คำมากพยางค์ อาจมีที่มา 3 ทาง ...(๑)ยืมมาจากภาษาอื่น เช่น บาลี ,สันสกฤต,เขมร เป็นต้น (๒) สร้างขึ้นมาใหม่ ตามวิธีการสร้างคำ (๓) เกิดคำใหม่ เพราะการเปลียนแปลงทางภาษาบางประการ
การออกเสียงสระ เสียงสระถือเป็นเสียงที่ออกเสียงได้ง่ายและสะดวก เพราะเวลาออกเสียง ลมที่พุ่งออกมาทางหลอดลมจะผ่านปากเกิดเป็นเสียงได้ โดยไม่ถูกลิ้นกักหรือขัดขวางไว้ ทั้งลิ้นไม่ว่าส่วนไหนไม่จดเพดานด้วย เวลาออกเสียงสระลมหายใจจะถูกขัดขวางบ้าง
เช่น (อยู่ในกล่องเสียงตรงลูกกระเดือก) เสียงสระจึงเป็นเสียงก้อง เพราะลมหายใจไม่ถูกขัดขวางเวลาออกเสียง
เสียงสระจึงออกเสียงให้ยาวนานได้ อวัยวะที่เกียวข้องการออกเสียง ได้แก่ ลิ้น กับริมฝีปาก ถ้าลิ้นส่วนใดทำหน้าที่เพียงส่วนเดียว เสียงที่เกิดขึ้นก็จะมีเพียงเสียงเดียว(เสียงเช่นนี้เรียกว่า สระเดี่ยว) แต่ถ้าลิ้นส่วนอื่นทำหน้าที่ร่วมด้วย ซึ่ง (เรียกว่าเสียงผสม) สระภาษาไทยจึงแยกได้เป็น "สระเดี่ยว" และ "สระผสม"
๐สระเดี่ยว อาจจำแนกได้ ๒ ลักษณะ
๑.จำแนกตามส่วนต่างๆของลิ้นที่ทำหน้าที่ ซึ่งจะมีสภาพของริมฝีปากประกอบด้วย จำแนกออกเป็น สระกลาง สระหน้า และ สระหลัง
สระกลาง หมายความว่า อยู่ระหว่างสระหน้า และ สระหลัง สระกลางที่ถือว่าเป็นพื้นฐานและสำคัญ ได้แก่ (อา) เวลาออกเสียงลิ้นจะทอดราบกับปาก (บางทีกลางลิ้นอาจจะโค้งขึ้นถ้ากดลิ้นเข้าไป) ริมฝีปากอยู่ในสภาพปกติ ไม่แบะหรือห่อ แต่ถ้าหากกระดกกลางลิ้นค่อนมาทางตอนหน้าสุงขึ้น เสียงจะเป็น (อื) และถ้ากระดกลิ้นไปทางข้างหลังสุงขึ้น เสียงที่มาจะเป็น (เออ) สระกลางทั้งหมดจึงเป็นเสียง /อา / อื/ เออ และ /อะ/ อึ / เออะ/
สระหน้า ที่เรียกเป็นสระหน้า เพราะปลายลิ้นส่วนหน้าทำหน้าที่ คือ ถ้ากระดกลิ้นระดับ/อา/ ให้สุงขึ้นๆ จะเกือบจดเพดานแข็งแต่ไม่จด และริมฝีปากก็แบะออกเป็นรูปยิ้มเสียงนั้นจะออกมาเป็นเสียง /อี/ ถ้ากดปลายลิ้นลง ริมฝีปากแบะมากขึ้น และริมฝีปากล่าง หรือขากรรไกร กดต่ำลง เสียงก็จะเป็น /เอ/ ถ้ากดปลายลิ้นต่ำลงมากกว่านั้น แบะริมฝีปากมากกว่า และริมฝีปากล่างก็กดต่ำกว่า เสียงจะเป็น /แอ/ (บางคนออกเสียง /แอ/ ฟังไม่ไม่เป็นเสียง /แอ/ ชัดแจน อาจเป็นเพราะริมฝีปากแบะและกดต่ำลงไม่มากพอ)...สระหน้า ได้แก่ /อี/ เอ / แอ/ และ /อิ/ เอะ / แอะ /
สระหลังที่เรียกสระหลังเพราะ โคนลิ้นที่ถือเป็นลิ้นส่วนหลัง ทำหน้าที่คือ ถ้ากระดกโคนลิ้นระดับ /อา/ ให้สุงขึ้นๆ จนเกือบจดเพดานอ่อน แต่ยังไม่จด และ ริมฝีปากห่อเข้าจนเกือบกลม เสียงจะออกมาเป็นเสียง /อู/ แต่ถ้ากดโคนลิ้นลงมาได้ระดับกับเสียง /เอ/ เสียงที่ออกมาจะเป็นเสียง /โอ/ และถ้ากดโคนลิ้นต่ำลงมาอีก จนได้ระดับกับเสียง /แอ/ และริมฝีปากค่อยกคายออกไม่ห่อเข้าเท่าเสียง /อู/ และ /โอ/ เสียงนั้นก็จะได้เสีย /ออ/ สระหลังจึงได้แก่ /อู/ โอ / ออ / และ /อุ /โอะ / เอาะ/
๒.จำแนกระดับสุงต่ำของลิ้น และระดับช่องว่างในปาก ระดับสุงของลิ้น คือ ระดับที่ลิ้นกระดกขึ้นหรือกดต่ำลง...ได้แก่....
-สุงคือดิ้นกระดกเกือบจดเพดาน (ทั้งโคนลิ้นหรือปลายลิ้น)
-ต่ำคือลื้นทอดราบกับปาก
-สุงกลางคือระดับลิ้นสุงกว่าต่ำ แต่ต่ำกว่าสุง
-ต่ำกลางคือสุงกว่าต่ำ แต่ต่ำกว่าสุงกลาง