เสียงสะท้อน ดร.อุทิส ศิริวรรณ พูดถึงกรณีวัดพระธรรมกายที่เป็นข่าวในขณะนี้ ข่าวที่ผมสนใจ? ประสาคนสนใจ เรื่องราววัดวาอาราม ก็สนใจอ่าน และเปิดใจ รับชมรับฟังสื่อต่าง ๆ สะท้อน ข่าววัดพระธรรมกายแนวโน้มเป็นประเด็นฮอตข้ามปีสรุปสื่อมองว่า ยกนี้ดีเอสไอแพ้วัดยับเยิน
เลยเอาคดียัดใส่วัดสิริรวม ๑๕๘ คดี ทำแบบนี้ภาพลักษณ์ผู้จับกุมเสียหายยับเยิน นึกถึงเรียกมอเตอร์ไซค์ค้นตัว ไม่พบผิดก็ยัดสารพัดคดีใส่ ยิ่งทำให้องค์กรเสียมากกว่าดี
ท่านมหานพพรป.ธ.๙ ในนามศิษยานุศิษย์แถลงข่าวว่า
...เราเชื่อได้ยากว่า พระภิกษุที่ทุ่มอุทิศตนมาตลอดชีวิต
จนสุขภาพอ่อนแอจะกระทำผิดในข้อหาอาชญากรรม
เพราะท่านมีเป้าหมายในชีวิตเพียงเพื่อฝึกตนและมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะกระทำผิดดังที่ถูกกล่าวหา...
ชอบคำนี้เพราะท่านมีเป้าหมายในชีวิตเพียงเพื่อฝึกตนและมีเมตตา ฝ่ายเกลียดชังคงถามว่าจริงหรือไม่?
ผมเองไม่เคยสนทนาธรรมกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยโดยตรง แต่ดูจากผลงาน แม้หลายเรื่องผมไม่เห็นด้วยแต่อีกหลายนโยบายที่ท่านคิดและทีมทำน่าสนับสนุนและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง
จากข้อมูลที่เห็นตามสื่อของวัด ไม่พบตามสื่อทั่วไปท่านเป็นผู้มากด้วยผลงาน แต่มีบุรพกรรมตามตัดรอนความดีของท่าน และเศษกรรมยังคงหลงเหลืออยู่ท่านต้องชดใช้กรรมเก่าบางส่วน ไม่น่าห่วงท่านทำดีทั้งชีวิตไม่ตกสู่อบายทุคติ วินิบาต นรก แน่ ๆ
จากผลงานท่าน มีบุญได้สร้างแต่ไม่มีวาสนา ตามที่จะพึงมีพึงเป็น ถ้าอยู่ญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรปพิเคราะห์จากผลงานของท่าน ทีม และองค์กรพูดแล้วอย่าหมั่นไส้ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพสบาย ๆ คือเป็นองค์กรที่บริหารจัดการเก่ง แต่ผิดประเทศ
ถ้าคิดและทำแบบนี้ในประเทศที่ผู้นำใจกว้างจะมองข้ามข้อบกพร่องและไปโลด!มีข้อสังเกตว่าปกติ เจ้าอาวาสวัดดัง พอมีเรื่องราวจะถูกคนในวัดถล่มซ้ำ แต่รายวัดนี้
ศิษยานุศิษย์สู้ยิบตามีน้อยรายที่บดขยี้ท่าน
คำถามคือพระและอุบาสกอุบาสิกาทำไมถึงสัทธาในพระคุณท่าน? ผมไม่ต้องการคำตอบใด ๆ คำถามวิจัยคือ
ถ้าท่านดีจริงทำไมท่านถึงถูกตั้งข้อหา? นี่ก็ไม่ต้องตอบ
อีกคำถามถ้าท่านผิดจริง ทำไมคนถึงยังสัทธาในตัวพระคุณท่านไม่เสื่อมคลาย? ประเด็นนี้ให้หาข้อมูลอ่านเอาเอง
นึกถึงบทสนทนาธรรมกับพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิวงศ์วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เมื่อไม่นานมานี้
