งานราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง [Part II พลุวันพ่อ]
ภาพถ่ายชุดนี้ เป็นการถ่ายภาพพลุ จากงานราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ เวลา ๑๙.๒๙ น. มีการจัดพลุจำนวน 9 ชุดให้ชมกัน การถ่ายภาพพลุปกติก็ไม่ได้ถ่ายเป็นเรื่องเป็นราวมากนัก เพราะแต่ละครั้งไม่เคยได้ทำเลการถ่ายภาพพลุดีๆ สักครั้ง ปีก่อนก็ตามไปถ่ายภาพที่ กทม. มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็อย่างว่าไปแบบคนต่างถิ่น ไปก็ช้า ไม่รู้จะตั้งขาตั้งกล้องตรงไหน ไปถึงสถานที่ ผู้คนก็มากางขาตั้งกล้องจองที่กันหมดแล้ว เลยต้องหาที่ตรงไหนที่มีที่ว่างๆ ก็รีบกางขาตั้งกล้องไปเลย แล้วก็ไม่ได้มุมมองอะไรเลย ได้แต่ถ่ายภาพพลุบนท้องฟ้าเพียงอย่างเดียว
การเลือกตำแหน่งถ่ายภาพพลุ
ครั้งนี้ตั้งใจจะหาทำเลที่ตัวเองมองว่าน่าจะเหมาะกับการหัดถ่ายภาพพลุ เพื่อให้ได้มุมมอง โดยมีหอคำหลวงเป็นฉากหน้าสวยๆ จุดที่เลือกก็พยายามไม่ให้มีใครที่ตามมาทีหลังมากางขาตั้งกล้องบังหน้าได้อีก เพราะเป็นตำแหน่งของสวนดอกไม้ สวนตกแต่ง (ถ้าเข้าไปได้ก็ต้องเหยียบกันน่าดู แต่เอาเข้าจริงก็มีหลายๆ ท่านมาวางกางขาตั้งกล้องบังมุมด้านหน้าได้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ว่ากันล่ะ) ดังนั้นตำแหน่งนี้ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่มือโปรฯ เค้าอยู่กัน เพียงแต่ด้านหน้าสุดในด้านข้าง ที่ตัวเองก็เลือกไว้แล้วเหมือนกัน เพราะมีสระน้ำอยู่ด้านหน้าฉากหอคำหลวง ถ้าถ่ายภาพพลุได้สวยๆ ก็จะเห็นภาพพลุและหอคำหลวงสะท้อนอยู่ในน้ำด้วย มุมนี้ถือว่าเป็นมุมที่อยากถ่ายมากที่สุด
นำภาพหอคำหลวงยามค่ำคืนที่นำเสนอให้ชมกันในชุดที่ 1 มาเปรียบเทียบให้ชมกัน ว่าถ้าถ่ายภาพมุมนี้และมีพลุสะท้อนอยู่ในน้ำด้วย ก็น่าจะได้ภาพสวยมากๆ จริงๆ
แต่เนื่องจากเลนส์ที่ตัวเองมีอยู่ เล็งแล้วเล็งอีกก็ไม่น่าจะเก็บภาพพลุแบบที่ตั้งใจได้แน่ๆ เลยยอมเสียพื้นที่ตรงนี้ไป ปล่อยให้มือโปรฯ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบชุดได้อยู่ในตำแหน่งนั้นไป
อุปกรณ์การถ่ายภาพ สำหรับอุปกรณ์ถ่ายภาพครั้งนี้ใช้ canon 40D+เลนส์ 17-50 มม.+ขาตั้งกล้องและสายลั่นชัตเตอร์
