| All Blog
|
Pregel จากประเทศญี่ปุ่น สีทาเล็บสีสันสุดจี๊ดจ๊าด ติดทนนานเป็นพิเศษ
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้ยูริมีผลิตภัณฑ์สำหรับสาวๆ ที่กำลังหลงใหลในแฟชั่นนิสต้า และชอบที่จะสนุกกับเทรนด์สีสันสุดฉีกล้ำที่ไม่เหมือนใคร รับรองว่า น่าจะถูกใจกับ ผลิตภัณฑ์ ที่ยูริจะเอามาแนะนำให้ดูกันในครั้งนี้แน่นอนค่ะ นั่นก็คือ Pregel แบรนด์สีทาเล็บจากญี่ปุ่นค่ะ  ซึ่งยูริเองก็ได้ไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเขาที่ไทยเป็นครั้งแรกด้วยนะคะ ครั้งนี้ก็เลยจะพาชมบรรยายและแนะนำถึงผลิตภัณฑ์ให้ได้ดูกันไปพร้อมๆกันเลยเนอะ  แบรนด์ Pregel นั่นก็มีสีให้เราเลือกทามากมายเลยนะคะ ด้วยเฉดสีสุดฮอตมากกว่า 90 เฉดสี สีสันสุดจี๊ดจ๊าดบนเรียวเล็บ รองรับทุกลุค ทุกสไตล์เลยค่ะ และที่สำคัญจุดเด่นของเขาก็คือ นอกจากจะมีสีที่สวยแล้ว ความติดทนนานก็เป็นอีกจุดขายของเขาเลยค่ะ  และที่สำคัญนะคะ ตอนนี้ทางแบรนด์ก็ได้ออกสีทาเล็บใน คอลเลคชั่น น้อง Blythe ออกมาด้วยค่ะ สีก็จะสวยน่ารักหวานๆ ตามแบบของ ตุ๊กตาเลยนะคะ ยูริชอบมากๆเลย ใครเป็นสาวหวานนี้ห้ามพลาดเลยค่ะ  หลายคนเริ่มสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นตลับแบบนี้ จะใช้อย่างไง ดูแปลกตากว่าสีทาเล็บทั่วๆไปที่เป็นแบบขวดๆเนอะ ซึ่งการใช้ง่ายก็ไม่ยากเลยค่ะ เขาจะมีแปรงแบบเฉพาะที่เอาไว้สำหรับทาสี และเพ้นท์ลายต่างๆค่ะ  และอีกอุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้การทาเล็บของเรายิ่งสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยเจ้าเครื่องอบเล็บ ที่จะทำให้เล็บของเราแห้งไวมากขึ้น ในเวลาแค่ 45 วินาที เท่านั้นค่ะ ซึ่งเขาก็มีเครื่องอบในขนาดต่างๆ ให้เราเลือกด้วยนะ ยูริเองยังอยากมีเอาไว้ครอบครองไว้สักอันเลย เพราะใช้ง่ายง่ายจริงๆค่ะ  เมื่อเรารู้จักเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กันไปบ้างแล้ว ก็ถึงเวลามาทำเล็บสวยๆกันดีกว่า ภายในงานก็มี ช่างทำเล็บจากญี่ปุ่น มาทำเล็บสวยๆให้เราด้วยนะคะ แน่นอนว่า ยูริก็ไม่พลาดที่จะลองทำเล็บในครั้งนี้ค่ะ  ช่างทำเล็บ ก็ค่อยๆเพ้นท์ลายอย่างสวยงาม และดูไม่อยากเลยจริงๆค่ะ เห็นแล้วก็น่ากลับมาลองทำเองบ้าง อิอิ นอกจากนี้ทางกูรูของแบรนด์ก็ยังแนะเคล็ดลับในเป็นการแต่งแต้มสีสรรบนเล็บสวยๆ และเข้ากับสีผิว เมื่อทาไปจะได้ดูสวยสดใส และมั่นใจกว่าเดิม 1. สาวผิวขาวอมเหลือง เหมาะกับสีทาเล็บ ชมพูอมส้ม น้ำตาลทองสว่างหรือสีสด จะทำให้มือดูอ่อนเยาว์ ไม่ซีดเซียว 2. สาวผิวขาวอมชมพู เหมาะกับสีทาเล็บ ชมพูอมน้ำตาล ชมพูอมม่วง หรือสีโทนเย็น จะทำให้ดูหวานขึ้น 3. สาวผิวคล้ำอมเหลือง เหมาะกับสีทาเล็บ สีน้ำตาลทองเข้ม หรือแดงสด หรือสีทอง ช่วยทำให้ดูอบอุ่น และดูน่าค้นหา 4. สาวผิวคล้ำหรือดำแดง เหมาะกับสีทาเล็บ สีแดงเข้ม สีชมพู จะดูเป็นคนมีพลัง