เกือบหนึ่งปีผ่านไปนับจาก หนังสือรัก พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรกของผมวางแผง ในตอนนี้ พ็อคเก็ตบุ้คเล่มที่ 2 ของผมเสร็จสิ้นลงแล้วครับในส่วนของต้นฉบับเนื้อหา

จะยังคงเหลือก็เป็นเรื่องของ คำนำ ที่ผมกำลังจะเขียน และ อีกส่วนที่ผมคิดว่าเป็นส่วนสำคัญและผมเองนั้นคงไม่สามารถเขียนตรงนี้ได้ดีเท่า เพื่อนผู้อ่าน ที่ติดตามอ่านบล็อกหรือกระทู้ของผมตลอดมา นั่นคือ

คำนิยม

เช่นเคยเหมือน หนังสือรัก ที่ผมต้องรบกวนและขอเรียนเชิญเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผู้อ่านทุกคน มีส่วนในพ็อกเก็ตบุ้คเล่มนี้ด้วยการเขียนคำนิยมสำหรับงานเขียนของผม แต่ครั้งนี้จะต่างออกไปตรงที่

เพื่อนๆ จะเขียน คำนิยม ไม่เกิน 5 บรรทัด ไว้ที่หน้านี้เลย พร้อม อีเมลล์ ติดต่อกลับ โดยเป็น คำนิยม จากที่เคยอ่านบทความของผม ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มใหม่จะมี concept ตามที่อธิบายไว้ด้านล่างของ blog นี้

หรือ

1.ทิ้ง อีเมลล์ ของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่สนใจให้เกียรติ เขียน คำนิยม ไว้ ในหน้านี้

2.ผมจะส่งอีเมลล์กลับไปพร้อมกับแนบต้นฉบับที่เป็นไฟล์ word จำนวน 2 บทของหนังสือเล่มใหม่ ซึ่งเพื่อนๆจะได้อ่านก่อนใคร

3.ผมขอ คำนิยม ความยาวไม่เกิน 5 บรรทัด ส่งกลับมาพร้อมกับ

ชื่อ-นามสกุลจริง

อายุ

อาชีพ

เฉพาะในส่วนของ คำนิยม นอกจากแนบมากับอีเมลล์แล้ว รบกวนทิ้งไว้ในหน้า blog นี้ ด้วยนะครับ

4.คำนิยมที่ทางสนพ.เลือกลงในหนังสือ จะได้รับตัวพ็อกเก็ตบุ้คเล่มใหม่นี้ฟรีก่อนใครครับ ส่วนคำนิยมที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆเสียสละเวลาเขียนมาให้แต่ไม่ได้ลงหนังสือ ผมเองต้องขอขอบคุณล่วงหน้าอย่างใจจริงและขอตอบแทนด้วยการจะทำงานเขียนบล้อกอย่างต่อเนื่องไป

เข้าใจว่า แค่เพียงสองบท อาจไม่เห็นภาพรวม และ การอ่านเรียงตั้งแต่บทแรกไปจบบทสุดท้ายน่าจะดีกว่า แต่จะส่งทั้ง 9 บทเลยนั้น แหะๆ สนพ.คงไม่ปลื้ม ดังนั้น เพื่อนๆอาจให้ คำนิยม โดยพิจารณาจาก บทความหรืองานเขียนต่างๆที่เคยอ่านในกระทู้หรือใน blog ที่เขียนไว้ เพราะรูปแบบในหนังสือเล่มนี้ก็จะคล้ายๆกัน

คือ ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์ตัวหนัง ว่าดีไม่ดีอย่างไร แต่นำเสนอว่า หนังให้อะไรกับคนดู

... ไม่ต้องเป็นคำนิยมชื่นชมแบบเทพเลิศหรู ประมาณว่า

"โอ้ว จอร์จ งานเขียนของ ผมอยู่ข้างหลังคุณ นี่ระดับ เออเนสต์ เฮมมิ่งเวย์เมืองไทย แท้ๆ"

หรือ

"บทความของเขางดงามปานบทกวี เหมือนกับได้ขี่ยูนิคอร์นข้ามหอคอยไอเฟิ้ล"

หรือ

"องศาที่361 คือ การพบกันของ มูราคามิ และ ซิกมันด์ ฟรอยด์"

...คำนิยมที่ผมรบกวนขอจากเพื่อนๆ ขอเป็นคำนิยมจากใจที่เพื่อนๆรู้สึกและมีต่องานเขียนของเจ้าของ blog ก็พอแล้วครับ เช่น ติดตามอ่านเพราะอะไร ชอบอะไรในงานเขียน อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจหรือได้อะไรในชีวิต ฯลฯ

และคำนิยมที่เพื่อนๆมอบให้ จะอยู่ใน หนังสือเล่มที่สองของผมที่ชื่อว่า

องศาที่ 361

... ชื่อนี้มาจาก ภาพที่ผมจินตนาการคนยืนอยู่แล้วมองไปรอบๆตัว ซึ่งก็เท่ากับ 360 องศา แต่ นั่นคือ การมองนอกตัว มองสิ่งแวดล้อมภายนอกตัวเรา ถึงเราจะเห็นจนครบหมดรอบๆตัวเราแล้วก็ตาม แต่อย่าแปลกใจที่หลายครั้งเราเหลียวมองรอบตัวจนครบ 360 องศา ก็ยังรู้สึกว่าชีวิตไร้ทางออก ชีวิตไร้ความสุข นั่นเป็นเพราะ เราหลงลืมที่จะมองมุมเล็กๆมุมนี้ที่ไม่ได้เกิดจาก ‘ การมองออกไป’ แต่คือ ‘การ มองกลับเข้ามาภายในตัวเอง’

องศาที่ 361 จะมาเชื้อเชิญผู้อ่านหันกลับมามองเข้าไปในตัวเอง ทำความรู้จักตัวเองและพัฒนาตัวเอง เช่นเดียวกับการดูหนัง เราเก็บเกี่ยวสิ่งรอบๆรายละเอียดของหนังมากมาย แต่ อีกมุมที่เรามองข้ามไป คือ เรื่องราวของหนังที่สัมพันธ์กับภายในตัวเรา และ ภาพยนตร์ จะ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่พาเพื่อนผู้อ่านไปค้นหามุมนั้นของตัวเอง


"ในวันที่ผิดหวังท้อแท้ ถึงแม้จะมองไปรอบตัวจนครบ 360 องศา แล้วคิดว่าไม่มีทางออกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งองศาที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไป และ เป็นมุมที่ทำให้เราทุกคนค้นพบคุณค่าในตัวเองที่มองข้าม เป็นมุมเล็กๆที่จะทำให้เราสามารถมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้นกว่าเดิม "



รอคอยการให้เกียรติจากเพื่อนผู้อ่านทุกท่านครับ

ด้วยรักและขอบคุณ

“ผมอยู่ข้างหลังคุณ”

i_behind_you@yahoo.com

ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม

(นอกจากตามร้านทั่วไป สนพ.ฝากแจ้งว่า มีลด15% ถึงสิ้นเดือนกค.ที่ ดอกหญ้าสาขา อนุสาวรีย์, เมเจอร์สุขุมวิท, พันธ์ทิพย์ กทม., เมเจอร์เชียงใหม่, แฟชันไอแลนด์, เมเจอร์รังสิต, เมเจอร์ปิ่นเกล้า, เมเจอร์รัชโยธิน)

เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php

ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