ครั้งนี้ยูริจะมารีวิวสกินแคร์กันอีกแล้วค่ะ หลังจากที่หายไปนานกับการรีวิวพวกมาร์คก่อนนอน
หน้าตาของผลิตภัณฑ์ดูเรียบๆง่ายๆสะอาดตาดีนะคะ
เอาละเรามารู้จักกันก่อนว่าความเป็นมาของ "ลา เฟลอเต้" นั้น
เริ่มมาจาก การเริ่มนำเอาอนุพันธ์ต่างๆที่ใช้บำรุงผิว มาทดลองผสมเพื่อทำ Sleeping Masque
ส่วนตัวขึ้นมาใช้ เนื่องจากได้ศึกษาเกี่ยวกับอนุพันธ์บำรุงผิวมาด้วยในระดับหนึ่ง
และ ได้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในวงการผลิตภัณฑ์ประเภทนี้
ทำให้ Sleeping Masque ตัวแรกได้กำเนิดขึ้นมา ในวันที่ 26 กันยายน 2555
ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช่แบรนด์ที่หน้าใหม่สักเท่าไรนะคะ เพราะเริ่มกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2555
แต่ที่ยูริคิดว่ายังใหม่อยู่เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนั้นเองค่ะ
โดยบอกตรงๆว่าตอนแรกยูริก็ไม่รู้จักแบรนด์นี้
จนกระทั่งทางแบรนด์ติดต่อมาว่าอยากส่งมาให้ลองแล้วก็บอกว่าของเราเจ๋งจริง
และเขาเชื่อมั่นว่า เขาเป็นมาร์คก่อนนอนที่ไม่เหมือนใคร ยูริเลยโอเค มาลองดูสิ ว่าจริงไหม
ก็ความรู้สึกแรกที่ยูริได้เห็นหน้าตาของผลิตภัณฑ์นั้น ต้องบอกตรงๆว่า ไม่ค่อยชอบตัวบรรจุภัณฑ์สักเท่าไร
เพราะมันก็ดูเหมือนมาร์คก่อนนอนทั่วๆไปไม่มีอะไรโดดเด่นค่ะ แต่โอเค มาดูที่ตัวเนื้อมาร์คและผลการใช้กันดีกว่านะจ๊ะ
ก่อนอื่น ต้องมาดูสรรพคุณและส่วนผสมของมาร์คตัวนี้กันก่อนนะคะ
เพราะยูริคิดว่าจุดเด่นของเราอยู่ตรงส่วนผสมที่เขาใส่ลงไปนี้ละคะ
สรรพคุณที่เขากล่าวไว้ : La Fleurte Revital Facial Masque เหมาะกับทุกสภาพผิว
เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ใช้แล้วปลอดภัย เพราะเนื้อครีมมีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว
ไม่ระคายเคือง ไม่มีอันตรายใดๆ ช่วยให้หน้าขาวกระจ่างใส ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิว ฝ้า กระ และ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

ส่วนประกอบสำคัญ
1.กลุ่มที่ให้ความชุ่มชื้น
Shea Butter : สารสกัดจากแอฟริกา ช่วยเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้น
Ginseng Extract : สารสกัดจากโสมเกาหลี ช่วยให้ผิวดูมีเลือดฝาด ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มชุ่มชื้น
Aloe Vera : สารสกัดจากว่านหางจระเข้จากอเมริกา ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งตึง
2.กลุ่มที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปัญหาสิว
Cucumber Extract : สารสกัดแตงกวาจากอเมริกา ช่วยกระชับรูขุมขน ลดการเกิดสิว ผิวชุ่มชื้น ลดรอยเหี่ยวย่นและ
Hydrolyzed Placenta Protein : โปรตีนเข้มข้นจากรกแกะประเทศออสเตรเลีย พื้นฟูสภาพผิว ให้ผิวกระชับเรียบเนียบ
Hydrogenated Lecithin : อนุพันธ์จากฝรั่งเศส ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เพิ่มความยืดหยุ่นลบเลือนริ้วรอย
Tocopheryl Acetate Vitamin E : ช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของผิว ชะลอความชราภาพของผิว ลดรอยเหี่ยวย่น
Intensyl : อนุพันธ์จากฝรั่งเศสสกัดจากโมเลกุลของน้ำตาล ช่วยให้ผิว กระชับได้ 5 นาที
Palmitoyl Tripeptide-5 : สารเปปไทน์จากฝรั่งเศส กระตุ้นการสาร Collagen ลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.กลุ่มที่ช่วยลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
Tranexamic Acid : อนุพันธ์จากญี่ปุ่น ควบคุมการสร้าง Melanin ลดกระ ฝ้า และจุดด่างดำ
4.กลุ่มเหมาะสำหรับผู้มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย
Allantoin : สารสกัดจากต้น Comfrey จากเยอรมัน ช่วยลดการระคายเคืองผิวและการแพ้ต่างๆ
Pro-Vitamin B5 : จากเยอรมันช่วยลดการอักเสบ รอยแดง อาการแพ้คัน และช่วยสมานแผล
