Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
เมื่อฉันโดนสุ่มตรวจอาหารที่ด้านตรวจคนเข้าเมือง! (สนามบินแอตแลนต้า)

หลังจากเดินทางออกจากเกาหลีแล้ว ก่อนที่เครื่องบินจะลงจอดสนามบินที่แอตแลนต้านั้นฝนตกและลมแรง เครื่องบินบนวนไปมานานมากกว่าจะได้ลงจอด เดาว่าคงหนีอากาศแปรปรวนอ่ะ แล้วแบบว่านั่งเครื่องมาสิบกว่าชั่วโมง อยากให้ถึงใจจะขาดแต่ไม่ถึงสักที มองจอภาพเห็นเส้นทางการบินแล้วปวดหัวตามเลย บินวนเป็นวงกลมเลยอ่ะ เท่านั้นยังไม่พอบินจะถึงจุดหมายอีกนิดเดียววกกลับซะงั้น แล้วก็วกเข้ามาใหม่ วนออกไปอีก โอ๊ย..จะบ้าตาย เริ่มเมาเครื่องบิน ผะอืดผะอมจะอ้วกอยู่ละ ไม่ทันไรได้ยินเสียงอ้วกของเด็กที่นั่งใกล้ ๆ โอ้โห เอาเข้าไป แล้วเด็กอ้วกนานมาก เครื่องบินก็ไม่จอดสักที ของที่กิน ๆ เข้าไปก็มาจ่อตรงคอหอยอยู่ละ รีบหาหมากฝรั่งมาเคี้ยวทันที แล้วตัดสินใจหลับหูหลับตาปิดกั้นทุกสิ่ง ฉันไม่รับรู้อะไรสักอย่าง สักพักเครื่องบินก็สั่น ๆ หูเริ่มอื้อ พอลืมตาอีกทีถึงพื้นซะงั้น ก็ดีไป ของที่เคยมาจ่อจะออกมะรอมระล่อก็ถอยกลับไปเหมือนเดิม พอถึงเวลาออกจากเครื่องก็รีบยืนยืดเส้นก่อนเลย แล้วที่นั่งก็อยู่ท้ายสุดด้วยนะ กว่าจะได้ลงรอนานได้อีก

พอเข้าไปที่สนามบินแอตแลนต้าก็ตรงไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อน มีช่องให้เดินแยกระหว่างvisitors กับ...กับอะไรสักอย่าง ลืม คือคนที่ถือสัญชาติเมกันนั่นแหละ ฮ่าๆ

ก็เดินไปที่ช่องvisitors อันที่จริงก็เดินตามชาวบ้านไปนั่นแหละ ใช้มุกเดิม ๆ เตรียมพาสปอร์ตกับใบ DS2019 ให้เรียบร้อย แล้วก็ใบต.ม.กับใบดีแคลอาหารด้วย (สองใบนี้จะได้กรอกบนเครื่องบินก่อนถึงแอตแลนต้า) แถวมันจะตามช่องคล้าย ๆ ที่เข้าไปจองตั๋วโรงหนัง คือจะคดเคี้ยวเลี้ยวลดเป็นงูเลย พอใกล้ ๆ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจดูใบต.ม กับใบดีแคลว่าเขียนถูกต้องไหม ถ้าไม่ถูกหรือมีปัญหาก็จะให้เขียนใหม่ เขามีโต๊ะวางใบนั้นไว้เป็นปึกเลย เจอป้าเจ้าหน้าที่เป็นคนไทยด้วย คุยทักทายกันนิดหน่อย พอมาถึงหัวแถวก็จะแบ่ง ๆ ไปเข้าแถวแต่ละช่อง คล้าย ๆ กับการสุ่มแจกไพ่(ดูมันเปรียบเทียบ) แบบว่าแถวไหนเริ่มสั้นก็ให้เดินไปต่อที่นั่น ก็เดินไปแล้วก็รอ