ท่านเทศน์สอนว่า อำนาจนำมาซึ่งความเสื่อม อยากให้ท่านผู้ใดเสื่อม เอาอำนาจโดยรวมประกอบด้วย ลาภยศสุขสรรเสริญให้ท่านผู้นั้น จะเสื่อมทันที! อยากให้ใครเสื่อมเร็ว ก็ให้ท่านผู้นั้นดีเด่นดังมาก ๆ
เท่าที่คุยกับพระราชาคณะวัดต่าง ๆ เห็นว่ายามนี้พวกเราชาวพุทธต้องรักกันมาก ๆ แต่ผมเห็นว่า ควรใช้กรณีศึกษานี้เป็นต้นแบบวิจัย ทำข้อมูลให้แน่น ป้องกันวัดอ่อนแอวัดอื่น ๆ ซึ่งมีปัญหาอีกหลายวัด
เลิกต่างคนต่างอยู่ ธุระไม่ใช่ เลิกคิดเยอะคิดมาก เลิกคิดเล็กคิดน้อย เลิกจับผิดกัน เลิกซ้ำเติมกันชั่วคราว
ส่วนตัว ผมยังย้ำจุดยืนเดิม รัฐต้องใช้มาตรา ๔๔ให้โอกาสทุกฝ่าย พิสูจน์ทราบความจริง
ผบ.ตร.ก็พูดชัดเจน ต้องปฏิรูปพรบ.สงฆ์ผมเห็นด้วยอีกประเด็น รัฐใช้มาตรา ๔๔ ได้แล้ว ให้ท่านสู้คดีเป็นพระ
ประกาศให้ชัดเจนไปเลยว่าไม่ได้แกล้งท่าน
๑๕๘ คดีและจะเกิดตามมาอีกหลายคดีบอกตรงคนคงไม่ไว้วางใจคนคงเชื่อยากนะ อย่าบังคับขืนใจจับท่านสึก
รัฐต้องแถลงข่าวและจุดยืนชัดเจน เปิดโอกาสให้ท่านและศิษยานุศิษย์ท่านนำหลักฐานเข้าต่อสู้ สู้ให้ครบ ๓ ศาล ท่านมีทีมทนายชุดใหญ่มากถึง ๗ ทีม
ผมว่าวัดนี้พร้อมสู้ เพราะประเมินนิสัยท่านท่านและทีม
เป็นนักสู้เพื่อพระพุทธศาสนาที่ท่านคิดและเชื่อแบบท่านตลอดชีวิต เอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อพระพุทธศาสนา
คือที่ท่านคิดและเชื่อก็ไม่เหมือนที่ผมคิดและเชื่อแต่ผมเคารพความเชื่อที่แตกต่างไม่ว่าร้ายกันเกินความจริง รัฐน่าจะเปิดโอกาสให้ท่านสู้คดีครบ๓ศาล
ผมฟังข่าวคราววงในวัดเขียนเขต หลวงพ่อเปี๊ยกเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี หลวงพ่อท่านส่ายหน้า บอกหน่วยราชการที่มีอำนาจ ในขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ทำตามที่หลวงพ่อแนะให้เจรจาคือไม่ยอมทำตามที่รับปาก
ไม่ยอมให้ท่านประกันตัวสู้คดีในชั้นศาลจะจับท่านสึกเท่านั้น! ศิษยานุศิษย์ท่านไม่ยอมกลัวถูกวางยาท่านไม่ได้หลบหนีอย่างที่ใส่ร้ายใส่ความท่านจากกลุ่มที่ชังท่านแต่อย่างใด
เพราะถ้าจับท่านสึกจะให้ท่านกลับไปบวชนับพรรษาใหม่แบบผู้ร้องเรียนทำศิษยานุศิษย์ไม่ยอมแน่ ๆ เรื่องราวคดีความแปลกพิกลอยู่ แน่นอน ฝั่งที่เกลียดชังก็ก่นด่า ฝั่งที่สัทธาก็ไม่ยอมเช่นกัน
"โลกวัชชะ" ก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงการอ่อนแอของผู้นำประเทศและมหาเถรสมาคม !
---------------
Cr.
ดร.อุทิส ศิริวรรณ
Create Date : 23 ธันวาคม 2559 |
|
2 comments |
Last Update : 23 ธันวาคม 2559 1:46:34 น. |
Counter : 1630 Pageviews. |
|
|
นึกถึงคำนี้ ยิ่งมืดเท่าใดแสดงว่ายิ่งใกล้สว่างมากเท่านั้น