ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always be loved.
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
3 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
รามเกียรติ์ (๒)

หนุมานถวายแหวน

ฝ่ายนางสีดานั้นถูกทศกรรฐ์จับขังไว้ในสวนนี้นานแล้ว และยังถูกนางกำนัลของทศกรรฐ์ด่าทอด้วยคำหยาบ จนเจ็บช้ำใจมาก พระรามก็ยังไม่มาช่วย จึงคิดผูกคอตาย หนุมานได้ช่วยไว้ทัน และกราบทูลให้ทราบถึงข่าวของพระราม แล้วถวายแหวนกับสไบแก่นาง นางสีดาไม่เชื่อ ด้วยแหวนและสไบนี้ตกอยู่กลางป่า ใครจะเก็บมาก็ได้ หนุมานจึงทูลความสัมพันธ์ระหว่างพระรามและสีดาที่เมืองมิถิลา นางสีดาจึงเชื่อ หนุมานจึงทูลนางสีดาว่า จะพากลับไปหาพระราม นางสีดาไม่ยอม ด้วยเห็นว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นยักษ์ลักมาลิงพาไปเป็นความอัปยศ จึงให้หนุมานไปทูลให้พระรามกรีฑาทัพมาฆ่าทศกรรฐ์ จะเหมาะสมกว่า
หนุมานเผาลงกา
หนุมานเมื่อทูลลานางสีดาแล้ว คิดว่าเมื่อเข้ามาเหยียบกรุงลงกาแล้ว ก็ควรจะได้ลองฤทธิ์กับเหล่ายักษ์ดูบ้าง จึงแผลงฤทธิ์ หักต้นไม้ในสวน สหัสกุมารเข้าต่อสู้ ถูกหนุมานฆ่าตาย ทศกรรฐ์รู้ข่าว จึงให้อินทชิตไปฆ่าหนุมาน อินทรชิตพบหนุมานต่อสู้กัน หนุมานแกล้งทำเป็นแพ้

อินทรชิตจึงให้ไพร่พลยักษ์เอาโซ่เหล็กมัดหนุมาน แล้วพาไปหาทศกรรฐ์ หนุมานได้สบัดโซ่ขาด เข้าต่อสู้กับไพร่พลยักษ์อีก แล้วแกล้งทำเป็นอ่อนแรง บอกทศกรรฐ์ว่าให้ฆ่าตนให้ตายจะได้ไม่ทรมาน

ทศกรรฐ์ไม่รู้วิธีฆ่าหนุมาน จึงบอกให้ใช้ไฟฆ่าตน ทศกรรฐ์จึงให้เอาเชื้อไฟมาพันรอบตัวของหนุมาน แล้วจุดไฟด้วยหอกแก้วสุรกานต์หนุมานจึงกระโจนไปในปราสาท ใช้ไฟที่ลุกติดร่างกายอยู่ เที่ยวจุดไฟเผาไปทั่ว ทศกรรฐ์จึงรู้ว่าตนเสียรู้หนุมาน และไฟที่เกิดจากหอกไม่อาจดับได้ จึงต้องพาไพร่พลไปอยู่ที่ภูเขาสัตนา ส่วนหนุมานไม่สามารถดับไฟที่หางของตนได้ จึงไปพบฤาษีนารทเพื่อให้ช่วยดับ ฤาษีให้เอาหางมาอมใช้น้ำลายดับ จึงสามารถดับไฟได้

ฝ่ายทศกรรฐ์ได้ให้เสนายักษ์ไปอัญเชิญพระอินทร์ และเหล่าเทวดา ลงมาสร้างเมืองให้ตนใหม่ ฝ่ายสามทหารของพระรามที่ไปสืบเรื่องนางสีดา ได้ยกทัพกลับยังภูเขาคันธมาทน์ แล้วหนุมานได้เล่าเรื่องให้พระรามฟัง พระรามโกรธที่หนุมานทำเกินเหตุ โดยไปเผากรุงลงกา จึงจะลงโทษประหารชีวิต ไพร่พลวานรได้ขอว่า ควรจะยกเว้นโทษให้ครั้งหนึ่ง พระรามจึงยกโทษให้ ชมพูพานได้ทูลพระรามว่า ควรจะยกทัพไปยังเชิงเขาคันธกาลา ริมฝั่งมหาสมุทร ตรงข้ามเกาะลงกา พระรามเห็นด้วย ส่วนทศกรรฐ์ หลังจากที่สร้างเมืองใหม่แล้ว ก็คิดถึงแต่นางสีดา วันหนึ่งได้ฝันไปว่า มีพระยาแร้งขาวบินมาจากทิศตะวันออกถึงหน้าพระลาน แร้งสีดำบินจากทิศตะวันตก เกิดตีกัน แร้งดำตายกลายเป็นยักษ์

มีหญิงหนึ่งวิ่งมาจุดไฟ จนน้ำมันแห้งไส้มอด แต่ไฟกลับลุกไหม้กะลาลามมายังมือ มีพิษร้อนไปทั่วร่างกาย จึงขอให้พิเภกทำนายฝัน พิเภกทำนายว่า กะลาได้แก่กรุงลงกา เชื้อไส้ได้แก่ทศกรรฐ์ น้ำมันคือพระญาติพระวงศ์ เพลิงได้แก่นางสีดา หญิงที่จุดไฟคือนางสำมนักขา แร้งขาวคือพระราม แร้งดำคือทศกรรฐ์ และทศกรรฐ์จะได้รบกับพระราม กรุงลงกาจะเดือดร้อนไปทั่ว ทศกรรฐ์ได้ฟังก็กลัวว่าจะตายก่อนที่จะได้นางสีดาเป็นเมีย จึงให้พิเภกช่วยสะเดาะเคราะห์ให้ พิเภกจึงให้ทศกรรฐ์ตั้งมั่นอยู่ในศีลในสัตย์ และควรจะส่งนางสีดาคืนพระราม ทศกรรฐ์โกรธมาก จึงขับไล่พิเภกออกจากลงกา

