อัตตาหรือความมีตัวตนของเราสร้างขึ้นมาจากความคิด จินตนาการ และการสะสมรวบรวมเอาไว้ของความคิดที่ขาดสติในขณะที่เผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ และเหมารวมเอาไว้ว่านี่แหละคือตัวเรา เช่นสิ่งที่ทำให้เราคิดว่าเราสวย เป็นคนดี รวย เก่ง เราถูกสังคมรอบๆ บอกเราว่าถ้าเราผอมเราเป็นคนสวย เราก็เริ่มสร้างอัตตาที่มีตัวตนขึ้นมาแล้วว่าเราสวย ถ้าใครไม่เห็นด้วยว่าเราสวย ก็กระทบกับอัตตาที่เราสร้างไว้ทำให้เกิดความขุ่นเคือง ขัดแย้งและเจ็บปวด ถ้าวันใดความสวยเหล่านั้นเกิดเปลี่ยนแปลงไป ความแก่ชราเข้ามาแทนที่ อัตตาก็จะรู้สึกสูญเสียตัวตนที่สร้างขึ้น และยอมรับไม่ได้ แต่ทุกยุคสมัยรูปแบบของความสวยกลับแตกต่างกัน เคยมีบางยุคสมัยที่คนอ้วนคือคนที่สวยที่สุด แท้ที่จริงแล้วความคิดเป็นตัวการที่สร้างอัตตาขึ้นมา ยิ่งเราตอกย้ำและคิดซ้ำๆ ในสิ่งนั้นอยู่เสมออัตตาก็จะยิ่งเข้มแข็งและทำให้เราขัดแย้งและห่างไกลจากความเป็นจริงมากขึ้น ความเป็นจริงนั้นอยู่ภายในร่างกายของเรานี่เอง ไม่ใช่ความคิดหรือมันสมอง หรือสภาพแวดล้อมภายนอกตัวเรา หากเราละวางจากความคิดที่คอยควบคุมเราอยู่ตลอดเวลาได้ เราก็จะค้นพบความจริงแท้ที่อยู่ภายในได้ ลองละวางจากความคิดสักครู่ ไม่ต้องวิจารณ์ความคิดว่าดีชั่ว ถูกผิด อย่าไปเฝ้าดูความคิด เดี๋ยวจะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์แยกแยะขึ้นมาอีก แต่ให้เปลี่ยนจุดสนใจหันไปจับอารมณ์และความรู้สึกขณะนั้น เริ่มจากกลางอกก่อน รู้สึกถึงการหายใจ ไม่ต้องวิเคราะห์ว่าลมหายใจสั้นยาว หยาบ หรือละเอียด เพราะนั่นคือความคิดปรุงแต่ง จากนั้นก็ค่อยๆ แผ่ความรู้ตัวในกายออกไปให้ทั่วทั้งร่าง รู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งร่างสักพัก รู้สึกถึงพลังงานความร้อนที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใน ร่ายกายของเราจะเริ่มผ่อนคลายลงเองโดยอัตโนมัติเพราะว่างจากความคิด จะรู้สึกถึงความสงบ ความเย็นสบาย และผ่อนคลาย ความตึงเครียด ปราศจากอารมณ์ที่ขุ่นมัว เมื่อเริ่มว่างจากความคิดและกลับสู่ธรรมชาติที่แท้จริงแล้วเราก็จะเริ่มเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา ไม่เกิดแรงต่อต้าน หรือความคิดวิพากษ์วิจารณ์ หรือวิเคราะห์แยกแยะ เราจะเห็นความงดงามของธรรมชาติ เห็นความจริงแท้ของสรรพสิ่งรอบๆ เห็นความจริงแท้ของธรรมขาติมนุษย์เรา และไม่สร้างความขัดแย้ง หรือต่อต้านอีกต่อไป เกิดความเข้าใจว่าแท้จริงทุกๆ คนก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเหมือนๆ กัน ในรูปแบบที่แตกต่างกันนั้นก็มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน เห็นความงดงามของต้นไม้ใบหญ้า เห็นการดำรงอยู่ที่เรียบง่ายของธรรมชาติ เห็นความไม่มั่นคงและการสูญสลายไปของทุกสรรพสิ่ง เราสร้างความขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายแล้วจะรู้ว่าสิ่งนั้นเปล่าประโยชน์ เราขัดแย้งกันเพื่อแสวงหาวัตถุและสร้างอัตตาให้เข้มแข็งขึ้นเท่านั้น เราจะขัดแย้งกันไปทำไม เราจะมุ่งมั่นแสวงหาอย่างขาดสติกันไปทำไม เพราะทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องสมมติขึ้นมาเองของอัตตาหรือความคิดทั้งสิ้น
|
แต่....บทความนี้ ไม่สมมติ..แน่นอน 55
ความจริงและแก้นแท้ของธรรมก็อยู่ตรงนี้แล...
ละอัตตาได้ ก็ไร้ทุกข์ทั้งปวง....
สาธุ สาธุ ^ ^