เก็บความประทับใจ ลงบนกระเบื้อง
ตอนสมัยเรียนหนังสือ คิดว่าไหนๆก็เรียนทางด้านขีดๆเขียนๆอยู่แล้วก็เลยลองไปทดลองหาเทคนิคต่างๆในการวาดรูปดูเพื่อนำมาใช้เป็นงานอดิเรกและด้วยเหตุที่ไหนๆก็ปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว เลยลองจับงานเรียนกับงานอดิเรกมารวมกันออกมาเป็นผลงานที่ไม่มีวันลบเลือนการได้มาเจอวิธีวาดภาพลงบนเครื่องกระเบื้อง เห็นว่าน่าสนใจ และน่าเรียนรู้ดีเหตุนี้ละมังที่ทำให้ต่อมาเลยกลายเป็นคนชอบเครื่องกระเบื้อง(ที่เขียนด้วยมือ)ไปด้วยในตัวโดยเฉพาะงานวาดทางแถบยุโรป เพราะเราได้สัมผัสถึงคุณค่าและความมานะจนกว่าที่จะได้มาซึ่งงานชิ้นหนึ่งต้นเหตุเพราะเห็นน้องสาวไปเรียนเพนท์จานกับท่านผู้หญิงสุจิตคุณ แล้วเห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยถือโอกาสตามไปนั่งเรียนที่บ้านท่านด้วยอีกคนขั้นตอนในการเพนท์ค่อนข้างยุ่งยาก การผสมสีและการลงสีก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนต้องลงสีหลายชั้น ลงสีชั้นที่หนึ่งบางๆแล้วก็ต้องนำไปเผาทีหนึ่ง แล้วจึงนำกลับมาลงสีชั้นต่อไปทำอยู่อย่างนี้อย่างน้อย3ครั้งต่อชิ้นจึงจะสำเร็จ ขึ้นอยู่กับลวดลายที่จะวาด (รวมทั้งการลงสีทองด้วย ซึ่งเป็นนํ้ายาเขียนทองจริงๆ)แต่บางชิ้นก็จะกระโดดข้ามขั้นตอน ซึ่งก็ยังต้องผ่านการเผาอย่างตํ่า2รอบแม้นว่าจานชามที่นำมาวาดจะไม่ได้ปั้นกันเอง โดยจะใช้เครื่องกระเบื้องสีขาวที่หาได้ในตลาดแต่ก็จะต้องนำเครื่องกระเบื้องที่ได้มาไปทดลองเผาดูก่อนว่าจะใช้ได้ไหมเครื่องกระเบื้องบางชิ้นนำมาจากเมืองนอกแท้ๆพอมาทดลองเผาดู เนื้อที่เคลือบจะพองออกมาเป็นฟอง ก็จะใช้ในการวาดไม่ได้แบบที่นำมาใช้วาดมีทั้งที่ลอกเขามาก็มี คิดเอาเองก็มี หรือ ลอกมาแล้วมาดัดแปลงก็ด้วยชิ้นแรกที่เขียน ใช้โถรูปไข่ที่หาได้จากในเมืองไทย ชิ้นนี้โปะซะสีหนาปึ๊กชิ้นที่2 สนุกตรงเขียนลายทองที่ขอบชิ้นนี้เริ่มสนุกจับเอาแมลงมาลงโถชุดนี้วาดไว้แต่ไม่ครบเซ็ทเพราะร้านที่ไปได้จานสีขาวมานั้น เลิกกิจการไปซะกลางครัน(ใช้ที่ไปสร้างเกษรพลาซ่า) จานชุดนี้เป็นจานที่เขาสั่งมาจากเชคโกฯ ขายแยกชิ้นแล้วแต่เราจะเลือก ก็เลยได้จานและชามมาเท่าที่เลือกซื้อมาแต่แรก เพราะกลับไปอีกทีร้านปิดเลิกกิจการไปไหนแล้วก็ไม่รู้จานใบนี้วาดโดยใช้ศิลปะจีนกับยุโรปผสมกัน วิธีวาดดอกเป็นแบบทางยุโรปแต่ลงพื้นสีทองอย่างลายครามของจีนต้องผ่านการเผาถึง4ครั้งกว่าจะเสร็จก่อนที่จะหันมาเล่นต้นไม้ช่วงก่อนหน้านั้นมีช็อกโกแล็ตยี่ห้อหนึ่งแถมภาพวาดนกไทยมากับช็อกโกแล็ตซื้อช็อกโกแล็ต1แผ่นก็จะได้การ์ดรูปนกแนบข้างในซองมา1ใบ สะสมจนได้รูปนกเกือบครบ100ชนิด....แน่นอนต้องทานช็อกโกแล็ตไปมากกว่า100แผ่นช่วงนั้นจะบ้านกทุกชนิด ซื้อและซื้อและซื้อ จนมีกรงนกเรียงอยู่รอบบ้านไปสนามหลวง(สมัยที่ยังไม่มีเจเจ)ทีไรก็จะต้องหิ้วนกกลับมาอย่างน้อย1ตัวจนกระทั่งสนามหลวงย้ายไปเจเจ ก็ตามไปหิ้วที่เจเจต่อนี่เองที่เป็นเหตุทำให้หากไปเจอนกอะไรที่เจเจเหมือนกับในการ์ดก็จะซื้อกลับมาเลี้ยงทุกครั้ง(ยกเว้นนกล่าเหยี่อและนกที่มีขนาดใหญ่ก็จะได้แต่ยืนดู) แม้แต่นกเงือกกรามช้างก็เคยเอามาเลี้ยงนกหัวขวานหลังทอง นกกระรางคอดำ นกแก้วหัวแพร นกกระยางนา นกเอี้ยง นกเขียวคราม นกเขียวมรกต นกพญาไฟ นกกางเขนดง ปรอดแม่ทะ นกเป็ดผี เหยี่ยวแมลงปอ.... และอีกไม่รู้กี่นกแล้วที่หามาเลี้ยงตามการ์ดไปเรื่อยๆนกบางตัวเอามาเลี้ยงได้วันเดียวตายก็มีเพราะสภาพที่เขาจับมานั้นแย่เต็มทนสมัยนั้นก็เลยจะจำชื่อนกในการ์ดได้หมดทุกตัวพอหันมาวาดกระเบื้องก็เลยไม่ลืมที่จะนำเอารูปนกที่สะสมไว้มาใช้ประโยชน์เสียดายที่วาดไว้แค่2รูป แล้วหลังจากนั้นก็ละเว้นจากการวาดรูปลงเครื่องกระเบื้องไปเลย จนถึงปัจจุบันนกเขียวก้านตองนกติ๊ดสุลต่านหากมีโอกาสกลับไปวาดอีกที เที่ยวนี้คงหนีไม่พ้นเหล่าเฟินเป็นแน่