รักแท้...แค่เส้นขนาน
Group Blog
 
All blogs
 

~*~*~ เสียเลือดอย่างมีความสุข ~*~*~

วันเสาร์ที่ผ่านมา (14 กุมภาพันธ์ 52) ไปบริจาคเลือดมาครับ
ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์

-บ้านอยู่ตั้งไกล ไหงไปถึงโน่นล่ะเนี่ย-

วันนั้นมีกิจกรรมในเมืองกรุงหลายอย่างล่ะครับ จับแพะชนแกะได้สามสี่เรื่อง
เลยไปซะเลย

การไปบริจาคเลือดงานนี้เป็นครั้้งแรกเลยครับ หลังจากตั้งใจมานาน
ทำให้รู้อะไรเพิ่มหลายๆ อย่าง

เช่น การไปบริจาคเลือด ต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิตหลายๆ อย่าง
เพื่อให้สุขภาพตัวเองสมบูรณ์ที่สุด และเลือดที่จะบริจาคสามารถนำไปใช้ได้จริงๆ

ดังนั้นการดำเนินชีวิตประจำวัน ก่อนการบริจาค จึงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดี
ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น


สำหรับท่านที่ไม่เคยไป ลองมาอ่านตรงนี้ แล้วจินตนาการว่าเดินไปด้วยกันนะครับ

ผมนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงที่สถานีสามย่าน ออกประตู 2 แล้วเดินริมถนนพระราม 4 ขึ้นมาทางสีลม
พอถึงไฟแดงก็เลี้ยวซ้าย เดินไปอีกหน่อย ก็จะเจอประตูทางเข้าศูนย์
เดินตรงไปที่ตึกกระจกใหญ่ๆ เลยครับ

ไปถึงศูนย์ฯ แล้ว กรอกแบบฟอร์มสีขาวที่โซน 1 (มีเบอร์บอกตลอดครับ)
สำหรับคนที่เคยบริจาคแล้ว ใช้แบบฟอร์มสีเขียว

เค้าจะมีให้ตอบแบบสอบถามก่อนในหน้าแรก ถ้าไม่ผ่าน ก็บริจาคเลือดไม่ได้ครับ
ถ้าผ่าน ก็กรอกหน้าสองต่อไป เสร็จแล้วไปกดบัตรคิว เพื่อตรวจร่างกายที่โซน 2

ระหว่างรอ ไปดื่มน้ำที่ศูนย์จัดเตรียมไว้สัก 2-3 แก้วก่อนก็ได้ครับ
พยาบาลที่เจาะเลือดผมบอกว่า ยิ่งคนที่เส้นเลือดเล็กๆ ยิ่งควรดื่มมากหน่อยครับ
ให้กินอาหารประจำมื้อมาให้เรียบร้อยก่อนบริจาคเลือด แต่งดเว้นของมัน
ไม่งั้นเลือดจะใช้ไม่ได้ เพราะมีระดับไขมันสูงเกินไป

นอกจากนั้นเค้าจะให้ยาบำรุงเลือดมาด้วย สำหรับกินก่อนนอนทุกวัน
และแนะนำการดูแลตัวเองหลังจากบริจาคเลือดด้วย
(ลืมถามไปว่า กินบุฟเฟต์ได้หรือเปล่า 555)

เสร็จจากตรวจร่างกาย (ตรวจความเข้มข้นของเลือด ความดันโลหิต และสัมภา๋ษณ์เล็กน้อย)

ก็ไปลงทะเบียนที่โซน 3 ต่อ หลังจากนั้นก็ขึ้นไปรับบัตรคิวสำหรับรอบริจาคเลือดที่ชั้นสองครับ

โชคดีที่วันนั้นไปแต่เช้า เลยรอไม่นานมากนัก ประมาณ 20 กว่านาที ก็ได้คิวบริจาค
ระหว่างรอ พยาบาลก็จะบอกให้ทราบเป็นระยะๆ ว่าให้ดื่มน้ำมากๆ
เข้าใจว่าการบริจาคเลือดทำให้เสียน้ำไปพอสมควร
การดื่มน้ำไว้ล่วงหน้า จะทำให้อาการข้างเคียงน้อยลง

