|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Paris De Paumonggingnatu (ปารีส ปวดหมองจริงนะตู) ตอน เปิดซิงปารีส
ต้องออกตัวก่อนว่า ตอน เปิดซิงปารีส นี้เจ๊ได้เขียนไว้ในบันทึกการเดินทางตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว และในภาวะสมองหวานนี้ การหากินกับผลงานเก่าๆ ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย...อิอิ แจงซะยาว ที่แท้อีเจ๊ขี้เกียจนั่นเอง มามะ..ไปเที่ยวปารีสกัน ฟังเค้าเล่าลือกันมาว่า..เห็นหอไอเฟลแล้วขนลุก....ส์ส์ส์ จริงไม่จริงยังไง วันนี้เจ๊ได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว ออกจากโรงแรม Sofitel (โรงแรมสุดหรู แต่บริการยอดแย่ แบบว่าหญิงชราอัดอั้น ขอบ่นหน่อยเห๊อะ ให้เจ๊รอห้องไปสองชม.กว่าๆ จากที่บอกว่า สิบนาที..ดูมัน โทรไปทีก็ คลีนอยู่ค่ะ....โทรไปอีก คลีนอยู่ค่ะ คาดว่าแม่คงคลีนล่อไปทั้งตึก ประทับจายจินๆ..งืด...)
ต่อๆ ออกจากโรงแรมตอนสี่โมงเย็น ตอนแรกเจ๊ก็สงสัยนะว่า เฮ้ย... ออกตั้งเย็น จะได้เที่ยวกี่ชม.กันฟระเนี่ย แต่เอาน่า วันนี้ห้ามมีปากมีเสียง ทำตัวเป็นลูกทัวร์ที่ดี ก็มัน Paris แรกของเจ๊นี่ หือมากเดี๋ยวโดนเอาไปปล่อยกลับไม่ถูกล่ะวุ่นเลย หัวหน้าทัวร์ของเจ๊เป็นสาวหัวทองจากโปแลนด์ ชื่อว่า เอล็กซ์ เรียกแบบไทยๆว่า อีเล็กก็ได้ เอล็กซ์บินมาแค่สองเดือน แต่กลับรับอาสาพาอีเจ๊ที่บินมาสองปีเที่ยว...อายฝรั่งมันมั๊ยล่ะ มีแผนที่กันคนละอัน ฝรั่งกะกระเหรี่ยง ก็เตรียมลุยกันได้เลย.... .............ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา แม่เจ้าโว๊ย อะไรกันนี่ มองไปทางไหนก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด เจ๊ได้แต่พึมพัมกับตัวเองว่า ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าวันนึงกระเหรี่ยงหัวดำอย่างเราจะได้มากระทบไหล่ (หลายไหล่เชียวหละ) ชาวปารีเซียงตัวเป็นๆ แค่โผล่หัวออกมาจาก metro สถานีแรกก็ ว้าว...ววว สถานีแรกที่ไปน่ะเหรอ ใช่แล้ว...ไอเฟล ทาวเวอร์...ตามสูตรกระเหรี่ยงเป๊ะ ฮี่ๆ
ภาพบังคับพื้นฐานที่คนมาปารีสต้องถ่าย
