ความรู้ผสมผสานกับสัญชาติญาณ.....ความอ่อนไหวผสานกับความเข้าใจ.....ศิลปะผสานกับความคิด.......นี่แหละตัวฉัน
|
||||
เมื่อคนไทป์ 4+5 ได้มาดูซี่รี่ย์เกาหลี You are beautiful. (ภาค 2)
ขอโทษที่มาช้าไปนิดนะคะ
ภาค 2 นี้เป็นภาคที่เกี่ยวกับลักษณ์ 4 นะคะ พระเอกแทคยองก็มีบางมุมที่ผู้เขียนมองเห็นความเป็นลักษณ์ 4 ค่ะ แม้ว่าในเรื่องอารมณ์และความรู้สึกจะเป็นเรื่องของนามธรรมที่มองไม่เห็นชัดเจนที่จะระบุลักษณ์ แต่ผู้เขียนได้กลิ่นไอลักษณ์ 4 จากอารมณ์ของเรื่องและบทพูดของพระเอกในหลายๆ ฉากค่ะ เรียกว่าใช้ใจสัมผัสใจค่ะ......งั้นมาเริ่มกันเลยค่ะ ตอนที่ 8 (ฉากนี้ให้เครดิตคำแปล M THAI เพราะผู้เขียนมาเพิ่มเติมทีหลังโดยที่แผ่นตอนนี้ไม่อยู่กับตัวเอง เลยขอยืมจาก MTHAI คือผู้เขียนต้องการเกริ่นนำบทพูดฉากสำคัญฉากนี้ เพื่อให้เห็นภาพคนลักษณ์ 4 ได้ชัดเจนขึ้น ) ฉากที่วันนี้เป็นวันเกิดพระเอก แม่พระเอกได้นัดเจอพระเอกโดยไม่ได้บอกว่าวันนี้จะมีนักข่าวมาทำข่าวรีเมคเพลง โดยให้พระเอกเป็นโปรดิวเซอร์ชื่อดังให้อัลบั้มนี้ แต่พระเอกได้ปฏิเสธต่อหน้านักข่าวทำให้แม่พระเอกอับอาย จึงตามมาคุยกับพระเอกที่ดาดฟ้า... ซึ่งฉากนี้แม่พระเอกได้ทำให้พระเอกร้องไห้อย่างน่าสงสาร แม่พระเอก........ ทำไมเธอจะต้องทำให้ชั้นขายหน้าด้วยล่ะ พระเอก............ คุณโกรธถึงตามมาที่นี่งั้นเหรอ ...................... ผมคิดว่าคุณไม่กลัวคนอื่นซะอีก แม่พระเอก........ ใช่ ชั้นไม่กลัวหรอก ...................... อะไรที่ทำให้ชั้นสูญเสีย ...................... บ้าจริง ถ้าชั้นเปิดเผยว่าเธอคือลูกชายของชั้น คนจะได้สนใจเรามากขึ้นไง ...................... หรือตอนนี้เธอกลัว ...................... ชั้นไม่ต้องการเพลงไหน ชั้นต้องการแค่เพลงนี้ ...................... ชั้นอยากจะให้คนทั้งโลกสนใจและฟังมัน นั่นแหละที่ชั้นต้องการเธอ พระเอก............ คุณคงรักเค้ามากนะคนแต่งเพลงน่ะ ...................... ความรักนี้ใช่ไหมที่ทำให้คุณทิ้งผม แม่พระเอก........ อย่ามาทำเป็นเยาะเย้ยชั้นนะ มันมีค่ามากกว่าเธอ พระเอก............ ทำไมมันถึงน่ากลัวสำหรับผมล่ะ....ไปเถอะ แม่พระเอก........ แต่ชั้นให้เธอเกิดมานะ ...................... เพราะเธอไง เป็นเพราะชั้นให้เธอเกิด ชั้นถึงต้องสูญเสียสิ่งมีค่าไป ...................... โอเค เธอกลัวเพราะว่าชั้นจะไปจากเธอ ...................... แต่ชั้นสูญเสียเค้าไปก็เพราะเธอ นั่นคือสิ่งที่ชั้นกลัว ...................... ชั้นให้เธอเกิดมา อย่างน้องเธอก็ควรจะช่วยชั้น เก็บรักไว้ในความทรงจำบ้าง พระเอก............ ถ้าคุณเรียกร้องบุญคุณที่ทำให้ผมเกิด อย่างน้อย........ ...................... อย่างน้อยๆ คุณก็ควรจะจำมันได้บ้าง แม่พระเอก........ วันนี้เหรอ คำอธิบายของผู้เขียนคน 4 ลักษณ์ 4 ศิลปิน (Artist) คือ ไทป์ที่ตอบสนองต่อความรู้สึกก่อนสิ่งอื่นใด คนที่ขาดพร่องอยู่ภายใน พระเอกเติบโตมาพร้อมความรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ว่าถูกละเลยไม่เลี้ยงดู แล้วยิ่งต้องไปพบแม่ที่ต้องทำงานในวงการเดียวกันโดยไม่เคยเปิดเผยว่าเป็นลูก ไม่เคยจดจำเรื่องราวสำคัญของตัวเอง ที่เป็นโรคภูมิแพ้อาหารบางประเภท คือแพ้กุ้ง และแพ้น้ำมันงา และแพ้เกสรดอกไม้ หรือแม้แต่วันเกิดของพระเอกก็ยังจำไม่ได้ ยิ่งตอกย้ำว่าแม่ไม่เคยสนใจเรื่องราวของตัวเอง ตัวเองต้องเป็นคนไม่สำคัญสำหรับแม่แน่นอน......... โอ๊ย........ฉันไร้ค่าอีกแล้ว คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉันกลับไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตา ....ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ฉากนี้เป็นวันเกิดพระเอกที่แม่นัดออกไปเจอ พระเอกก็คงมีความหวังว่าแม่คงจะพอจำได้บ้าง หรือมีอะไรพิเศษๆ บ้าง แต่กลับกลายเป็นว่าแม่ห่วงแต่งานของตัวเอง ห่วงแต่ความรู้สึกตัวเอง โดยไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเรื่องของพระเอกเลย แถมยังไม่แคร์ความรู้สึกของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกอีกต่างหาก พยายามตอกย้ำว่าเพราะพระเอกเกิดมา แม่พระเอกจึงต้องสูญเสียคนรักซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับแม่มาก มันตอกย้ำว่าพระเอกคน 4 ไม่มีค่าพอให้แม่เลือก ........พระเอกคงรู้สึกว่าฉันเป็นคนเหลือเลือกอีกแล้ว....... พระเอกจึงพูดว่า.........คุณคงรักเค้ามากนะคนแต่งเพลงน่ะ ความรักนี้ใช่ไหมที่ทำให้คุณทิ้งผม ดังนั้นฉันนี้ช่างเป็นคนไร้ค่าเสียจริงๆ....... ฉากนี้พระเอกร้องไห้อย่างน่าสงสารมากๆ คน 4 เวลาเจ็บปวด หัวใจมันเหมือนจะแหลกสลายให้ได้ค่ะ ตอนที่ 9 (ช่วงที่ 1) ฉากที่หลังจากนางเอกพาพระเอกไปฉลองวันเกิดให้ (เพราะเพิ่งเห็นว่าพระเอกร้องไห้อย่างหนักหลังจากได้พูดคุยกับแม่มา) พระเอก เพราะฉันได้ใช้เวลาเรื่อยเปื่อยกับเธอ เวลาเลยผ่านไปรวดเร็ว ............ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คงเป็นวันที่น่าหวาดกลัวอันยาวนาน คำอธิบายของผู้เขียนคน 4 ลักษณ์ 4 เป็นคนอ่อนไหว , เป็นคนโรแมนติกที่มีความรู้สึกที่เข้มข้นและอารมณ์รุนแรง เพราะมีความลึกซึ้งทางอารมณ์ที่หลากหลาย เวลาโหมดอารมณ์และความรู้สึกเปิดขึ้น มันไม่สามารถปิดก่อนจบรอบของมัน ดังนั้นเมื่อความรู้สึกใดเกิดขึ้น มันจะค่อยๆ เข้มข้นขึ้นทีละนิดไปจนสุดทางของอารมณ์นั้นๆ.....แบบหยุดไม่ได้ ฉะนั้นเวลาที่คน 4 ต้องพบเจอเรื่องราวที่ทำให้เศร้า ก็จะเศร้าสุดขีด เศร้าหดหู่ เศร้าห่อเหี่ยว เศร้าขมขื่น เศร้าแบบตัวคนเดียวใครก็แบ่งเบาไม่ได้ เศร้าแบบตอกย้ำว่าบางสิ่งบางอย่างได้ขาดหายไปจากชีวิตจริงๆ สิ่งที่โหยหามันไม่เคยเต็ม......มันยิ่งขาดหายไปอีกแล้วหรือนี่ โดยเฉพาะความเศร้าที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวตัวเองที่แตกแยก ที่เป็นเด็กบ้านแตก ยิ่งตอกย้ำความไร้ค่า ความไม่ดีพอของตัวเองที่จะให้ใครรัก พ่อแม่ถึงต้องแยกทางทอดทิ้งตัวเองไป....ดังนั้นฉากที่พระเอกไปพบแม่กลับมาแต่ละครั้ง มันมีแต่ความเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่นั้นไม่มีเยื่อใยกับตัวเอง มันช่างเจ็บปวดที่สุด เป็นความเจ็บปวดมากกว่าคนทุกลักษณ์ เพราะคน 4 ได้ชื่อว่าเป็นผู้ติดหล่มอารมณ์ด้านลบอยู่แล้ว...แต่เมื่อพระเอกกลับมาบ้านแล้วต้องพบกับเรื่องวุ่นวายของนางเอก จึงทำให้พระเอกลืมความทุกข์ของตัวเองไปชั่วขณะ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับพระเอกคน 4 ไม่อย่างนั้นพระเอกต้องติดหล่มความเศร้าไปอีกสักพักใหญ่ๆ แบบที่ใครก็ช่วยแบ่งเบาไม่ได้.....พระเอกจึงพูดกับนางเอกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คงเป็นวันที่น่าหวาดกลัวอันยาวนาน ตอนที่ 10 พระเอกได้ดูแลตอนนางเอกไม่สบายและได้บอกนางเอกตอนสร่างไข้ว่า 1. ต่อไปก็อย่าทำสิ่งที่เธอจะรู้สึกผิด 2. คุยกันในสิ่งที่ควรจะทำ 3. และใช้ชีวิตอย่างรู้สึกขอบคุณ คำอธิบายของผู้เขียนคน 4 สิ่งที่พระเอกบอกนางเอก 3 ข้อ คือสิ่งที่คนลักษณ์ 4 บอกตัวเอง ข้อที่ 1.......คน 4 จะพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกผิด เพราะคน 4 กลัวการถูกตำหนิติเตียน ที่มันจะเป็นการตอกย้ำความบกพร่องภายในของตัวเอง ข้อที่ 2.......คน 4 ต้องเปิดเผยตัวตนเปิดเผยความรู้สึก ต้องพูดคุยในสิ่งที่ต้องการ ต้องรู้จักสื่อสารความต้องการซึ่งกันและกัน ข้อที่ 3........