พิเภกถวายตัว

พิเภกรู้ว่าดวงชะตาของตนจะต้องออกจากเมือง และพระนารายณ์จะเป็นผู้อุปถัมภ์ จึงเหาะไปหาพระราม พบกับสุครีพและได้พากันไปพบพระราม พระรามจึงรับพิเภกไว้ แล้วให้ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยเอาน้ำสรงศรพรหมาสตร์เป็นประธาน ต่อมาสุครีพกับพิเภกจึงตั้งสัตย์สาบานว่าจะเป็นเพื่อนกัน

ฝ่ายพระรามเมื่อคิดว่าต่อไปจะทำสงครามกับยักษ์ จึงให้สุครีพพาเหล่าวานรไปประลองฝีมือที่ริมฝั่งมหาสมุทร เกิดเสียงดังกัมปนาท ทศกรรฐ์จึงให้สุกรสารออกไปสืบขณะบินไปถูกก้อนหินที่ลิงทุ่มกันไปมาตกลงมา จึงแปลงร่างเป็นลิงวิ่งปะปนไป พิเภกรู้ว่ามียักษ์ปลอมเป็นลิงมาจึงทูลพระราม พระรามให้หนุมานจับยักษ์ปลอมมา หนุมานจึงแปลงกายใหญ่เท่าเขาจักรวาล เอามือครอบไพร่พลลิงไว้ แล้วให้เดินเรียงออกมา หนุมานจึงจับสุกรสารได้ สักหน้าผากปล่อยกลับไปลงกา

ทศกรรฐ์คิดว่าน่าจะเป็นเพราะพิเภกเป็นคนบอกความลับ ควรจะฆ่าให้ตาย เพื่อไม่ให้เป็นไส้ศึกในวันข้างหน้า จึงแปลงเป็นฤาษีไปที่หน้าพลับพลาของพระราม แล้วร่ายมนต์ผูกใจพิเภกไม่ให้พูดความจริง

ฤาษีได้ไปอวยชัยให้พรแก่พระราม และยุยงพระรามว่า นางสีดาคงเสียทีแก่ทศกรรฐ์แล้ว รวมทั้งว่าทำไมทัพจึงมีทั้งยักษ์และลิงอยู่ปะปนกัน และพิเภกเป็นพี่น้องกับทศกรรฐ์ อาจเอาใจออกห่างได้ และพิเภกถูกอำนาจสะกดของทศกรรฐ์ พูดไม่ได้ ทศกรรฐ์เห็นว่าหากพระรามรู้ว่าแปลงกายมาจะต้องตายแน่ จึงกลับลงกา

เบญจกายแปลง

เมื่อทศกรรฐ์กลับถึงลงกาแล้ว คิดวิธีตัดศึกสงครามไม่ให้ลุกลามต่อไป จึงเรียกนางเบญจกายลูกของพิเภกเข้าเฝ้า แล้วสั่งให้แปลงเป็นสีดาตายลอยน้ำมา เพื่อลวงพระราม เมื่อพระรามกับพระลักษณ์ไปสรงน้ำ เห็นนางเบญจกายแปลง นอนตายอยู่ริมแม่น้ำก็เสียใจมาก แต่หนุมานทูลว่า นางนี้คงไม่ใช่นางสีดา เพราะศพยังดูสดชื่นไม่มีกลิ่น และยังลอยทวนน้ำมา สมควรได้นำศพนางวางบนกองไฟ พระรามเห็นด้วย นางเบญจกายแปลง ไม่อาจทนความร้อนได้ จึงเหาะหนี หนุมานตามไปจับมาได้ นำไปให้สุครีพซักถาม

นางเบญจกายว่าที่แปลงมานี้เพราะอยากมาดูว่าพิเภกผู้เป็นพ่อตายหรือยัง สุครีพไม่เชื่อสั่งให้เฆี่ยนตี นางเบญจกายทนเจ็บปวดไม่ไหว จึงบอกความจริงว่า ทศกรรฐ์ได้ให้นางแปลงมาลวงพระราม พิเภกจึงทูลให้พระรามประหารชีวิตนางเสีย เพื่อคงไว้ซึ่งพระเกียรติยศของตน แต่พระรามเห็นแก่พิเภก ซึ่งเป็นผู้มีสัตย์ จึงให้นำนางเบญจกายส่งไปลงกา หนุมานได้พานางเบญจกายไปส่ง ระหว่างทางได้นางเบญจกายเป็นเมีย
พระรามจองถนน
ฝ่ายพระรามคิดจะปราบเหล่ายักษ์ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว ชามพูวราช ได้ทูลว่า การที่พระรามจะข้ามไปลงกาด้วยฤทธิ์อำนาจที่เหล่าทหารขันอาสานั้นย่อมทำได้ แต่จะทำให้เสียพระเกียรติยศ ควรจะให้ไพร่พลนำเอาหินไปทิ้งเพื่อสร้างถนนในมหาสมุทร พระรามจึงสั่งให้สุครีพพาไพร่พลไปเร่งสร้างถนน โดยให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน นิลพัทนั้นแค้นหนุมานมาแต่เดิมแล้ว ได้โอกาสล้างแค้นจึงแสดงฤทธิ์ เอาเท้าคีบเขาหิมวันต์ สองมือชูเขาคิรินทร เหาะมาแล้วบอกให้หนุมานคอยรับ นิลพัทจึงทิ้งภูเขาลงมาทั้งสองลูกหวังให้ถูกหนุมาน แต่หนุมานรับไว้ได้ จึงคิดแก้ลำบ้าง โดยไปหักยอดเขา และนำหินก้อนมหึมาผูกตามขน แล้วให้นิลพัทรับบ้าง นิลพัทเห็นจึงขอให้หนุมานโยนมาทีละก้อน หนุมานว่า ทีนิลพัทแกล้งทิ้งมาพร้อมกันหวังให้ตาย แล้วทิ้งหินทั้งหมดลง นิลพัทใช้มือและเท้ารับไว้ได้ หนุมานหาว่านิลพัทสบประมาทตน และได้ท้าวความถึงท้าวชมพูที่มีฤทธิ์มาก ตนยังจับมาได้ นับประสาอะไรกับนิลพัท