ฉลาดเฉลียวทันคน ปรับตัวเก่งอิจฉา  เมื่อทาเล็บเสร็จเราก็จะเอาเล็บไปวางในเครื่องอบ โดยแค่ เวลา 45 วินาที เล็บก็จะแห้งเลยทันทีค่ะ และปิดท้ายกูรูยังฝากถึงวิธีการเลือกสีทาเล็บ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างมากว่า ควรเลือกสีที่มีคุณภาพ ดูสวยเป็นธรรมชาติ เฉดสี เจลยึดติดแน่น ไม่เป็นรอยด่าง ไม่ทำให้เล็บจริงและเล็บต่อเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ความคุ้มค่าที่ติดทนนานอย่างน้อยหนึ่งเดือน หรือมากสุดถึงสองเดือน และการล้างสีเล็บต้องใช้น้ำยาสำหรับสีเจลเท่านั้น เพียงห่อน้ำยาล้างสีเจลแล้วทิ้งไว้สักพัก สีเจลก็จะหลุดร่อนออกมาอย่างง่ายดายค่ะ  เสร็จแล้วมาดูกันเลย ในครั้งนี้ ยูริเลือกเพ้นท์ลายดอกไม้หวานๆ และทาสีเล็บสีหวานๆเช่นกัน ดูสวยหวานมากๆเลยค่ะ และอีกจุดเด่นของแบรนด์เขาก็คือ สีเล็บจะมีความวาวสวย และอยู่ติดทนเป็นเดือนๆเลยนะคะ และเขาบอกว่า เจลของเราจะไม่ทำให้เล็บเหลืองแน่นอน ดังนั้นเราก็สามารถทาได้บ่อยโดยไม่ต้องกลัวว่าเล็บจะเหลืองอีกแล้วค่ะ  เสร็จจากงาน ยูริก็ได้รับผลิตภัณฑ์กลับมา ให้ลองทาสีเล็บให้สวยต่อกันด้วยค่ะ เปิดออกมาก็มีแต่สีที่ยูริชอบทั้งนั้นเลยค่ะ ถูกใจใช่เลย อิอิ  สาวๆ สามารถเลือกทาผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตัวเอง แต่ทางที่ดี ให้ที่ร้านทาให้จะดีกว่า เพราะช่างจะมีความชำนาญ และอุปกรณ์ที่ครบครัน ทำให้เล็บของสาวๆดูสวยงามสมบูรณ์แบบ และคงทน ติดทนยาวนานกว่านะคะ แต่อย่างที่บอก ถ้าใครชอบทำเล็บ ก็ลองหาทากันดูเองได้นะ เพราะทาไม่ยากเลยจริงๆค่ะ  ก็อยากจะฝากไว้ว่านอกจากการเติมสีสันความสวยงามด้วยการแต่งหน้า แต่งตา ด้วยเครื่องสำอางค์สีสันสดใสให้เข้ากับแต่ละซีซั่นแล้ว สิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงอย่างเรา อีกสิ่งหนึ่งนั่นคือการเลือกเติมความงามด้วยสีสันบนเล็บ เพื่อช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับสาวๆในแต่ละคนได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวดังนั้นการเลือกสีทาเล็บจึงเป็นส่วนสำคัญเช่นกันค่ะ ก็ถ้าใครสนใจ สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Pregel ได้ที่ Nail salon ที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายได้ทั่วประเทศ โดยเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pregelthailand หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 098-260-3024 (คุณนุ่น) ค่ะ อย่างไงครั้งนี้ยูริคงต้องขอตัวลากันไปก่อนแล้วกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อๆไป แน่นอนว่าจะเอาเรื่องสวยๆงามๆมาฝากกันเรื่อยๆแน่นอนค่ะ บ๊ายบาย...สวัสดีค่ะ Review : 4 โปรแกรมทรีตเม้นต์ ( ไร้สิว หน้าใส ชุ่มชื้น กระชับไร้ไขมัน ) ที่ Skin Deep คลีนิก
