พญาขาก่าน
     เจ้าพระญาหลวงท้าวขาก่าน เจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน พระองค์ที่ 22 (ครองราชระหว่างปี พ.ศ. 2019 - พ.ศ. 2023) ได้รับขนานนามว่า เจ้าหลวงเมืองน่านผู้พิชิตญวนในปีพุทธศักราช๒๐๑๙ พระเจ้าติโลกราชได้ทรงแต่งตั้งให้เจ้าหลวงท้าวขาก่านมาปกครองนครน่าน ในบันทึกตามพงศาวดารได้บรรยายรูปร่างลักษณะเจ้าหลวงท้าวขาก่านไว้ว่า มีผิวกายสีดำแดง สักยันต์เป็นรูปพญานาคราชและเถาวัลย์ตั้งแต่ขาจนถึงน่อง ยามเดินคล่องแคล่ว ว่องไวนัก เจ้าหลวงปกครองนครน่านได้ระยะหนึ่งจึงได้ใช้ให้หมื่นคำไปถวายเครื่องบรรณาการแด่เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และไปได้ตำนานพระธาตุแช่แห้งมาจากพระคุณเจ้ามหาเถรวชิรโพธิ์ที่ได้มาจากเมืองลังกาเมื่อนั้นเจ้าหลวงท้าวขาก่านพร้อมด้วยสังฆเจ้า และชาวเมืองทั้งหลายได้พากันแผ้วถางบริเวณดอยภูเพียงแช่แห้งซึ่งขณะนั้นถูกปกคลุมด้วยป่าไผ่เครือเถาวัลย์จนเจอจอมปลวกใหญ่ลูกหนึ่งก็พากันทำการสักการบูชาครั้นถึงเวลากลางคืนบริเวณจอมปลวกก็ปรากฏดวงพระธาตุเจ้าแสดงปาฏิหาริย์เปล่งรัศมีรุ่งเรืองนัก จึงได้พากันขุดบริเวณจอมปลวกดู ขุดได้ลึก ๑วาก็เจอก้อนศิลากลมเกลี้ยงลูกหนึ่งเจ้าหลวงท้าวขาก่านจึงให้ชีปะขาวเชียงโดมวัดใต้ ทุบให้แตกก็พบผอบทองคำมีฝาปิดสนิท เมื่อเปิดออกดูก็พบ พระธาตุเจ้า๗องค์พระพิมพ์คำ ๒๐ องค์พระพิมพ์เงิน ๒๐ องค์ที่พญาการเมืองได้มาจากเมืองสุโขทัยและนำมาประดิษฐานไว้  แล้วเจ้าหลวงท้าวขาก่านได้นำพระธาตุรวมทั้งพระพิมพ์เงิน พระพิมพ์คำที่ขุดได้ทั้งหมดมาเก็บไว้ที่หอคำและได้กราบบังคมทูลให้พระเจ้าติโลกราชทราบ พระเจ้าติโลกราชทรงมีรับสั่งว่าเมื่อขุดได้ที่ใดก็ให้เก็บไว้ ณ ที่นั้นเมื่อนั้นเจ้าหลวงท้าวขาก่านพร้อมด้วยสังฆเจ้า ท้าวพระยาทั้งหลายก็พร้อมใจกันนำ พระบรมสาริกธาตุเจ้า พระพิมพ์เงินพระพิมพ์คำมาประดิษฐานไว้ณ บนดอยภูเพียงแช่แห้งตามเดิม และก่อเจดีย์ สูง ๖วาคร่อมไว้  ต่อมาจุลศักราช๘๔๒ หรือ พ.ศ.๒๐๒๓ พวกแกว(ในขณะนั้นเรียกว่าแกวต่อมากลายเป็นเวียดนามหรือญวน)ขณะนั้นแกวปกครองโดย จักรพรรดิเลทันต์ตอง ยกรี้พลมาตีเมืองน่านและหลวงพระบาง พระเจ้าติโลกราช ได้มีพระบรมราชโองการให้ ท้าวขาก่าน ยกเอารี้พล ๔ หมื่นคนออกสู้รบทำศึกกับพวกแกวท้าวขาก่านจึงมีชัยชนะฆ่าแกวได้มากมาย ยึดเอาช้างเอาม้า ครอบครัวแกวมาถวายพระเจ้าติโลกราชแต่พระเจ้าติโลกราชไม่ทรงพอใจ กล่าวว่า
“แกวก๋าน (พ่ายแพ้) ก็ดีแล้ว แต่เอาครอบครัวแกวมามากมายอย่างนี้ไม่ดีไม่ควรเอาแกวมาอยู่ให้มากอย่างนี้” ว่าดังนั้น ก็ได้ให้ท้าวขาก่านไปอยู่เชียงรายท้าวขาก่านจึงได้ครองเมืองน่านเป็นลำดับองค์ที่ ๒๒
                           
สงครามระหว่างล้านนากับแกว(เวียดนาม,ญวน) ทำให้ท้าวขาก่านมีชื่อเสียงมาก  จักรพรรดิเฉิงฮว่า(Chenghua) แห่งราชวงศ์หมิงต้องส่งคนมาวาดภาพท้าวขาก่านเก็บไว้ในหอตำราหลวงสาเหตุที่จีนชื่นชมล้านนาและท้าวขาก่านก็ไม่มีอะไรมากนั่นก็เพราะล้านนาช่วยแก้แค้นแทนจีนเนื่องจากจีนพ่ายแพ้เวียดนามหลายครั้งและไม่สามารถแผ่อำนาจเข้าไปปกครองเวียดนามได้เลยในสมัยราชวงศ์หมิง  ปัจจุบัน ในบริเวณวัดพระธาตุแช่แห้ง อ.ภูเพียงจ.น่านมีศาลของท้าวขาก่านในผู้คนสักการะ โดยท้าวขาก่านเป็นที่รู้จักดีของผู้คนในละแวกนั้นเพราะเคยเป็นถึงเจ้าเมืองน่านมาก่อนอย่างไรก็ตามในเมืองเชียงรายซึ่งเป็นอีกเมืองที่ท้าวขาก่านได้มาปกครองกลับพบว่าไม่มีผู้ใด้รู้จักท้าวขาก่านเลย  สาเหตุอาจจะมาจาก มิได้มีการบันทึกผลงานของท้าวขาก่านไว้ในช่วงที่ปกครองเมืองเชียงราย   ในสมัยท้าวขาก่านครองเมืองน่านนั้นทำให้พระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง จนทำให้มีความผูกพันกับชาวน่านและจังหวัดน่าน อันเป็นเมืองพระพุทธศาสนา มีพระธาตุแช่แห้งที่ท้าวขาก่านสร้างไว้ให้ได้เคารพบูชา ประชาชนให้ความเคารพสักการะโดยได้สร้างรูปปั้นท่านไว้ในบริเวณวัดพระธาตุแช่แห้ง เพื่อให้คนรุ่นหลังไว้รำลึกสักการบูชาตลอดจนชั่วลูกหลานเพื่อให้เกิดสิริมงคล.....Cr.เล่าเรื่องเมืองเหนือ



Create Date : 03 มิถุนายน 2563
Last Update : 3 มิถุนายน 2563 18:16:56 น.
Counter : 440 Pageviews.

0 comments

สมาชิกหมายเลข 2351091
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]