Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
โบรกแนะเก็งกำไร 20 หุ้นร้อน ดัชนียังแกว่งแคบ ยุโรปหนุน เลี่ยงบิ๊กแคป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.42 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.74 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวก รับข่าวดีประมูลพันธบัตรสเปนเป็นไปค่อนข้างดี แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาน้อยกว่าคาด นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวรอความชัดเจนทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ เก็งกำไร 20 หุ้นเด่น ได้แก่ IVL, AIT, GFPT, HEMRAJ, MINT, TISCO,KSL, CPF, HMPRO, TPC, BCP, SIRI ,KTB PTTGC, IRPC ,VNT, DCC,LPN, STEC และ SAT



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ยังคงแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ 1044-1058 เก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ต่อไป



คาดตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวออกด้านข้างและอยู่ในกรอบเดิมที่ 1044-1058 ต่อไป ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มอ่อนลงกว่าคาดวานนี้ (ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ สัปดาห์ก่อน) แต่ผลการประมูลพันธบัตรสเปนเป็นไปได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายปัจจัยให้ติดตาม อาทิ ผลประกอบการจากบริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่แห่งแรกของสหรัฐที่จะรายงานผลประกอบการในวันศุกร์นี้ก่อนจะมีตามมาอีกหลายแห่งในสัปดาห์หน้า รวมถึงความคืบหน้าของปัญหาหนี้ยุโรป และการแก้หนี้กองทุน FIDF ของไทยเองซึ่งยังไม่มีสรุปรายละเอียดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมฯ เพิ่มเติมที่ชัดเจน อาจเป็น Overhang กดดันหุ้นธนาคารหรือในทางกลับกันฟื้นตัวได้น้อยกว่าที่ควร



กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นยังคงเน้นการเก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ต่อไป โดยจำกัดพอร์ตลงทุนไว้ที่ 50% ก่อน จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของปัจจัย/มีปัจจัยใหม่เข้ามามากขึ้น แนวต้าน : 1058 แนวรับ : 1047-1044



การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%



ถือต่อในพอร์ต : IVL, AIT, GFPT, HEMRAJ



หุ้นที่ปรับออก : DTAC



หุ้นที่ปรับเข้า :



1. MINT laggard กลุ่ม+แนวโน้มการทำกำไรฟื้นตัวใน 1Q55 ราคาพื้นฐาน16.40 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 12.50-12.80 รับ 11.50 Cut loss 11.20 บาท



2. TISCO กำไร 4Q ดีกว่าคาด+คาดปันผล 2.24 บ./หุ้น Yield 6.3% ราคาพื้นฐาน 44.60 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 37.50 รับ 35.25 Cut loss 34.25 บาท



บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ การประมูลพันธบัตรสเปนและอิตาลีประสบความสำเร็จ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1% ในขณะที่การประมูลพันธบัตรของสเปนและอิตาลีประสบความสำเร็จด้วยดี นอกจากได้เงินเกินเป้าหมายเบื้องต้นแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ยังปรับตัวลดลงกว่าการประมูลครั้งก่อนราว 180-382 bps ส่งผลให้ตลาดยุโรปเป็นบวกแรงก่อนจะปรับลดลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด ราคาน้ำมันดิบ ICE ลอนดอน ลดลง 0.98 เซ็นต์ (0.9%) เนื่องจากประเทศในยุโรปชะลอการตัดสินใจเรื่องคว่ำบาตรอิหร่าน เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ตลาดหุ้นต่างประเทศได้รับปัจจัยบวกจากพัฒนาการของตลาดตราสารหนี้ยุโรปที่ดีขึ้น ซึ่งแสดงว่ามาตราการของ ECB ในการอัดฉีดเงินเข้าระบบการเงินและป้องกันการล่มสลายของระบบธนาคารพาณิชย์เป็นผล และยังช่วยให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศในกลุ่มยูโรปรับลดลง แม้เศรษฐกิจโลกจะยังคงเปราะบาง แต่มาตรการดังกล่าวช่วยจำกัดความเสี่ยงของตลาดการเงินลงในระดับหนึ่ง และช่วยให้ภาพระยะสั้นของตลาดยังคงเป็นบวก เราคงคำแนะนำให้เก็งกำไรแบบ Cautiously optimistic คือคงความระมัดระวัง และเน้นในหุ้นปลอดภัยเป็นหลัก



กลยุทธ์การลงทุน: พัฒนาการที่ดีขึ้นของหนี้ยุโรปยังเอื้อให้ตลาดช่วงสั้นปรับขึ้นต่อ โดยเราขอเน้นการลงทุนหรือเก็งกำไรระยะสั้น ในหุ้นพื้นฐานดี ซึ่งนอกจากหุ้นที่เราแนะนำช่วงก่อนหน้า เช่น KSL CPF HMPRO TPC BCP SIRI KTB ในช่วงสั้นสเปรดของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ดีขึ้นน่าจะทำให้ PTTGC IRPC VNT สามารถกลับมาเก็งกำไรได้ หุ้นปันผล



