ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.43 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยลงมาอยู่ที่ระดับ 31.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ และบางส่วนอ่อนตัวลงจากช่วงแรกที่เปิดซื้อขาย นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบ โดยหลายฝ่ายยังคาดหวังแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันทั้งในแง่ของ Window Dressing และกองทุน RMF และ LTF แต่ปีหน้าคาดตลาดหุ้นจะปรับฐาน ดังนั้นสัปดาห์นี้จึงเป็นโอกาสในการขายทำกำไรแถวแนวต้าน แนะเก็งกำไรสั้น STEC, PTT,KH และBIGC

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนอยู่ในกรอบ 1024-1051 ซื้อเก็งกำไร เน้นข้างทยอยขายแถวแนวต้าน

คาดตลาดหุ้นจะเงียบเหงาในวันนี้จากการปิดทำการเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสของหลายตลาดอาทิ ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ รวมถึงตลาดหุ้นฝรั่งเศส, เยอรมนี, อังกฤษ และสหรัฐ อย่างไรก็ดีข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนในเดือนพ.ย. และปริมาณบ้านในตลาดอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ได้เพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย ผลักดันการขยับขึ้นต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์และราคาน้ำมันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึงความคาดหวังเกี่ยวกับการทำราคาปิดบัญชีจะช่วยหนุนตลาด แม้ต่างชาติเดินหน้าขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุน: การซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัวยังคงเน้นข้างทยอยขายแถวแนวต้านเป็นหลัก

แนวต้าน : 1045, 1051 แนวรับ : 1033, 1024

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต :STEC, PTT

หุ้นที่ปรับออก : TMB, CFRESH, SCB

หุ้นที่ปรับเข้า :

1. KH Defensive play ราคาพื้นฐาน 8.30 บาท กรอบเก็งกำไรระยะสั้น ต้าน7.20 รับ 6.80 Cut loss 6.65 บาท

2. BIGC โมเมนตัมเชิงบวกจากการเลื่อนการเพิ่มทุนเป็นปีหน้า ราคาพื้นฐาน 150 กรอบเก็งกำไรระยะสั้น ต้าน 127 รับ 118.50 Cut loss 116.50 บาท

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันจันทร์ต้นสัปดาห์สุดท้ายของปี 2554 แกว่งตัวหรือบวกกรอบแคบนักลงทุนต่างชาติน่าจะแทบไม่มีบทบาทในวันนี้ เนื่องจากอยู่ในวันเก็บของหลังคริสต์มาส (Boxing) ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่องมาจากเสาร์-อาทิตย์ของฝั่งตะวันตก ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งเช่นออสเตรเลีย,ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลคริสต์มาสและวันหยุดประจำ

ชาติด้วย ส่วนแรงซื้อของสถาบันในประเทศนั้น เรายอมรับว่าปีนี้น่าผิดหวังเนื่องจากมีทั้งแรงซื้อและแรงขายกองทุน LTF ส่งผลให้ยอดสุทธิของสถาบันยังเป็นลบอยู่ในเดือน ธ.ค. ถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดีในโค้งสุดท้ายของปี เราคิดว่าจะยังมีแรงซื้อสถาบันเข้ามาบ้างและหนุนให้ SET ปิดแถวๆ ระดับปัจจุบันหรือสูงกว่านี้ได้บ้าง

ส่วนปัจจัยต่างประเทศถือว่าเป็นกลาง แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดบวกแข็งแกร่งแต่เราคิดว่าเกิดจากการซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันคริสต์มาส ส่งผลให้ความผันผวนสูงเท่านั้นเอง ข้อมูลเศรษฐกิจอย่างยอดขายบ้านใหม่และคำสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด แต่หากดูใส้ในแล้วพบว่ามีการสั่งซื้ออากาศยานขนาดใหญ่ ถ้าตัดส่วนนี้ออกไปแล้วคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจะเป็นไปตามที่ตลาดคาด ส่วนข้อมูลรายได้ส่วนบุคคลและการใช้จ่ายบริโภคเดือน พ.ย.ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่วนฝั่งยุโรปไม่มีปัจจัยสำคัญในวันนี้ โดยให้รอในวันที่ 28 ธ.ค. ซึ่งจะมีการประมูลตั๋วเงินคลังอิตาลี และวันที่ 29 ธ.ค. จะมีการประมูลพันธบัตรอิตาลี ซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลี 10 ปี ปรับขึ้นไปแถว7.0% อีกครั้งแล้ว

กลยุทธ์: แนะนำให้ถือพอร์ตหุ้นต่อไป เพื่อหาจังหวะขายในสัปดาห์นี้ (คาดว่าจังหวะที่ดีจะเป็นช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งเราจะ update อีกครั้ง) สำหรับในเดือน ม.ค. ที่จะถึงนี้ความเสี่ยงสำคัญอยู่ที่อันดับความน่าเชื่อถือของยุโรป โดยเจ้าหน้าที่ของกลุ่มยุโรปให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่าการประกาศอันดับเครดิตจาก S&P จะออกมาภายในเดือน ม.ค. 2555 ซึ่งคล้ายคลึงกับที่นักเศรษฐศาสตร์ของ KGI ประเมินว่าในไตรมาส 1/2555 จะมีข่าวสารเชิงลบจากฝั่งยุโรปออกมามากขึ้น

บมจ.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ คาดตลาดยังแกว่งผันผวน ดังนั้นเน้นเทรดดิ้งสั้นตามรอบ...ขึ้นขาย/ลงซื้อ

แนวโน้ม ความแข็งแกร่งของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงช่วยสนับสนุนความมั่นใจของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก แม้ว่าปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปจะเบาบางเนื่องจากจะติดช่วงวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์ในวันนี้ (26 ธ.ค.) ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้หลายประเทศก็ปิดทำการด้วยเช่นกัน ทำให้ FSS คาดว่า SET จะอิงกับการบวกขึ้นค่อนข้างดีของตลาดหุ้นต่างประเทศเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วประกอบกับเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของเม็ดเงิน LTF/RMF ที่คาดว่าจะมีเข้ามาช่วยหนุนตลาด รวมทั้งการทำ Windows Dressing สำหรับงบงวดสิ้นปี น่าจะทำให้ SET แกว่งตัวอยู่ในด้านบวกได้ อย่างไรก็ตามมูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะค่อนข้างบางตา เนื่องจากจะติดช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ และยังต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรในช่วงต้นปีจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป และแรงขายกองทุนฯ ไว้ด้วย

กลยุทธ์: ดังนั้นจึงยังเน้นเป็นเพียงรอบเทรดดิ้งสั้นๆ เท่านั้นก่อน โดยสามารถหาจังหวะซื้อในช่วงตลาดปรับตัวลงและขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดบวกขึ้น..ในลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขาย โดยยังแนะนำให้จำกัดพอร์ตไว้ด้วยเพื่อลดความเสี่ยง

ประเด็นสำคัญวันนี้

โค้งสุดท้ายของ LTF และ RMF ก่อนสิ้นปี ดัชนียังมีโอกาสแกว่งขึ้นต่อในสัปดาห์นี้จากแรงซื้อของ LTF และ RMF แม้ว่าเม็ดเงินจะน้อยก็ตาม และการทำ Window dressing ในช่วงสิ้นปี ในขณะที่รายงานเศรษฐกิจไม่หนักมากในสัปดาห์นี้ มีเพียงตัวเลขเกี่ยวกับบ้านและความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ และรายงานเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ย. ของธปท. อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าตลาดหุ้นมีโอกาสสูงที่จะปรับฐานในช่วงไตรมาสแรกจากแรงขายของ LTF ที่ครบกำหนด หนี้ของหลายประเทศในยุโรปที่ครบกำหนดชำระ การคาดการณ์ผลประกอบการ 4Q11 ของ บจ.ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ. เป็นต้นไป รวมถึงค่าเงินบาทจะอ่อนค่ามากกว่าปกติจากการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตที่ถูกน้ำท่วม การปรับฐานจะเป็นโอกาสในการซื้อสะสมหุ้น เพราะการทยอยขึ้น XD ตั้งแต่ปลายมี.ค. ต้น เม.ย. จะหนุนให้ราคาหุ้นแข็งแกร่งขึ้นและช่วยให้ตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งในช่วงปลาย 1Q12 ถึง ต้น 2Q12 ทั้งนี้ เราประเมิน SET Target สิ้นปีหน้าที่ 1,230 จุด

Create Date : 26 ธันวาคม 2554
Last Update : 26 ธันวาคม 2554 12:07:42 น.		2 comments
Counter : 428 Pageviews.
Share Tweet