พยาบาลจะให้เลือกครับว่า จะเจาะแขนซ้ายหรือขวา
ผมเลือกแขนซ้าย เพราะว่าตอนไปตรวจร่างกายครั้งก่อน (หลายปีแระ)
พยาบาลที่ตรวจหาเส้นเลือดที่แขนขวาไม่เจอ แล้วมาเจอง่ายๆ ที่แขนซ้าย
เลยไม่อยากเสี่ยงโดนเจาะสองข้างอีก แหะๆๆ



ตอนแรกผมเข้าใจว่าจะใช้เวลาพอสมควรกว่าเลือดจะเต็มถุง (ประมาณ 400 ซีซี)
แต่จริงๆ แล้วใช้เวลาราวๆ 10 นาทีเท่านั้นเอง

หลังจากเลือดเต็มถุง พยาบาลก็จะมาเก็บของ พร้อมเอาเลือดตัวอย่างเพิ่มอีกสองหลอด
เพื่อไปตรวจวิเคราะห์ในเรื่องต่างๆ (เข้าใจว่าจะส่งผลให้เราทราบในภายหลัง)

ระหว่างนี้ผมเลยให้เค้าช่วยถ่ายรูปให้ครับ (อุตสาห์พกกล้องไปนะเนี่ย 555)



หลังจากเค้าถอดเครื่องพันธนาการ รวมทั้งติดสำลีเสร็จแล้ว ก็นอนพักสักครู่
ห้ามลุกทันทีนะครับ จะหน้ามืดหัวฟาดพื้นเอาง่ายๆ
เพราะเราเพิ่งเสียเลือดไปจำนวนหนึ่ง ในระยะเวลาสั้นๆ

พอได้ที่ พยาบาลจะมาบอกให้เราลุกเองครับ เสร็จแล้วให้เดินไปกินของว่าง
ที่ทางศูนย์จัดเตรียมไว้ ไม่ต้องรีบร้อนครับ ให้เวลากับร่างกายปรับสภาพสักหน่อยด้วย

เข้าใจว่าตัวเองลุกเร็วเกินไป ตอนไปนั่งกินขนม + โอวัลติน เลยหน้าซีด
พยาบาลเลยมาชวนไปนอนก่อน ผมก็เห็นว่ายังอีกนานกว่าจะถึงเวลานัดกินบุฟเฟต์
เลยนอนตามคำชวนล่ะครับ (ใจง่ายนิ)

แต่บอกว่า ขอกินขนมให้หมดก่อนล่ะกัน เหอๆๆ

เสร็จแล้วก็เิดินไปนอนเล่นพักนึง ระหว่างนอนก็หยิบแผ่นพับมาอ่านไปเรื่อยๆ
ดึงเวลาให้หมดไป

พอได้ที่ ก็ออกจากห้องบริจาค พยาบาลหน้าห้องก็จะให้บัตรนัด
ในการมาบริจาคครั้งต่อไป (สามเดือน) พร้อมพลาสเตอร์ยา
สำหรับแปะปิดแผลแทนสำลี

หลังจากนั้นก็ลงมาข้างล่าง สวนทางกับทีมทำข่าวช่อง 7 พอดี
(มาแต่เช้า อดเข้ากล้องเลย)

เดินโต๋เต๋อยู่แถวนั้นพักใหญ่ึครับ เพราะเสร็จเร็วผิดคาดมากๆ

ได้เวลาจึงจรลีไปกินบุฟเฟต์ต่อ พร้อมกับความอิ่มเอิบใจ
ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

:)




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2552 17:58:05 น.
Counter : 1564 Pageviews.  

Koi ni Ochitara - When I fall in love ~Secret of my success~

"ซูซูกิ ชิมาโอะ" ลูกชายคนเดียวของร้านรับทำน๊อต มีพรสวรรค์ทางด้านเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ต้องหยุดเรียน เพื่อมารับช่วงต่อร้านจากพ่อที่เสียชีวิตไป
และดูแลแม่กับน้องสาว "มาริโกะ"
วันหนึ่งเค้าได้รับรางวัลเที่ยวฮาวายสองที่นั่ง จึงตัดสินใจพาแม่ไปเที่ยว
ที่นั่นเองเค้าได้พบกับคาโอริซึ่งเค้าเองได้ตกหลุมรักเธอแทบจะในทันที
บังเอิญว่าคาโอริลืมสมุดโน้ตที่สำคัญมาก เขาพบและนำส่งคืน
ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ฟรอนเทียร์
เจ้านายของคาโอริ "ทาคายานากิ โทอุรุ"

