All Blog
|
Review : HIFU Body Lift นวัตกรรมหุ่นสวย แบบไม่เจ็บ พิสูจน์ได้ในครั้งเดียว
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้หลังจากที่ยูริได้ไปทดลองทำโปรแกรม นวัตกรรมลดและยกกระชับสัดส่วนHIFU Body Lift by Dr.VANDA แน่นอนว่าก็จะต้องมารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันตามสัญญาแน่นอนจ๊ะ เพราะถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก เพราะใช้ระยะเวลาเพียง 45 นาที ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกประมาณ 1-2ซม. เลยนะคะ เหมาะกับทุกคนที่มีปัญหาเรื่องรูปร่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ไม่มีเวลาดูแลเรื่องรูปร่าง ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่ต้องการพึ่งการศัลยกรรม ลองมาหลายวิธีแล้ว ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ น่าสนใจมากๆค่ะ ซึ่งคลีนิก Health Avenue Clinic by Dr. VANDA นั้น ก็ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย อยู่ที่ Intercontinental Hotel ทางเชื่อมห้าง Gaysorn แค่นี้เองค่ะ ซึ่งภายในคลีนิกก็ตกแต่งด้วยสีเขียว สวยและเรียบง่าย ให้ความรู้สึกสะอาดและสบายตาดีนะคะ เอาละคะ... เมื่อเราเข้ามาในคลีนิกแล้ว ก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปทำสวยเลยดีกว่าจ๊ะ ซึ่งเทคโนโลยี HIFU Body Lift นั้นจะเป็นการลดและยกกระชับสัดส่วนโดยไม่มีบาดแผล ปลอดภัยกับประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา เป็นที่ยอมรับจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากประเทศฝรั่งเศส ด้วยเทคโนโลยี High Intensity Focused Ultrasound ใช้รักษาคนไข้ในรายที่ไม่ต้องการศัลยกรรม โดยเครื่องนี้จะส่งผ่านพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่เต็มประสิทธิภาพลงสู่ผิวหนังได้สม่ำเสมอความถี่สูง ถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที จนร่างกายไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการรักษา สามารถปรับระดับความลึกของพลังงานตั้งแต่ 5 13 มิลลิเมตร เพิ่มการเผาผลาญไขมันใต้ผิวได้หลายระดับ ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิวทำให้ผิวเรียบเนียน กระชับขึ้น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง คลายการยึดเกาะตัว และลดการสะสมของเซลล์ไขมันตัวการที่ทำให้เกิดผิวเปลือกส้มได้อีกด้วยนะ เริ่ดมากๆเลยค่ะ สามารถทำได้ในทุกบริเวณ ทั้งเอว/ หน้าท้อง/ สะโพก/ ต้นแขน/ ต้นขา/ ท้องแขน ครั้งนี้ยูริก็จัดเต็ม ทำทั้งบริเวณ หน้าท้องและต้นขา เลยจ๊ะ โดยยูริใช้เวลาทำประมาณไม่เกิน 2 ชม. ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วจ๊ะ เรามาดูในส่วนของหน้าท้องกันก่อนดีกว่า ซึ่งหลังทำสัดส่วนของยูริลดไป 1ซม.เลยนะจ๊ะ จะสังเกตเห็นได้ว่า หน้าท้องที่ดูไม่กระชับก็กระชับขึ้นและขาวใสขึ้นด้วยค่ะ ในส่วนของต้นขา ซึ่งหลังทำสัดส่วนของยูริลดไป 0.5ซม. ถือว่าเยอะนะ เพราะเป็นจุดที่สัดส่วนลดยากมากๆ จะสังเกตเห็นได้ว่า เซลลูไลท์หรือเปลือกส้ม ดูน้อยลงทันทีเลยค่ะ และผิวก็ดูขาวใสขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ สรุปแล้ว ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัวมากค่ะ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องรูปร่าง การลดและยกกระชับสัดส่วนจำเป็นต้องพิสูจน์ผลลัพธ์ได้ และปลอดภัย ที่สำคัญ ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักพื้น สามารถยกกระชับสัดส่วน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยเห็นผลได้จริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ ถ้าเปรียบเทียบกับรูปแบบการรักษาแบบเดิม เช่น การดูดไขมัน หรือเวเซอร์ วิธีนี้อาจมีบาดแผลหลังการรักษา และต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ที่สำคัญคือ หลังการรักษา มีการทิ้งร่องรอย ทำให้ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน ทำให้นวัตกรรมลดและยกกระชับสัดส่วนHIFU Body Lift by Dr.VANDA เป็นนวัตกรรมลดและยกกระชับสัดส่วนของสาวยุดใหม่อย่างแท้จริง หากเพื่อนๆสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่... Tel : 026560966 Mobile : 0971219396 Line id: healthavenueclinic ก็สำหรับครั้งนี้ยูริคงต้องขอตัวลากันไปก่อนนะคะ หวังว่าการเขียนบล็อกในครั้งนี้ของยูริ จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆทุกคน ที่กำลังหาข้อมูลกันอยู่เนอะ แล้วไว้พบกันใหม่เนอะ รับรองว่ายูริจะไม่พลาดนำเรื่องความสวยความงาม มาอัพเดทให้ทุกคนได้อ่านกันอีกเรื่อยๆแน่นอนค่ะ บ๊ายบาย... สวัสดีค่า Review : แชร์ประสบการณ์ดูดไขมันด้วย Bodytite plus endolaser ที่ ณัฐชญาคลีนิก
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้ยูริจะมาขอแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในการดูดไขมันด้วย Bodytite plus endolaser ที่ณัฐชญาคลีนิกนะคะ ซึ่งต้องขอเล่ากันก่อนนะคะว่า เหตุผลที่ยูริตัดสินใจไปดูดไขมันนั้น ก็เพราะปกติแล้วยูริเป็นคนที่ชอบแต่งตัวมากๆ ดังนั้นการที่มีรูปร่างที่สวยได้รูปจึงเป็นสิ่งที่ยูริใฝ่ฝันมาตลอดค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นคนที่ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งเลย จึงทำให้ดูอ้วนตันมากๆ เห็นไหมละคะ ว่าเมื่อก่อน ดูกลมขนาดไหน !!! แต่จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ยูริก็ออกกำลังกายและควบคุมอาหารมาตลอดนะคะ ซึ่งการออกกำลังกายนั้น มันสามารถลดน้ำหนักและไขมันสะสมโดยรวมได้จริงๆ แต่มันไม่สามารถลดไขมันสะสมเฉพาะจุดอย่างที่เราต้องการได้ เช่น บางคนแขนขาเล็ก แต่ พุงใหญ่ แก้ไงก็ไม่หาย เนื่องจากหลายๆปัจจัย บางก็เพราะกรรมพันธุ์ บางก็เพราะกิจวัติประจำวัน บางก็เพราะอายุที่มากขึ้น ยูริเองก็พยายามลดน้ำหนักมาตลอด แต่เจ้าไขมันเฉพาะจุด มันก็ยังไม่หายไปสะที นั้นจึงเป็นเหตุที่ยูริอยากจะเอาไขมันเฉพาะจุดออกไปสะ ยูริจึงตัดสินใจเข้าไปปรึกษากับคุณหมอบอสที่ณัฐชญาคลินิก ซึ่งก่อนหน้าที่ยูริจะเข้าไปปรึกษากับคุณหมอนั้น ยูริก็แอบไปดูและหาข้อมูลเกี่ยวกับคลีนิกต่างๆมาหลายที่แล้ว แต่ที่เลือกทำที่ณัฐชญาคลินิก ก็เพราะ ที่นี่เขาใช้แพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการดูดไขมันด้วย Bodytite มาหลายเคส และยูริก็ได้เข้าไปดูผลงานของคุณหมอบอส จึงทำให้รู้สึกเชื่อมั่นใจฝีมือของคุณหมอ และยูริก็ยังแอบไปเช็คว่า คุณหมอมีวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมของแพทย์สภาจริงๆด้วยละค่ะ ทำให้มั่นใจสุดๆว่า ถ้าเราทำที่นี่ต้องไม่ผิดหวังแน่นอน อิอิ ก็หลังจากที่ยูริได้เข้าไปปรึกษาและตรวจดูปริมาณไขมันแล้ว คุณหมอบอสก็บอกว่ายูรินั้นมีไขมันสะสมบริเวณรอบเอว ต้นแขนและแผ่นหลัง กระจายอยู่ทั่วๆ ทำให้ดูเป็นคนที่มีช่วงตัวต้นๆ ไม่มีส่วนเว้า ส่วนโค้งของลำตัวและเอว คุณหมอจึงแนะนำการดูดไขมันเพื่อปรับรูปร่างและสัดส่วน โดยวางแผนให้ดูดไขมันที่ รอบเอว+ต้นแขน+แผ่นหลังร่วมกัน โดยแบ่งทำ 2 ครั้งด้วยกันค่ะ คุณหมอบอสอธิบายว่า Bodytite plus endolaser จะใช้เครื่องมือในการดูดไขมันทั้งหมด 3 เครื่อง ซึ่งมีที่เดียวในประเทศไทยเลยนะคะ 1.Bodytite (เครื่องจากอิสราเอล) ตัวนี้ช่วยละลายไขมันและกระตุ้นคอลลาเจนในผิวชั้นลึก 2.Power x (เครื่องจากอเมริกา) ตัวนี้ทำให้ดูดไขมันได้ปริมาณมากค่ะ 3.Endolaser (เครื่องจากเกาหลี) ตัวนี้ทำให้ผิวหนังหดกระชับมากยิ่งขึ้นค่ะ โดยคุณหมอบอกว่า การใช้ทั้ง 3 เครื่องนี้เพราะต้องการดูดไขมันได้ปริมาณมากและจะทำให้ผิวหนังกระชับไม่หย่อนคล้อยค่ะ เพราะถ้าเป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐานผลลัพธ์จะดีกว่าค่ะ จึงไปแอบสืบรู้ราคาเครื่องมา และแต่ละเครื่องก็ราคาไม่ธรรมดาเลยค่ะ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการทำและดูไม่แพงไปเลยค่ะ ราคานี้จับต้องได้ ไม่ถูกจนน่ากลัว ทุกอย่างในคลีนิกได้มาตรฐานจริงๆค่ะ และเหตผุลที่คุณหมอไม่เลือกทำ Vaser ให้ยูรินั้นก็เพราะคุณหมอต้องการดูดไขมันเป็นบริเวณกว้างและปริมาณมาก ถ้าผิวหนังไม่หดตามจะทำให้เกิดภาวะผิวหนังหย่อนคล้อย เนื่องจาก Bodytite ทำให้ผิวหนังหดกระชับได้มากกว่า Vaser ถึง 3 เท่า และคุณหมอบอสต้องการทำ Endolaser ร่วมด้วย เพื่อให้ผิวหนังหดกระชับมากยิ่งขึ้นคะ ยูริจึงเลือกทำ Bodytite plus endolaser นั่นเองค่ะ ก็หลังจากปรึกษาคุณหมอเสร็จยูริก็ตัดสินใจนัดวันทำเลยละคะ โดยวันทำยูริก็ไม่ต้องอดอาหารด้วยนะคะ คือทานได้ปกติค่ะ และก่อนทำคุณหมอจะให้ทานยานอนหลับอ่อนๆก่อนทำค่ะ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย และก็มีการฉีดยาชาช่วยให้ด้วย ดังนั้นไม่ต้องกลัวเจ็บนะจ๊ะ ซึ่งตอนที่ดูดไขมันด้วย Bodytite จะรู้สึกอุ่นๆ แต่พอถึงขั้นตอนของ Endolaser จะรู้สึกร้อนๆ มีเจ็บบ้างแต่ก็ทนได้ค่ะ พอทำเสร็จก็นั่งพักสักพักให้พอหายมึนจากฤทธิ์ยานอนหลับ ก็กลับบ้านได้เลยค่ะ ซึ่งในการดูแลตัวเองหลังทำนั้น ตามที่คุณหมอแนะนำก็คือ ให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยระบบการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ใส่ชุดกระชับสัดส่วนตลอด 24 ชั่วโมงในเดือนแรก หรือพักบ้างสัก 2 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นค่ะ และใส่ทุก 12 ชั่วโมงในเดือนที่สองและสาม ซึ่งการที่เราใส่ชุดกระชับอย่างมีวินัยนั้นยูริว่าสำคัญมากๆนะคะ เพราะจะช่วยให้บริเวณที่ดูดไขมันไปกระชับได้รูปดูทรงสวยมากขึ้นนั่นเองค่ะ ส่วนเรื่องรอยช้ำและระยะการพักฟื้นตัวของยูริคือน้อยมากๆ เพราะคุณหมอเปิดแผลน้อยจุดและซ่อนแผลในร่มผ้า แม้ยูริใส่บิกินี่ก็มองไม่เห็นค่ะ ประกอบกับยูริเป็นคนที่มีรอยแผลเป็นยากอยู่แล้วค่ะ เลยมองแทบไม่เห็น เพราะแผลมีขนาดเล็กแค่ 3-4 มิลเองอะ และด้วยเทคนิคที่คุณหมอดูดไขมันแผ่นหลังโดยไม่มีแผลที่แผ่นหลังเลยค่ะ ทำให้ยูริใส่เสื้อโชว์แผ่นหลังได้อย่างมั่นใจมากค่ะ ซึ่งหลังทำผ่านไป 3 วัน ก็ไม่ค่อยเจ็บไม่ค่อยระบมเลยด้วยค่ะ คือแทบไม่มีรอยช้ำเลยค่ะ ยอมรับว่าคณุหมอบอสมือเบามากกกกกก พอเริ่มยุบบวมและทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่แล้ว จะเห็นได้ชัดเลยค่ะ ว่าสัดส่วนของยูริเปลี่ยนไปแบบน่าทึ่งจริงๆ โดยวัดสัดส่วนผลที่ออกมาก็คือ รอบแขนทั้ง 2 ข้าง ลดลงประมาณข้างละ 2 นิ้ว และรอบเอวลดลงประมาณ 4 นิ้ว เลยนะคะ กริ๊ดมากกกกกกกกกก... เหมือนได้เกิดใหม่ในร่างเดิมที่เป๊ะกว่า อิอิ ที่สำคัญก็คืออีกความประทับใจของยูริที่มีต่อคลีนิกนี้ นั่นก็คือ เขามีการติดตามผลการรักษา follow up อย่างต่อเนื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาเลยนะคะ โดยมีพี่เจ้าหน้าที่คอยติดตามดูแลตลอด มีนัดเข้าไปทำทรีทเม้นต์กระชับสัดส่วนเป็นระยะ เพื่อให้ตรงบริเวณที่เราดูดไขมันไป เฟิร์มกระชับมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมนั่นเองค่ะ ซึ่งตลอดเวลาหลังจากที่ยูริได้ดูไขมันไปแล้ว ยูริก็ได้มีการทานอาหารเสริมของทางคลีนิกควบคู่กับการตัวเองตัวเองไปด้วยนะคะ โดยยูริจะดื่มคอลลาเจนเทพหรือที่ชื่อว่า โอฟาร่า (OFARA) ซึ่งตัวนี้นอกจากจะช่วยบำรุงเรื่องผิวพรรณแล้ว ยังช่วยบำรุงร่างกายให้แผลหลังผ่าตัดหรือหลังดูดไขมันฟื้นตัวได้ไวขึ้นได้ด้วยนะคะ และยูริก็ได้ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก นอตตี้ (Notty) โดยเขาจะทำงานทั้งหมด 9 กลไกด้วยกันค่ะ ก็คือ... 1. ปรับสมดุลของสารเครียด (Cortisol) ในร่างกาย 2. ควบคุมความหิว 3. รักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด 4. Block แป้ง, น้ำตาลและไขมัน 5.เผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมอยู่ให้สลายไป 6. กระชับสัดส่วน 7. กำจัดสารพิษที่สะสมในร่างกาย 8. บำรุงสมอง Brain Booster 9. Anti-Aging ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย คือเรียกได้ว่า ตลอดเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ยูริได้รับทั้งบริการและได้ลองทานอาหารเสริมดีๆ จนสวยปิ๊งยิ่งกว่าเดิมเลยละคะ ว่าแล้วก็ขอโชว์รูปหุ่นปัจจุบันสะหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าขี้โม้... อิอิ ซึ่งหลังจากที่ยูริได้ไปดูดไขมัน ยูริก็มีความมั่นใจและกล้าที่จะแต่งตัวชุดต่างๆมากขึ้น สามารถใส่ชุด โชว์สัดส่วน โชว์แผ่นหลัง หรือแม้แต่ชุดว่ายน้ำ ก็มั่นใจกล้าใส่ทุกชุดเลยละคะ เพราะไม่มีเจ้าแขนใหญ่ๆและพุงห่วงยางย้วยๆ มาเป็นอุปสรรคแบบเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้วค่ะ สุดท้ายนี้ยูริก็อยากจะบอกว่า เรื่องการรับประทานอาหารและออกกำลังกายก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆนะคะ เพราะยูริเองหลังจากที่ดูดไขมันไปแล้ว ยูริก็เปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตไปเลยค่ะ โดยยูริหันมาทานมังสวิรัติและออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้งเลยนะคะ เพราะยูริจะมีหุ่นที่สวยเป๊ะแบบนี้ไปตลอดด้วยนั่นเองค่ะ ดังนั้นหลังจากที่เพื่อนๆ ตัดสินใจดูดไขมันไปแล้ว ก็อย่าละเลยที่จะดูแลตัวเองอยู่สม่ำเสมอด้วยนะคะ เพราะถ้าเราตามใจปากมากเกินไป ไขมันก็มีสิทธิที่จะกลับมาสะสมอีกได้นะจ๊ะ สรุปใครที่กำลังสนใจอยากจะดูดไขมันจริงๆ คือยูริว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะคะ เพียงแต่ต้องเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากพอนะจ๊ะ ยิ่งถ้าเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางด้วยแล้ว ก็เพิ่มความมั่นใจได้อีกเยอะเลยละคะ เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยตนเองได้ที่ หรือโทรสอบถามโดยตรงได้ที่เบอร์ : 02-7297490 หรือ 084-4222962 ค่ะ ก็สำหรับครัั้งนี้ยูริคงต้องขอตัวลากันไปก่อนนะคะ หวังว่าการเขียนบล็อกในครั้งนี้ของยูริ จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆทุกคน ที่กำลังหาข้อมูลกันอยู่เนอะ แล้วไว้พบกันใหม่เนอะ รับรองว่ายููริจะไม่พลาดนำเรื่องความสวยความงาม มาอัพเดทให้ทุกคนได้อ่านกันอีกเรื่อยๆแน่นอนค่ะ บ๊ายบาย... สวัสดีค่า Review : แชร์ประสบการณ์ดูแลผิวหน้า กับ Pornkasem Clinic ที่จะทำให้คุณสวยสู้กับโลกความเป็นจริงได้
