พระราชวังพญาไท หรือ ที่เราเรียกว่า วังพญาไท
พระราชวังพญาไท หรือ ที่เราเรียกกันว่า วังพญาไท ผ่านไปผ่านมาทุกวันสมัยเรียนมัธยม ไม่เคยได้เข้าไป กว่าจะได้ไปก็จบทำงานแล้วถึงได้มีโอกาส ....
ขอเล่าประวัติ ของวังพญาไท พอย่อๆนะครับ
วังพญาไท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๕๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เสด็จทอดพระเนตรการทำนา การปลูกผักและการเลี้ยงสัตว์ วังนี้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างตำหนักเป็นที่ประทับ รวมถึงส่วนพื้นที่ด้านตรงข้ามกับพระตำหนัก โปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ทำนา รวมทั้ง โรงนา ขึ้นเพื่อประกอบพระราชพิธีแรกนาขวัญหลายครั้ง ณ วังพญาไท
วังพญาไทใช้เป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ ในระยะเวลาอันสั้น เพราะเมื่อหลังจากมีการขึ้นเรือนใหม่ได้เพียงไม่กี่เดือนก็สวรรคต
และในสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้ทูลเชิญสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชินีพันปีหลวง พระราชมารดา มาประทับที่พระราชวังแห่งนี้ด้วย จนกระทั่งสวรรคตเมื่อปี ๒๔๖๓ หลังจากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้ทรงรื้อพระตำหนักพญาไท ออกทั้งหมด เหลือไว้เพียง พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ ท้องพระโรง และทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งใหม่หลายพระองค์ด้วยกัน รวมทั้งได้รับการสถาปนาวังเป็น พระราชวังพญาไท
รัชกาลที่ ๖ ทรงเสด็จมาประทับที่วังนี้ จนถึงปลายรัชกาลจึงเสด็จไปประทับในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง จนกระทั่งสวรรคต
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของพระราชวังพญาไทในสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้แก่ ดุสิตธานี หรือเมืองประชาธิปไตยย่อส่วน ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นเมืองจำลองขึ้นเพื่อทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งปัจจุบันไม่มีเหลือให้เห็นแล้ว
รัชกาลที่ ๗ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุงวังพญาไทเป็นโรงแรมของชาวต่างชาติ ได้ ๕ ปีก็เลิกกิจการ จากนั้นพระราชวังพญาไทได้เป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียง วิทยุเเห่งเเรกของไทย ภายหลังเปลี่ยนการปกครอง จึงทรงพระราชทานวังนี้ให้เป็นสถานพยาบาล ของกองทัพบก และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาจนปัจจุบัน
ติดตามต่อได้ตามนี้นะครับ
//www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G4288293/G4288293.html#13
ขอบคุณครับ
Create Date : 16 เมษายน 2549 |
Last Update : 16 เมษายน 2549 20:30:35 น. |
|
20 comments
|
Counter : 2550 Pageviews. |
|
|
|
โดย: mungkood วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:20:11:31 น. |
|
|
|
โดย: ESSO IP: 61.91.42.186 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:20:15:48 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:22:37:26 น. |
|
|
|
โดย: 777 IP: 124.120.82.101 วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:11:26:31 น. |
|
|
|
โดย: indigo_m3 (indigo_m3 ) วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:13:23:06 น. |
|
|
|
โดย: เนียนอ๋อง วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:7:51:07 น. |
|
|
|
โดย: ajbakas วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:12:49:12 น. |
|
|
|
โดย: แป๊กก วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:7:48:06 น. |
|
|
|
โดย: 90210 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:15:23:24 น. |
|
|
|
โดย: Jannyfer วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:15:54:32 น. |
|
|
|
โดย: POL_US วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:16:05:07 น. |
|
|
|
โดย: K-Birch IP: 203.107.193.85 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:20:59:03 น. |
|
|
|
โดย: corfinia วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:0:01:56 น. |
|
|
|
โดย: K-Birch วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:0:31:14 น. |
|
|
|
โดย: jeab (TUlanpo ) วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:10:53:50 น. |
|
|
|
โดย: K-Birch วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:13:35:46 น. |
|
|
|
โดย: princenawat วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:8:40:46 น. |
|
|
|
โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:47:38 น. |
|
|
|
โดย: K-Birch วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:1:12:59 น. |
|
|
|
โดย: ........ IP: 1.0.185.230 วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:31:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
..... "ถ้าหากโลกนี้มีเพียง 100 คนบนโลก" .....