และพื้นฐานที่เรามองว่ายังน่าสนใจ ได้แก่ INTUCH, TTW BAFS HMPRO สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See และรอสัญญาณกลับเข้าไปซื้อใหม่ ซึ่งเราคาดว่าช่วงม.ค.-ก.พ.55 ตลาดจะมีการปรับตัวลงส่วนนักลงทุนที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้ลดพอร์ต ใช้จังหวะนี้ลดพอร์ต ส่วนพอร์ตที่ยังมีอยู่เน้น switch พอร์ตมาหาหุ้นปันผลก่อน โดยเราค่อนข้างชอบ TTW, BAFS, CPF, INTUCH ,EGCO ,MAKRO



บล.ไทยพาณิชย์ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ น้ำมันร่วงแรงหลังมีข่าว EU อาจเลื่อนแบนนำเข้าน้ำมัน อิหร่าน – เช้านี้ราคาน้ำมัน Nymex อยู่ที่ 99.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยปรับลดลงจากวานนี้ที่ขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังมีข่าวที่ยังไม่ยืนยันว่า EU อาจเลื่อนการหยุดการนำเข้าจากอิหร่านออกไปอีก 6 เดือน เพื่อหาแหล่งทดแทนอื่น ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับร่วงลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในรอบกว่าหลายวัน โดย EU นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านราว 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยข่าวนี้ยังไม่ยืนยันว่าจริงหรือไม่ แต่ราคาน้ำมันที่ดีดขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมาได้ตอบรับกับข่าวนี้ไปแล้วในช่วงท้ายของการซื้อขาย แต่หากเทียบกับราคาน้ำมัน Brent ถือว่าปรับร่วงลงน้อยกว่า โดยปรับร่วงลงเพียง 98 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 111.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเรามองว่าสาเหตุที่ น้ำมัน Nymex ปรับร่วงลงมากกว่ามาจากแรงเก็งกำไรก่อนหน้า ส่วนน้ำมัน Brent อาจต้องรอดูข้อสรุปของ EU อีกครั้งในวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งทำให้ค่า Premium ของน้ำมันทั้งสองตอนนี้ห่างกันราว 12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับขึ้นจากระดับ 8-10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงก่อนหน้าเหตุการณ์อิหร่าน



KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ทรงตัวหรือปรับขึ้นในกรอบจำกัด ปัจจัยหนุนหลักคงอยู่ที่จิตวิทยาของตลาดพันธบัตรยุโรปที่ดีขึ้นหลังจากสเปนประมูลพันธบัตรได้มากถึง 2 เท่า ของที่ตั้งไว้ในขณะที่อิตาลีประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปี ได้ที่ผลตอบแทนเพียง 2.735% เทียบกับระดับเกือบ 6.0% ในการประมูลเมื่อกลางเดือน ธ.ค. 2554 ด้าน ธ.กลางยุโรปคงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 1.0% ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาดการณ์และไม่ส่งผลต่อตลาด อย่างไรก็ดีปัจจัยในฝั่งสหรัฐฯ อ่อนลง หลังจากตัวเลขค้าปลีกเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้นใกล้ 4 แสนตำแหน่ง ด้านตลาดน้ำมันมีการปรับฐานหลังจากเจ้าหน้าที่ของ EU ให้ความเห็นว่าอาจมีการเลื่อนการคว่ำบาตรน้ำมันของอิหร่านไป 6 เดือนเนื่องจากมีบางประเทศต้องหาแหล่งน้ำมันจากที่อื่นๆ มาทดแทน



สำหรับปัจจัยในประเทศ การประชุมระหว่างธนาคารพาณิชย์กับภาครัฐฯ เมื่อวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม DPA และ BE ของธนาคาร โดยเลขาฯ สมาคมธนาคารไทยชี้เพียงว่าการจัดเก็บจะไม่ถึง 1.0% ของฐานเงินฝากรวม และตลาดในวงกว้างขณะนี้คาดว่าการจัดเก็บค่าธรรมเนียม DPA จะอยู่ที่ประมาณ 0.6-0.75% ของฐานเงินฝาก (ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 0.4% ของฐานเงินฝาก) โดยในสัปดาห์หน้าถึงจะมีข้อสรุป



กลยุทธ์: ปัจจัยภายนอกยังมีความไม่แน่นอนสูง และปัจจัยถัดไปคือการประมูลพันธบัตรของอิตาลีในเย็นวันนี้ ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยยังกดดันทางขึ้นของตลาด เราจึงแนะนำให้ชะลอการลงทุนในหุ้นใหญ่ต่อไป ทั้งนี้ในต้นสัปดาห์หน้า น่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นว่า SET จะเริ่มปรับฐานลงในครึ่งหลังของเดือน หรือว่าจะยืดการแกว่งขึ้นต่อไป ซึ่งเราจะ update อีกครั้ง แต่ในขณะที่ยังให้เน้นซื้อเฉพาะหุ้นเล็กพื้นฐานดีเช่น DCC*, LPN, STEC, SAT





Create Date : 13 มกราคม 2555
Last Update : 13 มกราคม 2555 12:04:03 น. 0 comments
Counter : 493 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bunbaramee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add bunbaramee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.