ส่วนรูปนี้ถ่ายกะหัวหน้าทัวร์ ชักภาพกันประมาณนึง..เอาเครป Nutella ที่โครตอร่อย ลูบท้องพอให้น้ำตาลในเลือดพุ่งพล่าน ก็ออกเดินทางกันต่อไปที่ ช็อง เอลิเซ่ ถนนสายแฟชั่นชื่อดังของเมืองน้ำหอม ที่พำนักของช็อปแบรนด์ดังๆทั้งหลาย ซึ่งถ้าเจ๊มาคนเดียว วันนี้คงติดอยู่ที่นี่ ไปไหนไม่ได้ แล้วก็เดินช็อปตั้งกะหัวถนนยันท้ายถนน จนกว่าขาจะเดี้ยงอย่างน้อยหนึ่งข้าง ตามด้วยตังค์หมดเกลี้ยง บัตรเครดิตถูกรูดจนแถบแม่เหล็กเปื่อย กลับโรงแรมในสภาพครึ่งพิการ พร้อมกับลิปกรอสโง่ๆ สองสามอัน กับครีมสารพัดชนิดที่ทำให้ผิวเป็นประกาย ซึ่งมีอยู่เต็มบ้านแต่ไม่ได้ใช้...เอ้าๆ ชักยาว แต่คราวนี้เจ๊ไม่ได้ช็อป เพราะอีหนูเอล็กซ์บอกว่าช็อปปิ้งทริปไว้คราวหน้านะตะเอง วันนี้ไปดูอะไรเด็ดๆกันก่อน ได้เลย ว่าไงว่าตามกัน วันนี้ไม่กล้าหือ บอกแล้ว เอล็กซ์พาเจ๊เดินทางไกล ร้อนมากๆ ผ่าน Grand Palace ข้ามสะพานอะไรซักอย่างที่เห็นในเรื่องแก้วตาพี่
เดินไปก็อู้ฮู้ไปตลอดทาง เพราะมันสวยไปหมด เรียกว่ากดชัตเตอร์ไปมุมไหนก็สามารถเป็นโปสการ์ดได้หมดเลย บ้านเมืองเค้าโรแมนติกมากๆ ไฮลี่ เรคคอมเมน สำหรับคู่รักที่จะมาอัพดีกรีความสวีทที่นี่ มันเวิร์คมาก และสำหรับพวกไร้คู่ สำนวนไทยที่ว่า ไปตายเอาดาบหน้า คุณใช้มันได้ที่นี่จริงๆ หนุ่มๆฝรั่งเศสจะทำให้คุณรู้ว่า ที่นี่ไม่ได้ขึ้นชื่อแต่ ขนมปังกะน้ำหอมเท่านั้น....ฮิ้ว เดินมาจนเจอ Napolian Grave คืออีหนูเอล็กซ์นี่มันคลั่ง History เอามากๆ มันตื่นเต้น ขนลุกไปหมดเวลาได้มาเยือนวีรบุรุษ พยายามอธิบายให้เจ๊ฟังสุดริดว่านโปเลียนมีความเป็นมายังไง อีเจ๊ก็...ฮู๊ย....สนใจมาก...กกก
อันนี้เป็นทางเข้าจ้า
ว่าไปมันก็ใหญ่โตอลังการน่าเข้าไปดูอยู่หรอก มันไม่ใช่แค่ที่เก็บศพ แต่เป็นอาณาจักรอารมณ์ประมาณ Gladiater ยังไงยังงั้น
ตรงนี้เป็นส่วนของโบสถ์ หน้าตาศักสิทธ์มั่กมั่ก...เข้าไปชั้นจะกรี๊ดมั๊ยเนี่ย
สังเกตธงข้างบน มีธงช้างด้วย มันจะเป็นประเทศใดไปได้....
ซูมๆ
เซย์บายจากนโปเลียนเราก็มั่ว metroกันต่อ ไปโผล่ที่ Montmarte เป็นโบสถ์อยู่บนเขา สวยมาก แต่ต้องปีนบันไดขึ้นไป อารมณ์ประมาณ วัดต่างจังหวัดบ้านเรา ขาดก็แต่พญานาคเลื้อยที่ราวบันได ผู้สูงอายุอย่างเจ๊แค่มองก็หอบแล้ว แต่เอาวะ หยิบยาดมโป๊ยเซียนขึ้นมาแสตนบายด์เผื่อฉุกเฉิน รวบรวมพลังข้าวเหนียว อย่าให้เสียชื่อหญิงไทย.....