ทาคายานากิได้ให้สัญญากับชิมาโอะไว้ว่าจะให้ความช่วยเหลือเมื่อเขาต้องการ
หลังจากกลับจากไปเที่ยวฮาวายกับแม่ เขาได้พบว่าบริษัทล้มละลาย โดยการโกงของพนักงานบัญชี
ทำให้บ้านกำลังจะถูกยึด และแม่ก็มีอาการโรคหัวใจ เค้าต้องหาเงินจำนวนมากมารักษาแม่
แต่ก็สายเกินไป เมื่อเสร็จงานศพแม่ เค้าพยายามติดต่อกับทาคายานากิ
แต่การเข้าถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่นั้นยากยิ่งนัก

เค้าจึงตัดสินใจสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย และวันหนึ่งเขาได้แสดงฝีมือให้บริษัทได้เห็น
จากการซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้เขาได้พบกับทาคายานากิอีกครั้ง
เขาขอให้ทาคานายากิ สอนวิธีที่จะทำให้เค้าเป็นคนรวย เพราะเค้าคิดว่าการที่เค้าสูญเสียนั้น เป็นเพราะเขาจน

แต่การทำงานของทาคายานากิเป็นไปอย่างนักธุรกิจ ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ทุกอย่างเพื่อผลกำไร
แม้แต่สั่งให้ลูกน้องตัวเองไปนอนกับหุ้นส่วน เพื่อหวังผลทางธุรกิจก็ยังได้
ซึ่งต่างจากชิมาโอะชนิดคนละขั้ว ชิมาโอะใช้การทำงานในแบบของเขา แก้ปัญหาให้บริษัทได้
ทำให้คนรอบข้าง เห็นความสามารถของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ารวมถึงคาโอริ
ที่ให้ความรักกับชิมาโอะมากขึ้น (แต่เจ้าตัวไม่สังเกตเนี่ยสิ) ชิมาโอะเอาใจใส่ ห่วงใยคาโอริอยู่เสมอ
ยามที่คาโอริตกที่นั่งลำบาก เค้าไม่ลังเลที่จะรีบไปช่วยเหลือในทันที

แต่เมื่อทาคายานากิ ค่อยๆ ปรับตำแหน่งของชิมาโอะให้สูงขึ้นเรื่อยๆ
ชิมาโอะกลับค่อยๆ สูญเสียอะไรบางอย่างไปทีละนิดๆ
เมื่อชิมาโอะมาถึงจุดสูงสุด เค้าเสียแม้กระทั่งความเป็นตัวเอง

เค้าจะกลับมาได้หรือไม่ ความรักของเขาจะเป็นอย่างไร



ละครเรื่องนี้น่าติดตามทุกตอน ตัวเอกค่อยๆ พัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ
รวมทั้งการจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การต่อสู้ในทางธุรกิจ
ได้เห็นตัวเอกที่พบกับความสูญเสีย แล้วค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองไปเป็นปิศาจ
โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่การที่เค้าเป็นคนอ่อนโยน ทำให้มีคนรักมาก
คนรอบข้างที่จริงใจและเขาได้เคยช่วยเหลือไว้ ต่างก็มาเป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือกันในยามยาก
เจ้าของร้านเหล้า ที่ชอบเสิร์ฟของฟรี (ขายอะไรบ้างเนี่ย)
เพื่อนสนิท ที่หลงรักน้องสาวของชิมาโอะ


การเดินเรื่องทำได้รวดเร็ว ไม่เยิ่นเย้อ นางเอกน่ารัก (พระเอกหน้า....)


:)




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2552 16:02:25 น.
Counter : 1417 Pageviews.  

~*~*~ Celeb to binbo Taro - Celeb & Poor - สาวไฉไลกับนายกระจอก ~*~*~

ไม่ได้อัพบล็อกมาสามเดือนกว่า สงสัยจะเน่าแล้วนะเนี่ย
มัวแต่ทำงาน ดูหนัง (และนี่ก็คือหนึ่งในนั้น) แล้วก็ทำโน่นนี่ไปเรื่อย (ข้อแก้ตัวทั้่งนั้น)

----------------------------------------
ชื่อญี่ปุ่น - Celeb to binbo Taro
ชื่ออังกฤษ - Celeb & Poor
ชื่อไทย (ตั้งเอง) - สาวไฉไลกับนายกระจอก