พอถึงตาเราก็ลากแครี่ออนไปยืนหน้าเค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ ยื่นพาสปอร์ตกับใบทั้งหลายให้เขา เขาก็เอาไปดู ถามว่ามาทำอะไร ไปอยู่ที่ไหน พอบอกว่าไปอยู่เวอร์จิเนียเขาก็บอกว่าเวอร์จิเนียเป็นเมืองสวยนะ คุณจะชอบ จากนั้นก็ให้สแกนนิ้วมือทั้งสิบ สแกนดวงตา แล้วก็คืนเอกสารต่าง ๆ ให้ แอบสังเกตใบดีแคลอาหารว่าเขาเขียนเลขหนึ่งแล้ววงกลมใหญ่ ๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร (หารู้ไม่ว่ามันคือความซวย)

เสร็จแล้วก็เดินไปเอากระเป๋า ตอนเห็นกระเป๋าอันใหญ่สีน้ำตาลแล้วอยากอุทานโอ้มายก๊อด กระเป๋าใหม่สุดไฉไลอย่างกับผ่านสงครามโลกมาไม่ปาน สภาพอนาถสุดๆ แล้วก็มองหากระเป๋าใบที่สอง อ่า..สภาพไม่ต่างกัน แต่ที่อยากกรี๊ดคือล้อมันหัก!! หักไปหนึ่งล้อ อร๊ายยย แล้วฉันจะลากไปยังไง ยังดีที่ตอนนั้นมีรถเข็นให้ ก็เอาใส่รถเข็นลาก ๆ กันไป

ผ่านเข้าช่องคืนใบดีแคล เพื่อนผ่านฉลุย ไอ้เราก็คิดว่าคงจะผ่านเหมือนกัน พอยื่นใบให้เจ้าหน้าที่เท่านั้นแหละ โดนเบรคกระทันหันเลย ขอพาสปอร์ตเราแล้วเอาใส่ซอง บอกให้เข้าไปห้องใกล้ ๆ ช่องที่หนึ่ง เริ่มใจเสียแระตู จะโดนยึดอะไรไหมหว่า เดินไปที่ช่องหนึ่งเขาบอกให้ไปช่องสอง อ่าว จะผัดกันทำไมเนี่ย ตูยิ่งใจสั่น ๆ อยู่ พอไปช่องสองเขาก็เอาซองใส่พาสปอร์ตเราไป แล้วบอกให้นั่งรอ สักพักก็บอกให้มาตรวจกระเป๋า ต้องลากล้อเข็นไปจุดตรวจ ยกกระเป๋าขึ้นไปที่แท่นยาว ๆ อีก อนาถชีวิต กระเป๋าก็หนัก ดีนะที่เจ้าหน้าที่(เป็นหญิงผิวสี)ช่วยยก วางกระเป๋าทุกใบเรียบร้อยเขาก็ถามว่ามีอาหารไหม ก็อ้อมแอ้มตอบว่ามีคุ๊กกี้ เขาก็ขอดู ก็ให้ดูไป แล้วสภาพถุงคุ๊กกี้ก็แบบว่า เอาใส่ถุงพลาสิกแล้วมัดหนังสติ๊กอ่ะ คุ๊กกี้ก็หักเละไปเรียบร้อยจากการเดินทาง เจ้าหน้าที่อึ้งไปสองวินาทีแล้วยิ้มๆหัวเราะนิดหนึ่ง ไอ้เราก็คิดว่าเขาคงไม่เคยเห็นการบรรจุหีบห่อได้น่าอนาถแบบนี้มาก่อนอ่ะนะ ที่อเมริกามีแต่ใส่ถุงซิบล๊อกอ่ะดิ มาเจอมัดหนังยางก็อึ้งกันไป จากนั้นก็ให้เราเปิดกระเป๋าทุกใบ หมายถึงไขกุญแจที่ล๊อก ๆ ไว้อ่ะนะ กระเป๋าใบแรกเปิดผ่างมาเจอกระปุกน้ำพริกนรกกุ้งเลยค้าบ มีห่อมาม่าวางใกล้กัน ไอ้เราก็เอาแล้วโว้ย ตูโดนแน่ แต่เปล่าเลย เขามองข้ามไปค้น ๆ ที่อื่นแทน ประมาณว่าไม่ใช่เป้าหมายตู จากนั้นก็เปิดกระเป๋าอีกใบก็ค้น ๆ มองผ่านพวกขนมทาโร่ โจ๊กซองรสธัญญาพืชสารพัดไปหมดเลย จบการตรวจค้นไม่ยึดอะไรสักอย่าง โล่งใจมาก ก็เลยชวนคุยไปว่าเพิ่งมาเมกาครั้งแรกเลยนะเนี่ย งั้นงี้ เขาก็บอกว่าเหรอ ๆ ยินดีต้อนรับสู่เมกานะ ก็ปิดกระเป๋า เซย์กู๊ดบายกันด้วยดี ฮ่าๆๆ