นิลพัทโกรธท้าหนุมานต่อสู้ดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าเหล่าลิงรบกับยักษ์ ให้พระลักษมณ์ไปดู แล้วจึงพาสุครีพ หนุมาน และนิลพัท เฝ้าพระราม พระรามโกรธ สุครีพจึงทูลแก่พระรามว่า ควรจะแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน โดยให้หนุมานอยู่กับพระราม ส่วนนิลพัทให้กลับไปช่วยท้าวชมพูดูแลเมืองขีดขิน ทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้ง ถ้าขาดราชการจะประหารเสีย ฝ่ายพระรามได้สั่งให้หนุมานจองถนนไปกรุงลงกาเสร็จภายในเจ็ดวัน หากไม่เสร็จจะประหารชีวิต

กำเนิดมัจฉานุ

ทศกรรฐ์รู้ข่าวการจองถนน คิดถึงภัยข้างหน้า จึงให้นางสุพรรณมัจฉาบุตรี นำเหล่าบริวารปลาขนหินไปทิ้งกลางทะเลลึกไม่ให้ถนนเสร็จได้ จนเป็นที่ผิดสังเกตของสุครีพว่า ทิ้งหินลงไปมาก แต่ยุบหายไปหมด ให้หนุมานลงไปดูก็พบนางสุพรรณมัจฉาและได้นางเป็นเมีย นางจึงช่วยขนหินกลับมาตามเดิม ถนนจึงเสร็จ ต่อมานางสุพรรณมัจฉาคลอดลูกเป็นมัจฉานุ

ฝ่ายไมยราพที่ครองเมืองบาดาล ฝันว่ามีเทวดา นำแก้วใสสว่างมาให้ โหรทำนายว่าจะได้บุตรบุญธรรมผู้มีฤทธิ์ ต่อมาเทวดาดลใจให้ออกไปประพาสป่าพบมัจฉานุ จึงได้พามัจฉานุไปเลี้ยงไว้ที่เมืองบาดาล เมื่อถนนเสร็จ พระราม พระลักษมณ์ ก็นำทัพไปลงกา ทศกรรฐ์รู้ว่าพระรามยกทัพมา จึงสั่งให้ภานุราช ไปเนรมิตชัยภูมิที่เหมาะแก่การตั้งทัพ หากพระรามยกมาตั้งที่นั่น ก็ให้พลิกแผ่นดินเสีย ฝ่ายพระราม เมื่อถึงลงกา ได้ให้ประคนธรรพ์ดูเลตั้งทัพ เห็นป่าเนรมิตก็ชอบ พระรามสงสัยจึงถามพิเภก พิเภกทูลว่าที่กรุงลงกาไม่มีป่าอย่างนี้ น่าจะเป็นอุบาย พระรามให้หนุมานไปดู หนุมานดูแล้วก็รู้ว่าเป็นกลของยักษ์ เพราะในป่ามีผลไม้สุกแต่ไม่มีนก น่าจะมีศัตรูอยู่ใต้พื้นดิน จึงแทรกแผ่นดินไปพบภานุราช เอามือแบกแผ่นดินไว้ ได้ต่ดสู้กัน ถูกหนุมานฆ่าตาย พระรามโกรธ ไล่ประคนธรรพ์ไปเนื่องจากเสียรู้ข้าศึก
องคตสื่อสาร
ฝ่ายพิเภกได้ทูลว่า เขามรกต มีชัยภูมิเหมาะแก่การตั้งทัพ ด้วยไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองลงกา และยังถูกต้องตามตำราพิชัยสงคราม แต่มียักษ์กุมภาสูรเฝ้าอยู่ พระรามให้หนุมานไปปราบ แล้วเคลื่อนทัพไปที่เขามรกต แล้วทรงปรึกษาพระยาวานรว่า ควรจะยกกำลังเข้ารบเหล่ายักษ์เลยหรือไม่ สุครีพและเหล่าวานรจึงทูกว่า น่าจะส่งทูตเข้าไปเจรจากับทศกรรฐ์ก่อน หากไม่ยอมส่งนาสีดามา จึงจะยกทัพเข้าโจมตี พระรามให้องคตผู้ซึ่งมีสติปัญญารอบคอบ และมีลิ้นการทูต ถือสาสน์ไปหาทศกรรฐ์ เมื่อไปถึงเมือง พลยักษ์ไม่ยอมเปิดประตูรับ องคตจึงร่ายเวทเนรมิตตนให้สูงใหญ่ เอามือปิดดวงอาทิตย์มืดครึ้มไปทั้งเมือง ทศกรรฐ์รู้ว่าเป็นลูกนางมณโฑกับพระยาพาลี แต่จะไม่ต้อนรับก็ไม่ได้ ขณะที่อยู่ต่อหน้าทศกรรฐ์ไม่ไหว้ แล้วม้วนหางให้สูงเท่ากับบัลลังก์ทศกรรฐ์ แล้วว่าพระรามให้ถือสาสน์มาให้ทศกรรฐ์คืนนางสีดา