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้ยูริจะมาแชร์ประสบการณ์หลังจากที่ได้เข้าไปดูแลผิวหน้า กับ พรเกษมคลีนิก มาค่ะ โดยต้องขอเล่าก่อนว่า ก่อนหน้านี้ ยูริก็ได้เห็นกระแส หนังสั้นเรื่อง "ลลิน" ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เปนเน็ตไอดอลและถ่ายรูปออกมาดูสวยมากๆในโลกออนไลน์ แต่แท้ที่จริงแล้ว เธอผู้นั้นใช้แอฟแต่งรูปเยอะมาก เพราะในชีวิตจริงเธอมีสิวที่ใบหน้าเยอะมากๆ จนต้องใช้ผ้าปิดปากมาปิดบังซ่อนสิวของเธอตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นคลิปที่มีคนแชร์กันเยอะมากเลยนะคะ เพราะเหตุนี้ทางพรเกษมคลีนิก จึงอยากจะทำให้ทุกคนสามารถสวยสู้กับโลกความเป็นจริงได้ เพราะในโลกความจริง มีสิ่งดีๆ รออยู่นั่นเองค่ะ ดังนั้นทางคลีนิกจึงเชิญให้ยูริได้ไปลองดูแลผิวหน้ากับทางคลีนิก เพื่อจะได้รู้ว่าเราสามารถมีผิวที่สวยได้ ถ้าเรามีการดูแลผิวที่ดีค่ะ แต่ยูริเอง ก็คิดว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาผิวอะไรเท่าไร เพราะหมั่นดูแลผิวหน้าตัวเองอยู่เสมอ แต่เพื่อความสวยของผิวอย่างสมบูรณ์แบบ ยูริจึงตัดสินใจเข้าไปลองใช้บริการกับทางคลีนิกดูค่ะ โดยเริ่มแรกเมื่อไปถึงที่คลีนิก ยูริก็ได้เข้าไปตรวจสภาพผิวกับคุณหมอก่อนเลยค่ะ ซึ่งคุณหมอก็มีการถามถึง life style การใช้ชีวิตต่างๆของเรา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการตรวจผิวหน้าเบื้องต้นด้วยนะคะ หลังจากนั้น คุณหมอก็ได้ตรวจเช็คผิวหน้าของยูริอย่างละเอียดเลยค่ะ ซึ่งสรุปแล้ว ยูริจะมีปัญหาผิวอย่างเดียวก็คือ กระแดด เพราะเป็นคนที่ชอบเที่ยวกลางแจ้ง และทาครีมกันแดดไม่เพียงพอจึงทำให้เกิดกระแดดขึ้นมาค่ะ ดังนั้น คุณหมอจึงแนะนำให้ยูริทำ โปรแกรม Derma bright (ราคาครั้งละ 3,200 บาท) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีความยาวคลื่นแสงช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส กระชับรูขุมขน ลดกระและจุดด่างดำค่ะ โดยโปรแกรมนี้จะเห็นผลการรักษาตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเลยนะคะ ว่า ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นอย่างชัดเจน แต่คุณหมอก็บอกว่าสำหรับโปรแกรมนี้แนะนำให้ทำทุกๆ 2 สัปดาห์ เพื่อประสิทธิผลในการรักษาที่ดียิ่งขึ้นด้วยนะคะ เมื่อยูริได้เข้ารับบริการโปรแกรมนี้เสร็จแล้ว คุณหมอก็มีการจ่ายยาให้มาดูแลผิวอย่างต่อเนื่องอีกด้วยค่ะ โดยจะมีทั้ง ยากินบำรุงผิวเพื่อลดและป้องกันการเกิดกระค่ะ และยังมีครีมกันแดดกับครีมทาลดกระจุดด่างดำมาให้อีกด้วยนะคะ พอใช้บริการเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่ยูริจะให้คะแนนความพอใจแล้วละคะ และก็แน่นอนว่า ยูริต้องให้ ดีมากไปเลย อิอิ สรุปแล้ว... ยูริรู้สึกว่าที่พรเกษมคลีนิกเขาใส่ใจดูแลผิวเราอย่างตรงจุดจริงๆ เพราะจะมีการตรวจผิวอย่างละเอียดก่อน แล้วจึงจะให้ทำโปรแกรมที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของเราจริงๆเท่านั้น และที่สำคัญพนักงานก็ยิ้มแย้มตลอดเวลา ทำให้เวลาที่ยูริเข้ามาใช้บริการรู้สึกไม่เกรงและสบายใจมากๆค่ะ ดังนั้นใครที่กลัวการเข้าคลีนิก ต้องมาลองใช้บริการที่นี้ดูนะคะ รับรองจะต้องติดใจแทนแน่ๆค่ะ และสุดท้ายนี้ ยูริก็อยากจะขอบคุณ คุณหมอกนลรัตน์ ที่สาขา PKS สยามพารากอน มากๆเลยนะคะ ที่ดูแลผิวให้ยูริในครั้งนี้อย่างดีจริงๆ คราวนี้ยูริก็เพิ่มความมั่นใจในการโชว์ผิวหน้าของยูริยิ่งขึ้นไปอีกเลยละคะ และสำหรับใครที่อยากจะมาลองใช้บริการดูแลผิวแบบนี้ ก็เพียงแค่เดินเข้าไปที่ พรเกษมคลีนิกสาขาใกล้บ้านได้เลยค่ะ อิอิ โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลีนิกได้ที่ https://www.facebook.com/Pornkasemclinic ครั้งนี้ยูริคงต้องขอตัวลากันไปก่อน แล้วไว้มีประสบการณ์อะไรดีๆแบบนี้อีก จะนำมาแชร์และบอกต่อกันอีกเช่นเคยแน่นอนค่ะ บ๊ายบาย...สวัสดีค่า Review : Botox & Filler เทคนิคใหม่ สวยทุกมิติ ดูดีทุกองศา กับ Meko Clinic