5.กลุ่มที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
Apple Extract : สารสกัดแอปเปิ้ลจากสวิสเซอร์แลนด์ ช่วยลดการผลิตเม็ดสี และช่วยผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้น
B-White : จากแคนาดา ยับยั้งการผลิตเม็ดสี Malanin ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Lactic Acid : กรดน้ำนมธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เพื่อผิวกระจ่างใส สุขภาพดี
Pomegranate Extract : สารสกัดทับทิมจากฝรั่งเศส ลดการผลิตเม็ดสี เผยผิวใหม่ สว่างกระจ่างใส
Neurolight .61G : สารสกัดจาก Star Lily ประเทศฝรั่งเศส ยับยั้งการผลิตเม็ดสี เผยผิวใหม่กระจ่างใสขึ้น
Antioxidant : จากเปลือกสนสกอตแลนด์ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีมากกว่า Alpha Arbutin ถึง 10 เท่า

อ่านส่วนประกอบไปกันตาลายเลยใช่ไหมคะ 555 ยูริเองก็พิมพ์จนเมื่อยมือเลยค่ะ
ก็ไม่คิดว่าจะมีส่วนประกอบต่างๆมากมายขึ้นนี้และอย่างที่เห็นเป็นสารสกัดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งนั้นเลย
แม้ดูเริ่ดเนอะ เอาละ ไม่ว่าจะของนำเข้าหรือของไทย เราต้องมาดูกันที่ผลการใช้เป็นหลักนะคะ
ก็เนื้อผลิตภัณฑ์ก็มีความเข้มข้นดี แต่ก็ซึบซาบเข้าผิวได้ดีเช่นกัน ค่ะ
ยูริของติในส่วนที่เขาใส่น้ำหอมลงไปในครีมหน่อยนะคะ คือกลิ่นมันแรงไปนิดนึง
ใครที่แพ้น้ำหอมยูริก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้ไหม
แต่ที่ยูริใช้ก็ไม่แพ้อะไรนะคะ ก็ดูๆจากส่วนผสมแล้ว เขาก็มีสารสกัดที่ช่วยลดการแพ้ด้วย
ก็เลยคิดว่าผิวบอบบางใช้ได้ แต่ถ้าแพ้น้ำหอมแนะนำให้เทสก่อนดีกว่าเพื่อความชัวร์จ๊ะ
สรุปผลการใช้ : ยูริได้ทดลองใช้ติดต่อกันเกือบ 1เดือน ก็รู้สึกว่าผิวหน้าเรียบขึ้นเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
แต่ในเรื่องลดเลือนจุดด่างดำต่างๆส่วนตัวแล้วยูริยังไม่เห็นผลใดๆนะคะ
คงต้องใช้ระยะยาวใช้ติดต่อกันนานกว่านี้ก็เป็นไปได้ และในเรื่องความขาวกระจ่างใส
อันนี้เห็นผลตั้งแต่ สัปดาห์ที่ 2 แล้วค่ะ ว่าหน้าดูกระจ่างใสขึ้นนะคะ และเรื่องความชุ่มชื้น
นี้ก็โอเคค่ะ ใช้แล้วไม่มีอาการหน้าแห้งอะไร ค่ะ และก็ไม่มีอาการแพ้ใดๆ
และรู้สึกว่าช่วยลดการเกิดสิวได้ดีค่ะ ก็คือสิ่งที่เห็นผลมากสุดคือ เรื่องผิวเรียบเนียน
และ ยืดยุ่น ค่ะ แต่ที่ยังไม่เห็นผลก็คือเรื่องจุดด่างดำ นั่นเองค่ะ
ส่วนตัวแล้วยูริก็ว่าเป็นมาร์คก่อนนอนที่โดนเด่นในเรื่องส่วนผสมที่เขาให้มาเยอะ
และราคาผลิตภัณฑ์ไม่แพงค่ะ ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาดี
แต่ถ้าบอกกันตรงๆ ยูริว่าก็ยังไม่รู้สึกว่าผลการใช้ดูน่าทึ่งและไรมากนัก
ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีค่ะ ซึ่งมันก็ดีนะคะ เพราะดูอ่อนโยน ดี
เพราะถ้าเห็นผลแบบอะไรก็ดีขึ้นทุกๆอย่างในระยะเวลาที่เร็วไป ยูริก็คงจะเริ่มสงสัยและว่า มันอ่อนโยนจริงรึป่าว
แต่อันนี้ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าเขาไม่ได้ใส่สารเร่งหรือสารอันตรายใดๆค่ะ
ถามว่าเป็นมาร์คที่น่าลองไหม ก็ถือว่าน่าลองเลยนะคะ
เพราะด้วยส่วนประกอบของเขาที่ให้มาแบบคุณภาพมากๆแล้ว
ถ้าคุณอยากจะหามาร์คที่ใช้ไปในระยะยาวแล้ว ยูริว่าก็น่าจะเป็นมาร์คก่อนนอนตัวนี้ที่เหมาะนะคะ
สุดท้ายนี้ นี้ก็เป็นเพียงผลการใช้ส่วนตัวของยูริเท่านั้นนะคะ
ดังนั้นทุกคนอาจจะได้ผลรับที่ดีกว่ายูริหรือแตกต่างจากยูริก็ขึ้นอยู่แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละท่านด้วยค่ะ
ก็เอาเป็นว่า ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
La Fleurte Contact:
Phone: 0922752626 / LINE: LaFleurte
Instragram: LaFleurte /Twitter: @La_Fleurte
Mail: LaFleurte@gmail.com
อย่างไงครั้งนี้ยูริก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อๆไปค่า บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