ทศกรรฐ์จึงว่า พระรามฆ่าพ่อตายยังไปเป็นข้ารับใช้ องคตจึงกล่าววาจายอกย้อนเกี่ยวกับเรื่องในอดีต ทศกรรฐ์โกรธให้เหล่ายักษ์จับองคต แต่ถูกองคตฆ่าตาย แล้วจึงเหาะกลับมาหาพระราม

สุครีพหักฉัตร

ทศกรรฐ์แค้นใจมากที่องคตฆ่าเสนาตาย และยังกล่าวประจานตนไว้มาก จะติดตามฆ่าก็ทำไม่ได้ เพราะไพร่พลวานรมีมากมาย จึงให้ยกฉัตรขึ้นบังดวงอาทิตย์ ทำให้เมืองลงกามืดมิด จะได้ฆ่าพลวานรได้สะดวก ส่วนพระรามได้ยินเสียงไพร่พลวานรร้องกันอื้ออึง ทั้งยังมืดมิดก็แปลกใจ ถามพิเภกจึงรู้ว่า เป็นเพราะทศกรรฐ์ยกฉัตรขึ้นบังแสงอาทิตย์ ฝ่ายพระรามมองไม่เห็น แต่ฝ่ายทศกรรฐ์มองเห็น พระรามจึงให้สุครีพไปหักฉัตร พร้อมกับเอามงกุฎของทศกรรฐ์กลับมาถวายพระราม

ศึกไมยราพ

ฝ่ายทศกรฐ์อับอายและแค้นใจมาก คิดจะให้ไปลอบฆ่าพระรามและพระลักษมณ์เสีย จะได้ไม่ต้องยกทัพไปรบ เปาวนาสูร จึงทูลว่า ควรไปเชิญไมยราพซึ่งชำนาญในการล่องหนหายตัวและมีมนต์สะกด มาช่วยให้เข้าไปลอบฆ่าทศกรรฐ์ให้ได้ นนยวิกวายุเวก ไปเชิญไมยราพมาช่วย ไมยราพได้มาเฝ้าทศกรรฐ์ที่ลงกา แล้วรับปากกับทศกรรฐ์ว่าจะไปฆ่าพระรามและพระลักษมณ์ ให้ ไมยราพได้ตั้งพิธีหุงยาขึ้นที่เขาสุรกานต์ ได้ยาที่มีคุณลักษณะเป็นสัตว์ร้ายชนิดต่าง ๆ หากเอายาทาทั่งร่างกายก็จะหายตัวได้ ต่อมาไมยราพได้ฝัน เมื่อโหรทำนายว่า ไวยวิกผู้เป็นญาติจะได้ครองเมืองบาดาล ไมยราพจึงให้ขังไวยวิกและนางพิรากวนผู้เป็นแม่ไวยวิกไว้ เมื่อเสร็จศึกก็จะกลับมาฆ่า ส่วนพระรามก็ฝันเช่นเดียวกัน พิเภกทำนายว่าพระรามจะถูกไมยราพหลานทศกรรฐ์ ลักพาไปยังเมืองบาดาล แต่จะไม่ได้รับอันตราย หนุมานจึงขออาสาป้องกันด้วยการมายืนกลางกองทัพ แปลงกายให้ใหญ่เท่าเขาจักรวาล หยั่งลึกลงถึงพื้นมหาสมุทร ใช้หางพันไว้เป็นปราการล้อมกองทัพไว้ แล้วอมพลับพลาพระราม และพระลักษมณ์อยู่ที่อก ใช้ปากเป็นช่องประตู ลิ้นเป็นบานประตู บรรดาทหารเอกก็แบ่งหน้าที่กันรักษาพระราม
ไมยราพสะกดทัพ
ตกกลางคืนไมยราพได้ชำแรกดินขึ้นมา เห็นปราการสูงใหญ่จากใต้ดินจนถึงพรหมชั้นสิบหก กั้นพลับพลาของพระราม พระลักษมณ์อยู่ เข้าไปไม่ได้ จึงแปลงเป็นลิงปะปนอยู่กับยาม รู้ว่าพลลิงจะเลิกอยู่เวรยามเมื่อพ้นยามราตรี ไมยราพได้ฟังเหาะไปยอดเขาโสลาสแกว่งกล้องแก้วโกมินทร์ เกิดเป็นแสงคล้ายดาวประกายพฤกษ์ เหล่ายามคิดว่าเป็นดาวประกายพฤกษ์จริง ได้ร้องบอกกันว่าเคราะห์ของพระรามหมดสิ้นแล้ว และแยกย้ายไปนอนหลับ

ไมยราพได้เอายาสะกดใส่กล้องแก้วเป่าไปถูกเหล่าวานรจนหลับทั้งกองทัพ แล้วเดินเข้าปากหนุมานเป่ายาอีกเป็นครั้งที่สอง ทำให้สุครีพกับหนุมานหลับ ไมยราพเข้าไปถึงพลับพลาได้เป่ายาอีก ทำให้พิเภก พระราม พระลักษมณ์หลับ จึงอุ้มพระรามไปบาดาล สั่งให้พลยักษ์ต้มน้ำทิ้งไว้ รุ่งเช้าจะต้มไวยวิก นางพิรากวน และพระราม ในคราวเดียวกัน

