It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
ปลูกฟักยักษ์ไต้หวันในไทย


คนจีนและคนไต้หวันจะนิยมใช้ฟักในการทำซุปในลักษณะเดียวกับหัวไชเท้า คนจีนถือว่าฟักเขียวเป็นยาเย็นใช้ดับกระหายในฤดูร้อน ประโยชน์ทางสมุนไพรฟักใช้เป็นยาขับปัสสาวะ, ใช้รักษาโรคเบาหวาน, ลดไขมันในเส้นเลือด และมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนัก คนจีนมีการนำเอาฟักเขียวทั้งเปลือกมาต้มน้ำดื่มเป็นยาแทนน้ำ สำหรับไต้หวันมีการนำฟักมาบริโภคหลายรูปแบบ อาทิ ดองไว้กินกับข้าวต้ม, ทำซุปต้มจืด และที่พัฒนาล่าสุดคือนำมา
ผลิตน้ำฟักกระป๋องพร้อมดื่ม ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้ ขณะนี้ไต้หวันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ฟักให้มีขนาดผลใหญ่มากเพื่อรองรับการแปรรูปเป็นน้ำฟักพร้อมดื่ม และได้มีการนำเมล็ดฟักยักษ์จากไต้หวันมาทดลองปลูกในประเทศไทยได้ขนาดของผลใหญ่ใกล้เคียงกับที่ปลูกในไต้หวัน คือ มีน้ำหนักผลเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัมต่อผล

ฟักยักษ์เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิดและสามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย การเตรียมดินควรขุดดินตากไว้อย่างน้อย 7-14 วัน


ขนาดหลุมปลูก 1x1 เมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 1-3 เมตร ระหว่างแถว 5-10 เมตร ใส่อินทรียวัตถุ หรือปุ๋ยหมัก 10-20 กก. ต่อหลุม ปุ๋ยสูตร 16-16-16 อัตรา 1 กำมือ ปูนขาว 0.5 กก. ต่อหลุม เพื่อปรับสภาพดิน และป้องกันเชื้อโรคทางดิน สับดิน อินทรียวัตถุ ปุ๋ย และปูนขาวให้เข้ากัน และบ่มเมล็ด และเพาะกล้าก่อนปลูกจะช่วยประหยัดค่าเมล็ดพันธุ์ และได้ต้นกล้าที่มีความแข็งแรง โดยการนำเมล็ดฟักแช่น้ำอุ่น 30-40 นาที ห่อผ้าขาวบางที่ชุบน้ำจนชุ่ม ใส่ไว้ในกล่องพลาสติกใส 2-5 วัน เมล็ดฟักจะทยอยออกรากกล้า มีใบจริง 1-3 ใบ หรือประมาณ 12-15 วัน แล้วจึงย้ายกล้าปลูก ก่อนย้ายกล้าปลูกควรงดให้น้ำ 1 วัน เพื่อให้ต้นกล้ามีการปรับสภาพ และมีความแข็งแรง

ฟักยักษ์เป็นพืชเถาเลื้อย ชอบขึ้นค้าง การทำค้างเพื่อให้ฟักเลื้อยนั้นสามารถทำก่อน หรือระหว่างการปลูกก็ได้ โดยการใช้เสาไม้ที่หาได้จากท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ ต้นกระถิน หรือยูคาลิปตัส เป็นต้น ขุดหลุมฝังเสา ให้มีความสูงจากพื้น 1.5-2 เมตร ตัดไม้ไผ่ เศษกิ่งไม้ หรือใช้ตาข่ายสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาด ทำเป็นร้านให้เถาฟักเลื้อยขึ้น ซึ่งการทำให้เถาฟักเลื้อยจะทำให้ได้ผลผลิตที่ดี ไม่เสี่ยงต่อการทำลายของโรคทางดิน ฟักยักษ์ไต้หวันเป็นฟักที่มีผลขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ควรใช้เชือกสานเป็นตาข่ายแขวนผลไว้เพื่อรับน้ำหนักผล และป้องกันขั้วผลขาด การทำค้างเหมาะสำหรับทำในฤดูฝน หรือทุกฤดู แต่หากต้องการลดต้นทุนในการทำค้าง หรือไม่ทำค้างควรเลือกปลูกฟักในฤดูหนาวที่ไม่จำเป็นต้องทำค้างก็ได้ แต่ต้องมีการช่วยจัดเถาให้เลื้อยกระจายไม่แน่นทึบจนเกินไป หลังจากฟักติดผลแล้วควรใช้ฟางข้าว หรือ แผ่นโฟมรองผลฟักเพื่อป้องกันโรค และแมลงทำลายผล.


ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ : //www.dailynews.co.th


Create Date : 11 ตุลาคม 2554
Last Update : 11 ตุลาคม 2554 23:20:48 น. 0 comments
Counter : 1648 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.