คือการก้าวข้ามผ่านกับดักของลักษณ์ 4 ที่ชอบติดหล่มอารมณ์และความรู้สึกเจ็บปวดในอดีต ด้วยการใช้ชีวิตอย่างรู้สึกขอบคุณ ขอบคุณทุกการเรียนรู้ ขอบคุณทุกประสบการณ์ไม่ว่าดีหรือขมขื่น ขอบคุณทุกบทเรียนชีวิต เพราะมันคือการให้ชีวิตใหม่กับตัวเองตอบแทนตัวเอง ตอนที่ 11 ฉากที่นางเอกไปหากิ๊บที่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมจัดงานแล้วเอากิ๊บกลับมาซ่อม แต่กาวมันทำให้นิ้วนางเอกติดกันแกะไม่ออก พระเอกจึงเข้ามาช่วยเหลือ นางเอก............ พี่ฉันสร้างปัญหาอีกแล้ว พระเอก............ ตอนนี้ไม่เป็นไรหรอก ต้องขอบใจเธอ ...................... ฉันถึงได้หยุดคิดปัญหาซับซ้อน แล้วมาสนใจนิ้วที่มาติดกันได้อย่างน่าแปลก ดีแล้วล่ะ คำอธิบายของผู้เขียนคน 4 ก็อย่างที่อธิบายไว้ในตอนที่ 9 ว่าพระเอกต้องขอบใจนางเอกด้วยซ้ำ ที่ความวุ่นวายของนางเอกเข้ามาทำให้พระเอกหยุดคิดปัญหาซับซ้อนของตัวเองได้ เพราะการที่พระเอกไปพบแม่กลับมา มักกลับมาพร้อมความบอบช้ำและเศร้าเสียใจ หดหู่ และยิ่งโหยหาความรักมากขึ้นไปอีก ตอนที่ 16 (ช่วงที่ 1) ฉากที่พระเอกกำลังเตรียมตัวขึ้นคอนเสริต์อยู่ด้านหลังเวที ซึ่งเป็นคอนเสริต์ก่อนที่นางเอกจะเดินทางไปแอฟริกา แล้วเดินสวนกับตัวอิจฉาที่มาเป็นกำลังใจให้พี่ชายนางเอก ตัวอิจฉา........... คุณไม่ขายหน้าที่เรื่องจอมปลอมถูกจับได้ ...................... แต่ขายหน้าที่ความจริงถูกเปิดเผยใช่ไหม ...................... แกล้งทำใจเย็นจนจบ อย่าขมขื่นละกัน ...................... ถ้าความรู้สึกที่แท้จริงถูกเปิดเผย ภาพลักษณ์คุณคงพัง คำอธิบายของผู้เขียนคน 4 ชอบปกปิดความรู้สึก เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง คนลักษณ์ 4 ฟอร์มเยอะ เวลาที่อยากได้อะไร ต้องการอะไร ก็ไม่บอกตรงๆ หรือแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่จะบอกแบบอ้อมๆ เป็นนัยยะแอบแฝง เพราะอายที่จะให้ใครรู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ว่าตัวเองต้องการอะไร ด้วยกลัวว่าคนอื่นจะเห็นข้อไม่ดีข้อบกพร่องของตัวเอง คนศูนย์ใจ( ลักษณ์ 2 , 3 , 4 )ต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก เพราะคนศูนย์ใจให้ค่าในเรื่องสัมพันธภาพมาก จึงกลัวการถูกปฎิเสธ กลัวไม่ได้รับการยอมรับ.... ความรู้สึกภายในของคน 4 ชอบรู้สึกว่าตัวเองประหลาด ตัวเองไร้ค่า ต่ำต้อยด้อยค่า ถ้าคนอื่นยิ่งมารู้มาเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง คงยิ่งถูกรังเกียจเดียดฉันท์จากคนรอบตัวแน่นอน ถ้าคน 4 ขาดสัมพันธ์ภาพย่อมอยู่ไม่ได้แน่นอนเช่นกันค่ะ ดังนั้นพระเอกคน 4 จึงไม่อายที่ถูกจับได้ในเรื่องที่โกหกไว้ ว่าเป็นแฟนกับตัวอิจฉา เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง แต่พอความรู้สึกที่แท้จริงที่ชอบนางเอกมาก กลับกลัวนางเอกและคนอื่นรู้.....มันน่าอายที่จะให้ใครรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร การแสดงความต้องการอย่างโจ่งแจ้งมันแสดงถึงการไม่มีรสนิยม การแสดงความต้องการหรือตัวตนของคน 4 ต้องมีสไตล์ มีความพิเศษไม่ธรรมดาสามัญ ต้องน่าดึงดูด ต้องมีเอกลักษณ์ เพื่อกลบเกลื่อนความต่ำต้อยภายใน เพราะถ้าคน 4 มีในสิ่งที่คนทั่วไปมีได้ คน 4 จะไม่รู้สึกเท่าเทียม ยังไงมันก็ขาดพร่อง คน 4 ถึงต้องมีในสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถมีได้ ต้องแปลกแหลกแนวไม่ซ้ำใคร ซึ่งมันก็คือความคิดสร้างสรรค์ของคน 4 ที่คนลักษณ์อื่นยากจะทำได้ค่ะ (ช่วงที่ 2) ฉากที่พระเอกคุยกับแม่ก่อนขึ้นคอนเสริต์ฯ พระเอก............ ที่ผมไม่เคยคิดว่า คุณเป็นคนประเภทที่จะยื้อผมไว้ คำอธิบายของผู้เขียนคน 4 พระเอกคน 4 ย่อมรู้สึกแปลกใจที่แม่ตัวเองผู้ไม่เคยเห็นคุณค่าตัวพระเอก จะกลับมาขอโทษและยื้อความสัมพันธ์ไว้ มันมีผลให้ลดความเจ็บปวดในใจคน 4 อย่างมาก เป็นอันว่าจบภาค 2 แล้วขอไปทำภาคสรุปอีกนิดหน่อยค่ะ คืออยากสรุปสิ่งที่ยังติดค้างไม่เข้าใจความหมายบางอย่างจากซี่รี่ย์นี้......ถ้ามีเวลานะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน เมื่อคนไทป์ 4+5 ได้มาดูซี่รี่ย์เกาหลี You are beautiful. (ภาค 1)