สวัสดีค่ะ ทุกคน เมื่อเดือนที่แล้วยูริได้รับเกียรติเชิญให้ไปร่วมกิจกรรม "Total Facial Approach สวยทุกมิติ...ดูดีทุกองศา" กับ ทาง เมโกะ คลินิก มาค่ะ ซึ่งภายในวันที่จัดกิจกรรม ก็จะมีบล็อกเกอร์หลายๆท่าน ได้ไปร่วมนั่งฟังบรรยายในเรื่องการเสริมความงามโดยการฉีดโบทอกซ์และฟิลเลอร์ค่ะ โดยมีวิทยากรท่านพิเศษ คือ แพทย์หญิง ทิฆัมพร ใยบัวเทศ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าแห่งวงการโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ของเมืองไทยเลยค่ะ โดยในวันนั้น คุณหมอก็จะอธิบายว่า การปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสมดุล โดยการฉีดโบทอกซ์และฟิลเลอร์ นั้นจะฉีดอย่างไรให้ออกมาสวยค่ะ ก็คือการฉีดให้สวยจะต้องฉีดเพื่อให้ใบหน้าดูสวยแบบมีมิติ และยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่เวอร์จนเกินไปนั่นเองค่ะ งั้นเรามาทำความรู้จักกับ Botox และ Filler กันแบบคราวๆก่อนนะคะ Botox จะออกฤทธิ์โดยการทำให้เซลล์ประสาทและกล้ามเนื่อคลายตัว ซึ่งทางวงการความงามคุณหมอจะนิยมมาฉีดเพื่อลดริ้วรอยและลดขนาดกรามค่ะ โดยหลังจากฉีดจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่าง ในเวลาประมาณ 20-30 วัน และ จะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 6เดือน - 1ปี ค่ะ Filler คือสารเติมเต็มใต้ผิวหนัง (ไฮยาลูโรนิค เอซิดช) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่อยู่ในชั้นผิวหนัง ซึ่งทางวงการความงามคุณหมอจะนิยมมาฉีดเพื่อเติมเต็มร่องริ้วรอยหรือปรับเติมเต็มใบหน้าตรงส่วนต่างๆค่ะ โดยหลังจากฉีดจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างทันทีหลังฉีด และ จะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ค่ะ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ทุกคนที่สนใจอยากจะฉีด ก็ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และเลือกรักษากับแพทย์เฉพาะทางด้านกับสถาบันด้านความงามที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องด้วยนะคะ เอาละคะ...แน่นอนว่าเมื่อยูรินั่งฟังบรรยายจนได้ความรู้ไปเยอะแยะมากมายแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาเสริมสวยกันสะที โดยในครั้งนี้ ยูริให้ทางคุณหมอเป็นผู้ออกแบบสัดส่วนรูปหน้าของยูริเลยค่ะ ว่าจะฉีด ตรงไหน อย่างไร ก็จัดไปเต็มทีเลยค่ะ แต่มีโจทย์ว่า ต้องดูสวยขึ้นก็พอค่ะ 555 ซึ่งทางคุณหมอได้วิเคราะห์ใบหน้าของยูริออกมาว่า เป็นคนที่ทุกอย่างโดยรวมคือโอเคแล้ว แต่จะดูหน้าแบนและดูหน้าบึ้งค่ะ คุณหมอจึงแนะนำให้ฉีดทั้งโบทอกซ์และฟิลเลอร์ควบคู่กันไปแต่จะฉีดในปริมาณไม่มากค่ะ เพื่อดูเติมเต็มและปรับใบหน้าให้ได้รูปก็พอ ก็คือดูสวยขึ้นแบบธรรมชาตินั่นเองค่ะ อิอิ ซึ่งตรงที่เป็น จุดๆสีดำ คือ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์นะคะ และ ลูกศรสีดำ คือ บริเวณที่ฉีดโบทอกซ์ค่ะ พอดูจากรูป ก่อน-หลัง ฉีดทันที ก็จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนอยู่เหมือนกันนะคะ ว่า ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ทั้ง รูปหน้า จมูก ปาก ดูมีความชัดเจนขึ้นค่ะ มาดูรูปแบบด้านข้างจะสังเกตได้ชัดเจนเลยว่า จมูกจะมีมิติขึ้น และ ปากล่างจะไม่ยื่นแล้ว สรุปสั้นๆก็คือ ใบหน้าดูยิ้มขึ้น ไม่ดูหน้าบึ้งแบบตอนแรกแล้วค่ะ หลังจากนั้นผ่านไปประมาณเกือบ 1 เดือน ก็จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนขึ้นอีกนะคะ ว่าหน้าดูเรียวได้รูปมากขึ้นเลยค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีแต่คนทักว่า ดูผอมลงและสวยขึ้น แต่ไม่มีใครดูออกเลยว่าไปแอบโบทอกซ์และฟิลเลอร์มา แบบนี้สินะ ที่เรียกว่า อัพสวยแบบที่ดูเป็นธรรมชาติ ของจริง อิอิ สำหรับใครที่สนใจอยากจะไปอัพสวยแบบยูริ ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mekoclinic.com นะคะ แล้วไว้ยูริมีอะไรที่น่าสนใจแบบนี้อีก แน่นอนว่าจะไม่ลืมที่จะมาบอกต่อทุกคนกันอีกเช่นเคยค่ะ ครั้งนี้ขอตัวลากันไปก่อนแล้วกันนะคะ บ๊ายบาย...สวัสดีค่า Review : ประสบการณ์ Filler เพื่อเพิ่มเติมเต็มใต้ตา ของยูริและคุณแม่ ที่ SUKHUMVIT 36 CLINIC