หลังจากที่ไมยราพลักพาพระรามไปแล้ว มนต์สะกดก็เสื่อม พิเภกบอกพระลักษมณ์ว่าเป็นการกระทำของไมยราพ พระลักษมณ์สั่งให้นุมานไปตาม หนุมานหักด่านชั้นนอกเข้าไปได้ จนพบกับมัจฉานุซึ่งรักษาด่านชั้นใน ได้เกิดต่อสู้กัน ต่อมาหนุมานรู้ว่ามัจฉานุคือลูก แต่มัจฉานุไม่เชื่อบอกว่าต้องหาวเป็นดาวเป็นเดือนให้ดู หนุมานหาวให้ดู มัจฉานุจึงขอขมาหนุมาน แต่ไม่ต้องการอกตัญญูต่อไมยราพ จึงเพียงบอกใบ้ทางให้ หนุมานหักก้านบัวแล้วลอดลงไป พบนางพิรากวน นางบอกที่ซ่อนของพระราม แต่ว่าถึงจะมีร่างกายเล็กเท่าแมลงก็ยากจะรอดสายตาเหล่ายักษ์ หนุมานแปลงเป็นใยบัวติดสายสไบนางพิรากวน

จนมาถึงดงตาลท้ายเมืองที่คุมขังพระราม จึงอุ้มพระรามไปยังเขาสุรกานต์ แล้วกลับมาบาดาล ได้ต่อสู้กับไมยราพ แต่ไม่อาจฆ่าไมยราพได้ นางพิรากวนจึงบอกว่า ที่ไมยราพไม่ตายนั้นเพราะได้ถอดดวงใจเป็นแมลงภู่ซ่อนไว้ที่ยอดเขาตรีกูฏ หนุมานจึงแปลงกายใหญ่เท่าเขาพระสุเมร แล้วเอื้อมมือไปจับแมลงภู่บีบขยี้จนไมยราพตาย จากนั้นกลับมาอุ้มพระรามพากลับไปยังพลับพลาเขามรกต เมื่อสร่างมนต์สะกดได้รู้เรื่องราว จึงมอบธำมรงค์นพรัตน์ให้หนุมาน

กุมภกรรณออกศึก

ฝ่ายกุมภกรรณ น้องชายทศกรรฐ์ ซึ่งเป็นผู้มีทศพิธราชธรรม เมื่อทศกรรฐ์เรียกมาปรึกษาว่าจะให้กุมภกรรณไปรบกับพระราม เพราะมีหอกโมกขศักดิ์ กุมภกรรณทูลว่า ต้นเหตุแห่งสงครามนั้นเกิดจากนำนางสีดามา หากคืนไป สงครามก็จะสงบ ทศกรรฐ์โกรธ กุมภกรรณจึงจำใจต้องยกทัพไปรบกับพระราม พระรามให้พิเภกไปเจรจาให้กุมภกรรณยกทัพกลับไป กุมภกรรณไม่เชื่อว่าพระรามเป็นพระนารายณ์อวตาร พิเภกจึงกลับมาทูลพระราม พระรามให้องคตไปเจรจากับกุมภกรรณอีก แต่ไม่ได้ผล

พระรามจึงให้สุครีพออกไปรบ กุมภกรรณจึงออกอุบายให้สุครีพไปถอนต้นรังใหญ่ที่อุดรทวีป จนหมดแรง เมื่อสุครีพถอนต้นรังมา ก็ได้กลับมารบกับกุมภกรรณต่อ จึงเสียทีถูกกุมภกรรณจับได้พากลับไปลงกา พระรามรู้ข่าวจึงให้หนุมานไปช่วย กุมภกรรณแพ้หนีกลับเข้าเมือง การที่สุครีพเสียรู้จนเสียทีแก่กุมภกรรณ ทำให้พระรามโกรธมาก แต่ด้วยมีความดีความชอบมาก่อน จึงยกโทษให้พร้อมทั้งชมเชยหนุมาน

ฝ่ายทศกรรฐ์รู้ว่ากุมภกรรณแพ้ จึงปลอบโยนให้หาวิธีใหม่ กุมภกรรณได้ขึ้นไปเอาหอกโมขศักดิ์ที่ชั้นพรหม กลับมาทำพิธีลับหอกที่ริมแม่น้ำสีทันดร เชิงเขาพระสุเมรุ และให้เหล่าเสนายักษ์คอยเฝ้า ไม่ให้สิ่งเน่าเหม็นเข้ามาใกล้บริเวณโรงพิธี เพราะกุมภกรรณเกลียดความสกปรก หากเมื่อใด ลับหอกคมทั้งสี่ด้าน ก็จะเป็นหอกที่มีฤทธิ์มากดังไฟกรด พระรามเมื่อรู้ข่าว ก็ให้หนุมานแปลงเป็นหมาเน่าลอยน้ำ องคตแปลงเป็นกา ไปทำลายพิธี กุมภกรรณลับหอกอยู่เห็นเข้าจึงเลิกลับหอก กลับเข้ากรุงลงกาไป ทศกรรฐ์จึงว่า แม่น้ำสีทันดรนั้นอยู่ไกลจากเหล่ามนุษย์ และเป็นที่อยู่ของพญานาค แต่มีหมาเน่าลอยน้ำมา น่าจะเป็นแผนของพิเภกที่บอกพระรามให้มาล้างพิธี อย่างไรก็ตามหอกโมกขศักดิ์นั้นมีฤทธิ์มากอยู่แล้ว จึงให้กุมภกรรณออกไปรบอีกครั้ง ส่วนพระรามให้พระลักษมณ์ออกไปรบกับกุมภกรรณต้องหอกโมกขศักดิ์สลบไป สุครีพจึงให้นิลนนท์ไปเชิญพระรามมาดู พระรามเสียใจมาก

พิเภกทูลว่าพระลักษมณ์ยังไม่ตาย แต่ที่ดึงหอก โมกขศักดิ์ไม่หลุดก็เพราะเป็นพรของพระพรหม ซึ่งมียาแก้ โดยต้องเอาต้นยาสังกรณี ตรีชวา ที่เขาสรรพยา กับน้ำที่ปัญจมหานที มาทาที่แผล หอกก็จะหลุด และต้องไม่ให้พ้นคืนนี้ หากดวงอาทิตย์ขึ้นก็จะตาย พระรามสั่งให้หนุมานไปหยุดรถพระอาทิตย์ไว้ แล้วรีบไปเก็บยา