ยังครับยังนี่เพิ่งครึ่งทาง
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับ...กระเหรี่ยงทำได้ และแล้วเจ๊ก็ปีนมาจนถึงยอด ภูมิใจไปหอบไป คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆ มองเห็นวิวทั้งปารีสเลย
นั่งพักกันแป๊บนึงก็ลุยกันต่อ เดินจากบนยอดดอยนั่นแหละไปเรื่อยๆ จะเป็นย่านที่เก๋ น่ารักมากๆ คนตู้ม มีค็อฟฟี่ช็อป และร้านอาหารฮิปๆเต็มไปหมด คนที่นี่ก็นะ กรึ๊บกันตั้งแต่หัววัน และแถบนี้ยังเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก แกลลอรี่น่ารักๆ และมีพวกศิลปินที่มานั่งรับจ้างวาดภาพกันสดๆเพียบเลย
เดินลงจาก Montmarte เอล็กซ์ยังคงมุ่งมั่นที่จะตามหาบาร์ที่เป็นตำนาน Moulign Rouge เจ๊ก็ได้แต่คิดว่าอีนี่บ้า แต่ไสยศาสตร์มีจริง...มันเจอจนได้ครับ บาร์ในตำนาน เล็กกระจิ๊ดเดียว แต่คนแน่นเต็มร้านตั้งแต่หัววัน อีฝรั่งเกิดอาการของขึ้น ส่งสายตาน้ำข้าววิงวอนเต็มที่ ขอเข้าไปนั่งได้ม๊าย...มันออกอาการเหมือนเด็กๆใน Toys R Us อืม...มันจะอินอะไรขนาดนั้นวะ สงสัยต้องกลับไปหาหนังมาดูบ้างแล้ว เผื่อจะได้ฟิลกะเค้ามั่ง หลังจาก วิงวอน งอนง้อ และสัญญาว่าจะนั่งไม่เกินครึงชั่วโมงแล้ว เจ๊กะเอล็กซ์ ก็ได้ที่นั่งในหลืบเล็กๆของบาร์ยอดฮิตมาจนได้ มันจะยโสอารายขนาดน้าน....
บรรยากาศใน Moulign Rouge Bar... นอกจาก ส่วนสูง 175 ผอม ขาว และผมบลอนด์ เจ๊ก็ได้ฟิลว่าตัวเองเหมือน Nicold Kidman ขึ้นมาตะหงิดๆ อืม
โหเธอ...ช่วง happy hour เนี่ย ค็อกเทล เค้าถู๊ก ถูก ล่ะ อีฝรั่งเริ่ม induce ด้วยในตาหยาดเยิ้ม.....เอ่อ....ช้านม่ายดื่มอ่ะ อีเจ๊ทำน้ำเสียงประมาณว่า มรึงมาวกรูไม่หามกลับเจงๆน๊า.....(ว่าแต่กรูจะกลับถูกมะเนี่ย) สุดท้ายฝรั่งถอดใจ ลงเอยที่ Capuchino ส่วนเจ๊ยังคออ่อน เล่นแค่ choco chestnut freppe ด้วยเกรงว่าคาเฟอีนเมืองฝรั่งอาจถ่างตาเจ๊ถึงเช้าได้
อีฝรั่งเมาคาปูชิโน
