อิสระจากความคิด

เมื่อยังเยาว์วัย เราทุกคนไม่มีความคิดกังวลว่าจะต้องมีฐานะทางสังคมอย่างไร คนอื่นจะมองเราว่าอย่างไร? เราต้องเป็นคนอย่างไรในสายตาคนอื่น? และไม่ต้องการวัตถุฟุ่มเฟือยมากมาย เรามีความสุขอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน มีอิสระ ไร้ความทุกข์กังวล เวลาทำสิ่งใดก็จดจ่อและมีความสุขอยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ต่อหน้าเท่านั้น ไม่มีความคิดแยกแยะวิเคราะห์ว่ามันจะมีผลออกมาอย่างไร? จะประสบความสำเร็จ ทำให้เราเป็นที่ชื่นชมและยอมรับในสังคมไหม?


เด็กที่ไร้เดียงสาไม่มีความทุกข์ ความกังวล มีอิสระในสิ่งที่ทำ มีความสุขในสิ่งที่ทำ ไม่เคยกังวลถึงภาพลักษณ์ หรือภาพมายาที่ความคิดปรุงแต่งขึ้นมา มีความสุขที่ได้นั่ง นอน กิน มองเห็นความงดงามและแปลกตาของสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ได้ยินเสียงลม เสียงใบไม้ไหว เสียงนก เสียงแมลง สามารถรับรู้ทุกๆ เสียงและทุกๆ ภาพที่เข้ามากระทบกับโสตประสาทได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่หมกมุ่นอยู่กับความคิดภายในหัวตลอดเวลา หรือมีก็เพียงเล็กๆน้อยๆ ความคิดปรุงแต่งยังไม่เข้มแข็งเหมือนผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกและปรุงแต่งความคิดอยู่ตลอดจนหลงคิดว่าความคิดคือตัวเราและสูญเสียอิสรภาพไป


เด็กๆ ไม่ได้ใช้ชีวิตตามที่ความคิดปรุงแต่งสั่งการ จึงไม่มีความทุกข์กังวล มีความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า มองโลกในแง่ดี เวลาทำอะไรก็ทำอย่างเต็มที่ด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่ได้สร้างภาพมายาขึ้นมา หรือหมกมุ่นอยู่กับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว มีความสุขอยู่กับปัจจุบัน ไม่ได้มีความคิดปรุงแต่งวิ่งวนอยู่ในหัวตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาพักผ่อนความคิดก็ไม่ได้พักผ่อน เวลาหลับสมองก็ยังทำงานตลอดด้วยการฝัน


แต่เด็กๆ ในยุคสมัยนี้ต้องสูญเสียอิสรภาพ และความใสซื่อบริสุทธิ์ไปอย่างรวดเร็ว เพราะผู้ใหญ่พยายามยัดเยียดสถานภาพทางสังคมให้กับเด็ก ฝึกให้เด็กคาดหวังถึงผลสำเร็จจากการเรียนหรือการกระทำ ทำให้เด็กมีความเครียดกังวล และไม่สามารถยอมรับความสูญเสียและความผิดหวังได้ง่ายๆ


ถ้าอยากเป็นอิสระจากความคิดที่เป็นต้นเหตุให้เรามีความทุกข์กังวล กลับไปมีอิสระอีกครั้งเหมือนเมื่อวัยเด็ก เราต้องมีสติรู้ทันความคิดที่ปรุงแต่ง เมื่อเรามองเห็นและรู้ทันความคิดที่เป็นตัวตน ปลดโซ่พันธนาการทางความคิดและภาพมายาที่ปั้นแต่งขึ้นมา เราก็จะเป็นอิสระ ปลอดโปร่งโล่งสบาย รู้สึกผ่อนคลาย และสงบสุขอยู่กับปัจจุบันเหมือนเมื่อวัยเด็กอีกครั้ง


เมื่อทำการงานใดเราก็จะไร้ความกังวลเพราะไม่คิดคาดหวังถึงผลได้ แต่มีความสุขอยู่กับงานที่ทำ ถ้าเราจมอยู่กับความคิดตลอดเวลาก็จะทำงานบกพร่อง ขาดประสิทธิภาพ เมื่อเราต้องทำงานที่ต้องใช้ความคิดแล้วคิดไม่ออก หากเราหยุดคิดเมื่อไหร่ คำตอบก็จะผุดขึ้นมาเอง แสดงว่าการคิดด้วยมันสมองไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป ยังมีปัญญาญาณหรือการหยั่งรู้จากภายในที่เกิดจากสภาวะว่างจากความคิด ที่ทำให้เราแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น











 

Create Date : 14 สิงหาคม 2552
1 comments
Last Update : 8 ตุลาคม 2552 22:59:15 น.
Counter : 530 Pageviews.

 

เห็นด้วยอย่างมาก....

โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้...คิดอยู่แต่ว่า....
ทำยังไงถึงจะดูเด็กลงอีกสัก 10-20 ปีน้อ 555

 

โดย: ์Nang IP: 58.64.95.33 30 สิงหาคม 2552 20:07:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาวเกตุ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Online
picture1
ขอบคุณที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจค่ะ ถ้าติดตามอ่านอยู่อย่าลืมแวะทักทายกันบ้างนะคะ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ดาวเกตุ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.