สาวสวย รวย เก่ง กับ หนุ่มยาจก เป็นพล็อตน้ำเน่าของหลายๆ ที่ และก็ยังคงขายได้เสมอมา
(ไม่เว้นแม้แต่เมืองไทย)
แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่ยากจนธรรมดา ต้องเรียกว่ายากจนข้นแค้น แถมมีลูกติดอีกสามคน

มิตาโซโนะ อลิซ (แสดงโดย อายะ อุเอโตะ - Aya Ueto) สาวสวย นางแบบ ลูกสาวเจ้าของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของโลก
มีพรสวรรค์ทางแฟชั่นชนิดหาตัวจับได้ยาก ชีวิตสมบูรณ์พร้อมไปเกือบทุกอย่าง ยกเว้นด้านความรัก

ซาโต้ ทาโร่ (แสดงโดย ยูซึเกะ คามิจิ - Yusuke Kamiji) พ่อหม้ายลูกสาม ทำงานหาเช้ากินค่ำ รับจ้างทั่วไป
ซื่อตรง มุ่งมั่น รักเพื่อนฝูง รักลูก ชีวิตหาความมั่นคงอะไรแทบไม่ได้เลย แต่ก็มีความสุขตามอัตภาพ

สองคนที่ไม่น่าจะเจอกันได้ ก็มาเจอกันด้วยความบังเอิญขณะที่อลิซกำลังหนีนักข่าว
แถมหลังจากนั้นทาโร่ก็ดันไปสมัครงานที่บริษัทของอลิซ เนื่องจากรายได้ดีมาก
ทาโร่โดนคัดออกตกรอบแรก แต่ได้มาทำงาน (???)
แค่ไม่กี่วันหลังเริ่มงาน เขาก็ต้องโดนไล่ออก เนื่องจากต้องการปกป้องงานของเพื่อนสนิท



ความสัมพันธ์ทั้งสองคนเริ่มมากขึ้นจากการที่แม่เลี้ยงของอลิซต้องการจับคู่ให้อลิซแต่งงาน
แถมคู่แต่งงานยังเป็นแฟนเก่าของอลิซที่ทิ้งเธอไว้ที่สนามบิน และหายหน้าไปจากเธอกว่า 5 ปี
ทำให้เธอเกลียดแฟนเก่าคนนี้มาก จึงขอร้องให้ทาโร่แสดงเป็นแฟนของเธอให้หน่อย
(หาคนอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรือไงนะ)

การที่อลิซได้มาพบกับทาโร่ ทำให้เธอเริ่มเข้าใจถึงความอบอุ่น ส่วนทาโร่ก็ติดใจในความสดใสของเธอ
เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ทำให้ทั้งสองคนเริ่มมองเห็นจุดดีของกันมากขึ้นเรื่อยๆ

และวันหนึ่งอลิซได้พบว่าการที่แฟนเก่าที่เธอแสนเกลียดต้องทิ้งเธอไว้ที่สนามบิน
และหายหน้าไป 5 ปี ก็มีเหตุผลที่เหมาะสม เธอจะกลับไปหาแฟนเก่าและทิ้งทาโร่ไว้เบื้องหลังหรือไม่

ส่วนทาโร่ก็ได้รับแรงกดดันจากทั้งแฟนเก่าของอลิซ รวมทั้งแม่เลี้ยงของอลิซที่ไม่ชอบเขาเอามากๆ
จะพาชีวิตตัวเองรอดพ้นแรงกดดันเหล่านี้ไปได้อย่างไร
และเมื่อรู้ว่าเพื่อนสาวคนสนิทที่อยู่ข้างเขามาตลอด ก็มีใจให้เขาเช่นกัน เขาจะตัดสินใจอย่างไร

ละครตลกโรแมนติกเรื่องนี้จะทำให้คุณสนุกไปกับตัวละครต่างๆ ที่ผลัดกันมาสร้างความเฮฮา
แต่ไม่แน่อาจเสียน้ำตาให้กับฉากซึ้งๆ ที่แทรกตัวเองเข้ามาเป็นระยะๆ ก็ได้

--------------------

เรื่องนี้บังเอิญไปเห็นเมื่อเดือน พ.ย.51 เห็นพล็อตเรื่องน่าสนุกดี เลยลองโหลดมาดู
แต่เจ้ากรรม ดันมีแค่ 3 ตอน เพราะกำลังฉายอยู่ คราวนี้เลยไม่เป็นอันทำอะไร
พอถึงวันพุธก็ตั้งหน้าตั้งตาโหลดตอนใหม่มาดู (ทั้งๆ ที่ฟังไม่รู้เรื่อง)
ก็ดูไปก่อนรอบนึง รอบสองรออีกประมาณหนึ่งสัปดาห์จะมีซับอังกฤษออกมา
พร้อมๆ กับตอนใหม่ ก็ไล่ดูไปเรื่อยๆ จนจบ นับเป็นละครต่างประเทศเรื่องแรกที่ดูแบบนี้
เพราะปกติจะดูรวดเดียวจบ (เลยตัดสินใจว่าจะพยายามไม่ดูละครที่กำลังออนแอร์)


หลังจากดูแล้ว ไม่ต้องบอกคงรู้ว่าชอบมาก (เพราะไม่งั้นคงไม่ติดตามดูทุกอาทิตย์)
นางเอกน่ารัก สดใส เพื่อนสนิทนางเอกก็น่ารัก ร่าเริง
เด็กๆ ก็น่ารัก และบางครั้งก็มีความเป็นผู้ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง
และที่สำคัญเป็นหนังแนวตลกโรแมนติกอย่างที่ชอบด้วยนั่นเอง

น่าดูครับ เรื่องนี้


:)




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2552 15:37:03 น.
Counter : 2910 Pageviews.  

~*~*~ ยาสุโกะกับเคนจิ ~*~*~

ยาสุโกะกับเคนจิ - Yasuko to Kenji

--------

โอคิ เคนจิ กับ โอคิ ยาสุโกะ สองพี่น้องที่ต้องอยู่กันมาสองคนตั้งแต่สิบปีก่อน
เพราะพ่อกับแม่ของทั้งคู่เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะออกไปซื้อเค้กวันเกิดให้ยาสุโกะ

เคนจิ เดิมเป็นหัวหน้าแก็งค์ซิ่ง แต่หลังจากพ่อกับแม่เสียชีวิต
จึงต้องเลิกซิ่ง แล้วหางานทำเพื่อเลี้ยงน้องสาวที่อายุเพียง 9 ขวบ
แต่ความสามารถที่ซ่อนอยู่ กลับดันเป็นการเขียนการ์ตูนผู้หญิงในนาม ซากุระบะ เรย์กะ
ซึ่งคงให้ใครรู้ไม่ได้ว่าตัวจริงของคนเขียนการ์ตูนผู้หญิงชื่อดัง เป็นผู้ชาย
แถมเป็นอดีตหัวหน้าแก็งค์ซิ่งซะอีก

ส่วนยาสุโกะ ผู้เติบโตมาพร้อมกับพี่ชาย ก็โดนพี่ชายทั้งรักทั้งหวงทั้งห่วง....
แต่ดันเป็นสไตล์หัวหน้าแก๊งค์ซิ่งเนี่ยสิ - -"

วันหนึ่งยาสุโกะก็พบกับชายหนุ่มในฝันเข้าจนได้
สึบากิ จุน ย้ายโรงเรียนมากระทันหันในช่วง ม.6
แต่เจ้ากรรมที่เขาดันเป็นน้องชายของศัตรูของพี่ชายสมัยเป็นหัวหน้าแก๊งค์ซิ่ง

สึบากิ เอริกะ อดีตหัวหน้าแก็งค์กุหลาบดำ กลับมายังเมืองเดิมอีกครั้ง
หลังจากออกจากเมืองไปเมื่อสิบปีก่อน เพื่อมาเปิดร้านดอกไม้
แต่แท้ที่จริงแล้วกลับมาเพื่อบอกรักกับชายคนที่หลงรักมานานกว่าสิบปี

แต่เจ้ากรรม (x2) เมื่อชายคนที่เธอหลงรัก กลับเป็นศัตรูคูอาฆาตแต่หนเดิม
เพราะอยู่คนละฝ่าย เลยต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้

แถมเจ้ากรรม (x3) เมื่อเธออยู่ต่อหน้าเค้า เธอจะกลับเป็นคนละคน
กลายเป็นหัวหน้าแก็งค์ฝ่ายตรงข้ามซะอย่างนั้น เลยไม่ได้บอกรักกันซะที