ฝ่ายพระอาทิตย์เมื่อเห็นหนุมานมาหยุดรถก็โกรธ แต่เมื่อรู้เรื่องราวแล้วจึงบอกว่า จะห้ามวิถีจักรราศีนั้นไม่ได้ เพียงจะหลบเดินรถเข้ากลีบเมฆให้ ส่วนหนุมานนั้นจะต้องรีบไปเอายา และน้ำที่ปัญจมหานทีที่กรุงศรีอยุธยา เมื่อนำยาไปทาที่แผล หอกจึงหลุดออก ส่วนเสนายักษ์ที่คอยเฝ้าดูอยู่ เห็นพระลักษมณ์ฟื้นขึ้น จึงไปทูลทศกรรฐ์ กุมภกรรณจึงว่า หากใครโดนหอกโมกขศักดิ์ยากที่จะรอดชีวิต แต่พิเภกคงแก้กลให้พระลักษมณ์ ควรหาวิธีทำลายทัพพระรามให้อดน้ำตาย แล้วได้ไปตั้งพิธีทดน้ำไม่ให้ไหลไปที่เขามรกต โดยเนรมิตกายใหญ่นอนทอดขวางแม่น้ำไว้ ฝ่ายเหล่าเสนาลิงเห็นน้ำในแม่น้ำแห้ง ไปทูลพระราม พิเภกบอกว่าเป็นเพราะกุมภกรรณไปตั้งพิธีทดน้ำ ครบเจ็ดวันไพร่พลลิงจะได้อดน้ำตายหมด พระรามให้หนุมานไปทำลายพิธีตามคำแนะนำของพิเภกได้สำเร็จ ต่อมาทศกรรฐ์ได้ให้กุมภกรรณยกทัพมารบอีก แล้วให้ฆ่าพิเภกเสียในคราวเดียวกัน พระรามออกไปรบกับกุมภกรรณ กุมภกรรณต้องศรพรหมมาสตร์ตาย
อินทรชิตออกศึก
ทศกรรฐ์เมื่อรู้ว่ากุมภกรรณตาย เสียใจ และโกรธแค้นมาก สั่งให้อินทรชิตไปแก้แค้นแทนอา พระรามให้พระลักษมณ์ไปรบ ไม่แพ้ไม่ชนะ อินทชิต บอกว่าให้พระลักษมณ์มารบกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น ฝ่ายอินทชิตเมื่อกลับเข้าลงกาแล้ว คิดว่าศัตรูมีกำลังกล้าแข็งมาก ทูลทศกรรฐ์ว่าจะไปทำพิธีชุบศรนาคบาศที่เขาอากาศ โดยให้ฝูงนาคมาคายพิษลงบนศร เป็นเวลาเจ็ดวัน จึงจะเสร็จพิธี ระหว่างที่อินทชิตไปทำพิธีชุบศร ทศกรรฐ์ให้มังกรกัณฐ์โอรสพระยาขรผู้เป็นหลาน ไปรบขัดตาทัพไว้ก่อน พระรามได้ออกไปรบ ถูกมังกรกัณฐ์ยิงศรทะลุเกราะเพชร พระรามจึงแผลงศรไปถูกศรของมักกรกัณฐ์หัก และถูกเหล่ายักษ์ตายลงเป็นจำนวนมาก

มังกรกัณฐ์จึงหนีไปซ่อนในกลีบเมฆ และเนรมิตรูปมายาปั้นรูปของตนขึ้นมากมาย พร้อมกับบันดาลให้ฝนเพลิงตกลงมา พิเภกบอกวิธีสังหารมังกรกัณฐ์ พระรามได้แผลงศรพรหมมาสตร์ไปสังหารตัวจริงตาย รูปมายาก็หายไปหมด

สารัณทูต จึงกลับไปบอกทศกรรณ์ ทศกรรฐ์ได้ให้วิรุญมุข ลูกวิรุญจำบัง ยกทัพไปขัดตาทัพอีก ต่อมาพระรามรู้ว่าอินทรชิตไม่ยกทัพมา เพราะไป ตั้งพิธีชุบศรนาคบาศในโพรงไม้โรทันที่เขาอากาศ ก็ให้ชามพูวราช แปลงเป็นหมีไปกัดไม้ที่อาศัยทำพิธีให้หักโค่นลง การเรียกพิษนาคจึงไม่ต่อเนื่อง อำนาจจึงเสื่อม

ฝ่ายอินทรชิตเมื่อเสียพิธีแล้ว จึงไปยังเขามรกต ไปสมทบกับทัพวิรุญมุข พระรามได้ให้พระลักษมณ์ออกไปรบอีก แต่ถูกศรนาคบาศของอินทรชิต พิเภกกลับมาบอกพระรามว่า พระลักษมณ์ต้องศรนาคบาศแต่ยังไม่ตาย ให้พระรามแผลงศรพลายวาตไปเรียกพระยาครุฑมา เหล่าพญานาคก็จะหนีไป พระลักษมณ์และไพร่พลลิงก็จะฟื้น

หนุมานหักคอช้างเอราวัณ

เหล่ายักษ์เห็นพระลักษมณ์และไพร่พลลิงฟื้นขึ้น กลับมาทูลทศกรรฐ์ อินทรชิตจึงบอกว่า ที่ศรนาคบาศใช้ไม่ได้ผล ก็เพราะพิเภกบอกแก้กล คราวนี้จะไปชุบศรพรหมมาสตร์ที่ริมหาดมณีมรกต ได้ลาทศกรรฐ์ไปทำพิธีชุบศร โดยให้กำปั่นไปขัดตาทัพ ถูกหนุมานฆ่าตาย เมื่ออินทรชิตกลับมารบใหม่ ได้แปลงตัวเป็นพระอินทร์ เหล่ายักษ์แปลงเป็นเทวดา การุณราชแปลงเป็นช้างเอราวัณ เดินทัพมา