ผู้เขียนเองเป็นคนเริ่มศึกษาศาสตร์วิชา Enneagram
ซึ่งเป็นศาสตร์เกี่ยวกับจิตวิญญาณหรือแผนที่เข้าถึงคนเข้าถึงตนมาได้สักระยะหนึ่ง ก็พอประเมินว่าตัวเองมีความเป็นคนทั้งลักษณ์ 4 และ 5 ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าตัวเองเป็นคนลักษณ์ 4 ปีก 5 หรือลักษณ์ 5 ปีก 4 แต่ก็พอมองและวิเคราะห์ในกรณีที่ตัวละคร มีบุคลิกเหมือนตัวเอง ก็เลยอยากแชร์ อยากแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจต่างๆ กับผู้อื่นบ้าง เพราะเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่คิดทำบล็อกเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ บวกกับตัวผู้เขียนเองก็ได้ฝึกดึงตัวเองจากสภาวะภายในออกมาเป็นคำพูดคำอธิบายด้วยค่ะ (ลักษณ์ 4 และ 5 มีปัญหาเรื่องการอธิบายความคิดของตนเองให้คนอื่นเข้าใจ) เหมือนกับเป็นเรียนรู้จักตัวเองอีกรูปแบบหนึ่งผ่านตัวละครเรื่องนี้ค่ะ จึงเป็นที่มาของการทำบล็อกนี้ บล็อกนี้ถือเป็นบันทึกการเรียนรู้ส่วนหนึ่งของผู้เขียน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การคิดวิเคราะห์เหล่านี้เป็นเพียงความรู้ความเข้าใจของตัวผู้เขียนเอง ซึ่งถ้าเกิดข้อผิดพลาดประการใด ก็ขอน้อมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวทุกประการค่ะ และด้วยลักษณะนิสัยของคน 4 , 5 ส่วนใหญ่จะขี้อายและด้วยจริตอีกอย่าง ที่เป็นอุปสรรคกับการทำอะไรอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าคนเยอะๆ ที่ตัวเองคอยแต่จะคิดว่า มันจะดีพอไหม มันจะมีประโยชน์จริงๆ เหรอ จะมีใครหัวเราะเยาะไหม กลัวคนหาว่าเราไร้สาระ แบบเนี้ยแหละค่ะที่ทำให้เราไม่ได้ทำบล็อกซักที เปลี่ยนใจไปมาเป็นร้อยครั้งแล้วค่ะ สุดท้ายก็บอกตัวเองว่าไม่ทำดีกว่า ทั้งๆ ที่ดูซี่รีย์เรื่องนี้ตั้งแต่สงกรานต์แล้วและดูมา 3 รอบจนกระทั่งในทีวีนำมาฉายจนใกล้จะจบแล้ว วันนี้ก็เลยคิดว่าเอาหน่า ! ลองดู......คิดว่าทำการบ้านผ่านละครก็แล้วกัน ไม่งั้นคน 5 จะชอบแต่คิดโดยไม่ลงมือทำซะที ( นักคิดที่ไม่ใช่นักปฏิบัติ ) ขอเริ่มเข้าประเด็นเลยค่ะ........เริ่มจากที่ดูรอบแรกก็ชอบเรื่องนี้มาก จนต้องดูรอบ 2 เพื่อเก็บรายละเอียดต่างๆ เพื่อความซาบซึ้งในบทละครอีกครั้ง แต่มันกลับรู้สึกมีอะไรค้างคาใจ.....มีอะไรลึกๆ ที่อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม เหมือนมันเจอแรงบันดาลใจบางอย่างที่ตัวผู้เขียนเองชอบฉากหลายฉาก และบทพูดหลายๆ ตอนของพระเอกมาก จนต้องดูรอบ 3 เพื่อหาความหมายต่างๆ ในฉากนั้นๆ จึงเป็นที่มาที่ว่าผู้เขียนเองเชื่อว่าบุคลิกพระเอกแทคยอง เรื่อง You are beautiful ต้องมีความเป็นคนลักษณ์ 4 และ 5 แน่นอน แต่ตอนที่ดูครั้งแรกนั้นผู้เขียนเองก็รู้แค่ตัวเองเป็นคนลักษณ์ 4 โดยที่หลังจากดูครบ 3 รอบแล้วถึงเพิ่งมาทราบว่าตัวเองก็มีลักษณ์ 5 ด้วย ดังนั้นซี่รี่ย์เรื่องนี้มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ผู้เขียนได้พบโลกใหม่แบบถูกที่ถูกเวลาที่สุด และอะไรบ้างที่ทำให้ผู้เขียนเชื่อแบบนั้น..............ตามมาค่ะ คนลักษณ์ 4 และลักษณ์ 5 เป็นคนประเภทที่ชอบอยู่กับตัวเอง ชอบจมดิ่งกับโลกภายใน โดยคน 4 จมดิ่งด้วยอารมณ์ความรู้สึก แต่คน 5 ชอบดำดิ่งด้วยความคิด แต่เรื่องนี้ผู้เขียนมองเห็นบคุลิกคน 5 ในตัวพระเอกแทคยองมากกว่าคน 4 และแผ่นซีรี่ย์ที่ผู้เขียนดูมีซับไทยโดย...วลัยภรณ์ ซึ่งผู้แปลท่านนี้ค่อนข้างเข้าใจและใช้คำพูดที่แสดงถึงความเป็น 4 และ 5 ในตัวพระเอกมากค่ะ เพราะเมื่อผู้เขียนไปดูแอบดูเวอร์ชั่นที่แปลโดยท่านอื่น (ไปดูบ้านเพื่อน) มันไม่อินเท่าซับไทยโดย...