การปรับตั้งถ่ายภาพพลุ ตั้ง Mode Bulb , ISO 100, F 16 , White Balance เป็น Daylight , ปรับใช้ Manual Focus แล้ว Focus ไว้ที่ Infinity เรียกว่าอ่านจากหลายๆ ตำรา แล้วก็นำมาใช้กันแบบครบสูตร แต่ที่จริงก็ห่วงเรื่อง F16 กับ F11 อยู่เหมือนกัน เพราะลองถ่ายภาพมาแต่ละครั้งก็ใช้แค่ F11 มาโดยตลอด แต่จากที่อ่านการถ่ายภาพพลุมาก็จะมีข้อแนะนำการใช้ F ที่ต่างกัน (F11 จะให้ภาพพลุที่สว่างสดใสกว่า และเหมาะกับตำแหน่งที่ถ่ายภาพไกล ส่วน F16 จะให้ภาพพลุเป็นเส้นเล็กๆ คมๆ แต่อาจจะไม่สดใสมากนัก เหมาะกับการถ่ายภาพในตำแหน่งใกล้ๆ เพราะหากอยู่ใกล้ๆ และใช้ F 11 อาจทำให้ภาพพลุที่ซ้อนๆ กันหลายชุดจะดู over ไป และที่จริงยังเกี่ยวข้องกับสีของพลุอีกด้วย ไว้ตอนท้ายค่อยเล่าให้ฟังอีกทีก็แล้วกัน) ตำแหน่งการถ่ายภาพพลุครั้งนี้ถือว่าใกล้มากเช่นกัน ก็เลยเลือกใช้ F 16 เป็นหลัก น้าๆ ช่างภาพมือโปรฯ ก็แนะนำว่าถ่ายไป 2-3 shot แล้วจะรู้เองล่ะว่าจะปรับไป F 11 หรือเปล่า (แต่เอาเข้าจริงถ่ายกันเพลิน ไม่ได้ปรับมาใช้ F 11 เลย คงใช้ F 16 ตลอดจนจบการถ่ายภาพพลุ) มาชมกันเลยดีกว่านะ
การจุดพลุในครั้งนี้ ทางผู้จัดได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบกันหลายวันแล้ว ว่าจะจุดพลุรอบสวนแบบยิ่งใหญ่อลังการ มีจำนวน 9 ชุด และแต่ละชุดมีจำนวนพลุ 999 ลูก ดูยิ่งใหญ่มากๆ และเป็นที่ต้องมาถ่ายภาพพลุในครั้งนี้ให้ได้ และจากตำแหน่งที่รอถ่ายภาพพลุ ก็หวังว่าจะถ่ายมุมนี้มุมเดียว อยากได้ภาพพลุที่ขึ้นหลังหอคำหลวงแบบที่เป็นฉากหลังคล้ายภาพนี้
ชอบภาพนี้ ถึงแม้พลุอีก 1 ดอก ยังไม่แตกกระจาย แต่ก็รีบปล่อยชัตเตอร์มาก่อนเลย
อย่างที่บอกตอนต้นไปแล้วว่า เล็งมุมถ่ายภาพไว้มุมนี้เป็นหลักเลย เพราะต้องการให้ได้ภาพหอคำหลวง และมีฉากพลุขึ้นที่หลังหอคำหลวงสวยๆ
แต่เอาเข้าจริง ผู้ออกแบบการจุดพลุ คงจะออกแบบให้มีการยิงพลุแบบรอบสวนราชพฤกษ์ โดยเรียงความต่ำ ความสูง จากมุมภาพถ่ายทางด้านขวามือมาทางด้านซ้ายมือ เพราะมุมทางซ้ายมือจะมีแต่พลุดอกที่ยิงสูงทั้งนั้นเลย ส่วนมุมภาพถ่ายทางด้านขวามือที่เล็งไว้มีแต่พลุดอกเล็กๆ ทั้งนั้นเลย ทำให้ต้องหันปรับมุมถ่ายภาพใหม่ หอคำหลวงจึงต้องไปวางไว้สุดขอบภาพทางด้านขวามือนี้
แล้วมุมภาพถ่ายทางด้านซ้ายมือนี้ ไม่ได้ตั้งใจถ่ายภาพไว้เลย เพราะมีต้นไม้ขวางอยู่ทางด้านนี้ด้วย
