เนื่องจากเป็นคนที่ผิวอ่อนแอมาก เป็นผื่นแพ้บนใบหน้าอยู่บ่อยๆ พอโดนแดดเยอะไปก็เป็นผื่น พอนอนน้อยก็ผื่นขึ้น พอเครียดก็เป็นผื่น คันไปหมดทั้งหน้าเลยค่ะ อยากจะเกา แต่ก็เกาไม่ได้กลัวว่าหน้าจะพังไปกันใหญ่ พอเป็นได้ซัก 1-2 วัน ก็จะเป็นหัวตุ่ม แบบใสๆบ้าง หัวขาวๆไขๆบ้าง วิ่งเข้าวิ่งออก คลีนิคผิวหนังเป็นว่าเล่น หมอจากคลีนิคก็ให้ยามาทา ไม่ Ketoconasol ก็ Tar 2% cream และก็พวกยาแก้แพ้ที่มีสเตียร์รอยด์ผสมอยู่ด้วย
แต่หารู้ไม่ว่า Tar 2% cream กับ พวกยาแก้แพ้ที่มีสเตียร์รอยด์ผสมอยู่ด้วยนั้น จะไปกระตุ้นทำให้สิวที่อยู่ภายในผิวหน้าของเรามันปุ๊ดขึ้นมา โดยไม่ตั้งใจ บางคนหน้าใสมากพอไปทาโดนสเตียร์รอยด์ปุ๊บ หน้าก็เป็นสิวเห่อขึ้นมาแทนหลังจาก รักษาผื่นหายไป นอกจากนี้ สเตียร์รอยด์ ยังทำให้หน้าของเราเกิดเส้นเลือดฝอยขึ้นมาด้วยค่ะ ทำให้เห็นเป็นเส้นเลือดบนใบหน้า
ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดสิว ที่อาจเกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ จากการรักษาผื่นแพ้บนใบหน้า ดังนี้
1. ห้ามเกา ห้ามแกะ ห้ามจับ เด็ดขาด เพราะไม่งั้นมันจะยิ่งลุกลามอย่างรวดเร็ว
2. ห้ามแอลกอฮอล์ทุกอย่างไม่ว่าจะ ทานหรือว่าทา
3. ห้ามยาสิวทุกชนิด เพราะ ส่วนผสมจากยาสิวจะไปกระตุ้นให้ผื่นยิ่งแดงและอักเสบมากขึ้น โดยเฉพาะยาทาสิวที่เป็น Vitamin A
4. ห้ามทรีทเมนต์ทุกอย่าง เพราะ การทำ treatment นั้นจะทำให้หน้าเกิดการระคายเคืองมากขึ้นค่ะ
5. ห้ามโดนแดด ถ้าเป็นไปได้
6. ห้ามยาทุกชนิดที่มี steroid ผสมอยู่
7. ห้ามครีม เจล หรือเซรั่มทุกชนิดที่เป็น whitening โดยเฉพาะ Vit C, AHA, BHA.
8. ห้ามน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนล้างหน้าเด็ดขาด เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้เป็นหนักมากขึ้น
Tips: วิธีบรรเทาและรักษาอาการเบื้องต้น
1. ทานยาแก้แพ้ จำพวก Zyrtec หรือ Telfast เพื่อแก้คัน และลดอาการแพ้
ในกรณีที่เพิ่งเริ่มแพ้ หรือว่ามีอาการคันร่วมไม่มาก ให้ทานZyrtec ก่อนนอน 1 เม็ด เท่านั้นนะค่ะ
ในกรณีที่แพ้มากๆ ต้องทาน 2 อย่างคู่ โดยการทาน Telfast 180mg ตอนเช้า 1 เม็ด และ Zyrtec ก่อนนอน 1 เม็ด เป็นเวลา 7 วัน ค่ะ
2. ทานยาแก้อักเสบ พวก Doxy เนื่องจากผื่นแพ้พวกนี้จะมีอักเสบร่วมด้วย
( ต้องทานยาต่อเนื่อง 7-14 วัน เช้า เย็น เพื่อเลี่ยงการดื้อยาค่ะ )
3. ทายาแก้ผื่นแพ้ที่ไม่มี Steroid
ในกรณีที่มีอาการแพ้ไม่มาก และอาการคันไม่มาก ใช้ Ketokonasol ก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ
ในกรณีที่แพ้ในระดับปานกลาง และมีอาการคันร่วมด้าย ให้ใช้ Elidel ค่ะ
แต่ถ้าในกรณีที่ Elidel ก็เอาไม่อยู่ ให้ใช้ Erythromycin 2% cream ค่ะ
( ทาเช้า เย็น เป็นเวลาต่อเนื่องกันจนผื่นหาย หรือ ผื่นหายแล้วให้ทาต่อไปอีก 2-3 วันแล้วค่อยหยุดยาทาค่ะ และสิ่งที่ควรระวังร่วมด้วย คือ เวลาทายาให้ทาเพียงบางๆ ในบริเวณที่เป็นนะค่ะ เพราะถ้าทาหนามากจนเกินไป อาจทำให้เกิดสิวอุดตันตามมาค่ะ โดยเฉพาะคนผิวมัน)
4. ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นแบบธรรมดา (ไม่ใช่เย็นจัดนะค่ะ) หรือ อุณหภูมิปกติ
5. ทา Moisturizer เยอะๆ และ บ่อยๆ พยายามหา Moisturizer จำพวก Hyarulonic Acid หรือ Aloe Vera ค่ะ
เพียงเท่านี้ อาการอักเสบจากผื่นบนใบหน้าก็จะทุเลาลงและค่อยๆ หายไปค่ะ แต่ในกรณีคนที่เป็นหนักมากๆจะต้องไปพบแพทย์ เพื่อที่หมออาจจะสั่งยาทาที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ให้ค่ะ
แนะนำว่า ถ้าเป็นผื่นแบบนี้ให้หาหมอที่เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ ภูมิแพ้สัมผัสเท่านั้นนะค่ะ หาแค่ 1-2 ครั้งหน้าก็หายแล้วค่ะ ไม่เยินอีกด้วยนะค่ะ
Created by: Pupe