ฝ่ายพระลักษมณ์และเหล่าไพร่พลลิง เห็นพระอินทร์ขี่ช้างเอราวัณและเหล่าเทวดาเหาะอยู่บนอากาศ ก็พากันดูอย่างสงสัย อินทรชิตเห็นพระลักษมณ์และไพร่พลเผลอ ได้แผลงศรพรหมมาสตร์ลงมา ถูกพระลักษมณ์ องคต สุครีพ สิบแปดมงกุฎล้มลง เหลือเพียงหนุมาน หนุมานโกรธได้เหาะขึ้นไปหักคอช้างเอราวัณ แต่ถูกตีด้วยศรตกลงมาสลบ ฝ่ายพระรามเห็นค่ำแล้ว พระลักษมณ์และไพร่พลยังไม่กลับมา ออกไปตาม เห็นทุกคนตายกันหมด เสียใจมากจนสลบไป สารัณทุตที่คอยสังเกตการณ์ ได้กลับไปทูลทศกรรฐ์ ทศกรรฐ์ไปบอกนางสีดาว่า พระรามตายแล้ว นางสีดาเสียใจมาก แต่นางตรีชฎาเมียพิเภกที่เป็นข้ารับใช้อยู่บอกว่าอย่างเพิ่งเชื่อ ทศกรรฐ์จึงให้เสนาจัดบุษบกแก้วพานางสีดาไปดูศพ เมื่อมาถึงนางสีดาจึงเสี่ยงทายด้วยการขึ้นบุษบก บุษบกแก้วลอยขึ้น นางสีดาจึงรู้ว่าพระรามยังไม่ตาย จึงกลับไปสวนขวัญ ฝ่ายพิเภกกับพลลิงกลับจากไปหาผลไม้ไม่พบพระราม รู้ข่าวจากเสนาลิงจึงตามไปที่สนามรบ เห็นหนุมานรู้ว่าไม่ตาย ได้ร่ายเวทเป่าลมเข้าปากจนหนุมานฟื้น แล้วไปตามหาพระราม พิเภกทูลพระรามว่า ยาแก้ศรพรหมมาสตร์อยู่ที่เขาอาวุธบุพพวิเท่ห์ทวีป แต่มีจักรกรดพัดไม่หยุด ใครเข้าไปต้องตาย หากหนุมานไปเอา จักรจะหยุดตามที่พระอิศวรกำหนดไว้ หนุมานเหาะไปถึง และแจ้งเรื่องราวแก่เทวดา แต่เนื่องจากต้นยานั้น ตัดหรือถอนไม่ได้ตามคำสั่งของพระอิศวร หนุมานจึงช้อนเขาเหาะกลับมา เทวดาจึงบอกให้ไปวางไว้ทิศอุดร หนุมานทำตามคำสั่ง พอลมพัดพากลิ่นสรรพยาบนยอดเขามาถูกพระลักษมณ์และไพร่พลลิงทุกคนก็จะฟื้นขึ้น ฝ่ายอินทรชิตทูลทศกรรฐ์ว่า ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวง พระลักษมณ์ถูกฆ่าถึงสองครั้ง ก็ยังฟื้นขึ้นมาได้ แต่ยังมีตำราศักดิ์สิทธิ์ ชื่อกุมภนิยา ทำได้เจ็ดวันตัวจะเป็นกายสิทธิ์ ฆ่าไม่ตาย โดยทำเป็นกลลวงให้ สุขาจารแปลงเป็นนางสีดาไปด้วยในสนามรบ แล้วให้ตัดคอนางเสีย ต่อกจากนั้นก็ทำทีว่าจะไปตีศรีอยุธยา แต่กลับอ้อมไปทำพิธี เมื่อถึงสนามรบอินทรชิตบอกพระลักษมณ์ให้มารับนางสีดา หากไม่มารับจะฆ่านาง พระลักษมณ์บอกให้อินทรชิตนำนางไปถวายพระรามเอง อินทรชิตจึงฆ่านาง แล้วทำทีเหาะไปยังกรุงศรีอยุธยา

พระลักษมณ์คิดว่านางสีดาตายก็เสียใจ กลับไปบอกพระราม พิเภกจับยามดูแล้วทูลว่า นางที่ตายเป็นยักษ์แปลง และอินทรชิตจะไปทำพิธีกุมภนิยา หากครบเจ็ดวันจะฆ่าไม่ตาย ต้องล้างพิธีก่อน แล้วอินทรชิตจะตายด้วยพระลักษมณ์ พระรามให้พระลักษมณ์พร้อมพิเภกคุมกองทัพไปทำลายพิธีอินทรชิตที่เนินเขาจักรวาล เกิดการต่อสู้กัน อินทรชิตแพ้ ขว้างจักรเมฆสูร เกิดหมอกควันบังแสงอาทิตย์แล้วหนีกลับไปกรุงลงกา

รุ่งขึ้นอิทนรชิตได้ยกทัพออกมารบอีก ต้องศรพลายวาตของพระลักษมณ์ ก่อนที่พระลักษมณ์จะแผลงศรพรหมมาสตร์ฆ่าอินทรชิต

พิเภกทูลว่า อินทรชิตนั้นได้พรจากพระว่า หากสิ้นชีวิตเศียรตกลงดิน จะเกิดเป็นไฟบัลลัยกัลป์ไหม้ทั่วจักรวาล ต้องเอาพานแว่นฟ้าของพระพรหมมารับ พระลักษมณ์จึงให้องคตไปขอพาน แว่นฟ้าจากพระพรหม เมื่อได้พานแล้ว พระลักษมณ์แผลงศรพรหมมาสตร์ตัดเศียรอินทรชิตขาด องคตเอาพานเข้าไปรองรับ ส่วนพระรามให้เอาพานใส่เศียรอินทรชิตไปชูไว้กลางอากาศ แล้วแผลงศรพรหมมาสตร์ทำลายเศียรนั้น

