จาจังมยอน...เส้นนุ่มเหนียวเคี้ยวหนึบเกลือกกลิ้งในซอสดำเข้มข้นสะใจ เกริ่นก่อนว่า อิฉันอยากกินมานานแล้วค่ะ เจ้าจังมยอนเนี่ย  แต่ด้วยความที่บ้านกันด๊ารกันดาร (ยังดีนะยะที่ไฟฟ้า-ประปาเข้าถึง) จึงไม่มีวัตถุดิบสำคัญอย่าง "ชุนจัง" หรือ เต้าเจี้ยวถั่วดำหมัก เลยต้องรอให้สบโอกาสเหมาะ โบกอีแต๋นเข้าเมืองศิวิไลซ์ไปสอย ได้มาถุงละ 35 บาทขาดตัว กินอิ่มทั้งตระกูลแน่นอน และก็ทำไปเรื่อยๆ เฉื่อยแฉะ พอเสร็จแล้ว เอ้า ไหนชิมดูซิ ...........โอ๊ะโม่ะๆๆๆ ออต๊อกเค๊ ทำมั่วแต่เจือกอร่อย(ว่ะ).......... ก็ไม่คิดเนอะว่าจะมาอัพบล็อก เลยไม่ได้ถ่ายตอนเตรียมวัตถุดิบเลย รูปขั้นตอนการทำก็ไม่มี แต่เนื่องจากของเค้าดีจริง ขอแบ่งปันแล้วกันค่ะ สูตรนี้มั่วจากของขุ่นพี่ Maangchi บ้าง ของ เบคจงวอนซอนแซงนิม บ้าง กินได้ก็กิน... กินไม่ได้ก็ต้องกิน ห้ามทิ้ง เสียดายของ !!! ผักที่นิยมใส่ในจาจังมยอนคือมันฝรั่ง หอมใหญ่ กะหล่ำปลี และซูกินีค่ะ แต่เราไม่จำเป็นต้องครบเครื่องก็ได้ ชอบอะไรใส่ก็แค่อันนั้นพอ (มันเปลืองชิมิ) วัตถุดิบ 1. เนื้อหมูหั่นเต๋า ประมาณ 3 ขีด (กะมั่วๆ เอาค่ะ) 2. มันฝรั่ง 2 หัว หั่นเต๋า 3. หอมใหญ่ 1 หัว หั่นเต๋า 4. ต้นหอมซอย 2 ต้น 5. น้ำสะอาด 2 ถ้วย 6. ชุนจัง หรือซอสถั่วดำ 3 ช้อนโต๊ะ (สำคัญมาก หาซื้อไม่ได้ก็ถอดใจเถอะค่ะเธอ) 7. แป้งข้าวโพดละลายน้ำ (กะปริมาณเองโลด) 8. คันจัง หรือ โชยุ ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ซีอิ๊วขาว (อย่าถึงขั้นใช้น้ำปลาเลยจ้ะ ไหว้ล่ะ) 9. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 10. น้ำมันงา (ใส่แล้วจะพบสวรรค์ที่แท้จริง ควรใส่อย่างยิ่ง) 11. แตงกวาซอย เอาไว้โรยหน้าทีหลัง 12. เส้นพาสต้า เส้นจาจังมยอน หรือบะหมี่เกาหลีตามชอบ วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชนิดหน่อย ข้าพเจ้าใช้น้ำมันรำข้าว พอน้ำมันร้อนได้ที่ ใส่ต้นหอมซอยลงไปผัดด้วยไฟอ่อนจนมีกลิ่นหอม 2. ใส่เนื้อหมูลงไปผัดกับต้นหอมให้สุก (เกรียมนิด ๆ จะดีมาก) 3. ใส่มันฝรั่งลงไปผัดประมาณ 2 นาที ตามด้วยหอมใหญ่หั่นเต๋า ผัดจนสุก 4. แหวกทางให้นางเอกหน่อยจ้ะ เอาผักทั้งหลายหลบไปข้างๆ  เทน้ำมันพืชใส่อีกนิด แล้วบีบซอสชุนจังลงไปผัดสักครู่ (ไม่ดำไม่หยุดบีบ) จากนั้นก็ทำการคลุกเคล้าสรรพสิ่งให้เข้าเนื้อ พร้อมท่องนะโม 3 จบ เสร็จ 5. เติมน้ำสะอาดลงไป เคี่ยวจนซอสเข้าเนื้อได้ที่ 6. ปรุงรสด้วยคันจังนิดหน่อย (นี่ไม่ได้คันนะฮะ คันจังนั่นชื่อซอสไหมล่ะ)  ประโคมน้ำตาลทรายอีกนิดส์นึง ทีนี้แหละ ลิ้นใครก็ลิ้นมัน  อยากได้รสไหนก็ปรุงเอาตามใจชอบ แต่คติของอิฉันคือ "จืดดีกว่าเค็ม" ค่ะ 