สามทุ่มเข้าไปแล้ว ยังไปไม่ถึงที่ๆเอล็กซ์ภูมิใจเสนอ ชื่อว่าย่าน Pigalle มันโฆษณาซะดิบดีว่าเป็นย่านแห่งแสงสี ไฟสวยมากๆ ฉะนั้นถ้าไปตอนไม่มืดก็ไม่มีความหมาย....ฝรั่งกางแผนที่คู่ใจอีกครั้ง พบว่ามี semetary ของคนที่มีชื่อเสียงอยู่แถวๆนี้ ใหญ่โตมาก มันก็โอ้ว...ยู ไปกันนะไปๆๆ ฝรั่งนี่เป็นอะไรกันนะ ชอบดูแต่ศพ อีเจ๊ซิถึงกะขนหัวตั้ง เอาจริงอ่ะเพ่...มันเสียวน๊ะ เดินข้ามสะพานลงไปก็จะเจอประตูทางเข้า บุญพาวาสนาส่ง เจ๊คงจะมีบุญเก่าอยู่ไม่น้อย semetary ปิดไปตั้งแต่หกโมงเย็น เฮ้อ.....โล่งว่ะค่ะ บอกตรงๆ ก็นี่สามทุ่มเนี่ย ในนั้นไม่ตื่นกันหมดแล้วเหรอ ป่านนี้คงเดินกันให้ขวั่ก....บรื๋อส์ หยองนะ หมดหนทาง สองสาวเลยต้องมุ่งหน้าไปที่ Pigalle เลย จริงๆมันก็ใกล้นิดเดียวเองแหละ เดินจิ๊ดเดียวก็ถึง จากที่นึกภาพไว้ว่ามันจะเป็นแสงสีแบบ คลาสสิก ทำให้ปารีสดูโรแมนติกขึ้นมา.............................ป่าวเลยค่ะ พัฒพงษ์ เราดีๆนี่เอง มีแต่บาร์ระบำโป๊ คลับหน้าตากามๆ พิพิธภัณฑ์ลามก ร้านขายหนังโป๊ทั้งแบบ take away และ eat here งงล่ะซิ แบบ take away ก็เหมือนร้านทั่วไปที่บ้านเราก็มี พวกตามพันทิพย์ โป๊มั๊ยพี่ โป๊มั๊ย นั่นแหละ ส่วน eat here นี่แปลกใหม่ จ่ายตังแล้วเข้าไปนั่งดูได้เลย ง่ายอย่างกะถ่ายสติ๊กเกอร์ สำหรับพวกที่เกิด....กระทันหัน รอถึงบ้านไม่ไหว
ส่วนที่เห็นมากสุดก็คงเป็น sex shop ใหญ่โตโอราฬ ที่มีทั้ง section คอสตูมปลุกใจเสือป่า ที่ส่วนใหญ่ดูแล้วคงได้แรงบันดาลใจมาจากชาวประมง เพราะแต่ละชุดหน้าตาถอดแบบมาจาก แห ยังไงยังงั้น หรือฮาร์ดคอร์หน่อยก็ โซ่ แส้ กุญแจมือ มีหมด ส่วนมุมขายดีต้องยกให้ อุปกรณ์ดูแลสวนหย่อมด้วยตนเอง สำหรับสุภาพสตรีผู้เปล่าเปลี่ยว หญ้าไม่ได้รดน้ำมานาน และไม่อยากง้อคนสวน ที่นี่มีอุปกรณ์ทำสวนให้เลือก หลายขนาด หลายสี หลายวัตถุดิบ รับประกันคุณภาพใกล้เคียงมืออาชีพ แม้จะรดน้ำไม่ได้ แต่เรื่องพรวนไม่เป็นรองใคร.................... ฮึ่ย.....อีเจ๊ แกว่งปากหา กบว.อีกแล้ว ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำนะเคอะ เดินเล่นกันได้แป๊บนึงเห็นว่าถ้าอยู่นานกว่านี้คงได้ถูกอัญเชิญไปร่วมโชว์ด้วยเป็นแน่ เลยตัดสินใจกลับโรงแรม ก่อนกลับแวะหาอะไรกินกันก่อน ได้ยินอะไรแว่วๆ....... kebab swarma มั๊ยจ๊ะนายจ๋า.....เฮ้ย....ไปไกลๆทรีนเลย อยู่ถึงปารีสยังตามมาหลอกหลอนกันอีก สุดท้ายก็ได้ฮ็อตด็อก น่าตาดีมากันคนละอัน หญ่ายมาก...แต่ไม่อร่อยเรย......