วลัยภรณ์ ดังนั้นผู้เขียนอ้างอิงซับไทยโดยวลัยภรณ์นะคะ ตอนที่ 1 ฉันจะอธิบายกฎของที่นี่อย่างเร็ว ตั้งใจฟังให้ดี เป็นฉากที่นางเอกโกมินัมแอบเข้าไปห้องพระเอกแล้วไปหลบในห้องน้ำ แล้วไปโดนปุ่มชักโครกต่างๆ แล้วน้ำพุ่งเลอะเปรอะเปื้อน พอนางเอกจะเอามือสกปรกไปแตะตัวพระเอก แต่พระเอกแสดงท่ารังเกียจ จึงได้บอกกฎ 3 ข้ออย่างเร็ว 1. อย่าโดนตัวฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต ( ฉันตกใจเวลานายเข้ามาใกล้ในทันที) 2. อย่าเข้าห้องฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. อย่าแตะต้องของของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต คำอธิบายของผู้เขียนคน 5 กฎข้อที่ 1 ที่พระเอกบอก มันสื่อถึงการกลัวการถูกจู่โจมแบบตั้งตัวไม่ทันของคน 5 อย่าโดนตัวฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต ( ฉันตกใจเวลานายเข้ามาใกล้ในทันที) คน 5 จะรู้สึกตกใจมากถ้ามีอะไรจู่โจมแบบตั้งตัวไม่ทัน มันจะเป็นความกลัวที่ไม่เหมือนคนปกติทั่วไป คน 5 บางคนกลัวแบบอาจช็อกได้ แบบอาจหมดสติได้ แบบอาจหัวใจวายได้ แต่กับผู้เขียนจะเป็นลักษณะกระวนกระวายใจอยู่ไม่เป็นสุขจริงๆ จนกว่าจะคิดว่าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างไรจึงจะจบความกังวลใจนี้ได้ค่ะ.... เนื่องมาจากลักษณ์ 5 มีแรงขับดันภายใน***คือ ความกลัวโลกที่ไม่ปลอดภัย กลัวสิ่งที่ไม่รู้ กลัวสิ่งที่ไม่เข้าใจ กลัวอันตรายจะเข้ามา แต่เป็นความกลัวที่ทำให้คน 5 มีพฤติกรรมชอบควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในระดับที่ตัวเองไม่ตกใจ ต้องรู้ว่าจะตั้งรับอย่างไร คน 5 จะไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตัวเองควบคุมไม่ได้.......... เพราะคน 5 เวลาธรรมดาทั่วไปจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เลยแม้แต่นิดเดียว (ใช้ชีวิตด้วยข้อมูลเป็นหลัก แต่ตัวผู้เขียนก็มีอารมณ์สุนทรียะและความรู้สึกลึกซึ้งแบบคน 4 ในบ้างครั้งนะคะ) เหมือนคนตายด้านเย็นชาที่คนทั่วไปกล่าวหากัน แต่เวลาที่ถึงจุดๆ หนึ่งอารมณ์มันก็มาแบบน้ำเดือด 100 องศา มันจะปรี๊ดมาก จะมีลักษณะอารมณ์และความรู้สึกแบบพวยพุ่งแทบจะควบคุมไม่ได้ ....... เหมือนจิตใต้สำนึกทำการสะกดความบาดเจ็บทางใจที่คน 5 มีมากจนรับไม่ไหว ให้กลายเป็นไม่รับรู้ความรู้สึกใดๆ เหมือนคนไร้อารมณ์ .......... แต่ผู้เขียนรู้สึกได้เองว่าถ้าต้องเจอเหตุการณ์ใดบ่อยๆ จนความรู้สึกเกิดได้ก็แสดงว่า เรานั้นได้รับปริมาณการตอกย้ำจนถึงขีดสุดแล้ว อารมณ์มันทะลุขีดจำกัดออกมาเป็นพวยพุ่งห้ามไม่ได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์การถูกรบกวนในเรื่องที่เรื่องเกี่ยวข้องกับเวลา , พลัง , พื้นที่ส่วนตัว นี่ปรี๊ดแตกจริงๆ ค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปนี่แค่พอมีเวลาทบทวนบ้าง ก็จะรู้สึกได้ว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนั้นๆ โดยไม่พวยพุ่ง........เรียกว่าความรู้สึกช้าค่ะ......... คน 5 กลัวอารมณ์และความรู้สึกที่รุนแรงมากจนควบคุมไม่ได้อันนี้มาก จึงใช้การถอยห่างแทนที่ความกลัว ซึ่งเรียกอาการอย่างนี้ว่า การถอยห่างทางอารมณ์ ......แต่คน 5 ทั่วไปคงไม่มีใครรู้ข้อจำกัดตรงนี้ แต่มาพอผู้เขียนมาศึกษาเอ็นเนียแกรม จึงทำให้เข้าใจพฤติกรรมหลายอย่างที่ตัวผู้เขียนไม่เคยเข้าใจตัวเองมาก่อน และศาสตร์อื่นๆ ก็ไม่เคยอธิบายได้ ตัวผู้เขียนเองจึงทึ่งมากกับแผนที่วิชาเอ็นเนียแกรมนี้ กฎที่ข้อ 2 และ 3 ที่พระเอกบอก มันสื่อถึงการที่คน 5 ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัย เพราะสิ่งจำเป็นสูงสุด 3 อย่างของคน 5 คือ เวลา , พลัง , พื้นที่ส่วนตัว... คน 5 เป็นคนชอบเก็บตัวมาก ชอบอยู่ในโลกของตัวเอง และจะรู้สึกหมดพลังได้ง่ายเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับผู้อื่นมากเกินไป (อาจเพราะพูดจาสื่อสารกับผู้อื่นไม่ค่อยเข้าใจ จึงต้องหันเข้าหาตัวเองและอยู่กับตัวเองซะเยอะ) คน 5 กลัวถูกก้าวก่าย ต้องการความเป็นส่วนตัวและมีขอบเขตบริเวณที่ชัดเจน ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่คน 5 เก็บตัวเพื่อเรียกพลังกลับคืนมาและคิดอะไรให้รอบคอบ *** (ทุกลักษณ์จะมีแรงขับดันภายในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นเหมือนกรรมเก่า มีพลังอำนาจมากมายทำให้เกิดเป็นพฤติกรรมบุคลิกภาพของแต่ละคน)*** _____________________________________________________________________________________ ตอนที่ 4 ฉากที่ พระเอกกำลังถูกส่งตัวขึ้นรถพยาบาลหลังจากที่ได้ช่วยนางเอกในสระว่ายน้ำแล้วนางเอกพลาดถีบพระเอกจนหมดสติในน้ำ ฉากนี้นางเอกกำลังจับมือพระเอกที่นอนอยู่บนรถเข็นเหมือนส่งกำลังใจให้ขณะกำลังจะขึ้นรถพยาบาล แต่พระเอกกลับเอามือนางเอกออกไปไม่ยอมให้จับ ด้วยความเกลียดความกลัวความเป็นตัวอันตรายของนางเอก คำอธิบายของผู้เขียนคน5 ท่าทีของคน 5 ต่อสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ จะมีความไม่ชอบใจบวกความกังวลใจอย่างมาก ผู้เขียนเข้าใจพระเอกเลยค่ะ ว่าเวลาที่คนอื่นไม่เข้าใจเราคน 5 เนี่ยแล้วพยายามเข้ามาใกล้เรามากๆ โดยไม่รู้จังหวะของเรา คน 5 จะรู้สึกได้ถึงความยุ่งยากที่กำลังจะเกิดขึ้นและรู้สึกกลัวความตกใจที่กำลังคืบคลานเข้ามาแบบที่เราควบคุมมันไม่ได้ เช่น อาจช็อคแบบที่พระเอกเป็นลมตอนที่นางเอกเมาแล้วอ๊วก แล้วเกิดอุบัติเหตุถูกนางเอกจูบปากบนดาดฟ้า คือทั้งรังเกียจความสกปรกอย่างท่วมท้นและตกใจกลัวการถูกจู่โจมแบบไม่ทันระวังตัว ____________________________________________________________________________________ ตอนที่ 7 เป็น 1 ใน 2 ฉากที่ผู้เขียนชอบมากตั้งแต่ดูรอบแรก คือฉากที่พระเอกหนีหมูป่าแล้วหลงอยู่ในป่าจนมืด จนกระทั่งนางเอกมาตาม แล้วมีบทพูดคุยใต้ต้นไม่ใหญ่ ท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิด นางเอก.......... สวยจังเลย ดาวเต็มไปหมดเลย พระเอก.......... ฉันเกือบจะมองไม่เห็นเธอตรงนั้น แล้วคิดว่าฉันจะเห็นดาวเหรอ นางเอก.......... ถ้างั้นพี่เห็นพระจันทร์ไหม พระเอก.......... อยู่นั่นไง นางเอก.......... ดาวดวงเดียวที่พี่เห็นก็คือพระจันทร์ พระเอก.......... พระจันทร์ไม่ใช่ดาวฤกษ์นะ นางเอก.......... สิ่งที่สว่างที่สุดในตอนกลางคืน ไม่ใช่ดาวฤกษ์เหรอ พระเอก.......... แค่แสงสะท้อนจากดาวอื่นๆ พระเอก.......... มีเพียงดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงได้ด้วยตัวเองที่เป็นดาวฤกษ์ พระเอก.......... พระจันทร์ส่องแสงโดยใช้แสงจากดาวอื่นๆ นางเอก.......... ถึงมันจะใช้แสงจากดาวอื่น พระจันทร์ก็มีคุณค่าของมันนะ นางเอก.......... มากกว่าแสงที่ฟุ่มเฟือย ที่ส่องโดยพระอาทิตย์อีก นางเอก.......... พระจันทร์ส่องแสงบอกทางในที่มืด ไม่มีประโยชน์กว่าเหรอ พระเอก.......... โกมีนัม เหตุผลที่กลางวันสว่าง เป็นเพราะพระอาทิตย์ที่ไม่ไร้ค่านะ นางเอก.......... อ๋อ! อย่างนี้เอง พระเอก.......... ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน พระอาทิตย์ก็เป็นดาว นางเอก.......... ถ้างั้นฉันก็เป็นเหมือนพระจันทร์ที่ใช้แสงจากดาวแบบพี่ พระเอก.......... แต่พระจันทร์ก็ไม่ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว พระเอก..........ถึงจะมีดาวมากแค่ไหนในตอนกลางคืน พระเอก..........สิ่งเดียวที่ฉันเห็นก็คือพระจันทร์ ........................................................ คำอธิบายของผู้เขียนคน 5 บทพูดตรงนี้ยาวมาก ตราตรึงความรู้สึกผู้เขียนได้มากจริงๆ รู้แต่ว่าตอนดูแรกๆ ชอบมากแต่ไม่รู้ทำไม จนกระทั่งสุดท้ายถึงรู้ว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นคน 5 แล้วก็ดึงความสัมพันธ์ออกมาได้สั้นๆ ที่เปรียบกับคน 5 แล้วเป็นดังนี้ค่ะ พระอาทิตย์.................เปรียบ ความจริงปรมัตถ์ พระจันทร์...................เปรียบ ความจริงสมมุติ ดวงดาว......................เปรียบ ???????? (ปริศนาที่สำคัญมากสำหรับคน 5 อีกอย่าง มันคืออะไรนะที่คน 5 ................................ที่แม้จะเปิดไฟหรือเปิดการรับรู้โลกภายนอกแล้วแต่ก็ไม่อาจมองเห็นหรือเข้าใจตลอดไป............................โดยที่ไม่เป็นปัญหากับคนลักษณ์อื่น มันจะเป็นการค้นพบตัวเองที่สำคัญอีกอันเลยค่ะปริศนาอันนี้) _____________________________________________________________________________________ ตอนที่ 10 (ช่วงที่ 1) ฉากที่พระเอกส่งนางเอกที่ไม่สบายไปโรงพยาบาลเพราะไข้สูงมาก แต่นางเอกไม่ยอมเข้าโรงพยาบาล นางเอก.........." ถ้าฉันถูกจับได้ จะเกิดอะไรขึ้น " นางเอก.........." เพราะฉัน เพราะสิ่งมีชีวิตแบบฉัน " นางเอก.........." ฉันกลัวเหลือเกิน ว่าจะทำให้คุณเจ็บปวด " พระเอก.........." นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาห่วงฉัน " พระเอก.........." แล้วฉันก็รับรู้ถึงความเสี่ยงตั้งแต่ฉันอนุญาติให้เธออยู่แล้ว ฉันดูแลตัวเองได้ " คำอธิบายของผู้เขียนคน 5 สิ่งที่คน 5 ยอมรับได้ก็แปลว่า ยอมรับได้จริงๆๆๆๆๆ ไม่ว่าตึกจะถล่ม โลกจะแตก ฟ้าจะทลาย จะเป็นจะตายก็ยอมรับได้จริงๆ เพราะว่าผ่านการรับรู้แล้ว จะว่าไปคน 5 นั้นมีบุคลิกที่ชัดเจนมาก พูดตรงมากๆ (จนคนฟังหลายคนบอกว่าเจ็บมาก) พูดอย่างไรก็แปลว่าอย่างนั้นจริงๆ ไม่มีความซับซ้อนเลย ซึ่งจะต่างจากคน 4 มากค่ะ _____________________________________________________________________________________ (ช่วงที่ 2) ฉากที่พระเอกอยู่บนดาดฟ้า หลังจากนางเอกหายป่วยและเตรียมตัวเปิดตัว MV พรุ่งนี้ (เป็นอีกฉากที่ชอบมากค่ะ.....เพราะได้คนพบความจริงบางอย่างจากฉากนี้ค่ะ สำหรับผู้เขียนมันจะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังพลังพุทธะที่ผู้เขียนกำลังศึกษาอยู่ แต่ไม่สามารถทำความเข้าใจจากครูบาอาจารย์หลายๆ ท่านที่สอนไว้ได้เลย ทำยังไงผู้เขียนก็อ่านแล้วไม่เข้าใจ.....จึงต้องศึกษาด้วยตัวเองและหาวิธีของตัวเองให้เจอให้ได้เท่านั้น) นางเอก.......... มองเห็นดาวไม่ชัดเลย สงสัยจะมืดเกินไป พระเอก.......... เธอไม่เห็นเพราะสว่างเกินไปต่างหาก พระเอก.......... ถ้าเธออยากเห็นดาวก็ปิดไฟสิ เธออาจเห็นก็ได้ นางเอก.......... ฉันเห็นแล้วล่ะ พระเอก.......... ตอนนี้มันมืด ฉันเลยมองไม่เห็นอะไร นางเอก.......... แต่เพราะมันมืด ฉันถึงเห็นดาวชัดขึ้น คำอธิบายของผู้เขียนคน 5 คนลักษณ์ 5 ชอบอยู่กับโลกภายใน แตกต่างจากคนลักษณ์อื่นๆ ที่ชอบส่งใจออกนอก และนางเอกก็คือตัวแทนคนลักษณ์อื่น ตรงนี้สว่างเกินไป ......... การส่งใจออกนอกมากเกินไปของคนทั่วไป ทำให้จิตใจวุ่นวายมองไม่เห็นจิตของตัวเอง ปิดไฟ .........................การปิดการรับรู้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อการสงบใจ , เพื่อให้ได้ยินเสียงจากภายใน , เพื่อจะได้อยู่กับตัวเอง , เพื่อจะได้สัมผัสกับธาตุรู้ภายในตัวเอง.......อาจด้วยการนั่งสมาธิให้จิตใจสงบ ตามวิถีพุทธ _____________________________________________________________________________________ (ช่วงที่ 3) พระเอก.......... อย่าอยู่ในที่ที่ฉันมองไม่เห็นเธอนะ นางเอก.......... แต่ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะอยู่ที่นี่ คุณก็มองไม่เห็นฉัน พระเอก.......... ฉันเห็น ฉันเห็นพอที่จะรู้ว่าเธออยู่ตรงนี้ นางเอก.......... คุณเห็นฉันจริงๆ เหรอ พระเอก.......... ใช่ ฉันมองเธออยู่ ฉะนั้นเวลามืด ให้อยู่ในระยะที่ฉันมองเห็น นางเอก......... ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ คำอธิบายของผู้เขียนคน 5 รายละเอียดของเรื่องราวทำให้คนลักษณ์ 5 มองเห็นสิ่งนั้น คน 5 สัมผัสสรรพสิ่งด้วยข้อมูล ถ้าไม่มีข้อมูลในเรื่องนั้นก็เปรียบเหมือนคนตาบอดในที่มืดแบบที่พระเอกแทคยองเป็น...........แทคยอง มีโรคที่มีลักษณะอาการคล้ายสภาวะที่คน 5 อย่างผู้เขียนเข้าใจดี คือโรคตาบอดในที่มืด......... เมื่อคน 5 ได้ยินได้ฟังใครบอกเล่าอะไรสักอย่างที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน มันจะมีแต่ความว่างเปล่า มองไม่เห็นอะไรเลย ถ้าอยากให้คน 5 รู้จักมัน มองเห็นมัน จะต้องค่อยๆ บอกรายละเอียดของมันมา ยิ่งมาก ภาพยิ่งชัด คนลักษณ์อื่นไม่มีวันเข้าใจสภาวะว่างเปล่าของคน 5 แน่ๆ คือเวลาไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจนี่จะโง่สุดๆ ซื่อบื่อสุดๆ ไม่รู้เรื่องจนเหมือนตัวตลกในสายตาคนอื่น...... ( อืม....อันนี้ผู้เขียนวิเคราะห์เล่นๆ ความว่างเปล่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะไม่ว่าใครจะบอกอะไรคน 5 ก็เชื่อหมด ลักษณะท่าทางอะไรก็ซึมซับหมด แบบcopy ทุกอย่างค่ะในกรณีที่ไม่รู้จักสิ่งนั้นนะคะ แต่ถ้ารู้จักสิ่งนั้นดีก็แบบอัจฉริยะไปเลยค่ะ (แบบไอน์สไตน์) ........น่าจะเป็นเพราะคน 5 ไม่สามารถรับรู้โลกภายนอกอย่างเป็นกลางได้....รึเปล่านะ ? แต่จะด้วยสาเหตุใด ผู้เขียนขอเวลาศึกษาเพิ่มเติม) ยิ่งนางเอกแสดงออกถึงความรักที่มีให้พระเอก รายละเอียดตรงนี้ทำให้พระเอกมองเห็นนางเอก แล้วเมื่อไหร่ที่พระเอกนางเอกต้องห่างกัน ก็ขอให้มีการส่งข่าวคราวหรือส่งข้อความถึงกันบ้าง เพื่อที่พระเอกจะได้มองเห็นนางเอกอยู่ตลอดเวลา เปรียบเหมือนการหายไปคือการมองไม่เห็นเลยของคน 5 _____________________________________________________________________________________ ตอนที่ 12 เป็นวิธีทบทวนเหตุการณ์เพื่อค้นหาความรู้สึกของตัวเองแบบคน 5 ฉากที่พระเอกวาดวงกลมหาความสัมพันธ์ ว่าทำไมตัวเองถึงโมโหนางเอก ? พระเอกถามตัวเอง........ ทำไมฉันถึงโมโห ? ...... ตอบตัวเอง.......... เพราะโกมีนัมจะไปพบกังชินอูเหมือนคนโง่ ...... ถามตัวเอง.......... ทำไมฉันถึงขวางไว้ ? ...... ตอบตัวเอง.......... เพราะฉันไม่อยากให้เขารู้สึกเจ็บปวด ...... ถามตัวเอง.......... ทำไมสิ่งนั้นถึงคอยรบกวนฉัน ? ...... ตอบตัวเอง.......... โกมีมัมเป็นอะไรกับฉัน ? ...... ถามตัวเอง.......... ซับซ้อน และสับสน ...... ตอบตัวเอง.......... ฉันต้องไปดูโกมีมัมให้ดี ในที่ที่สว่างแล้วคิดดูอีกครั้ง คำอธิบายของผู้เขียนคน 5 คน 5 ต้องการเวลาในการอยู่กับตัวเอง เพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร โดยการใช้ความคิดและการวิเคราะห์ดึงข้อมูลออกมาเป็นชั้นๆ แยกข้อมูลออกมาเป็นส่วนๆ แล้วไล่หาความสัมพันธ์อีกที เป็นวิธีค้นหาความรู้สึกของคน 5 ค่ะ..........ที่จริงในเรื่องนี้ยังมีหลายตอนที่แสดงให้เห็นวิธีการคิดวิเคราะห์แบบคน 5 ของพระเอกค่ะ แต่จะกลายเป็นยิ่งทำก็ยิ่งยาวยิ่งเยอะ ยังไงขอจบภาค 1 ในส่วนของลักษณ์ 5 นะคะ.....เดี๋ยวไปต่อภาค 2 กับพระเอกแทคยองในความเป็นลักษณ์ 4 ค่ะ *************มาเพิ่มเติมตอนที่ 10 (ช่วงที่ 1)..........24/11/2553 *************มาลบตอนที่ 12 ช่วง 1 ย้ายไปตอนสรุปค่ะ 10/12/2553 จบภาค 1 ____________________________________________________________________________________
|
ลามูเต้
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?] ไทป์ 5....การง่วนอยู่กับรูปแบบที่คุ้นเคยจนสามารถมองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เคยเห็นมาก่อนได้ Group Blog All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |