อยากให้ทุกคนมีความสุข! เหมือนผม ร้านผมเองครับ ไปดูได้นะ www.waydhanarshop.com
Group Blog
 
All Blogs
 
3.2 มีเมล็ดแล้วต้องทะยอยปลูก (1)

เงินทองทรัพย์สินปัจจัย 4 ของเรา จะเปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์แห่งทานที่เรามี ก่อนจะปลูกเพื่อนเก็บเกี่ยวดอกผล ต้องคำนวณให้ดีๆว่า ระหว่างที่ต้นใหม่ยังไม่โตพอที่จะออกผลผลิตเรายังพอมีเมล็ดพันธุ์ธัญาหารเอาไว้กินไว้ใช้พอไหม

บางคนเวลาทำบุญมักใจใหญ่ ไม่พิถีพิถันคิดหน้าหลังให้ดีก่อนทำ เทหมดกระเป๋าทำบุญให้ทาน จนเกิดเดือดร้อนเพราะไม่มีอะไรกินเป็นหนี้สินตามมา

การทำทานคือการปลูกต้นไม้แห่งทรัพย์สินที่แม้จะมีดอกผลที่หอมหวานชวนให้อยากปลูกรอกินผลมหาศาลข้างหน้า แต่ต้องคิดดีๆแบ่งสรรปันส่วนว่า ตอนนี้เรามีเงินมีทรัพย์อยู่เท่าไร ควรจะแบ่งไปทำทานเท่าไรจึงเหมาะสม ตามกำลังความสามารถ กำลังศรัทธาของเรา จะแบ่งไว้กินไว้ใช้ส่วนตัว หรือเลี้ยงดูลูกเมียสักเท่าไรจึงจะดี ต้องคำนวณดีๆ

สมมติว่าเรามีเงินอยู่ 100 บาท พระพุทธเจ้าท่านแนะนำให้ใช้จ่ายให้พอดีสมหับฐานะของตน(สมชีวิตา) โดยใช้ชีวิตความเป็ยอยู่ให้ดีพอกับฐานะไม่ขี้เหนียวเกินไป หรือฟุ่มเฟือยเกินไป คือรู้จักใช้ทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์แบ่งเป็นข้อๆตามนี้
1. ใช้เลี้ยงดูตัวเอง ซื้ออาหาร เครื่องใช้ เสื้อผ้า ต่างๆตามสมกับฐานะของเรา ถ้าจะยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายก็ก็น่าจะพูดเรื่องรถยนต์ ยานพาหนะกันดีกว่า
คนแรกเรียนจบทำงานดี มีเงินเดือน สองสามหมื่น ที่ทำงานไกลจากบ้านมาก
ก็เลยเก็บเงินซื้อรถราคาปานกลาง 1 คัน เพื่อไว้ใช้ขับไปทำงานไม่ให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป มีความสุขพอควร แบบนี้ก็เรียกว่าใช้จ่ายสมฐานนะ

คนที่สองเป็นเจ้าของกิจการ มีรายได้หลักล้าน ที่ทำงานไกลจากที่บ้านพอใช้
ก็แบงเงินมาซื้อรถที่มีความสะดวกสบายสูง ถึงแม้ว่าจะราคาป็นล้านๆ แต่ก็พอจ่ายได้โดยไม่เดือนร้อนและก็สามารถขับไปทำงานได้อย่างมีความสุข สบาย แบบนี้ก็เรียกว่าใช้จ่ายสมฐานนะ

คนที่สามเป็นเจ้าของกิจการ มีรายได้หลักแสน แต่อยากมีรถราคาหลายล้าน ถึงแม้จะมีความสบายสูงแต่ตนเองต้องทำงานหนักขึ้นหลายเท่าเพื่อเก็บเงินไว้จ่ายเงินค่ารถ จนความเป็นอยู่ประจำวันลำบากขึ้นจนบั่นทอนความสุขของชีวิตไปมาก แบบนี้ก็เรียกว่าใช้จ่ายไม่สมฐานะ

คนที่สี่เป็นเจ้าของกิจการมีเงินเยอะนับไปถ้วน ต้องเดินทางไปทำงานที่ไกลแต่ขี้เหนียวไม่ยอมจ่าย ทนขับจักรยาน หรือซื้อรถเก่ามาใช้โดยที่เงินที่เหลือก็เก็บไว้เฉยๆไม่ไปทำอะไร แบบนี้ก็เรียกว่าเป็นคนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินเงินทองที่ตนหามาได้อย่างเหมาะสม

ในข้อนี้แต่ละคนจะต้องคิดๆพิจารณาเอาเองว่าระดับไหนที่เป็นระดับฐานนะของใช้ที่เหมาะกับฐานะความเป็นอยู่ที่จะมีความสุขกับเงินทองที่หามาได้ของตัวเอง


Create Date : 08 มีนาคม 2553
Last Update : 11 มีนาคม 2553 0:22:25 น. 1 comments
Counter : 248 Pageviews.

 
สวัสดีครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 9 มีนาคม 2553 เวลา:20:26:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

waydhanar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ผมเป็นคนชอบกิน
ต้อง กินของอร่อยๆ
เลยเปิดร้านขนมอร่อย ที่มีแต่ของอร่อย
กินแล้วมีความสุข

ผมเป็นคนสนใจธรรมะ
เคารพธรรม
มีธรรมแล้วมีความสุข
เลยเขียนธรรมะให้อ่านง่ายๆ
ให้มีความสุขง่ายๆเหมือนผม
Friends' blogs
[Add waydhanar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.