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้ยูริจะพาทุกคนมาดูเรื่องสวยๆงามๆกันอีกแล้วค่ะ โดยที่ครั้งนี้จะพิเศษมากๆเพราะว่า ยูริจะพาไปดูการทำ ทั้ง 4 โปรแกรมทรีตเม้นต์ เลยค่ะ ซึ่งยูริขอเรียกว่าเป็น 4 ทรีตเม้นต์ที่จะช่วยในเรื่อง ไร้สิว หน้าใส ชุ่มชื้น กระชับไร้ไขมัน ค่ะ และคลีนิกที่ยูริจะไปทำนั้นก็เป็นคลีนิกที่สวยมากๆ และก็พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานเลยค่ะ นั่นก็คือ Skin Deep คลีนิกค่ะ หลายคนคงยังไม่คุ้นชื่อเท่าไร เพราะเขาพึ่งเปิดสักพักเองจ้า  ก็ภายในคลีนิกก็มีบรรยายกาศเหมือนอยู่แถวทะเลเลยนะ ยูริชอบมากๆ ทำให้รู้สึกเหมือนมาได้พักผ่อนต่างจังหวัด แต่จริงๆแล้วคลีนิกอยู่ในใจกลางเมืองกรุงเทพเลยจ๊ะ ดูเรียบๆ และ สะอาดตามากๆเลยค่ะ โอเคงั้นเราอย่ารอช้าเลยดีกว่าไปเริ่มการรีวิวกันเลยดีกว่านะคะ  ก็เริ่มแรก ยูริก็ได้เข้าไปปรึกษากับคุณหมอค่ะ ว่าครั้งนี้ยูริควรทำอะไรดี คุณหมอก็ให้คำแนะนำที่ดีมากๆค่ะ ว่ายูริเป็นคนที่แต่งหน้าเยอะ และ ผิวค่อนข้างแห้งด้วย เลยให้ทำทั้ง 4 โปรแกรมเลย ได้แก่ ... 1. Deep Aqua Cleansing 2. Deep Oxygency (Rejuvenation) 3. Deep Facial Refining (Maximus) 4. Deep Signature Vitamin U Mask โอเคหลายคนคงอยากจะรู้ว่า แต่ละโปรแกรมมันช่วยอะไรบ้างละเนอะ งั้นเราไปเริ่มดูไปทีละอัน กันเลยดีกว่าจ้า  เริ่มแรกก็ต้องทำความสะอาดผิวก่อนนะคะ พี่เขาก็จะทำความสะอาดและเช็ดเครื่องสำอางให้ค่ะ  โปรแกรม ที่ 1. คือ Deep Aqua Cleansing ราคาครั้งละ 3,590 บาท โปรแกรมนี้จะเหมาะมากๆสำหรับคนที่แต่งหน้าบ่อย หรือมีสิวเสี้ยนเยอะๆ รูขุมขนอุดต้น หรือ มีผิวที่ไม่เรียบเนียนค่ะ โดยเขาจะใช้เครื่องที่ มีหัวเหมือนการดูดสิว แต่ว่าจะอ่อนโยนกว่า และในระหว่างที่เครื่องทำการดูดอยู่ก็จะมีการปล่อยน้ำยา 3 ตัวของเขา จะเป็นเช่น น้ำสะอาดและวิตามินบำรุงต่างๆค่ะ ซึ่งน้ำยาพวกนี้มันจะช่วย ฆ่าเชื้อให้ผิวสะอาดและลดการเกิดสิว และช่วยบำรุงให้ผิวสุขภาพดีขึ้นค่ะ ใช้เวลาทำ ประมาณ 30-45 นาทีค่ะ ระหว่างที่ทำจะไม่รู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองใดๆค่ะ และหลังทำเสร็จจะรู้สึกได้ทันที่ว่าผิวหน้าดูสะอาดขึ้นมากๆ และนุ่มขึ้นมาก ทำให้การแต่งหน้าของเราติดทนและเนียบเรียบขึ้นเลยจ๊ะ ชอบๆ  โปรแกรมที่ 2 คือ Deep Oxygency (Rejuvenation) ราคาครั้งละ 4,590 บาท โปรแกรมนี้จะเหมาะสำหรับ คนที่มีผิวขาดความชุ่มชื้นมากๆ หรือผิวแห้งมากนั่นเองค่ะ โดยเขาจะใช้เครื่องที่มีเทคโนโลยี 3ขั้นตอน ก็คือจะมี การทำความสะอาดผิวหรือการผลัดเซลล์ผิว เป็นขั้นตอนแรก ขั้นตอนนี้ จะเป็นหัวเครื่องที่ช่วยการผลัดเซลล์ผิวค่ะ ตอนทำจะรู้สึกแสบนิดๆนะคะ แต่ไม่ได้มากเท่าไรจ๊ะ ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็จะเป็น การเสริมสร้างออกซิเจนให้กับผิว และขั้นตอนสุดท้ายก็คือการเติมสารอาหารที่จำเป็นเข้าสู่ผิวเราค่ะ อันนี้จะมีการเปลี่ยนหัวเครื่องเป็นหัวสำหรับนวดค่ะ อันนี้จะรู้สึกผ่อนคลายสบายดีค่ะ แล้วอย่างที่เห็นในรูปจะมีการทาเจลอะไรสักอย่างในระหว่างที่ทำด้วยใช่ไหม มันก็คือสารที่จะช่วยเติมสารอาหารให้แก่ผิว ที่จะช่วยให้ผิวนุ่มชื้นชุ่น กระจ่างใส นั่นเองค่ะ ใช้เวลาทำประมาณ 30-45 นาทีค่ะ หลังทำเสร็จก็จะผิวชุ่มชื้นขึ้นมากๆเลยค่ะ และหน้าก็จะดูสว่างขึ้นเลยด้วยจ้า  โปรแกรมที่ 3 คือ Deep Facial Refining (Maximus) ราคาครั้งละ 5,500 บาท โปรแกรมนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินตามที่ต่างๆ หรือมีผิวที่ไม่กระชับค่ะ โดยเขาจะใช้เครื่องที่มีเทคโนโลยีการใช้ลำแสงพลังงานขนาดเล็กที่จะสามารถเข้าไปถึงขั้นไขมันของเราเลยค่ะ เจ้าเครื่องตัวนี้แหละค่ะ ที่จะช่วยเร่งการขับไขมันออกมาได้อย่างปลอดภัยและช่วยให้กระชับไปพร้อมๆกันค่ะ ซึ่งทางคลีนิกบอกว่าเจ้าเครื่องตัวนี้สามารถทำได้กับทุกส่วนของร่างกายที่มีไขมันเลยค่ะ ยูริก็เลยขอทำต้องส่วนแก้มสะหน่อย เพราะว่าแก้มยูริเยอะและไม่ค่อยกระชับนั่นเองค่ะ และเครื่องนี้จะมีหัวขนาดเล็กไว้สำหรับใต้ตาด้วยนะคะ ไว้สำหรับคนที่มีถุงใต้ตานั่น หรือใต้ตาไม่กระชับค่ะ ใช้เวลาทำ 15-30 นาที ในระหว่างที่ทำจะรู้สึกร้อนๆอุ่นๆนิดๆนะคะ ทางคลีนิกบอกว่าถ้าจะให้เห็นผลชัดเจนควรทำติดต่อกัน 3-4ครั้งค่ะ แต่หลังการที่ยูริทำไปแค่ครั้งแรกก็รู้สึกว่าหน้ากระชับขึ้นมากค่ะ  โปรแกรมที่ 4 คือ Deep Signature Vitamin U Mask ราคาครั้งละ 2,500 บาท โปรแกรมนี้จะเหมาะสำหรับ คนที่มีผิวแพ้ง่าย ขาดการบำรุง และขาดความชุ่มชื้นหรือหมองคล้ำค่ะ โดยมาร์คที่เขาใช้จะเป็นมาร์คต้องผสมใหม่ทุกครั้ง ซึ่งจะมีส่วนผสมวิตามินต่างๆที่จะช่วยบำรุงผิวได้ล้ำลึกค่ะ จะช่วยลดการแพ้ หรือระคายเคืองผิวหลังจากที่ทำทรีตเม้นต์โปรแกรมต่างๆมาค่ะ ก็ประมาณว่ามันจะ ช่วยปรับสมดุลให้ผิวนั่นเองนะคะ หลังจากมาร์คเสร็จ ยูริก็รู้สึกว่าผิวนุ่มมากๆ ดูขาวใสขึ้นด้วยค่ะ  ก็เสร็จสิ้นแล้วกับทุกๆโปรแกรมทรีมเม้นต์ที่ยูริได้มาทดลองใช้บริการนะคะ ต้องบอกเลยว่ารู้สึกประทับใจมากๆ เป็นคลีนิกที่บรรยากาศอบอุ่น สะอาด และที่สำคัญมีบริการหลายอย่างที่น่าสนใจ ก็ถ้าใครสนใจอยากจะมาลองใช้บริการการดูแลผิวแบบยูรินะคะ ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ IG : skindeepclinic ก็อย่างไงครั้งนี้ยูริก็ต้องขอตัวลากันไปก่อนแล้วกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อๆไปจ๊ะ บ๊ายบาย.... Review : โปรแกรม DERMA SHOCK หรือ ช้อนทอง ที่ The Face คลินิก
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้ยูริจะมาอัพบล็อกเกี่ยวกับความงามอีกแล้วค่ะ ซึ่งช่วงไม่กี่อาทิตยี่ผ่านมา ยูริได้ไปทดลองทำ โปรแกรม DERMA SHOCK ที่ The face คลินิก มาค่ะ เป็นโปรแกรมทรีทเมนท์ โดยใช้ นวัตกรรมผิวอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วย Golden Spoon สุดฮิตในประเทศเกาหลีและ ญี่ปุ่น โดยใช้หลักการประจุไฟฟ้าอย่างอ่อน เป็นสื่อกลางสู่ผิวหนัง ประจุไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยให้ รูขุมขนของผิวหนังโดยเฉพาะบนในหน้าเปิดกว้างมากขึ้น และทำให้วิตามินที่จะใช้รักษา สามารถแทรกซึมลงไปยังผิวหน้าได้มากกว่าการทาครีมหรือโลชั่นแบบธรรมดาด้วยช้อน ทอง 24k ในการผลักวิตามินและสารอาหารลงสู่ผิวอย่างล้ำลึก และ เนื้อทองคําบริสุทธิ์ ที่มีแร่ธาตุประโยชน์ต่อผิว นั่นเองค่ะ  จุดเด่นของ Golden Spoon อันนี้ คือ 1. หัวทรีทเมนท์ เป็นดีไซน์รูปช้อนวงรี ทำความสะอาดง่าย พร้อมทั้งสามารถใช้นวดหน้า- นวดตัวได้อย่างลงตัว สามารถผลักตัวสารบำรุงสำคัญ และปล่อยประจุได้ดี 2. หัวทรีทเมนท์ เคลือบด้วยทอง 24k ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ไม่ก่อให้เกิด การระคายเคืองเวลาใช้งาน 3. ด้ามจับกระชับมือ มีตัวรับประจุที่ด้าม ไม่ต้องใช้ตัวสื่อเหมือนเครื่องรุ่นเก่า โอเคเมื่อเรารู้จักว่าโปรแกรมนี้คืออะไรแล้วช่วยอะไรไปแล้ว งั้นเราไปดูขั้นตอนที่ยูริได้ทดลองใช้บริการนี้กันเลยดีกว่านะคะ  ขั้นตอนแรก พนักงานก็จะทำการเช็ดเครื่องสำอางให้กับเราค่ะ เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมก่อนที่จะทำการทำทรีทเมนท์นั่นเองค่ะ  ต่อไป ก็มาถึงขั้นตอน ผลักวิตามินให้ผิวหนัง (Moisturizing Mode) พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ต่อจากนั้น ก็นวดให้ครีมบำรุงต่างๆ วิตามิน เข้าสู่ผิวหนัง (Skincare Mode) พร้อมกับใช้ Light therapy ขจัดจุดด่างดำต่างๆค่ะ  ต่อไปก็มาถึงขั้นตอนการยกกระชับผิวหน้า (Lifting Mode) ด้วยระบบสั่นสะเทือน เพื่อบอกลาความหย่อนคล้อยบน ใบหน้า และที่มีประจุไฟฟ้าอย่างอ่อน จะเป็นสื่อกลางสู่ผิวหนัง ประจุไฟฟ้าดังกล่าวที่จะช่วยให้รูขุมขนของผิวหนังโดยเฉพาะบนใบหน้าเปิดกว้างมากขึ้น และทำให้วิตามินที่จะใช้รักษา สามารถแทรกซึมลงไปยังผิวหน้าได้มากกว่าการทาครีมหรือโลชั่นแบบธรรมดาค่ะ  หลังจากทำเสร็จก็รู้สึกได้ทันทีว่าหน้าดูนุ่มขึ้นมากค่ะ และยังดูสว่างขึ้นและดูกระชับขึ้นนิดนึงด้วยนะคะ ทำให้รู้สึกว่าเวลาที่เราแต่งหน้า จะทำให้เมคอัพติดทนมากขึ้นด้วยค่ะ สรุปแล้วก็เป็นโปรแกรมทรีทเมนท์ที่โอเคเลยนะคะ เหมาะมากสำหรับคนที่ คิดว่า ผิวของเราไม่ค่อยได้บำรุงผิวเท่าที่ควรค่ะ ก็ถ้าใครสนใจ ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แล้วครั้งนี้ยูริก็ขอตัวลากันไปก่อนแล้วกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อๆไปจ้า บ๊ายบาย
. สวัสดีค่ะ Review : การทำโปรแกรม Alpha AV เพื่อหน้าขาวใส ที่ กานต์ชนก คลินิก
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้ยูริได้รับเกียรติให้ไปทดลองใช้บริการ โปรแกรม Alpha AV ที่ กานต์ชนก คลินิก เลยจะมารีวิวลงบล็อกให้ทุกๆท่านได้ดูกันนะคะ เผื่อจะมีประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจจะทำอยู่บ้างนะคะ  ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่า โปรแกรม Alpha AV คืออะไรและช่วยอะไรได้บ้าง? ปรับผิวคล้ำ ขาวขึ้นได้ หรือผิวขาวแล้ว ขาวได้อีก สวยได้อีก กับนวัตกรรมใหม่ของการดูแลรักษาฝ้า กระ และรอยหมองคล้ำ พร้อมกระชับรูขุมขนในหนึ่งเดียว โปรแกรมเดียวที่จะช่วยตอบทุกความกังวลเรื่องผิวหน้า ด้วยเครื่องเลเซอร์ที่ได้ผลดีและเป็นที่ยอมรับในการรักษาฝ้าได้ทั้งชนิดตื้นและลึก ซึ่งกำลังได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ให้ผลการรักษาที่ดี เป็นเครื่องเลเซอร์ประเภท Q-Switched Nd:YAG ซึ่งใช้เทคโนโลยีชนิดพิเศษ ทำให้ลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้เครื่อง ยังมี "DOE Technology" ที่ทำให้ ลำแสงเลเซอร์ที่ปล่อยออกมาอยู่ในรูปแบบของ "Fractional Q-Switched Nd:YAG Laser" ที่ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า และความผิดปกติของเม็ดสีชั้นลึกโดยที่ผลข้างเคียงน้อยกว่าวิธียิงแบบปกติ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การ อาหารและยาจากประเทศ สหรัฐอเมริกา (US FDA) ซึ่งกานต์ชนก คลินิก เป็นที่ แรก ที่นำเครื่องเข้ามา ใช้ประเทศไทย เครื่องเลเซอร์ประเภท Q-Switched ND:YAG เป็นการรักษา ฝ้า กระ ลบรอยสัก และความผิดปกติของเม็ดสีชั้นลึก ด้วยโปรแกรม Alpha AV ของกานต์ชนก คลินิก  เมื่อเรารู้แล้วว่า การทำโปรแกรม Alpha AV คืออะไร ยูริจะเริ่มการรีวิวเลยนะค่ะ เริ่มแรกยูริก็ต้องเข้าไปคุยกับคุณหมอ เพื่อตรวจสภาพผิวหน้า ก่อนจะทำนั่นเองค่ะ คุณหมอก็จะแนะนำถึงผลการเข้ารับบริการและวิธีการดูแลผิวหลังรับบริการไปแล้วค่ะ  ขั้นตอนต่อไป คือ พนักงานก็จะทำความสะอาดผิวหน้าของเราก่อน จากนั้นก็จะ นวดหน้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต คล้ายความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ ให้ผิวหน้า กระชับขึ้น ซึ่งให้ความรู้สึกผ่อนคล้ายมาก ด้วยขั้นตอน 35 ท่า ประมาณ 15 นาที และต่อด้วยการทำ Oxybrite เป็นการเติมเต็มผิวด้วย Oxygen และวิตามิน C บริสุทธิ์ 100 % เข้าสู่ผิวหน้าช่วยทำความสะอาด คืนความสดชื่นและความกระจ่างใสให้ผิวหน้า ที่สำคัญเป็นการล้างสารพิษที่ค้างอยู่ใต้ผิวหน้าอีกด้วย ประมาณ 5 นาที  หลังจากทำขั้นตอนข้างต้น อะกี้เสร็จก็รู้สึกว่าหน้าใสขึ้นแล้วนะ แต่ยังก่อน เราต้องไปเลเซอร์กันต่อด้วยจ๊ะ  ระหว่างที่ทำเลเซอร์จะรู้สึกดีดๆนิดๆบริเวณที่มีขนบนหน้าค่ะ จริงๆไม่เจ็บเลยค่า ออกแนวสนุกดีด้วยนะคะ อิอิ คุณหมอบอกว่า เลเซอร์ตัวนี้จะช่วยให้หน้าเราขาวขึ้นทันที และที่สำคัญขนบนผิวหน้าก็หลุดหมดเลยค่ะ จึงทำให้หน้าของเราเนียนขึ้นนั่นเองค่ะ และที่สำคัญ คือหลังการรักษา การทาครีมหรือโลชั่นกันแดดทุกวันรวมทั้งหลีกเลี่ยงแดดเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดนะคะ หลังจากทำเลเซอร์เสร็จ พนักงานก็จะ Mask รอบดวงตา ด้วยมาร์ค โบท็อกซ์ ที่จะช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดเรือนริ้วรอยผิวรอบดวงตา ประมาณ 15 นาที และ Mask หน้า ด้วยมาร์คสาหร่าย ความเย็นจากการมาร์คจะช่วยดูดซับความร้อนหลังจากการยิง เลเซอร์ เพื่อลดอาการข้างเคียง พร้อมด้วยสารสกัดจากสาหร่ายประกอบไปด้วยกรดอะมิโนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวหน้า ประมาณ 15 นาที และสุดท้ายก็ แพ็คเย็น กดจุด นวดตัว ก็เป็นอันเสร็จค่ะ  หลังจากทำเสร็จทุกขั้นตอน หน้าอยู่ใสขึ้นเลย เย้เย้ ของยูริไม่มีอาการหน้าแดงหรือเป็นรอยแดงใดๆหลังทำเสร็จด้วยค่ะ ถือว่าได้ผลเป็นอันที่น่าพอใจมากค่ะ  และทางคลินิกก็ให้ผลิตภัณฑ์ของคลินิกมาใช้ด้วยค่ะ จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติด้วยนะคะ  ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kanchanokclinic.com , www.facebook/lovekcn , Cell center โทร 086-191-1910 อย่างไงครั้งนี้ก็ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่ติดตามอ่านกันเช่นเดิมนะคะ แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ บ๊ายบาย
แปลงโฉมทรงผมสไตล์เกาหลี กับ Prestige Hair Salon
สวัสดีค่ะ ทุกคน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ยูริได้เข้าไปทำผมแบบจริงจังกับร้านทำผม ซึ่งปกติยูริก็ทำผมเอง ตัดเอง ย้อมเอง ตลอดมา ก็ต้องยอมรับเลยว่า ไม่ค่อยกล้าเข้าร้านทำผมเพราะกลัวไม่ถูกใจ อิอิ  แต่ครั้งนี้ยูริได้รับเกียรติเชิญไปทำผม กับร้าน Prestige Hair Salon ซึ่งเป็นร้านที่ยูริคิดว่า เป็นสไตล์ที่ยูริชอบ และน่าจะทำออกมาได้ถูกใจยูริ เพราะเนื่องจากช่างที่นี้ส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลีและมีฝีมือทุกท่าน  และที่สำคัญ คุณ ซองจุน ยุน สไตล์ลิสผมมืออาชีพ ระดับแนวหน้าของเกาหลี ที่ผ่านการทำผม ออกแบบทรงผมให้กับศิลปิน ดารา นักร้อง ของเกาหลีมามากมาย อาทิ Rain, Lee Young Ae, TVXQ, Hye Jeon, Hee Sun Kim, Rae Won Kim Ext. และบรรดาเซเลบ ดารา ศิลปินในเมืองไทยจำนวนมาก ที่ อาจารย์ยุนได้ออกแบบทรงผมให้ด้วย ยูริก็เลยรู้สึกว่า นี้ละ ที่ยูริจะไว้ใจให้มาดูแลเส้นผมของยูริต่อจากนี้ไปค่ะ เอาละงั้นเรามาเริ่มกันเลยว่าครั้งแรกนี้ยูริเข้าไปทำอะไรมาบ้างจ๊ะ  อย่างแรกเลย ยูริช่วงนี้ผมแห้งเสียมากๆตรงช่วงปลายผมเลยให้ คุณยุนตัดออกให้ ก็จะตัดเป็นทรงตัว U ที่จะทำให้ผมดูหนามีน้ำหนักค่ะ แล้วก็ตัดตรงหน้ามาให้ดูหนาๆเป็นสไตล์เกาหลีด้วยค่ะ  ต่อมาก็เป็นการทำสีผมกันต่อค่ะ ซึ่งสีผมเดิมยูริไม่สม่ำเสมอกันเท่าไร เนื่องจากย้อมเองแบบมั่วๆ ก็เลยออกมาสีแปลกๆ ครั้งนี้ก็จะย้อมให้สีสม่ำเสมอกัน