It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2561
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 พฤษภาคม 2561
 
All Blogs
 
♨❉16 กิเลส ที่แฝงมากับการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค !!!



 
 
♨❉16 กิเลส ที่แฝงมากับการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค !!!
การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นมีประโยชน์ก็จริง แต่ต้องใช้อย่างมีสติ ใช้อย่างรู้เท่าทัน ควรมีการบริหารจัดการเวลาในการใช้ และใช้ให้ถูกกาลเทศะ หากเราหลงอยู่กับมันมาก หรือยึดติดกับมันมากเกินไป สิ่งที่เป็นประโยชน์ก็อาจกลับมาสร้างความทุกข์ให้เราได้ในภายหลัง 

ถ้าคุณเล่นโซเชียล มาพิจารณาตนเองด้วยสติไปพร้อม ๆ กัน กับ 16 กิเลส ที่แฝงมากับการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค

❖1. อภิชฌาวิสมโลภะ

เห็นใครโพสภาพบ้านหลังใหญ่ๆ รถหรูๆ อาหารดีๆ ภาพการพักผ่อนในโรงแรมสวยๆภาพชีวิตหรูหรา ก็เกิดความรู้สึกอยากได้เหมือนอย่างเขาเกิดความไม่พอใจชีวิตของตนเอง เกิดความโลภ เกิดความทุกข์หดหูใจว่าทำไมหนอ ชีวิตคนอื่นจึงดีกว่าชีวิตของตนเอง นานวันเข้าก็พัฒนาไปสู่ความโลภอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัว รู้สึกอยากจะโพส อยากจะอวดเหมือนอย่างเขาบ้าง

❖2. พยาบาท
เปิดเฟสส่องดู เห็นคนที่ตนเกลียดมีความสุข ก็คิดหมั่นไส้อยู่ในทีแต่เมื่อเปิดดูแล้ว เห็นคนที่ตนเกลียดมีความทุกข์หรือมีปัญหาก็รู้สึกยินดีพอใจ

❖3. โกธะ
ใครโพสสิ่งใดไม่ถูกใจ ไม่ตรงกับความคิดของตัว ก็นึกโกรธ จับโยงความคิดผู้อื่นมาปะทะกับความคิดของตนเองจนกลายเป็นความทุกข์ใจ

❖4. อุปนาหะ
เมื่อโกรธ เพราะคิดเห็นต่างกัน ก็ผูกใจเกลียดคนๆ นั้น โดยไร้เหตุผล

❖5. มักขะ
เห็นใครทำความดีก็นึกหมั่นไส้เขา เห็นคำสอนปราชญ์ คำสอนพระ คำสอนศาสดา คำสอนผู้รู้ใดๆที่ไม่เข้ากับความคิดของตน ก็นึกดูแคลน พยามใช้ความคิดของตนหักล้างทั้งที่รู้ว่าสิ่งที่เขานำเสนอนั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์

❖6. ปลาสะ
ไม่เคยชื่นชมใคร เห็นใครโพสอะไรก็ไม่พอใจไปหมด ฟาดงวงฟาดงาไปหมด เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด

❖7. อิสสา
จิตเกิดความอิจฉาจนทนไม่ได้ ต้องพิมพ์ ต้องแสดงออกด้วยการเสียดสีประชดประชันโพส เม้น วิจารณ์ด้วยความไม่สุภาพ ไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ใดๆ

❖8. มัจฉริยะ
เมื่อนำเสนอใดไปแล้ว วันหนึ่งมีผู้อื่นนำความคิดของตนไปดัดแปลงก็นึกเสียดาย เกิดความทุกข์ นึกหวงความรู้ของตนขึ้นมาในที

❖9. มายา
ยึดติดอยู่กับโลกมายา ตั้งใจโอ้อวดให้ผู้อื่นเกิดความอิจฉา 
ฝังตัวอยู่หน้าคอม ไปไหนมาไหน เปิดดูโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา 
ยึดติดกับยอดไลค์ ยอดเม้น ยอดแชร์
หลงอยู่ในมายาของโลกโซเชียล
ไม่สามารถหยุดติดต่อกับโลกโซเชียลได้นานๆ
พึ่งพาโลกโซเชียลสร้างความสุขแบบปลอมๆ ให้กับตนเอง

❖10. สาเถยยะ
โพสสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง สร้างภาพว่าตนเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยนำไปสู่การยึดติดกับภาพลักษณ์ที่ตนสร้างขึ้น ต้องฉลาดอยู่ตลอดเวลาต้องแสนดีอยู่ตลอดเวลา ต้องสวยต้องหล่ออยู่ตลอดเวลา ภาพลักษณ์ต้องดูดีอยู่ตลอดเวลาที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็นำมาซึ่งความทุกข์ในชีวิตจริงของตนเอง