ทศกรรฐ์โกรธมากที่พระลักษมณ์ฆ่าอินทรชิตตาย จะไปฆ่านางสีดาที่สวนขวัญ แต่เปาวนาสูรทัดทานไว้ รุ่งขึ้นทศกรรฐ์จึงยกทัพไปรบกับพระราม พระรามสั่งให้สุครีพจัดทัพให้เข้มแข็งกว่าทุกครั้ง ส่วนพระอินทร์ให้พระวิศณุกรรมนำเวชยันต์ราชรถพร้อมม้าเทพบุตรแปลงสองพันตัวมาถวาย ฝ่ายทศกรรฐ์เสียสิบขุนทหารเอกกับสิบรถ โอรสของทศกรรฐ์ ในการรบครั้งนี้ทศกรรฐ์จึงบอกให้มารบกันใหม่วันรุ่งขึ้น
ศึกมูลพลัมและสหัสเดชะ
ฝ่ายทศกรรฐ์คิดขึ้นได้ว่า ควรจะให้มูลพลัม น้องชายของสหัสเดชะเจ้าเมืองปางตาลมาช่วยรบ จึงให้เปาวนาสูรถือสาสน์ไป มูลพลัมและสหัสเดชะรู้เรื่อง มาช่วยรบ ขณะยกทัพออกจากเมื่องเกิดลางร้าย ฟ้าผ่าถูกรถทรงทศกรรฐ์ มูลพลัมจึงให้ทศกรรฐ์กลับเข้าเมืองก่อน ส่วนตนและพี่ชายจะไปรบกับพระรามแทน พิเภกทูลพระรามว่ามูลพลัมและสหัสเดชะมีฤทธิ์มาก หนุมานคงสู้ไม่ได้ ให้พระรามออกไปรบเอง เมื่อพระราม และพระลักษมณ์คุมทัพออกไปรบ แต่ด้วยสหัสเดชะได้รับพรพระพรหมว่า หากเข้าต่อสู้กับศัตรูใด ศัตรูนั้นก็จะต้องเกรงกลัว ทำให้ไพร่พลลิงหนีไป พระรามจึงให้พระลักษมณ์ สุครีพหนุมาน และสิบแปดมงกุฎ กลับไปตามไพร่พลลิงมา ส่วนสหัสเดชะเห็นแต่พระรามและพิเภก จึงคิดว่าศัตรูมีกำลังเท่านี้ ทำไมทศกรรฐ์จึงปราบ ไม่ได้ ต้องเดือดร้อนถึงตน แล้วมาลวงว่าเป็นศึกใหญ่ จึงกลับไปยังลงกา คงเหลือแต่มูลพลัม ต่อมามูลพลัมต้องศรพลายวาตของพระลักษมณ์ตาย พิเภกทูกพระรามว่า หากสหัสเดชะรู้ว่ามูลพลัมตาย คงยกทัพมาแก้แค้น และสหัสเดชะนั้นมีฤทธิ์ด้วยกระบองวิเศษ เอาโคนชี้ถูกใครจะตาย เอาปลายชี้จะกลับฟื้นขึ้น ควรให้หนุมานไปเอากระบองวิเศษมา หนุมานแปลงเป็นลิงเผือกตัวเล็ก ไปคอยทัพสหัสเดชะ เมื่อเห็นทัพสหัสเดชะ แล้วทำเป็นวิ่งผ่าน สหัสเดชะโกรธ แต่หนุมานบอกว่า ตนเป็นข้ารับใช้พระยาพาลีที่เมืองขีดขิน ซึ่งถูกพระรามฆ่าตาย แล้วเอาตนมาใช้สอยตรากตรำข่มเหงจึงหนีมา กลัวถูกตามฆ่า จึงวิ่งผ่านหน้ามา สหัสเดชะเชื่อ จึงให้มานั่งหน้ารถด้วย

หนุมานขอไปนั่งหลังรถ แล้วร้องให้บอกสหัสเดชะว่า ตนคิดถึงญาติพี่น้องที่จะต้องมาตาย สหัสเดชะจึงบอกไม่ให้ไพร่พลฆ่าญาติของหนุมานตามที่กล่าวมา จากนั้นหนุมานจึงขออาวุธไว้ต่อสู้ สหัสเดชะจึงมอบกระบองไห้ไว้ เมื่อได้อาวุธแล้วหนุมานได้กลายร่างเดิม สหัสเดชะรู้ว่าหลงกลก็โกรธ ประนามหนุมาน หนุมานจึงย้อนว่า " อันธรรมดาสงครามนั้นจะหาความสัตย์ได้ที่ไหน ใครมีอุบายเล่ห์กลก็จะนำมาใช้เพื่อให้ได้ชัยชนะ " เข้าต่อสู้กับหนุมาน แพ้ถูกหนุมานเอาหางมัดตัวไว้ ต่อมาหนุมานใช้ตรีเพชรตัดหัวขาดตาย

ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
https://abhinop.blogspot.com
https://abhinop.bloggang.com
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.




Create Date : 03 กันยายน 2554
Last Update : 31 มีนาคม 2564 14:57:05 น. 1 comments
Counter : 886 Pageviews.

 
ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
//abhinop.blogspot.com
//abhinop.bloggang.com
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.


โดย: ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก วันที่: 31 มีนาคม 2564 เวลา:14:45:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.
New Comments
Friends' blogs
[Add ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.