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้ยูริจะมาบอกเล่าประสบการณ์ การฉีด Filler เพื่อเพิ่มเติมเต็มใต้ตาของเราให้สวยงาม ให้ทุกคนได้อ่านกันเป็นข้อมูลและแนวทางนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า นี้เป็นครั้งแรกในการฉีด Filler ของ ยูริและคุณแม่เลยนะคะ ตอนแรกแอบกลัวๆอยู่เหมือนกัน เพราะบริเวณใต้ตาเป็นอะไรที่ทุกคนจะคิดว่าอันตรายมากๆเนอะ แต่ด้วยความที่ยูริได้ศึกษาข้อมูลมากเยอะและด้วยความที่เชื่อใจในฝีมือคุณหมอ เลยกล้าที่จะลองทำค่ะ โดยยูริและคุณแม่ได้ไปปรึกษาคุณหมอที่คลินิก Sukhumvit 36 เรื่องเกี่ยวกับปัญหาถุงใต้ตาของคุณแม่ที่เกิดขึ้นตามวัยจึงทำให้ดูมีอายุ และปัญหาเบ้าตาที่ลึกของยูริ ที่จะทําให้หน้าดูโทรม มองแล้วเหมือนใต้ตาคล้ําเพราะเห็นเป็นเส้นเลือดค่ะ โดยฟิลเลอร์ใต้ตา มีที่ Sukhumvit 36 Clinic ที่เดียวในประเทศไทย เนื่องจากบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดมากที่สุดบนใบหน้า ต้องใช้เทคนิค และความประณีตเป็นพิเศษในการฉีด โดยเฉพาะในคนไข้ที่อายุมากขึ้นที่จะมีเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวเข้ามาร่วมด้วย ถ้าฉีดผิดวิธีจะทำให้ใต้ตาเป็นก้อนใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นต้องทำกับคุณหมอที่มีความชำนาญด้านนี้และมีประสบการณ์ในการฉีดมามากเท่านั้น คุณหมอลัทธพล (หมอเฟิร์ส) เป็นจักษุแพทย์โดยตรงจึงเข้าใจ anatomy รอบดวงตาดี นอกจากนั้นยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีด Botox และ Filler จาก Korean College of Cosmetics จึงสามารถทำให้ลูกค้าได้รับผลลัพธ์ที่ทั้งปลอดภัย และสวยงามจริง ยืนยันได้ด้วยประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ของคลินิกกว่า 3,000 หลอด ซึ่งมากเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทย ยูริจึงมั่นใจมากๆว่า จะต้องออกมาสวยและปลอดภัยแน่นอน ซึ่งคุณหมอได้แนะนําให้ยูริและคุณแม่ ทําการฉีด Filler เพิ่มเติมเต็มใต้ตาให้ดูดีขึ้น โดยการฉีด Filler เติมเต็มนั้น จะช่วย 3 ปัญหา หลักๆ ได้แก่... 1) ใต้ตาคล้ำ 2) ริ้วรอยรอบดวงตา 3) ร่องแก้ม โดยการแก้รอยคล้ำและรอยย่นรอบดวงตาจะเป็นการฉีดเทคนิคพิเศษของทางคลินิก ทำให้บริเวณใต้ตาเต็มขึ้น และดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ซึ่งจะทำให้รูปหน้าดูกระชับขึ้น และร่องแก้มดูลดลงด้วยค่ะ ว่าแล้ว... ยูริกับคุณแม่ก็พร้อมที่จะทำสวยแล้วค่ะ โดยทางพนักงานก็น่ารักมากๆ เมื่อทำการทายาชาให้ยูริและคุณแม่เสร็จ ก็ไม่ได้ปล่อยให้ 2 แม่ลูกนั่งเหงาค่ะ มีการนำน้ำมาให้ดื่ม และมาสอบถามและชวนพูดคุยข้ามเวลา ซึ่งเป็นอะไรที่ยูริประทับใจมากๆในบริการของทางคลีนิกที่ใส่ใจดูแลลูกค้าแบบนี้ค่ะ และแม้ว่าคลีนิกจะอยู่กลางใจเมือง ติดสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ แต่ก็เป็นสถานที่มีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะอยู่ในบริเวณที่ดินส่วนตัว ดังนั้นใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวต้องชอบที่นี้แน่ๆค่ะ ที่สำคัญคุณหมอให้คำแนะนำอย่างจริงใจ ไม่พยายามยัดเยียดขายของ ไม่เลี้ยงไข้ หากไม่เหมาะกับการฉีดก็จะไม่แนะนำให้ฉีดค่ะ อย่างเช่นการฉีดเสริมจมูกนะคะ คุณหมอไม่แนะนำและไม่ทำให้เลยค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่าการฉีด Filler บริเวณจมูกเป็นอะไรที่อันตราย และหากว่าอยากจะทำจมูกจริงๆแนะนำให้ทำเสริมเป็นซิลิโคนไปเลยดีกว่า แต่คุณหมอก็บอกอีกว่า แบบยูริ ไม่ต้องเสริมอะไรแล้ว เพราะจมูกแบบนี้เหมาะกับโครงหน้าแล้ว เมื่อได้ฟังแบบนี้เลยรู้สึกได้เลยว่า คุณหมอแนะนำทุกๆอย่าง อย่างตรงไปตรงมาและจริงใจจริงๆค่ะ มาเริ่มฉีดกันเลยดีกว่า..... ภาพอาจจะดูหวาดเสียวนิดนึง แต่จริงๆก็ไม่น่ากลัวเลยค่ะ เพราะไม่เจ็บเลย เนื่องจากคุณหมอมือเบามากๆ และทำแบบละเอียดมากๆค่ะ ไม่ได้ทำแค่ 5 นาทีเสร็จนะคะ คุณหมอจะค่อยๆทำแล้วดูจนรู้สึกว่า ทุกอย่างเข้าที่แล้วและดูสวยเหมาะกับหน้าเราแล้วจริงๆค่า ดังนั้นระยะเวลาการทำของแต่ละคน ก็ขึ้นอยู่กับโครงหน้าและปัญหาบริเวณใต้ตาด้วยนะคะ ซึ่ง ยูริว่า การที่คุณหมอค่อยๆทำแบบนี้ดีมากๆเลยนะคะ ยิ่งทำให้ยูริรู้สึกอุ่นใจ ว่า ถ้าทำเสร็จออกมา ฉันต้องสวยปิ๊งแน่ๆงานนี้ อิอิ มาดูผลลัพธ์ความงามของ ยูริและคุณแม่ กันดีกว่า เย้เย้ vvvvvvvvvvv vvvvv vv ก่อน-หลัง คุณแม่ของยูริสวยปิ๊ง ดูเด็กลงมากเลยเห็นป่าว สังเกตได้ชัดเลยว่า ถุงใต้ตาของคุณแม่ ที่เคยมีตอนหลังทำเสร็จ มองดูแทบไม่เห็นเลยจริงๆค่ะ สุดยอดมากๆเลย คุณหมอฝีมือจริงๆค่า คุณแม่ดีใจมากๆเลยค่ะ ดูสวยและเด็กลงหลายปีเลยงานนี้ เย้เย้ ก่อน-หลัง มาดูของยูริกันบ้าง เห็นได้เลยว่า ใต้ตาดูเต็มขึ้น ที่สำคัญดูมีแก้มขึ้นมานิดๆ ทำให้กลายเป็นเหมือนว่าหน้ายกขึ้นและหน้าดูเรียวขึ้นอัตโนมัติเลยค่ะ ยิ่งกว่านั้นนะคะ การที่แก้มสองข้างจมูกของยูริดูเต็มขึ้น ยังทำให้ถ่ายรูปแล้วสวยขึ้น เพราะแสงตกกระทบที่แก้ม แล้วทำให้หน้าดูมีมิติค่ะ แทบไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าแค่ฉีดเติมเต็มใต้ตาก็ดู เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ แฮปปี้สุดๆเลยค่ะ ครั้งนี้บอกเลยว่า ยูริและคุณแม่ประทับใจในผลลัพธ์ที่ได้แบบเกินขาดจริงๆค่ะ ซึ่ง ฟิลเลอร์ ปกติ เข็มละ 20,000 บาท เป็นของ brand Jevederm ซึ่งเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของอเมริกาค่ะ แต่ทางร้านมีโปรโมชั่นหมุนเวียนมาเรื่อยๆนะคะ ดังนั้นยูริแนะนำให้เข้าไปเช็คโปรโมชั่นในแต่ละเดือนทางหน้า Facebook fanpage ของร้านจะดีที่สุดค่ะ ในกรณีฉีดใต้ตาจะแล้วแต่เคสไปว่าต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ คุณหมอจะพิจารณาให้ค่ะ โดยทั่วไปไม่เกิน 2 เข็ม นะคะ โดยเจ้าฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 1-1.5 ปีค่ะ การฉีดจะมีเพียงแผลทางเข้าเพียงแผลเดียวในแต่ละข้างเท่านั้น และจะหายไปใน 1-2 วันจึงไม่ต้องมีช่วงพักฟื้น เลยจ๊ะ หลังจากทำประมาณ 3 สัปดาห์ คุณหมอก็จะนัดไปพบเพื่อตรวจเช็คนะจ๊ะ ว่าเรียบร้อยดีมั้ย เรียกได้ว่าติดตามผลอย่างใกล้ชิดค่ะ ก็เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หรือ สนใจติดต่อ 02-258-5951, 084-224-2444 , 084-242-2444, 080-422-2424 LINE : sk4242424 , sk243624 อีเมล sukhumvit36clinic@gmail.com ก็หวังว่าเรื่องราวประสบการณ์ที่ยูรินำมาแชร์บอกต่อในครั้งนี้จะมีประโยชน์แก่ทุกๆคนไม่มากก็น้อยนะคะ ไว้มีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจแบบนี้อีก จะมาบอกต่อกันเช่นเดิมค่า แล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อๆไปนะคะ บ๊ายบาย... สวัสดีค่า |
Yuriukuri
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 297 คน [?] canon eos 70D
|