ถ้าวันนี้เป็นวันที่คุณรู้สึกแย่เอามากๆ ลองอ่านเรื่องนี้ดูแล้วคุณอาจจะมองสภาพรอบตัวเปลี่ยนไป ถ้าเอาข้อมูลของประชากรทั่วโลกมาย่อย่นลง เปรียบโลกเป็นเหมือนหมู่บ้านของคน ๑๐๐ คน จะเป็นอย่างไร ที่หมู่บ้านนี้จะมี ๕๗ คนเป็นคนเอเชีย ๒๑ คนเป็นคนยุโรป ๑๔ คนเป็นคนอเมริกาเหนือและใต้ ๘ คนเป็นแอฟริกา
๕๒ คนเป็นผู้หญิง ๔๘ คนเป็นผู้ชาย
๗๐ คนไม่ใช่คนผิวขาว ๓๐ คนเป็นคนผิวขาว
๗๐ คนนับถือศาสนาอื่นนอกเหนือจากศาสนาคริสต์ ๓๐ คนนับถือศาสนาคริสต์
๘๙ คนเป็นรักต่างเพศ ๑๑ คนเป็นรักร่วมเพศ
คน ๖ คนถือครองทรัพย์สิน ๕๙ เปอร์เซ็นต์ ของโลก ทั้ง ๖ คนนั้นเป็นคนสัญชาติอเมริกา
๘๐ คนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
๗๐ คนอ่านหนังสือไม่ออก
๕๐ คนทุกข์ทรมานด้วยโรคขาดสารอาหาร ๑ คนอยู่ในสภาพร่อแร่ใกล้ตาย ในขณะเดียวกัน อีก ๑ ชีวิตก็กำลังจะเกิดมา
มีเพียงคนเดียว (ใช่แล้ว คนเดียวเท่านั้น) ที่เรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีคอมพิวเตอร์ใช้
เมื่อได้มองโลกจากภาพย่อเช่นนี้คงจะทำให้เรายอมรับคนอื่น เข้าใจคนที่แตกต่างไปจากเรา และคงตระหนักดีถึงความสำคัญของการศึกษา ในการที่จะเรียนรู้และรับรู้ความเป็นจริง หรือ มาลองคิดจากมุมมองอื่น
ถ้าเช้านี้คุณตื่นขึ้นมา และรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงดี ก็เรียกได้ว่าคุณโชคดีกว่าคนอีก ๑ ล้านคน ที่ภายในอาทิตย์นี้ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่รอดหรือไม่
ถ้าคุณไม่เคยรู้สึกถึงอันตรายจากการสู้รบ การสงคราม ความทุกข์ทรมาน ความเปลี่ยวเปล่าจากการถูกกักขัง ความทรมานจากความหิวโหย ก็เรียกได้ว่า คุณยังดีกว่าคนอีก ๕๐๐ ล้านคน
ถ้าคุณไม่ตกอยู่ในความหวาดกลัวต่อความตาย ไม่ถูกจับกุม หรือถูกทรมาน สามารถไปทำพิธีในโบสถ์ได้ ก็เรียกได้ว่า คุณยังดีกว่าคนอีก ๓,๐๐๐ ล้านคน
ถ้าคุณมีอาหารเก็บในตู้เย็น มีเสื้อผ้าใส่ มีหลังคาคุ้มหัว มีที่นอน ก็เรียกได้ว่า คุณมีความเป็นอยู่สุขสบายกว่าคนอีก ๗๕ เปอร์เซ็นต์ ในโลก
ถ้าคุณมีเงินฝากในธนาคาร มีเงินเหลือในกระเป๋าสตางค์ มีเงินวางอยู่ในบ้านที่ไหนสักแห่ง ก็เรียกได้ว่า คุณมีฐานะดี อยู่ในกลุ่ม ๘ เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่มั่งมีที่สุดในโลก
ถ้าพ่อแม่ของคุณยังแข็งแรง และทั้งสองยังอยู่ด้วยกัน ต้องเรียกได้ว่าเป็นเรื่องหาได้ยากทีเดียว
ถ้าคุณได้อ่านเรื่องนี้ ต้องเรียกได้ว่า ณ ช่วงเวลานี้ คุณน่าจะเป็นผู้ที่มีความสุขสองเท่า เพราะ มีคนคิดถึงคุณและเขียนข้อความนี้มาให้คุณ นอกจากนั้น คุณก็ยังดีกว่าคนอีก ๒,๐๐๐ ล้านคนในโลกที่อ่านหนังสือไม่ออก
คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า คุณทำสิ่งใดก็จะได้รับสิ่งนั้นตอบสนอง เพราะฉะนั้น ...................
จงรักผู้คนรอบตัว เสมือนหนึ่งไม่เคยมีใครทำให้คุณเจ็บช้ำใจ จงร่ายรำตามใจอยาก เสมือนหนึ่งไม่มีใครมองดูคุณอยู่ จงส่งเสียงร้องเพลง เสมือนหนึ่งไม่มีใครฟังอยู่ จงใช้ชีวิตบนโลก เสมือนหนึ่งเป็นสวรรค์บนดิน .....
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|