ขริบ แต่ละอย่างต่างกันอย่างไร หลังจากที่เพื่อน ๆ ทุกท่านได้เห็นถึงข้อดีและประโยชน์ของการขลิบแล้ว ต่อไปเมื่อถึงเวลาจะต้องไปทำจริง ๆ ก็จะเกิดคำถามว่า ทำเท่าไหนถึงจะดี จริง ๆ แล้วในเมืองไทย ปัญหาเรื่องนี้เราพบได้น้อยมาก สาเหตุก็เพราะเนื่องจากส่วนใหญ่จะแล้วแต่คุณหมอที่ทำให้ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเทคนิคและความชำนาญของคุณหมอในแต่ละคน แต่สำหรับในต่างประเทศนั้น การขลิบเคาทำกันเป็นกิจวัตร ก็เลยมีการปรับเปลี่ยนประยุกต์ หรือมีออปชั่นเสริมต่าง ๆ เข้ามา อย่างที่หลายท่านเคยได้ยิน ว่ามี high low loose tight อะไรนั่นแหละ วันนี้ผมเองก็จะพาทุกท่าน ไปรู้จักกับการขลิบแบบต่าง ๆ เลยละกันนะครับ High loose รอยการขลิบอยู่ใต้จากบริเวณส่วนคอหยัก + รอยต่างของสีจะสังเกตเห็นได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก inner foreskin ได้ถูกเอาออกไปเกือบหมด +เวลาอ่อนตัว จะมีหนังย่น ๆ เหลือเพียงเล็กน้อย - เส้นประสาทบริเวณหนังด้านในจะถูกเอาออกไป - มีโอกาสจะต้องขลิบซ้ำได้มากถ้าหากผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ High tight ระยะห่างระหว่างรอยขลิบกับคอหยักประมาณ 10 mm + ปลายประสาทส่วนใหญ่ยังอยู่ด้านในของผิวหนังและสามารถถูกกระตุ้นได้อย่างเต็มที่ + เวลาอ่อนตัวจะเหลือหนังมากองเพียงเล็กน้อยบริเวณคอหยัก - จะเห็นความต่างของสีผิวค่อนข้างมากระหว่าง inner และ outer foreskin ซึ่งบางคนบอกชอบแต่บางคนอาจไม่ชอบได้ Low loose มีรอยขลิบอยู่ใต้คอหยัก อาจมีส่วนของหนังบริเวณลำมาคลุมส่วนหัวได้ + รอยต่างของสีจะสังเกตเห็นได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก inner foreskin ได้ถูกเอาออกไปเกือบหมด - เส้นประสาทบริเวณหนังด้านในจะถูกเอาออกไป - มีโอกาสจะต้องขลิบซ้ำได้มากถ้าหากผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ - เวลาอ่อนตัว เนื่องจากหนังที่ยังเหลืออยู่มาก ก็ทำให้มีหนังมากองอยู่บริเวณใต้คอหยักซึ่งทำให้ดูเหมือนคนมีหนังหุ้มปลายอยู่แต่รูดขึ้นไป - ทำให้ดูแลความสะอาดทำได้ไม่สะดวกพอ เพราะจะเหมือนกับคนที่ยังไม่ได้ขลิบ Low tight มีระยะห่างอย่างน้อยที่สุด 10 mm ระหว่างรอยขลิบและส่วนหัวแต่ยังมีบางส่วนสามารถมากองบริเวณใต้คอหยักได้ + ปลายประสาทส่วนใหญ่ยังอยู่ด้านในของผิวหนังและสามารถถูกกระตุ้นได้อย่างเต็มที่ - เวลาอ่อนตัว เนื่องจากหนังที่ยังเหลืออยู่มาก ก็ทำให้มีหนังมากองอยู่บริเวณใต้คอหยักซึ่งทำให้ดูเหมือนคนมีหนังหุ้มปลายอยู่แต่รูดขึ้นไป - ทำให้ดูแลความสะอาดทำได้ไม่สะดวกพอ เพราะจะเหมือนกับคนที่ยังไม่ได้ขลิบ - จะเห็นความต่างของสีผิวค่อนข้างมากระหว่าง inner และ outer foreskin ซึ่งบางคนบอกชอบแต่บางคนอาจไม่ชอบได้ จากที่อธิบายทั้งหมด จะเห็นว่ามีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อยในแต่ละแบบ แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมนะครับ ว่าข้อดีของการขลิบคือประโยชน์ในเรื่องการดูแลสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญครับ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยนี่ขึ้นอยู่กับการปรึกษากับคุรหมอที่เป็นคนทำให้ครับ ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen   Create Date : 10 กันยายน 2551     Last Update : 1 มิถุนายน 2559 18:55:58 น.     Counter : 25285 Pageviews.   Share Tweet

ประเภทของการขริบ หลังจากทราบถึงข้อดีอันมากมายของการขลิบแล้ว เพื่อน ๆ หลายคนก็เริ่มอยากจะไปขลิบกัน แต่หลายคนก็คงยังสงสัย ว่าการขลิบมีกี่แบบ ซึ่งถ้าเราหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตจะพบศัพท์หลายคำ เช่น high ,low ; loose,tight คงมีหลายคนสงสัยว่ามันคืออะไร และต่างกันยังไง คุณหมอจะทำแบบไหน บางคนไปพบแพทย์ก็ไปบอกหมอว่าทำแบบ high นะ บางคนก็บอกเอาแบบ low สุดท้ายหมอก็งงนึกว่าจะเล่นไฮโล หรือมันจะให้ตัดเป็นรูปลูกเต๋าไว้แทงสูงต่ำกันหว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ศัพท์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการใช้ในทางอเมริกาเอง ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีอัตราการขลิบสูงมาก คือผู้ชายเกือบ 70 เปอร์เซนต์จะขลิบปลายอวัยวะเพศ ทำให้มีการแบ่งชนิดไว้หลายแบบ เลยเรียกเป็น term ขึ้นมา แต่สำหรับเมืองไทยการขลิบยังนิยมทำกันอยู่ในคนเฉพาะกลุ่ม เช่นทำในโรงพยาบาลเอกชนที่คุณแม่หลายคนที่อ่านตำราเลี้ยงลูกแล้วเห็นข้อดีในการดูแลสุขอนามัยของลูก หรือหลายคนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่เห็นประโยชน์มากมายของการขลิบ หรือบางคนที่ไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเช่นไปเรียน และกลุ่มคนที่นับถือศาสนาอิสลาม และปัจจุบันก็เริ่มมีคนที่ขลิบจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ได้แพร่หลาย แม้แต่หมอในเมืองไทยเองก็ยังมีเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายนึงที่เห็นว่าตัวเองก็ไม่ได้ขลิบก็อยู่ได้ก็จะไม่ค่อยแนะนำให้คนไข้ขลิบ กับคุณหมออีกกลุ่มนึงที่เห็นข้อดีมากมายจาการขลิบเช่นพวกหมอที่ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศทางแถบอเมริกา ซึ่งคุณหมอกลุ่มแรกก็ยังมีจำนวนเยอะกว่า ทำให้การขลิบไม่ได้แพร่หลายเท่าที่ควร เป็นสาเหตุที่ทำให้การขลิบก็คือรู้จักว่าคือการตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศออกไปเท่านั้น ไม่ได้มีการแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ เหมือนเมืองนอก จึงเป็นที่มาของอาการหมองง เมื่อคนไข้มาบอกว่าทำแบบ high หรือ low กายวิภาคของอวัยวะเพศปกติก่อนการขลิบ เพื่อความเข้าใจง่าย ๆ ก็จะขออธิบายย่อ ๆ ว่า ทางหลักกายวิภาค หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของคนเราจะแบ่งเป็น 2 ชั้น เรียก inners kin กับ outer skin ซึ่งการแบ่งชนิดของทางอเมริกาว่า high low tight loose ก็คือจะแบ่งตามสัดส่วนของหนังที่เอาออกไปนี่เอง ว่าเอาอันไหนเยอะ อันไหนน้อย ซึ่งผลของแต่ละแบบก็จะทำให้รูปลักษณ์ของอวัยวะเพศอาจจะแตกต่างกันออกไปบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัว แต่หัวใจของการขลิบจริง ๆ ก็คือการเอาหนังหุ้มปลายออกเพื่อให้ดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศทำได้ดีขึ้น ป้องกันการหมักหมมของเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์รวมทั้งคราบต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานเป็นกังวลได้ครับ กายวิภาคของอวัยวะเพศชายที่ขลิบแล้ว ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen   Create Date : 12 มิถุนายน 2550     Last Update : 1 มิถุนายน 2559 18:55:37 น.     Counter : 16919 Pageviews.   Share Tweet

เลือกแบบไหนดีเมื่อจะทำการขริบ หลังจากที่อธิบายกายวิภาคไปคร่าว ๆ แล้ว ทีนี้ก็จะอธิบายแบบง่าย ๆ ว่าอะไรคือ high loose low tight จริง ๆ แล้วถ้าเอาง่ายกว่านั้น เรียกแบบไทย ๆ ก็คือจะเอาหนังออกมากหรือเอาออกน้อย ก็แค่นั้นเองครับ ก็ยกคำอธิบายให้งง ๆ เล่นนะครับว่า มีหนัง 2 ชั้น (อันนี้ยกจากเวบเมืองนอกเลยนะ) 1) outer skin (shaft skin + foreskin) 2) inner skin (limited) A. If you remove more outer skin than inner skin, you get the "high" type B. If you remove more inner skin than outer skin, you get the "low" type C. If you remove a lot of skin, you get a "tight" circumcision D. If you remove a limited amount of skin, you get a "loose" circumcision จากนั้นเมื่อเอาแต่ละอันมา mix กันเพื่อความงงก็จะได้เป็น 4 แบบดังนี้ 1. A + C = "high and tight" (scar far from glans) 2. A + D = "high and loose" (scar could cover the glans) 3. B + C = "low and tight" (scar just under the glans in the coronal sulcus [groove behind glans]) 4. B + D = "low and loose" (no scar visible when flaccid) อธิบายแบบนี้ก็จะงงใช่ไหมหละ เอาง่าย ๆ อีกทีก็คือถ้าเอาหนังออกมากก็ high เอาออกน้อยก็ low ส่วน tight กับ loose ก็จะดูง่าย ๆ เวลามันตื่น ถ้ามันตึงมากก็ tight ถ้ามันไม่ตึงมากก็ loose แต่หลายคนก็จะงงอีก เอาเป็นว่าดูรูปเหอะเนาะ แบบ high แบบ low (ไม่ได้แปลว่ากระจอกหรือจนนะ) ก็จะเห็นว่าต่างกันเล็กน้อยในรูปลักษณ์ แต่ประโยชน์ที่ได้ก็คืออย่างเดียวกัน คือเพื่อสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญ ลดการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ส่วนเรื่องความงามก็เป็นเรื่องของแต่ละคนนะครับ ที่อธิบายมาทั้งหมด ก็แค่อยากจะบอกเพื่อน ๆ ว่าอย่ากังวลมากครับว่าแบบไหน เพราะหมอไทยก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีหลายแบบ เอาเป็นว่าเวลาไปขลิบ ก็แค่บอกหมอว่ามาขลิบ แล้วก็บอกให้ทำสวย ๆ แค่นั้นจบ ให้คุณหมอเค้าใช้วิธีที่เค้าชำนาญที่สุดและเห็นว่าดีที่สุดสำหรับเราก็พอครับ เพราะไปกดดันมาก ๆ หมอก็งงนะ ไรฟะ มาทำไฮโลในรพ. ทำเพื่อประโยชน์คับ สบายใจ ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen   Create Date : 12 มิถุนายน 2550     Last Update : 1 มิถุนายน 2559 18:55:08 น.     Counter : 9365 Pageviews.   Share Tweet

partial circumcision ทำแบบ 2 จิต 2 ใจ ขลิบแบบนิดโหน่ย (partial circumcision) ในขณะที่หลายคนมีปัญหาเรื่องหนังหุ้มปลายที่มากเกินไป ทำให้การดูแลรักษาความสะอาดทำได้ไม่สะดวก จึงไปพบแพทย์เพื่อทำการขลิบ ซึ่งจะช่วยให้สุขอนามัยดีขึ้น แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังเสียดายหนังหุ้มปลายของตัวเองเอาไว้ แต่ใจนึงก็ต้องการให้มันเปิดได้บ้างจึงบอกหมอว่าขอแค่นิดเดียว แค่พอให้เปิดหัวได้ก็พอ แต่ไม่เอาเยอะนะ อันนี้หมอเค้าก็สามารถจัดให้ได้นะครับ โดยเอาหนังออกไปแค่ประมาณ 1 เซนต์ให้เป็นพิธี ทำให้หนังที่คลุมไว้มันสั้นลงบ้าง แต่ก็ยังมีส่วนที่คลุมไว้อยู่ อันนี้ทางการแพทย์เค้าเรียกว่า partial circumcision ครับ คือทำให้เพื่อคนไข้สบายใจแหละ บางคนก็หลังทำไปแล้วก็จะยังมีการหมักหมมอยู่ได้บ้างครับแต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ซึ่งอันนี้ความเห็นส่วนตัวผมเองนะ คิดว่าเหมือนเจ็บตัวฟรีอะครับ ไหน ๆ จะทำแล้วก็น่าจะทำให้มันดีเลย อีกอย่างหนังที่มันยังเหลือไว้นี่ก็เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นมาได้อีกเยอะครับ สู้ไหน ๆ จะเสียเงินแล้วก็ทำให้มันเรียบร้อยไปเลยดีกว่าเนาะ ลองไปดูภาพตัวอย่างครับ ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen   Create Date : 23 ธันวาคม 2549     Last Update : 1 มิถุนายน 2559 18:54:26 น.     Counter : 13655 Pageviews.   Share Tweet

เส้นสองสลึง frenulum เส้นสองสลึง (frenulum) คือเส้นเอ็นเล็ก ๆ ที่ยึดระหว่างหัวของอวัยวะกับหนังหุ้มปลายอวัยวะหนะครับ ซึ่งเส้นนี้โครงสร้างทางกายวิภาคจะเหมือนกับเส้นที่อยู่ใต้ลิ้นของคนเราเลยแหละ บางคนเส้นนี้อาจจะตึงมากทำให้เวลาที่ปฏิบัติกามกิจรุนแรง หรือช่วยตัวเองแบบมันมือมากไปหน่อยจะทำให้ฉีกขาดจนเลือดออกได้ครับ บางคนก็บอกว่านี่แหละผู้ชายเสียความบริสุทธ์แล้วซึ่งจริง ๆ นี่ก็ไม่เสมอไปนะครับ หนึ่งในคำถามที่หลายคนสนใจ ว่าเส้นสองสลึงจำเป็นต้องเอาออกหรือไม่ อันนี้เป็นคำถามนานาจิตตังนะครับ บางคนก็บอกว่าควรเก็บไว้ บางคนก็บอกว่าไม่ควรเก็บไว้ อันนี้ผมก็ขอตอบกลาง ๆ นะครับ ว่าแล้วแต่ความพึงพอใจของแต่ละคนครับ ส่วนข้อดีข้อเสียของมัน ก็อยากให้แต่ละท่านลองอ่านแล้วพิจารณาเองนะครับ ว่าจะเก็บหรือไม่เก็บมันไว้ดีครับ จะได้บอกคุณหมอตอนไปทำครับ ข้อดีของการเอาเส้นสองสลึงออก 1. ถ้าหากว่าอวัยวะเพศของคุณไวต่อสิ่งกระตุ้นมากทำให้เกิดการหลั่งเร็ว การเอาเส้นเล็ก ๆ นี่ออกจะทำให้คุณลดความไวลงได้ครับ (อย่างที่ทราบกันว่าเส้นนี้มันไวต่อการสัมผัสมาก ๆ ทำให้เป็นสาเหตุของการล่มปากอ่าวได้บ่อย ๆ นะ) 2. อย่างที่ทราบกันว่าเส้นนี้มันทำหน้าที่ยึดระหว่างหัวของอวัยวะกับหนังหุ้มปลาย การที่เอาเส้นอันนี้ออกก็จะทำให้คุณสามารถรูดหนังลงได้ง่ายขึ้นครับ 3. จากเหตุผลเดียวกับข้อสอง ถ้าคุณเอาเส้นสองสลึงออกมันก็จะทำให้หมอสามารถเอาหนังออกเพิ่มได้อีก เนื่องจากไม่มีอะไรมายึดหนังหุ้มไว้ครับ อันนี้ก็เป็นข้อดีของคนที่อยากทำแบบ high หรือเอาหนังออกเยอะเหมือนพวกฝรั่งอะครับ 4. อย่างที่บอกว่าเส้นนี้มันจะยึดหัวอวัยวะไว้ครับ บางคนที่ประกอบกามกิจแบบรุนแรงก็อาจจะทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นนี้ได้ คราวนี้หละครับเลือดจะพุ่งอย่างมากมายทำให้ต้องมารพ. เพื่อให้คุณหมอเย็บซ่อมครับ 5. เนื่องจากเส้นนี้มันจะทำหน้าที่ยึดส่วนหัวไว้บริเวณด้านล่างของอวัยวะใช่ไหมครับ ทำให้เวลาแข้งตัวหนังด้านบนจะรูดเปิดหมด แต่ด้านล่างยังมีเส้นยึดไว้ ทำให้มองเป็นรูปตัว V อะครับ พอนึกออกไหม ทำให้บางครั้งหลายคนคิดว่าเอาเส้นนี้ออกดีกว่า หนังมันจะได้รูดเปิดหมดแบบเสมอกันครับ ส่วนข้อเสียของการเอาเส้นสองสลึงออกนะครับ 1. อันนี้ก็จะกลับกับข้างบนที่เป็นข้อดีนะครับ คือที่หลายคนทราบว่าเส้นนี้มันจะเป็นจุดที่ค่อนข้างไวต่อการสัมผัสครับ หลายคนเลยอยากจะเก็บไว้เอาไว้ ซึ่งถ้าเอาออกก็จะทำให้ความรู้สึกสัมผัสลดลงได้ครับ 2. ตรงนี้เป็นบริเวณที่เส้นเลือดมาเลี้ยงเยอะมากครับ เรียกว่า frenulum vein ซึ่งเมื่อถูกตัดออกจะทำให้มีเลือดออกค่อนข้างเยอะครับ หลายคนที่ขลิบใหม่ ๆ จะสังเกตเห็นว่าตรงนี้แหละที่มีโอกาสแผลจะซึมได้มากที่สุดครับ หลังจากทราบข้อดีและข้อเสียของการเอาออกหรือเก็บไว้นะครับ ก็เป็นหน้าที่ของแต่ละคนนะครับที่จะตัดสินใจว่าจะเอาออกหรือเก็บไว้ครับ อันนี้ก็แจ้งหมอที่ทำได้นะครับ ส่วนความเห็นส่วนตัวของผมนี่เห็นว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ โดยผมจะเอาออกให้เมื่อเห็นว่ามันตึงหรือมันรั้งมาก ๆ ครับ หรือบางคนบอกเพื่อความสวยงาม หรือทำตามที่คนไข้บอกครับ ภาพข้างล่างนี้เป็นภาพตัวอย่างนะครับ ชอบแบบไหนก็บอกหมอเอาละกันครับ ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen   Create Date : 23 ธันวาคม 2549     Last Update : 1 มิถุนายน 2559 18:53:48 น.     Counter : 97315 Pageviews.   Share Tweet