6. จากนั้นเราพักเตานี้หันไปลวกเส้นกันก่อน วันนี้ใช้พาสต้าเบอร์ 1 Angel hair ฝุดๆ รับรองว่าน้ำซอสเข้าซึมซับทุกอณูแน่นวล ต้มเส้นประมาณ 5 นาที งานนี้ไม่ขออัลเต้นเด้ ขอแบบนุ่มๆ เหนียวๆ เมื่อเส้นสุกก็เทใส่กระชอนล้างด้วยน้ำเย็น พร้อมทำท่าซักถุงเท้าไปด้วย 7. น้ำซอสดำที่ทำไว้มาตั้งไฟอีกครั้งให้ร้อนได้ที่ จากนั้นค่อยๆ  เทแป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป อย่าเทลงไปพรวดเดียวนะคะ มิเช่นนั้นท่านจะได้ก้อนเจลลี่รสชุนจังมาแทน (ไม่ควรนึกภาพตาม) 8. น้ำซอสดำมาราดบนเส้นที่เตรียมไว้ โปะด้วยแตงกวาซอย  ถ่ายรูปนิดนึง คนๆๆๆๆให้เข้ากัน เสร็จแล้วแหลกล่ายยยค่ะ  สภาพหลังคลุกเคล้าออกจะน่ารังเกียจเดียดฉันท์ไปหน่อย แต่มันอร่อยยยนะจ๊ะ นี่โม้เลย   Create Date : 18 กรกฎาคม 2559     4 comment Last Update : 18 กรกฎาคม 2559 20:51:35 น.     Counter : 6737 Pageviews.   Share Tweet

จับเส้นขนมจีนมาละเลงเป็นบิบิมกุกซู (หมี่ยำเกาหลี) เอาอีกแล้วค่ะ ยัยอาจุมม่าคนนี้มาทีไร ต้องมีสูตรอาหารเกาหลีประยุกต์แบบไทย ๆ มานำเหนอตล๊อด  ก็จะไปเสียสะตุ้งสะตังค์ทำไมคะ มีอะไรก็หยิบจับมาทำเถอะ อร่อยถูกปากดีด้วย วันนี้ดั๊นจึงขอนำเสนอเมนูที่ชื่อแว่ "บิบิมกุกซู" 비빔국수 หรือหมี่ยำของเกาหลีนั่นเอง ก่อนอื่นขอแพล่มพอเป็นพิธีให้ดูเป็นคนมีความรู้นิดนึงนะคะ  อิชั้นชอบดูรายการอาหารของพี่เกามาก และตามร้านบิบิมกุกซูแบบออริจินัล จะนิยมใช้เส้น "โซมยอน" (ญี่ปุ่นเรียก โซเมน) ไม่ก็ เส้นบัควีทโฮมเมด ที่สีออกดำ ๆ ต้มสุกแล้วแลดูเหนียวนุ่มมาก  นำเส้นมาคลุกเคล้ากับ "ยังนยอม" (ซอสโกชูจัง บอกสูตรในส่วนผสม)  กิมจิ แตงซูกินีเกาหลี ผักกาดหอม และไข่ต้ม แค่นี้ก็อร่อยสะจายยยมาก แต่ที่จริงแล้วใช้เส้นอะไรก็ได้นะ ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่ไข่ วุ้นเส้น พาสต้า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินของแต่ละคน ไม่ใช่ละ แล้วแต่ความชอบและความสะดวกค่ะ ดังนั้นฐานะทางบ้านระดับเศรษฐีพันร้าน (บ้านขายบวบ) อย่างอิชั้น ต้องใช้นี่เลยจ้า "ขนมจีน" หรือขนมเส้น หรือข้าวปุ้น ห๊ะ!!! ขุ่นพระ!!! โอ๊ะโม่!!!  จริงจิ๊ง ทำได้ แถมอร่อยด้วยค่ะ สำหรับท่านที่นึกภาพไม่ออก อิชั้นก็ได้กูเกิ้ลหาภาพออริจินัลมาให้ชมก่อน ดูสิว่าของเราทำออกมาแล้วจิเหมือนพี่เกาแค่ไหน วัตถุดิบในการทำบิบิมกุกซู - เส้นขนมจีน (หรือเส้นอะไรก็ได้ตามชอบ) - กิมจิผักกาดขาว - โกชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ๊วขาว หรือ ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา - กระเทียม 5-6 กลีบ - โกชูการู หรือ พริกป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ - งาขาวคั่ว - แตงกวาหั่นเป็นเส้น 1 ลูก - สาหร่าย - ไข่ต้ม (วันนี้ดั๊นขี้เกียจต้มค่ะ เลยไม่ได้ใส่) วิธีทำ 1. เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ถ้าใช้เส้นที่ต้องผ่านการลวกก็จัดการลวกสะเด็ดน้ำทิ้งไว้ 2. หั่นแตงกวาเป็นเส้นๆ สับกระเทียมให้ละเอียด แล้วพักไว้ 3. นำกิมจิมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบีบน้ำออก วันนี้ใช้กิมจิที่ดั๊นหมักเองนะฮะ ไฮโซที่สุด 4. เข้าสู่ขั้นตอนการทำ "ยังนยอม" หรือซอสแบบง่าย ๆ โดยการนำโกชูจัง น้ำมันงา น้ำผึ้ง(หรือน้ำตาลทราย) พริกป่น ซีอิ๊วขาว และกระเทียมมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ไม่มีสูตรตายตัว ชิมรสได้ตามใจชอบ ถ้าไม่ชอบก็เฟี่ยงทิ้งไป (ไม่ดีมั้ง) ฉบับออริจินัลจะใส่น้ำซุปกระดูกหรือซุปผักลงไปผสมด้วย แต่ไม่ฮ่ะ  ของเราต้องทำให้บ้าน ๆ สุดชีวิต เลยใส่น้ำร้อนลงไปกระจึ๋งนึงพอขลุกขลิก 5. นำเส้นขนมจีนที่เดินทางไกลมาจากตลาด ฟาดลงไปในกะละมังที่มีซอสนอนแอ้งแม้งอยู่  แล้วทำการบีบ คลึง เค้น ไม่ต้องขนาดนั้น!!! คลุกให้เข้ากันก็พอ 6. ถ้าต้องการถ่ายรูปสร้างภาพก่อนกินก็นำกิมจิ แตงกวา งา และสาหร่ายที่เตรียมไว้โปะลงไป แต่ไม่ค่ะ ช้านหิววววจนจะแดร๊กวัวควายได้ทั้งตัวแล้ว จึงทำการคลุกโลด(ด้วยมือ) เป็นอันเสร็จ  ใครจะต้มไข่ ใส่ผักอะไรก็ว่ากันไป เอาที่สบายใจเลอ นั่งลง คลุก ๆๆๆๆ เอาตะเกียบคีบเข้าปาก แล้วแหล็กล่ายเลย ออกมาสภาพเช่นนี้ เหมือนที่อาจุมม่าเกาหลีทำมั้ยล่ะ  (สะกดจิตตัวเองเข้าไปว่าเหมือนซิ เหมือนมากกกก  อุตส่าห์ใส่กะละมังสแตนเลสลอกต้นฉบับมาเด๊ะ )   Create Date : 06 ตุลาคม 2558     3 comment Last Update : 9 ตุลาคม 2558 14:57:06 น.     Counter : 10603 Pageviews.   Share Tweet

ต๊อกโปกิ+โคชูจังจากวัตถุดิบในครัวไทย หลังจากที่ได้ทดลองทำแป้งต๊อกไปหลายครั้งจนได้รสชาติ และรสสัมผัสเป็นที่พอใจแล้ว ก็ได้เวลาลงมือทำ ต๊อกโปกิ ซะที วิธีทำแป้งต๊อกโฮมเมดตามบล็อกนี้  //www.bloggang.com/viewblog.php?id=sineyanhome&date=13-12-2013&group=4&gblog=2 แต่ปัญหาคือ ห้างโลตุ๊ดแถวบ้านไม่มีโคชูจังขาย  อาจุมม่านี่ก็อยากกินขั้นลงแดง วัยสะรุ่น(ป้า)ใจร้อน  ไม่รงไม่รอมันแล้วค่ะ ควานหาวัตถุดิบสามัญประจำครัว มาจัดการทำโคชูจังให้ว่อง พอทำแล้วออกมาอร่อยถูกปาก  เลยติดใจจนมีหลายครั้งตามมา ต่อไปนี้ร้านอาหารเกาหลี คงได้แอ้มเงินดิฉันยากหน่อยแล้ว สรุปว่าทุกอย่างเป็นโฮมเมดทั้งหมด ทั้งแป้งต๊อก โคชูจัง  แม้กระทั่งกิมจิและแตงกวาดองก็ทำเอง เหลือแต่ปลูกข้าว  ปลูกผัก เลี้ยงหมูนี่แหละค่ะที่ไม่ได้ทำเอง สะอาด อร่อยถูกปาก  และไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ ส่วนผสมโคชูจังโฮมเมด - น้ำพริกเผาอย่างละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ (ไม่ต้องละเอียดถึงขนาดโมเลกุลหรอกนะคะ)  - ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ - น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ - พริกป่นตามใจชอบ วิธีทำ คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันและชิมรสตามใจชอบเป็นอันเสร็จ  ง่ายเกิ๊นค่ะ เพียงเท่านี้ก็นำไปทำ ต๊อกโปกิ ได้เลยค่ะ  ส่วนผสมต๊อกโปกิ แป้งต๊อก - ใส่ผักหรือเนื้อสัตว์ตามใจชอบ  (ผักที่ป๊อบปูล่าร์ในต๊อกโปกิ คือ หอมหัวใหญ่  แครอท ต้นหอมหั่นท่อน กะหล่ำปลี) - ลูกชิ้นปลา หรือ เต้าหู้ปลา - โคชูจังโฮมเมด - น้ำซุป หรือ น้ำเปล่า - น้ำมันพืช - กระเทียมสับ (เพิ่มเองเพราะชอบทานกระเทียมค่ะ) วิธีทำ 1. ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน จากนั้นใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม 2. นำเนื้อสัตว์ เต้าหู้ปลา และผักลงไป ผัดพอสุก ใส่โคชูจังลงไปผัดให้เข้ากัน 3. เติมน้ำลงไปพอท่วม ประมาณ 2 ถ้วยตวง  และใส่แป้งต๊อกลงไป ปิดฝารอให้เดือด 4. เมื่อแป้งต๊อกและผักนิ่มได้ที่แล้ว  ให้ใส่ต้นหอมหั่นท่อนลงไปในขั้นตอนสุดท้าย ถ้าได้เสิร์ฟพร้อมกิมจิและแตงกวาที่ดองเองเหมือนอิชั้น  จะมาชิตะ อูมามิ โออิชิสุด ๆ ไปเลยค่ะ ติดใจฝีมือตัวเอง (ไม่อยากจะ said) จัดไปหลายครั้งเลย   Create Date : 15 ธันวาคม 2556     3 comment Last Update : 18 กรกฎาคม 2559 19:39:09 น.     Counter : 31759 Pageviews.   Share Tweet

แป้งต๊อกโฮมเมดสไตล์ไทย ช่วงนี้ดูซีรีส์เกาหลีแล้วอินอิ๊นอิน อินจนผันเป็นกริยาสามช่อง  และที่อินมากถึงมากที่สุดคือ อาหารเกาหลี นั่นเอง เจ้าอาหารเกาหลีที่พบเห็นในซีรีส์เกาหลีแทบทุกเรื่อง ตีคู่สูสีมากับ รามยอน นั่นคือ ต๊อกโปกิ  แป้งข้าวเหนียวผัดกับโคชูจังสีสันจัดจ้าน ใส่ผัก เนื้อสัตว์  ลูกชิ้นปลาตามใจชอบ ...ว่าแล้วต่อมน้ำลายก็แตกซ่าน  อยากจะบินไปร้านอาจุมม่าที่เกาหลีซะเดี๋ยวนั้น แต่ลองไปค้นหาสูตรในอินเตอร์เน็ต แฮร้ยย ไม่เห็นจะยากตรงไหน  แต่ปัญหาคือ แป้งข้าวแบบเกาหลีก็ไม่มี โคชูจังก็ไม่มี  ออต๊อกเค! ออต๊อกเค! แต่ความอยากไม่เคยปราณีใคร อย่างนี้ต้องจัด อิชั้นขอสะบัดบ็อบใส่ Korean Air แล้วลงมือทำแป้งต๊อกและโคชูจังโฮมเมด แบบบ้าน ๆ วัตถุดิบแบบไทย ๆ ก็ออกมาอร่อยสไตล์โคเรียได้ค่ะ (ขออภัยที่ถ่ายภาพมาไม่ครบทุกขั้นตอน  เพราะมือเลอะกดชัตเตอร์ไม่สะดวก) การทำแป้งต๊อกวิธีที่ 1  (ประสบความสำเร็จ 80% แป้งออกมาค่อนข้างแข็ง อาจเพราะเติมน้ำน้อยเกินไป) ส่วนผสม 1. แป้งข้าวเหนียว   1   ถ้วย 2. แป้งข้าวเจ้า        1   ถ้วย 3. เกลือเล็กน้อย 4. น้ำอุ่น            3/4    ถ้วย 5. น้ำมันงาหรือน้ำมันพืช  (ไว้ใช้ทาเพื่อไม่ให้แป้งติดกัน) วิธีทำแบบที่ 1 1. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และเกลือมาผสมให้เข้ากัน 2. ค่อย ๆ เทน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อนลงไปในชามแป้ง แล้วคนให้เข้ากัน 3. นำแป้งเข้าไมโครเวฟไฟแรงสุด 4 นาที นำออกมาคนทุก ๆ 2 นาที 4. นำแป้งออกมาแผ่บนเขียงหรือโต๊ะตามแต่สะดวก  เทน้ำมันไว้ที่เขียงกันแป้งติดภาชนะ ขั้นตอนนี้ระวังร้อนนะคะ  5. จากนั้นนำอุปกรณ์ที่มีกันแทบทุกครัวเรือน นั่นคือ... สากแบบไทย ๆ นี่แหละค่ะ ทุบเข้าไป ยิ่งทุบมากแป้งจะยิ่งเหนียวหนึบ 6. นำแป้งที่เหนียวได้ที่มาม้วนและตัดตามขนาดที่ต้องการ  ทาน้ำมันเล็กน้อยเพื่อเคลือบไม่ให้แป้งติดกัน เป็นอันสำเร็จ อย่างที่บอกไว้ทีแรกว่าวิธีแรก แป้งที่ได้ออกมาค่อนข้างแข็ง  และเปลืองแรงในการทุบตีแป้งโดยใช่เหตุ อิฉันเลยทดลองวิธีที่ 2  ใช้ส่วนผสมเหมือนเดิม ซึ่งออกมาเวิร์คคคมากค่ะ (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ)  นอกจะเหนียวนุ่มเหมือนต้นตำรับโดยไม่ต้องลงแรงมาก  ยังให้อารมณ์โมจิญี่ปุ่น+บัวลอยอีกด้วย เคี้ยวหนุบหนับฟินนน วิธีทำแบบที่ 2 (แบบนึ่ง) 1. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า และเกลือผสมให้เข้ากัน 2. ค่อย ๆ เติมน้ำร้อนลงไปในแป้ง ระวังอย่าให้แฉะเกินไป 3. นวดจนแป้งเกาะติดกันเป็นก้อน แล้วนำมาคลึงให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ 4. ระหว่างนั้นเตรียมต้มน้ำในลังถึง นำผ้าชุบน้ำรองไว้เพื่อไม่ให้แป้งต๊อกติดลังถึง 5. พอน้ำเดือดให้นำแป้งต๊อกเรียงใส่ลังถึง นึ่งจนสุกใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ดูจากสีแป้งจะใสขึ้น 6. เมื่อแป้งสุกแล้วให้นำออกมาเคลือบด้วยน้ำมันเล็กน้อย  ถ้ายังไม่นำไปประกอบอาหารก็ให้แพ็คใส่ถุงเข้าตู้เย็นเก็บไว้ก่อน   Create Date : 13 ธันวาคม 2556     4 comment Last Update : 18 กรกฎาคม 2559 19:36:09 น.     Counter : 31631 Pageviews.   Share Tweet

~เกี๊ยวซ่าโฮมเมด~อร่อย ง่าย คุณก็ทำได้ กราบสวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทุกท่านค่ะ  ไม่ทราบว่าที่นี่ที่ไหนคะ ดิฉันหลงเข้ามาหาทางออกไม่ถูก เอ่อ ไหนๆ ก็หลงเข้ามาแล้วก็จัดไปอย่าให้เสียเที่ยว ปกติเคยเล่นแต่ blogspot พอเข้ามาใน bloggang ก็งงๆ เง็งๆ ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว เอาล่ะ นี่เป็นการเขียนบล็อกเกี่ยวกับอาหารเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากเคยไปตั้งกระทู้ที่ห้องก้นครัวมาบ้างประปรายกะปริบกะปรอยต้อยตีวิ๊ด เฮ้ยยย เยอะไปไหน วันนี้จะมานำเสนอเมนูเกี๊ยวซ่าโฮมเมด ซึ่งถ้าดิฉันทำได้ใครๆ ก็ต้องทำได้ แถมยังอร่อยอีกด้วย บอกเลยว่าการทำอาหารของเราไม่มีสูตรตายตัว แล้วแต่ความชอบและรสนิยมในการทานของแต่ละคน เพราะฉะนั้นเราจึงไม่สามารถบอกปริมาตรของส่วนผสมได้จริงๆ ค่ะ.....ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารนะคะ ส่วนผสมแป้งเกี๊ยวซ่า แป้งสาลีเอนกประสงค์ ปริมาณตามชอบ (เล่นง่ายแฮะ) น้ำอุ่นไปทางร้อน ตามความเหมาะสม เกลือเล็กน้อย น้ำมันพืช (ไม่ใส่ก็ได้--แล้วจะพิมพ์มาทำไม) วิธีทำ นำแป้งมาผสมเกลือเล็กน้อยคนให้เข้ากัน จากนั้นนำน้ำร้อนค่อยเติมลงไปในแป้งทีละน้อยใส่น้ำแค่พอให้แป้งจับตัวเป็นก้อน ระวังอย่าให้แฉะเกินไป ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันจนแป้งเริ่มเย็นตัวลง จากนั้นใช้มือนวดจนกล้ามขึ้นเอ้ย จนแป้งเนียนก็นำใส่ภาชนะปิดด้วยฟิล์มถนอมอาหาร ทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นเรามาทำไส้เกี๊ยวซ่ากันค่ะ ส่วนผสมไส้เกี๊ยวซ่า เนื้อหมูสับ--- ต้นเดือนใส่มากหน่อยปลายเดือนใส่น้อยหน่อย กะหล่ำปลีซอย--- ทำครั้งนี้ซื้อมา 3 บาท ให้ตายเถอะซาร่า ถูกเกิ๊น ต้นกระเทียม--- แม่รู้จักป้าร้านผัดไทยเลยไปขอมาให้ กระเทียมสับ น้ำมันงา หรือ ใครจะใช้น้ำมันโจโจ้บาออยล์ก็ไม่ว่ากันค่ะ น้ำมันหอย/ ซีอิ๊วขาว/ พริกไทยป่น/ แป้งข้าวโพด/ น้ำตาลทราย วิธีทำ สาดมันเข้าไปรวมกันแล้วนวดให้เนียน จะได้ใช้เซลลูไลท์ให้เป็นประโยชน์ก็คราวนี้บึ๊ดจ้ำบึ๊ดๆๆ  ครบ 30 นาทีแล้วนำแป้งออกมาแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ รีดให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วกดด้วยพิมพ์ทรงกลมค่ะ จับจีบตามความสามารถของแต่ละคนค่ะ แถมด้วยเส้นอุด้งโฮมเมด ใช้แป้งแบบเดียวกับเกี๊ยวซ่าแต่นำมานวดด้วยแรง 200 แรงม้า ให้เนียนเหนียวหนึบ และนำมารีดเป็นแผ่นบางแล้วตัดตามขนาดที่ต้องการค่ะ นำเส้นไปต้มประมาณ 15 นาที แล้วนำไปซักผ่านน้ำเย็นเหมือนซักผ้าจะได้ออกมาเป็นอย่างนี้ค่ะ ทำน้ำซุปใส่โชยุ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย แล้วนำไส้เกี๊ยวซ่าที่เหลือมาปั้นเป็นก้อนใส่ลงไปด้วย ตัวเกี๊ยวซ่าก็อย่าให้เสียของประโคมลงไปให้มิดเส้นอุด้งไปเลย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ...อุด้งโฮมเมด ใครทำก็อร่อย(มั้ง)   Create Date : 14 สิงหาคม 2556     2 comment Last Update : 13 ธันวาคม 2556 23:32:00 น.     Counter : 2468 Pageviews.   Share Tweet