เมื่อสี่คนมาอยู่รวมกัน เรื่องยุ่งๆ จึงบังเกิด


------

ละครเรื่องนี้ ดัดแปลงมาจากการ์ตูน เน้นสไตล์เฮฮา - รักโรแมนติก
หัวหน้าแก็งค์ซิ่ง ก็จะมาในมาดกวนๆ แบบโอเวอร์
ยิ่งตอนที่เคนจิเจอกับเอริกะ เจอกันทีไร ได้ฮาแทบทุกที
พระเอกก็หล่อแบบหล่อๆ เก่งๆ
แต่ยังแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นสไตล์ครอบครัวที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง

สรุปในความเห็นของผมแล้ว น่าดูคลายเครียดดี
แถมอาจเสียน้ำตาให้กับบางฉาก บางตอนได้ง่ายๆ ด้วยครับ

:)




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2551    
Last Update : 30 ตุลาคม 2551 14:32:13 น.
Counter : 1359 Pageviews.  

~*~*~ รัก|สาม|เศร้า - Last moment ~*~*~

"รัก|สาม|เศร้า" แค่ชื่อเรื่องก็บอกเนื้อหาหลักของหนังได้แล้ว
ความรักระหว่างคนสามคนในอีกรูปแบบหนึ่ง
น้ำ-ฟ้า-พายุ เพื่อนซี้สมัยเรียน แปรเปลี่ยนมาเป็นความรัก
พายุ แอบชอบฟ้ามานาน แต่ก็ไม่กล้าบอก
น้ำ ก็แอบรักพายุมานานไม่แพ้กัน ที่เหมือนกันคือไม่กล้าบอก
ส่วนฟ้า มีแฟนตั้งแต่สมัยมัธยม รักเดียวใจเดียวมาตลอด
แต่ก็ไม่วายโดนหักอกก่อนวันรับปริญญาไม่กี่วัน

ต่อมาฟ้าำก็รับรู้ว่าตัวเองเป็นโรคร้ายแรงไม่มีทางรักษา
และจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แน่นอนว่า น้ำ-พายุ ก็รู้ด้วยเช่นกัน
พายุเริ่มมาดูแลฟ้ามากขึ้น จนได้สารภาพความในใจต่อหน้าน้ำและฟ้า
เมื่อฟ้าเริ่มคบกับพายุ ฟ้าก็พบว่าน้ำที่เป็นเพื่อนรักนั้นแอบรักพายุอยู่

พวกเค้าจะจัดการความสัมพันธ์กันอย่างไร
รักของคนสามคนจะลงเอยกันอย่างไร


ผู้กำกับบอกว่า หนังเริ่มด้วยความเศร้า แต่จบแบบแฮบปี้เอนดิ้ง

ส่วนตัวแล้วชอบหนังเรื่องนี้พอสมควร ตามประสาคนชอบหนังแนวนี้ (ให้ 3.5/5)
หนังให้มุมมองของตัวละครที่เป็นเพื่อนสมัยเรียน ที่เพิ่งจบการศึกษา
เริ่มเข้าสู่สังคมทำงาน

มุกที่ใช้ในเรื่องก็เฮฮา แอบๆ กระทบกับเรื่องราวในสังคมจริงๆ อยู่บ้าง
ตอนเจอมุก "ตอนมันไปอยู่อังกฤษ มันมีกิ๊กเป็นดาราด้วยนะเว้ย" นี่ขำแทบตกเก้าอี้

เหอๆๆ


หนังดูได้เรื่อยๆ มีความสนุก ความเศร้า ความซึ้งมาเป็นระยะๆ
ผู้กำกับบอกว่าไม่เน้นที่ความเศร้า จะโฟกัสไปที่ความซึ้งมากกว่า
เพลงประกอบเพราะใช้ได้ ไม่เสียชื่อ Gmm แน่ๆ


ดีวีดีมีออกมาสองแบบ แบบปกติสองแผ่น มีแผ่นหนังปกติ กับ video commentary
ส่วนรุ่นพิเศษ มีแผ่นหนังแบบ uncut กับสมุดบันทึกแถมมาด้วย

*ดีวีดีแผ่นนี้ทำตามกฎหมายใหม่ ดังนั้นจะมีคำเตือนศีลธรรมปรากฎเป็นระยะๆ แบบปิดไม่ได้
หากไม่ต้องการเห็น ก็ให้เลือกเสียงเป็น 5.1 หรือเปิดดูในคอมพิวเตอร์นะครับ*

:)




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2551    
Last Update : 12 ตุลาคม 2551 9:17:14 น.
Counter : 883 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

TonMai2K
Location :
ปราจีนบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add TonMai2K's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.