Suckoja in Japan ~Prologue~
การตามหาความฝันและทำสิ่งนั้นให้เป็นจริงนั้น คงเป็นเป้าหมายของชีวิตใครหลายๆ คน บ้างก็สมหวัง บ้างก็ผิดหวัง บ้างก็ได้ทำตามฝัน บ้างอาจจะหาฝันไม่เจอ ผมเองก็มีความ ฝันละเมอเพ้อพบเหมือนกับผู้อื่นเชาเช่นกัน แต่รายละเอียดนั้นเพียงจะต่างออกไป ความฝัน ที่ผมมีมาตั้งแต่เมื่อครั้งวัยเยาว์ก็คือการได้ไปท่องเที่ยวที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย "ญี่ปุ่น" แหล่ง ต้นกำเนิดของวัฒนธรรมที่มีผลกระทบต่อชีวิตของผมมานานหลายปี... วันนี้ ผมกำลังทำ คามความฝันนั้นให้เป็นจริงแล้ว ณ วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2008 ผมกำลังจะขึ้นเครื่อง SG 732 ของสายการบิน Singapore Airline เพื่อบินไปลงสนามบินนานาชาตินาริตะจาก สนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพ ในการเดินทางคราวนี้ผมเเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่กลางกุมภาพันธ์เลยล่ะครับ ผมทำการ จองตั๋วกับ Singapore Airline ผ่านทางเว็บไซต์ของเขาด้วยโปรโมชั่น Sweet Deal ที่จะ บินไปกลับที่นาริตะด้วยราคาเพียง 33,400 บาท 2 ที่นั่ง... ไม่ใช่ที่นั่งเดียวนะครับ เท่ากับว่า คนละ 16700 บาทเท่านั้น ผมเลยโทรหาเพื่อนหลายคนเพื่อยื่นข้อเสนอ สุดคุ้มให้ โดยผม จะทำการออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปให้ก่อน แล้วท่านค่อยมาใช้คืนผมทีหลัง จนผมได้เพื่อน "โอ" มาเป็นคนร่วมการเดินทางในคราวนี้ด้วย ในตอนจ่ายเงินผ่านบัตรเคดิตของ AIG ปรากฎว่ามีปัญหาเล็กน้อยครับ คือบัตรเครดิตผมมันไม่ยอมอนุมัติให้จ่ายเงินค่าเครื่องบิน เกิน 3,000 บาท (แต่วงเงินรวมของผมนี่เกินพอครับ) ผมจึงต้องโทรไปทางศูนย์ช่วยเหลือ ลูกค้าของ AIG เพื่อให้ทางเขาช่วยเดินเรื่องให้ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี แม้ภายหลัง ผมจะต้อง จ่ายค่าโง่เพิ่มเพื่อเดินเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อของเพื่อนผมที่ลงทะเบียนไปไว้ในตอนแรก อีก 2000 บาทก็ตาม... เรื่องวุ่นๆของการเตรียมตัวของผมยังไม่จบครับ ผมจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไปก่อนโดยที่ ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่า จะสามารถยื่นขอวีซ่าผ่านได้หรือไม่ เรียกได้ว่าเป็นตาเดิน ที่เสี่ยงอันตรายพอตัวเลยล่ะครับ เพราะถ้าวีซ่าไม่ผ่านขึ้นมา ค่าเครื่องบินก็เป็นอันมลายหาย ไปเพราะเขาไม่ให้ทำวีซ่าใหม่อีกภายในรอบ 6 เดือนสำหรับบุคคลที่ถูกปฏิเสธไป วันที่ไปทำวีซ่า ผมประทับใจสถานฑูตญี่ปุ่นใหม่ที่ติดกับสวมลุมไนท์บาซาร์ใหม่มาก ครับ สถาปัตยกรรมภายในออกแบบได้สวยงามมีระดับเลยทีเดียว ตอนทำวีซ่าก็มีปัญหาอีก เช่นกันครับ แต่เป็นของเพื่อนผมที่เงินในบัญชีของเขาตัวเลขท้ายสุดมีน้อยจนเกินควร ทาง สถานฑูตจึงขอในทางพวกผมทำหนังสือยืนยันการเงินมาให้กับทางสถานฑูตเพื่อยืนยันอีก ครั้ง ผมเลยได้ออกไปเขียนหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายและความสัมพันธ์ไปในซองจดหมายให้ เลย แล้วเพื่อนผมก็เอาไปยื่นเองตอนบ่ายอีกรอบ เวลาผ่านไปอีก 3 วัน ด้วยใจที่เต้นระทึก วีซ่าของพวกเราทั้งคู่ก็ผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย ...แล้วเวลาก็ผ่านไป... 2 เดือน จนมาถึงวันเดินทางในวันนี้ ทุกอย่างก็พร้อมแล้วครับ ได้เวลาเดินทางกันเสียที ติดตามต่อได้ในตอนต่อไปครับ
Create Date : 19 พฤษภาคม 2551 | | |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2551 4:34:26 น. |
Counter : 284 Pageviews. |
| |
|
|
|