ส่วนความสูงของพลุที่จุดทางด้านซ้ายมือนี้ ทำให้ภาพในแนวนอนนี้เกินที่จะเลนส์จับภาพได้หมด แต่ก็ยังอยู่ในวิสัยที่จะได้ภาพถ่ายพลุที่มีหอคำหลวงอยู่ฉากหน้าได้อยู่
พลุที่จุดในงานครั้งนี้ มีควันจากพลุเยอะมากๆ ทำให้ช่วงถ่ายภาพดูแล้วอึดอัดเหมือนกัน เพราะไม่รู้จะได้ภาพบ้างหรือเปล่า แล้วการจุดพลุแต่ละชุด ก็แทบจะไม่หยุดพักให้หายใจ ให้ควันจางหายไปบ้างเลย จุดมาติดๆ กันในแต่ละชุดเลย
มาต่อกันกับภาพพลุที่เป็นภาพแนวตั้งดูบ้าง
มาเล่าต่อเรื่องการปรับตั้งค่าหน้ากล้องระหว่าง F 11 กับ F 16 ภาพชุดนี้ใช้ F 16 ตลอด และอย่างที่บอกว่าจะทำให้ภาพพลุเป็นเส้นคมๆ แต่ความสว่างของพลุจะลดหายลงไปด้วย กับเรื่องควันของพลุ การปรับตั้งหน้ากล้อง F 11 กับ F 16 ก็จะเป็นผลที่ต่างกันชัดเจนด้วย ภาพของเพื่อนที่ถ่ายภาพและใช้ F 11 จะทำให้เห็นกลุ่มควันเป็นก้อนสีสว่างๆ ทำให้บดบังพลุไปมากเหมือนกัน
ลักษณะของพลุเอง ซึ่งอาจจะคาดคะเนลำบากว่าพลุแต่ละดอกจะออกมาเป็นแบบไหน แต่เปรียบเทียบลักษณะของพลุภาพบนนี้กับภาพข้างล่างนี้ ภาพบน ถ้าใข้ F 11 น่าจะได้ภาพพลุสีสันสดใสมากกว่านี้ ส่วนภาพล่าง ถ้าใช้ F 16 ภาพอาจจะออกไปแนว Over ได้เลย
มีเรื่องของสีที่ตั้งใจจะเขียนเล่าให้อ่าน ข้อมูลจาก web อื่นๆ ที่แนะนำการถ่ายภาพพลุไว้ (ตรงนี้ก็ขอมาเขียนไว้เป็นข้อมูลของตัวเองด้วย เพื่อวันหน้าจะไปถ่ายภาพพลุอีกครั้งจะได้เตรียมตัวถูก สีของพลุ เขียว แดง ฟ้า ถ้าพลุอยู่ในกลุ่มนี้ก็ใช้ F 11 แต่ถ้าเป็นพลุสีขาวๆ ก็ควรให้ใช้หน้ากล้องที่แคบกว่า เช่น F 16 เป็นต้น แต่คราวนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าพลุจะจุดเป็นสีไหน ตรงนี้ต้องรู้ชื่อชุดของพลุที่จุดว่าสื่อความหมายไปด้านไหนด้วย และอีกจุดหนี่งที่มีเขียนแนะนำกันก็คือ ให้ดูสีของเส้นพลุตอนที่เริ่มพุ่งขึ้นไป ถ้าเป็นสีขาวๆ พลุจะมีเส้นสีสว่างๆ มากกว่าพลุที่เป็นสีๆ) ถึงตรงนี้ก็เขียนเล่ามาให้อ่านกันเล่นและพอเป็นข้อมูลที่จขบ.จะขอเก็บไว้เพื่อเป็นข้อมูลการถ่ายภาพพลุในครั้งต่อๆ ไปด้วย
ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายพลุชุดนี้ด้วย
Create Date : 06 ธันวาคม 2551 |
|
17 comments |
Last Update : 28 ตุลาคม 2552 9:54:33 น. |
Counter : 1566 Pageviews. |
|
|
|
งามมากๆๆๆๆเลยค่ะ