❖11. ถัมภะ
เมื่อมีใครแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง รีบโต้เถียงในทันที จ้องแต่จะเถียงโดยไม่ได้นำความคิดนั้นมาตรึกตรองจนเกิดปัญญา โพสระบายความในใจอย่างไร้เหตุผลไหลไปตามอารมณ์ของตนเป็นใหญ่ บ่นตลอดเวลา ระบายอารมณ์อยู่ตลอดเวลา

❖12. สารัมภะ
คอยแต่จะเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น แข่งดีแข่งเด่นกับเขา เขามีคนกดไลค์กี่คนแล้วเรามีกี่คนแล้ว เขามีเพื่อนกี่คนแล้ว มีคนเม้น คนแชร์กี่คนแล้ว ทำไมของเขามีเยอะทำไมของเราจึงมีเท่านี้ ตั้งหน้าตั้งตาเอาชนะกันในเรื่องไร้สาระ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ

❖13. มานะ
เมื่อมีคนกดไลค์มากๆ มีคนชื่นชมมากๆ ก็หลงว่าตนเก่ง ตนดีกว่าเขาทั้งที่ความจริงแล้ว ทุกคนย่อมมีทั้งด้านดีและไม่ดีมีสิ่งที่เชี่ยวชาญและสิ่งที่โง่เขลา มีสิ่งที่พิเศษ และสิ่งที่ธรรมดาเมื่อหลงตนมากเข้า อัตตาตัวตนก็ขยายตัวใหญ่ขึ้น เกิดเป็นมานะทิฐิว่าข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ ข้าคือคนสำคัญ

❖14. อติมานะ
เมื่อคิดว่าตนดีกว่าใคร ก็เริ่มดูถูกผู้อื่น เริ่มพูด เริ่มเม้นเริ่มแสดงความคิดเห็นประชดประชันว่าตนดีกว่าเขา

❖15. มทะ
เสพติดคำชื่นชม ปล่อยให้ใจฟูไปกับคำชมทั้งวัน คุยแต่ว่าวันนี้มีใครมาชมบ้างพัฒนาไปสู่ความมัวเมาต่อคำสรรเสริญเยินยอ

❖16. ปมาทะ
ใช้เวลาอยู่ในโลกโซเชียลนานเกินไป จนไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในชีวิตจริงละเลยการงาน ครอบครัว สุขภาพ หมดเวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอโทรศัพท์ทำให้ชีวิตจริงตกต่ำลงเรื่อยๆ

ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่ตกเป็นทาสของโลกโซเชียล
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งคนที่มีการศึกษา คนไร้การศึกษา
ทั้งคนเก่ง และคนไม่เก่ง
ทั้งคนธรรมดาและคนดังต่างๆ
ตราบที่เราไม่ได้ใช้มันอย่างมีสติ
มันย่อมกลืนกินชีวิตของเราไปสู่โลกเสมือนจริงมากขึ้นเรื่อยๆ
คนทุกวันนี้ไม่มองหน้ากันแล้ว
เพราะเรามองหน้าจอกันตลอดเวลา
ในหนึ่งปี เราแทบนับครั้งได้ว่ามองท้องฟ้ากี่ครั้ง
แม่อยู่กับลูก นั่งมองจอ
ลูกอยู่กับแม่ ก็นั่งมองจอ
อ่านคำชมบนจอเสร็จ มานั่งเถียงกับคนครอบครัวต่อ
ทุกวันนี้โลกเป็นอย่างนี้
ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว
❖❖
ป.ล. กิเลสทั้ง 16 ข้อนี้
นำมาจากหลักธรรมอุปกิเลส 16 ของพระพุทธเจ้า
แสดงให้เห็นว่า หลักธรรมของพระพุทธเจ้า
เป็นอกาลิโก ไม่จำกัดกาล เป็นสัจจะ
เป็นของจริงที่นำมาสอนใจตน
และสอดส่องความเป็นไปของสังคมได้ทุกยุคทุกสมัย
ในบทความนี้ แม้ไม่ได้ถอดมาเหมือนซะทีเดียว
เพียงแต่ใช้หลักธรรมเป็นกรอบ
และดัดแปลง เพื่อให้เข้ากับสิ่งที่เห็นๆ กันอยู่ในโลกโซเชียล
กิเลสทั้ง 16 ตัวนี้ เมื่อเกิดกับใครแล้ว
พระพุทธเจ้าท่านเตือนไว้ว่า
จะนำไปสู่ความขุ่นมัวในเบื้องต้น
หากไม่พยายามสะสาง จะนำไปสู่ความทุกข์
และพัฒนาไปเป็นความชั่วในรูปแบบอื่นๆ
ถ้าเราไม่หลอกตัวเองจนเกินไปนัก
เห็นได้ว่า ทุกวันนี้กิเลสทั้ง 16 ตัวนี้
ได้ยึดพื้นที่ทั้งหมดในโลกโซเชียลไปเรียบร้อยแล้ว!!!
ขอขอบคุณ : พศิน อินทรวงค์
https://www.winnews.tv/news/23870



Create Date : 27 พฤษภาคม 2561
Last Update : 27 พฤษภาคม 2561 22:16:08 น. 0 comments
Counter : 1036 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.