ออกมาด้านนอกก็เอาเข็นรถเข็นไปส่งกระเป๋าให้เขาโหลดลงใต้เครื่อง แล้วก็ลากแครี่ออนแบบมึน ๆ เพราะไม่รู้จะไปทางไหน เพราะไม่เห็นเพื่อนตั้งแต่โดนกักตัวตรวจอาหารแล้ว ดีนะที่สนามบินเจ้าหน้ายืนเพียบเลย เข้าไปถามเขาก็ชี้ทางให้ ก็เดินตามที่เขาชี้ไป เป็นด่านเอ๊กเรย์กระเป๋าและร่างกาย ก็ต้องเอาโน๊ตบุ๊กออกใส่ถาด ถอดเสื้อกันหนาว ถอดรองเท้า เสร็จแล้วก็ต้องเดินผ่านเครื่องอะไรสักอย่าง ก็ผ่านฉลุย เก็บข้าวเก็บของเดินไปรอที่เกตซึ่งเป็นเที่ยวบินสุดท้ายซะที

คุ๊กกี้ที่บรรจุหีบห่อตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ฮ่าๆ




Create Date : 18 ตุลาคม 2552
Last Update : 18 ตุลาคม 2552 9:28:21 น. 4 comments
Counter : 1549 Pageviews.

 

ตลกมากๆๆๆ


โดย: กระจกเงา เบบี้ (budja09 ) วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:17:19:00 น.  

 
นั่งลุ้นใจแทบขาดนะเนี่ยะ...จกท. โชคดีนะค่ะ เจ้าคุกกี้ก็น่าสงสารด้วย

เอ๊ะเดินทางไปกลับไทย-เยอรมันบ่อย ก็เสียวๆ จะโดนตรวจ เพราะขนผักผลไม้มาเกือบทั้งสวนค่ะ ระหว่างเดินผ่าน จะเจอคนไทย (หรือผมดำแบบเอเซีย) เรียกตรวจเป็นประจำเราก็เสียวๆเนอะ

ครั้งที่แล้วก็บนไว้ ถ้าไม่โดนตรวจจะสวดชินณบัญชร 5 รอบ..(บนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยนะค่ะ)


โดย: aehaeh55 วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:17:50:17 น.  

 
ลุ้นดีนะคะ เดี๋ยวนี้เค้าแสกนลูกตานักท่องเที่ยวด้วยเหรอ ? ความรู้ใหม่ค่ะ

พี่โดนเปิดกระเป๋าประจำ ชินมาก ๆ ต้องตั้งสติดี ๆ เค้าถามมา เราก็ตอบไป พี่ขนเข้ามา ยิ่งกว่าน้องอีก อิอิ แต่ไม่เคยมีปัญหา


โดย: Lilac Girl วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:21:34:48 น.  

 
หวัดดีค่ะ ขำกร๊ากตอนอ่าน 555
เคยไปเมกามาตอนนั้นดีที่ไม่โดนอาไร
แต่ก้อแอบให้ปเดกาเป๋านะ ... เราก้อบอกมีแค่หนมนะลุง
มานเลยให้ผ่าน ไป


โดย: เกรซายน์ วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:17:23:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวดำข้างหน้าต่าง
Location :
Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Que sera sera
Whatever will be will be
The future's not ours to see
Que sera sera
What will be, will be.
Friends' blogs
[Add แมวดำข้างหน้าต่าง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.