใดๆ จากบ้านหลังนี้ไปบอกใคร เธอจะให้ฉันได้ไหม” ท้องฟ้างงงัน เรื่องใดๆที่ว่า คือเรื่องการสนทนาของเขากับคุณท่านใช่ไหม มันแค่ ชายชราคุยกับคนส่งเอกสารเท่านั้น ต้องปิดบังด้วยหรือ หรือว่าเรื่องจดหมายฉบับนั้น “ระยะหลังคุณพ่อความจำไม่ค่อยดี บางทีก็ทำอะไรด้วยสติเลอะเลือน” เขาควรเอ่ยเรื่องจดหมายในตอนนี้หรือไม่ คุณท่านเขียนด้วยสติเลอะเลือนตามกล่าวอ้าง แต่จากการที่เขาคุยกับคุณท่าน ไม่ใช่ชายชราฟั่นเฟื่อนเป็นแน่ เงินห้าแสนที่ท่านทิ้งไว้ให้อาจให้เขาเป็นค่าตอบแทน หรือให้เก็บเงียบเรื่องจดหมาย และนั่นหมายความว่าท่าน ถูกฆาตกรรมจริงๆ โอ้ท้องฟ้า นายจะทำเช่นไร “ถ้าอย่างนั้นผมขอ หนึ่งล้านบาท” ท้องฟ้ากล่าว เขาถือซองสีน้ำตาลบรรจุเงินหนึ่งล้านบาทออกจากคฤหาสน์ ขึ่มอเตอร์ไซด์กลับบ้านอย่างเลื่อนลอย เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมงกลับมีเรื่องมากมายให้ครุ่นคิด ถึงบ้านเขาแหงนมองระเบียงชั้นสอง ก่อนเดินเข้าภายใน วางซองเงินลงบนโต๊ะรับแขก เงินนี้คือค่าปิดปากไม่ให้เขาพูดเรื่อง ฆาตกรรมใช่หรือไม่ เขารีบคว้าหากระดาษปากกา รื้อฟื้นความทรงจำ เขียนที่อยู่ตามซองจดหมายจากคุณท่าน เขาจำชื่อหมู่บ้านและถนนได้ แต่บ้านเลขที่เลือนลาง ลองเขียนเลขสลับไปมา เห็นเป็นบ้านสามหลังที่เขาต้องค้นหา
Create Date : 17 กันยายน 2567 |
Last Update : 17 กันยายน 2567 9:14:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 134 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
BlogGang Popular Award#20
|
|
|
|
|
|
|