เพลงเอกภพ
จริงอยู่ที่ใครเคยกล่าวว่า “ชีวิตเป็นของเรา”
เราสามารถกำหนดกฎเกณฑ์และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ชีวิตตัวเองได้
แต่หลายครั้งชีวิตก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้เสมอ

"...บอกตรงๆ บางทีผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามือผมเป็นฝ่ายหมุนพวงมาลัยหรือมันเป็นฝ่ายพามือของผมหมุนตาม
...อีกนิดเดียวจะพ้นจากหล่ม ผมเหยียบคันเร่งลึกลงไปอีก เพื่อให้เจ้าแมงคู่ชีพหลุดพ้นจากแอ่งตมสุดท้าย ข้างหน้านั้นเป็นจุดหักโค้งของลำห้วย ซึ่งทำให้เส้นทางต้องหักโค้งไปตามกัน ถ้าผมเลี้ยวรถไม่ทัน ทั้งรถทั้งคนก็จะพุ่งลงไปอยู่ในห้วยทันที ปัญหาของผมคือถ้าไม่เร่งเครื่องเต็มที่ก็ไม่อาจหลุดจากหล่มได้ แต่ถ้าเร่งเครื่องเต็มที่ ผมก็อาจจะเลี้ยวโค้งได้ไม่ทัน" *


สถานการณ์บางอย่างอยู่เหนือการควบคุม

"เจ้าปิกอัพของผมหลุดออกมาจากคืบศอกสุดท้ายของแนวหล่มอย่างเชื่องช้า แต่ทันทีที่ล้อรถแตะกับดินเนื้อแข็งได้ครบสี่ข้าง พลันมันก็พุ่งกระโจนไปข้างหน้าเหมือนเสือหลุดกรง ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะหักพวงมาลัยพามันเลี้ยวขวาไปตามโค้ง แต่แผ่นโคลนหนาเตอะที่ห่อหุ้มยางทั้งสี่ข้างเอาไว้ ทำให้รถของผมยังคงแฉลบไปทางซ้ายซึ่งเป็นทิศทางของลำห้วย ผมไม่กล้าแตะเบรก เพราะกลัวทั้งรถทั้งคนจะพลิกคว่ำ จึงได้แต่หมุนพวงมาลัยไปมาอย่างสิ้นหวัง ในจังหวะนั้นเอง ผมก็เหลือบไปเห็นพงหญ้าและพุ่มไม้เตี้ยๆ ที่เลื้อยจากริมห้วยขึ้นมาคลอเคลียกับขอบทางเข้าพอดี จึงอาศัยจังหวะที่รถแฉลบไปในทิศนั้นอยู่แล้ว พาล้อครูดไปบนพืชพันธุ์ดังกล่าว เพื่อปัดโคลนออกส่วนหนึ่ง จากนั้นก็ฝากความหวังลมๆ แล้งๆ ว่ามันจะช่วยให้รถหยุดได้”*
(*เราเรียกมันว่าชีวิตที่ดี หน้า 86-87)

‘สติ’ เท่านั้นที่จะช่วยทำให้เรามองเห็นหนทางแก้ไขและนำพาเราให้หลุดพ้นจากอุปสรรคไปได้

“เพลงเอกภพ” ของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เล่า ‘ชีวิต’ ผ่านการเดินทางที่ทั้งต้องเดินเท้า ทั้งปีนป่าย บุกป่าฝ่าดง ล่องแก่ง และทแยงฝ่าคลื่น ด้วยความลำบากสาหัส ระหว่างทางธรรมชาติ การดำเนินที่เรียบง่าย และมิตรภาพ

“สำหรับพวกเราแล้ว...
’ชีวิตที่ดี’ อาจจะมีรูปธรรมรองรับได้สารพัดอย่าง แต่เมื่อกล่าวอย่างถึงที่สุด มันก็คือ ‘ชีวิต’ ที่ไม่เคยอยากได้อยากดีเหมือนคนอื่นเขานั่นเอง...”

(เราเรียกมันว่าชีวิตที่ดี หน้า 115)



** อ่านไปก็ทึ่งไปค่ะ
คุณเสกสรรค์เก็บรายละเอียดระหว่างการเดินทางได้ละเอียดลออสุดๆ
ทึ่งกับมุมมองความคิด การทำความเข้าใจกับชีวิตและธรรมชาติ
ทึ่งกับวิธีคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ภาษาก็สวย
...ต้องขอยกให้เป็นนักเขียนในดวงใจอีกคน **

(ช่างแตกต่างจากงานเขียนของคุณลูกชายจริงๆ
...แอบอยากอ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับครอบครัว ‘ประเสริฐกุล’
เพราะเท่าที่คุณเสกสรรค์เขียนถึงภรรยา แม้จะเล็กน้อยแต่ก็น่ารักมาก
ดูเป็นครอบครัวเรียบง่ายอบอุ่น
ก็ไม่รู้ว่า... ทำไมแทนไทถึงจิตแตกได้เพียงนี้ ฮ่า ฮ่า (แซวเล่นนะน้อง))



Create Date : 22 ธันวาคม 2550
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2551 12:42:31 น.
Counter : 539 Pageviews.

4 comments
  
มาแสดงตัวว่า แอบนั่งอ่านบล๊อกนะคะ งานที่เขียนถึงแต่ละเล่มชอบจังเลยค่ะ

ว่าแล้วก็ขอแอดเป็น friend's blog จะได้เข้ามาดูได้อีกง่ายๆ
โดย: ปะการังเรืองแสง วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:10:39:53 น.
  
เมื่อก่อนเราไม่ชอบงานของอ.เสกฯ เลยค่ะ

จนได้มาอ่าน "ผ่านพบไม่ผูกพัน" ถึงได้ชอบน่ะค่ะ

เราว่าครอบครัวนี้ ทั้งลูกชายคนโตและคนรอง ไม่เหมือนกับพ่อแม่เลยแหละค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 ธันวาคม 2550 เวลา:11:34:18 น.
  
ชอบคู่สามี-ภรรยาของครอบครัวนี้มากค่ะ นับเป็นบุคคลที่ควรเเค่เเก่การเรียนรู้มากๆ งานเขียนของคนในตระกูลนี้ ตั้งเเต่รุ่นพ่อเเม่ถึงรุ่นลูก สะท้อนมุมมองเเละแง่คิดได้หลายอย่างจริงๆ
แม้ว่างานของลูกจะเเปลก เเต่ขณะอ่านก็รู้สึกทึ่งว่า เออ.. เจ๋งเว้ย คิดเข้าไปได้นะนั่น (ฮา) หนอนป้อมว่าเขาคงอยากให้คนอ่านเห็นเป็นเอกลักษณ์ของเขามั้งคะเพราะเป็นลูกนักเขียนชื่อดัง คนคิดลบก็มักจะมองอยู่ด้านเดียว ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็สามารถเป็นได้ในเเบบฉบับของตัวเอง

... เอาเป็นว่าชื่นชอบงานของครอบครัวนี้ทุกคนค่ะ
โดย: หนอนป้อม IP: 58.8.180.238 วันที่: 26 ธันวาคม 2550 เวลา:22:07:56 น.
  
จริงค่ะ
คือถ้าตัวเองเป็นผู้ชาย แล้วมีภรรยาแบบนี้
ต้องรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ
แถมเลี้ยงลูกให้เป็นคนคุณภาพได้
(แม้จะหลุดๆ รั่วๆ แต่ก็น่ารักทุกคน)
โดย: skywriter วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:8:17:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

skywriter
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ขี้เล่า ^^
New Comments