รูปแบบที่1 ใช้ในจังหวะที่คู่ต่อสู้ถอยขาขวาลงไปด้านหลัง

หลักโคโดกังจะใช้แรงของคู่ต่อสู้ดังนั้นการอธิบายท่าต่างๆถ้ามันเป็นท่าที่ทำคุสุชิไปด้านหลังมันเริ่มจากการดึงมาด้านหน้าก่อนให้คู่ต่อสู้ออกแรงต้านถอยหลังแล้วค่อยตามน้ำลงไป จังหวะที่คู่ต่อสู้ถอยขาขวาลงไป(เลยขาซ้ายของคู่ต่อสู้ลงไปแล้ว)แต่ขาขวายังไม่ลงพื้นและน้ำหนักยังไม่ลงไปเต็มที่ขาขวาในจังหวะนั้นให้โทริใช้แขนทั้งแขนซ้ายและขวาดึงขึ้นด้านบน คำว่า “ทรึริโกมิ”มีความหมายว่าดึงขึ้นด้านบนนั้นเอง ถ้าจังหวะถูกขาขวาของคู่ต่อสู้จะชะงักไปจะลงก็ไม่ได้ยืนก็ไม่ได้ก็ต้องรักษาสมดุลย์ด้วยการจะต้องเขย่งเท้าทั้งสองข้างนั้นเอง(ถ้าเขย่งคือขาขวาลงพื้นไปแล้วเราจะต้องทำการปัดก่อนที่จะเขย่ง) จังหวะเดียวกันกับที่ดึงนั้นให้โทริ ขยับขาขวาโดยการเอานิ้วโป้งหันเข้าหาตัวคู่ต่อสู้(ในกรณีนี้จะหันไปทางซ้าย)จุดนี้สำคัญมากเพราะถ้าขาขวาของโทริขยับเข้าไปไม่ลึกจังหวะปัดจะตัวงอและไม่มีแรงส่งจากสะโพกเข้าไปทำให้ท่านี้ใช้ไม่สำเร็จมีบางคนถามว่าขาของโทริควรจะอยู่ด้านในหรืออยู่ด้านนอกของคู่ต่อสู้จุดนี้ไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับอุเกะว่าขาที่วางอยู่กว้างหรือแคบถ้าเปิดขากว้างก็ให้วางไว้ด้านใน แต่ถ้าเปิดขาแคบก็ให้วางไว้ด้านนอก ตอนที่ขยับขาขวาเข้าไปนั้นให้ย่อเข่าลงไปสำคัญคือให้สะโพกอยู่ต่ำกว่าสะโพกอุเกะตอนเตะเตะให้เต็มแรง ส่งแรงมาจากสะโพกแต่มีข้อแม้ว่าเตะเข้าไปแล้วใช้ฝ่าเท้าไม่ใช่ใช้แข้งหรือว่านิ้วโป้งด้านหน้านะครับจุดที่เตะเข้าไปคือบริเวณข้อเท้าด้านหน้าของอุเกะเป็นสำคัญ จังหวะที่เตะนั้นมือสองข้างยังดึงขึ้นอยู่น้ำหนักที่ท้องของคู่ต่อสู้จะถูกถ่ายมาที่เข็มขัดด้านหน้าของโทริพอเตะไปโดนข้อเท้าแล้ว (จังหวะมันจะก้าวกันไปเร็วมาก ในจังหวะที่เตะนั้นเป็นจังหวะที่คู่ต่อสู้ก้าวขาขวาถอยหลังนั้นแหละแต่ถูกทำคุสุชิด้วยมือสองข้างดึงมาด้านหน้า) มือซ้ายให้กดลงปิดรักแร้ของเราดันไปด้านขวาความหมายก็คือว่ามือขวาของคู่ต่อสู้ถูกดึงให้ชิดลำตัวเข้าไป ในขณะที่มือขวาดันหลังหมุนเหมือนกับหมุนวงพวงมาลัยวิธีการใช้มือจะคล้ายกับท่าขาหลายๆท่า เช่นท่าเดอาชิบารัย โอคุริอาชิบารัยซาซาเอะทรึริโกมิอาชิ

รูปแบบที่2 ใช้ในจังหวะที่คู่ต่อสู้ถอยขาซ้ายลงไปด้านหลัง

เหมือนกับรูปแบบที่1แต่ใช้ในจังหวะที่คู่ต่อสู้ก้าวขาซ้ายลงหลังไป แต่ขาซ้ายยังไม่ลงพื้นทำเหมือนกับรูปแบบแรก คือมือทั้งสองข้างดึงขึ้นด้านบน ตรงจุดนี้จะทำให้คู่ต่อสู้ลงน้ำหนักไปที่ขาขวาที่เขย่งอยู่ส่วนขาซ้ายยังลอยอยู่เหนือพื้น ตอนที่ดึงนั้นเราขยับขาขวาเข้าไปก้าวนึงแล้วนิ้วโป้งขาขวาของเราหันเข้าสู่ตัวคู่ต่อสู้แล้วใช้ขาซ้ายปัดไปที่ข้อเท้าขวาของคู่ต่อสู้เหมือนกับรูปแบบที่1มือซ้ายปิดรักแร้ดันเข้าด้านใน มือขวาดันไปด้านหลังยกขึ้น รูปแบบที่สองนี้อาจารย์ท่านนึงได้ดัดแปลงผสมกับท่าซาซาเอะทรึริโกมิอาชิจนมันกลายเป็นท่าหลักที่พึ่งพาได้ตลอดเมื่อต้องเจอกับพวกจับซ้าย โดนท่านี้เข้าไปจับซ้ายเสร็จทุกรายครับ

ท่านี้ใกล้เคียงกับท่าซาซาเอะทรึริโกมิอาชิแต่ก่อนผมเคยคิดว่า ทำยังไงก็ได้ทุ่มได้ก็พอละไม่ว่าจะท่ามันจะไปอยู่ในหมวดหมู่ของท่าไหนทุ่มได้มันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอแต่นักยูโดที่ดีรวมไปถึงนักยูโดที่ได้สายดำแล้วสมควรที่จะต้องรู้ความแตกต่างของแต่ละท่าและอธิบายได้ว่าความต่างของท่ามันอยู่ตรงไหนความแตกต่างหลักๆของฮาไรทรึริโกมิอาชินั้นคือการทุ่มในจังหวะที่คู่ต่อสู้ขยับตัวไปด้านหลังแต่ซาซาเอะทรึริโกมิอาชินั้นเป็นการทุ่มในขณะที่คู่ต่อสู้เดินออกมาด้านหน้าท่าซาซาเอะนั้นเป็น1ใน3ท่าขาที่ตอนทำนาเกะโนะกาตะ(ท่าทุ่มมาตรฐาน)ต้องทำตอนสอบสายดำดังนั้นไม่รู้ทิศทางการทุ่มนั้นถือว่าไม่ผ่านนะครับความแตกต่างของฮาไรทรึริโกมิอาชิหลักๆอีกอย่างหนึ่งก็คือ ฮาไรทรึริโกมิอาชิทุ่มแล้วคู่ต่อสู้จะตัวลอยอยู่ตรงหน้าโทริและตกลงด้านหน้าของโทริส่วนซาซาเอะทรึริโกมิอาชิ จังหวะทุ่มจะหมุนเป็นวงกลมโดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่ข้อเท้าขวาที่ถูกปัดจากนั้นทิศทางก็จะลอยมาลงด้านหลังของโทริ

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2556 22:06:10 น.		0 comments
Counter : 2372 Pageviews.
Share Tweet