แล้วก็ขอย้อมเป็นสีน้ำตาลออกแดงๆด้วยค่ะ ของยูริในส่วนนี้ใช้เวลาทำสีอยู่ 40-50นาทีเลยค่ะ เพราะต้องปรับสีผมให้สม่ำเสมอกันค่ะ จากนั้นก็สระผมออกแล้วเราจะมาทำการวาคัรทับเพื่อเคลือบสีผมและบำรุงค่ะ  วาคัร ก็เป็นการทำสีธรรมชาติ ปกติทำได้แต่สีธรรมชาติ อันนี้ก็จะช่วยเคลือบสีที่ครั้งแรกไป และวาคัรมันช่วยเพิ่มประกายได้ด้วยอ่ะค่ะ วิธีก็ มีส่วนผสมหลัก 12 ชนิด , ธัญพืช ผสมกับชา ส่วนผสมหลักก็จะมีพวก สาหร่าย, สมุนไพรจีน, ถั่วดำ ถั่วแดง แต่หลักๆของยูริที่เห็นอาจารยผสมถั่วแดง เพื่อเน้นสีผมออกแดง และผงชาที่ใช้เป็นชาเขียวนะคะ ( ชิมชาได้ด้วยนะคะ ) ผสมวาคัรเสร็จแล้วทิ้งไว้แป๊บนึง ให้เซ็ตตัว ก่อนทาลงบนผม  เวลาทาก็ทาทีละช่อ แล้วค่อยๆนวด ให้ซึมเข้าผม แล้วห่อด้วย wrap พลาสติกใส ห่อหลวมๆ รอประมาณอีก 20 นาที ล้างออกน้ำอุ่น ก็เสร็จสิ้น ทำสีค่ะ  จากนั้นก็ถึงเวลาไดร์ผมเซ็ตผมให้เป็นลุคสไตล์สาวเกาหลีค่ะ แค่นี้ก็เสร็จสิ้นการทำผมของเราในวันนี้แล้วค่ะ ไหนๆเรามาดูกันว่าเสร็จแล้วออกมาจะเป็นอย่างไงน๊า  ออกมาอย่างที่เห็น ยูริชอบสีผมมากๆ สีสม่ำเสมอกันมากขึ้นแล้ว เย้เย้ แถมช่างก็เซ็ตผมออกมาได้สวยมากๆด้วยค่ะ ชอบมากเลย ผมดูเงาเป็นประกายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 555  เสร็จแล้ว ก็ขอถ่ายรูปกับ อจ.ยุน และ อจ.ฮาจิน สะหน่อย ที่สามารถทำผมออกมาได้ถูกใจยูริมากๆเลยค่ะ อิอิ สำหรับครั้งนี้ยูริทำที่ สาขา สุขุมวิท 33 ชื่อร้าน Y Wellness & Salon เจ้าของเดียวกันค่ะ แต่สาขานี้มีเกี่ยวกับสปาด้วยค่ะ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ และยูริก็มีกิจกรรม Academy มาประชาสัมพันธ์กันค่ะ เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ กับการสอนและถ่ายทอดประสบการณ์โดยอาจารย์ยุน เรียนรู้จากการทำงานจริง เพียง 15,000 บาท พร้อมอุปกรณ์การเรียนครบเซ็ทสั่งตรงจากเกาหลี ที่เรียนจบสามารถเป็นช่างผมได้ทันที เรียน 12 ครั้ง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทุกวันจันทร์, พฤหัส, ศุกร์ เวลา 11.00-12.00น.ที่ สาขาทองหล่อ หรือเสาร์-อาทิตย์ 8 ชม. 9,000 บาท อุปกรณ์การเรียนครบเซ็ต สอบถามรายละเอียดการสมัครเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-204-1748 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ และครั้งนี้ถ้าใครสนใจอยากจะมาทำผมที่ร้านก็เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ และขอบคุณภาพสวยๆจากพี่ช่างภาพ https://www.facebook.com/Forzanu ที่อุสามาภ่ายภาพสวยๆให้ยูริในครั้งนี้ค่ะ เดี๋ยวครั้งต่อไปยูริจะไปทำอะไรที่ร้านต่ออีกบ้าง รอติดตามกันนะคะ ครั้งนี้ขอบคุณมากๆที่ติดตามอ่านกันเช่นเคยค่ะ บ๊ายบาย..... |
Yuriukuri
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 297 คน [?]    canon eos 70D    
|
