นานๆครั้งที่ผมจะมีโอกาสเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทยของเรา ซึ่งติดอันดับน่าท่องเที่ยวของโลกเมืองหนึ่งทุกครั้งที่เดินทางมา บริการหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้คือบริการรถแท็กซี่แท็กซี่เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความเจริญทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง สะดวกรวดเร็วในกรุงเทพมหานครมีจำนวนแท็กซี่มากมายหลายพันคัน ทั้งแท็กซี่ส่วนบุคคลแท็กซี่สหกรณ์ แท็กซี่เอื้ออาทร ฯ คนใช้บริการแท็กซี่มีหลากหลายคนขับแท็กซี่เองก็เช่นเดียวกัน มีทั้งดีมากและดีน้อยความรู้สึกหนึ่งที่เรามีร่วมกันระหว่างผู้โดยสารและคนขับแท็กซี่คือผู้โดยสารก็กลัวคนขับแท็กซี่ และคนขับแท็กซี่ ก็กลัวผู้โดยสาร มันจึงเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากเวลานั่งแท็กซี่แต่ละครั้ง ยิ่งเวลาที่มีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับแท็กซี่เกิดขึ้นทีจะสร้างความตื่นเต้นได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ข่าวไม่ดีมักจะอยู่ได้นานกว่าข่าวดีเสมอ

ผมดูโหงวเฮ้งไม่เป็นแต่เวลาจะขึ้นแท็กซี่ผมพยายามดู โชเฟอร์ที่ค่อนข้างมีอายุหน่อย หน้าตาดูเป็นมิตรจึงค่อยตัดสินใจเลือกใช้บริการ เพื่อความสบายใจของตัวเองสิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าแท็กซี่ส่วนใหญ่มีเหมือนกันคือ ความรู้ทางการเมืองการพูดคุยที่ได้อารมณ์ มากที่สุดคือการคุยเรื่องการเมืองกับแท็กซี่อาจเป็นเพราะอยู่ใกล้แหล่งข้อมูล หรือการรับฟังข่าวสารเป็นประจำทำให้มีข้อมูลทางการเมืองมากกว่าธรรมดา ผมนั่งฟัง การวิเคราะห์การเมืองของแท็กซี่อย่างเพลิดเพลินตลอดทางเสียดายที่ถึงที่หมายเร็วเกินไป หลังจากจ่ายเงินและกล่าวขอบคุณตามมารยาทไทยแล้วขณะที่เดินเข้าไปในโรงแรม เห็นความโอ่อ่าของอาคารทำให้เกิดความคิดว่าถ้าคนขับแท็กซี่ที่มีความรู้ทางการเมืองเป็นอย่างดี และมีจิตใจที่ดีงามคนนั้นได้มาเป็นผู้บริหารที่นี่ หรือไม่ก็ไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งโลกคงน่าอยู่กว่านี้แน่ เฮ้อ..