นั่งกินใกล้ๆทางลง metro มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามา ชวนไปปาร์ตี้ ยูจะกลับบ้านไปนอนเหรอ กลับทามมาย ยูไม่ชอบปารีสเหรอ มาปารีสต้องไม่นอน บลาๆๆ ตบท้ายด้วยการป้อเสี่ยวๆอีกระลอกใหญ่ เจ๊กะเอล็กซ์อ่ะ จริงๆก็หวาดๆอยู่ แต่ติดว่าแถบนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยวอะไร ก็ได้แต่ทำใจดีสู้ฝรั่งเสี่ยว ตอบไปว่า ไม่อ่ะ แต๊งกิ๊ว พวกเราทำงานตอนเช้า....ย้ำทำงานตอนเช้า แปลว่า กรูเป็นคนปกตินะ ไม่ใช่อะอี่....เข้าจายม๊าย!!!! Party French Saugsageอะไรนั่นไปหาเอาข้างหน้าโน่น...ได้โปรด พอเห็นว่าพวกเจ๊ไม่ได้มักจริงๆ ไม่ได้แค่เล่นตัวอัพราคา มันก็ถอนสมอไปป้ายหน้า...เฮ้อ
Hot dog หมดไปยังไม่ครึ่งอัน เฮ้ย....มาอีกคู่แล้ว เจ๊ก็ได้แต่เงยหน้าเช็คว่า นี่ตรูนั่งใต้ต้นมะขามรึป่าวฟระเนี่ย หรือนี่จะเป็นโลเกชั่น ของพวกอาชีพเฉพาะ ว่าแล้วก็เผ่นเหอะ เจ๊กะเอล็กซ์ก็จ้ำใส่ทรีนหมาลง metro ไปอย่างปลอดภัย
ถึงหน้าโรงแรมเป็นเวลาดึกโข แต่บรรยากาศชวนเถลไถล อีฝรั่งส่งสายตาวิงวอนอีก นี่ยูตรงนี้เซฟชัวร์ ขอไอนั่งเล่นซี๊ดหรี่ตัวค่อยเข้าโรงแรมได้ป่าว....แน๊ เอ็นจอยจริงนะมรึง ว่าแล้วก็นั่งเล่น ถ่ายรูปกันอยู่จนถึงเกือบเที่ยงคืน ก็แยกย้ายกันไปนอน.....ได้ยินมั๊ยว่า แยกย้ายมะต้องลุ้นเลยทั่นผู้อ่าน ไม่มีปาร์ตี้ฉิ่งฉับแน่นอน อิชั้นไม่นิยม จบแล้วปารีส ทริปแรกของเจ๊ แล้วพบกันใหม่ ทริปหน้าจะพาไปเที่ยวไหนอย่าลืมติดตามนะจ๊ะ รักคนอ่าน...จุ๊บๆๆๆ
Create Date : 26 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 15:21:25 น. |
|
17 comments
|
Counter : 1026 Pageviews. |
|
|
|
โดย: smo วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:06:22 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:24:48 น. |
|
|
|
โดย: Pebbles วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:20:04 น. |
|
|
|
โดย: Louisson วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:1:43:52 น. |
|
|
|
โดย: Pebbles วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:27:35 น. |
|
|
|
โดย: จขบ (cutie_dedevil ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:11:42 น. |
|
|
|
โดย: Pebble (cutie_dedevil ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:26:45 น. |
|
|
|
โดย: Pebbles วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:58:35 น. |
|
|
|
โดย: Kiwi IP: 202.57.174.213 วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:38:57 น. |
|
|
|
โดย: nook_nuke IP: 124.120.9.201 วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:34:31 น. |
|
|
|
โดย: Pebbles (cutie_dedevil ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:38:31 น. |
|
|
|
โดย: กานสุดหล่อ IP: 61.7.161.41 วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:13:48:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Bahrain
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เกิดและโตที่ประเทศไทย รักประเทศไทย คิดถึงข้าวมันไก่และก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นที่สุด แต่โชคชะตาเล่นตลกชีพจรร่วงลงเท้า ทำให้ต้องไปดมอึจิ้งโจ้อยู่เป็นแรมปี ยัง..ยังไม่พอเคราะซ้ำกรรมซัดอีกระลอก ซัดมาให้แบกถาดอยู่กลางทะเลทราย..แบกไปบ่นไปกว่าจะรู้ตัวก็เข้าสู่วัยทอง ความไฝ่ฝันในอนาคตไม่ใช่เพอเซอร์หรือceo แต่เป็นเมียน้อยคนที่ 258ของท่านชีค...
|
|
|
|
|
|
|
นาทีทองค่าทั่นผู้อ่าน ใครอยากเห็นปารีสแบบเต็มตา เข้ามาด่วนเลย ก่อนที่เจ๊จะไปย่อรูปมาแปะใหม่
แฮะๆ พลิกวิกฤตเป็นโอกาสเก่งจริงนะเจ๊นะ