Bloggang.com : vir' - Rain Maker, the coffee studio

Bloggang.com : weblog for you and your gang

Group Blog

All blogs

Rain Maker, the coffee studio

Rain Maker, the coffee shop
แต่ป้ายร้านเค้าบอกว่า ร้านของเค้าเป็น Coffee studio

ที่ตั้งร้าน...

คร่าวๆ ก็คือบนถนนประชานิเวศน์ 1 ตรงข้ามกับตลาดประชานิเวศน์ 1 ปากซอยมี 7-eleven อยู่

ส่วนวิธีการไป ก็ขึ้นอยู่กับว่า มาจากทางไหน ทางถนนวิภาวดี หรือว่า มาจากประชาชื่น เริ่มจาก

1. มาจากถนนประชาชื่น ขับเลียบคลองประปามาเรื่อยๆ จนถึงสามแยกประชานิเวศน์ 1 เลี้ยวข้ามคลองประปามา ผ่านหน้าตลาด สังเกตด้านขวามือ จะมี 7-eleven อยู่ตรงปากซอยที่เลยตลาดมาหน่อยนึง เลี้ยวขวาที่ซอยนั้น เข้าไปประมาณ 30 เมตร ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ

2. มาจากทางวิภาวดี ก็เลี้ยวซ้ายที่แยกวัดเสมียนนารี ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านทางแยก local road, ผ่านทางรถไฟ ข้ามสะพาน ตรงมาอีก ผ่านแยกไฟแดง ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านร้านเบียร์หิมะมา ผ่านมาอีก ปากซอยด้านซ้ายมือจะเจอ 7- eleven อยู่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ

ดูแผนที่ได้จากรูป

หน้าร้านจะปลูกต้นไม้เต็มเลย ดูสงบๆ สบายๆ เนียนๆ ถ้าไม่มองดีๆ ก็จะผ่านไปเลย

ย่างกรายผ่านทางเดินหินซึ่งมี Space ไม่แคบไม่กว้างเกินไป ป้ายร้านจะอยู่ด้านขวามือ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นต้นไม้ใหญ่ ข้างๆ ต้นไม้ จะเป็นแนว ระเบียงสั้นๆ ใช้ไม้ระแนงตีเป็นพื้น มีชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้วางอยู่สองชุด สำหรับผู้บริโภคกาแฟที่มีนิสัย พิศวาสการสูบบุหรี่จิบกาแฟ หรือ เหมาะแก่การนั่งคุยกันยามบ่ายในบรรยากาศธรรมชาติสบายๆในเวลาอากาศไม่ร้อนเกินไปนัก

ขึ้นบันไดสั้นๆ 2 ขั้น เป็นการยก space ขึ้นจากพื้นเล็กน้อย เล่นระดับน่ารักดี ผ่านประตูไม้เข้าไปในร้าน สิ่งแรกที่เจอก็คือ กระดานดำตั้งพื้นบอกรายการอาหารเด่น วางอยู่ก่อนถึง coffee counterที่อยู่ถัดไป พอมองไปด้านขวา ก็จะเป็นตู้แช่เค้ก เมนูกาแฟ เด่นอยู่เหนือ counter……………

Space ที่เหลือ นอกจากบริเวณส่วนหน้าของร้าน จะเป็นการเล่นระดับพื้น ให้ต่ำลงกว่า บริเวณส่วนหน้าของร้านอยู่ขั้นนึง

การตกแต่งร้านเป็นแบบ Contemporary สีของผนังใช้โทนขาว bage เหลืองอ่อน มีการให้แสงที่เหมาะสม โดยใช้ไฟสีนวล และสีส้ม เป็นหลัก theme ของร้านจะดูโปร่ง และอบอุ่น โดยแฝงความสนุกไว้จากวัสดุ และรูปภาพที่ใช้แต่งร้าน

Furniture ที่ใช้ แบ่งออกเป็น 3 ชุด

ชุดแรกอยู่บริเวณส่วนหน้าของร้าน มีอยู่ไม่กี่ตัว จะเป็นชุดโซฟา กำมะหยี่ ดูสบายๆ เล่นสีสัน แต่ออกโทนหม่น ให้รับกับสีส่วนใหญ่ที่ร้านใช้ กับโต๊ะตัวไม่ใหญ่มาก Function ที่ใช้ ก็สามารถนั่งเล่นสบายๆ นอนเล่นอ่านหนังสือ หรือนั่งจับเจ่า เหงาๆ มองออกไปนอกร้าน มองดูฝนผ่านกระจก หรือเอกเขนกอ่านหนังสือ จิบกาแฟ แต่ไม่เหมาะสำหรับการทานอาหารหนักเป็นชุดๆ อารมณ์ของ furniture ชุดแรก จะเป็นประมาณสบายๆ เรื่อยๆ

ชุดถัดไป จะเป็น Counter bar เป็น bar วางชิดริมบันไดเล็กๆ ข้างๆ coffee counter มีเก้าอี้ทรงสูง วางเรียงกัน 4-5 ตัว function ที่ใช้จาก bar ก็คือการเน้นการวางเครื่องดื่ม เหมาะแก่การนั่งคุย สั้นๆ หรือ การให้ความสนใจกับกาแฟมากกว่าการ utilize space ตรงนี้ทำอย่างอื่น อารมณ์ของ space ตรงนี้จะดู สนุกๆ สั้นๆ รีบทำ รีบจบ มากกว่า การละเมียดกาแฟ พร้อมทำกิจกรรมอื่น

Furniture ชุดสุดท้าย เป็นโต๊ะไม้ set คู่ และ set เดี่ยว ตั้งอยู่ในบริเวณส่วนหลังของร้าน และครึ่งหนึ่งของส่วนหน้าของร้าน function ที่ใช้หลักๆ ก็คือการรับประทานอาหาร ควบกับกาแฟ หรือนั่งคุยกันเป็นทางการกว่าการนั่งคุยกันบน furniture ชุดแรก อารมณ์ของชุดนี้คือ เป็นทางการมากขึ้น และสำหรับทานอาหารโดยเฉพาะ บริเวณที่ Furniture ชุดนี้ตั้งอยู่ จะมีการให้แสงมากกว่าบริเวณอื่นของร้าน ทำให้บริเวณนี้ดูแจ่มใส และชัดเจน

ที่โต๊ะแต่ละตัวจะมีกระดาษวาง และมีสีเทียนให้ใช้ เพื่อให้ใช้วาดรูปเล่น หรือทำงานศิลปะ หรือใช้ประกอบการอธิบายใดๆ ก็ได้ เป็นแนวคิดที่ดี

มองออกไปนอกร้าน จะเห็นถนนสายเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีการจราจรมากนักเป็น background ให้กับต้นไม้ใหญ่ โดยมีกระจกและระเบียงไม้ระแนง เป็น foreground ขอบกระจกสีดำตัดกับไม้แนวระเบียงที่เป็นสีขาว และคอกล้อมโคนต้มไม้ซึ่งเป็นปูนดิบฉาบเรียบ ดูเข้ากันกับสีน้ำตาลของโคนต้น รับกับดอกสีขาวและใบสีเขียว

อยู่ในร้านมองไป Zone ท้ายของร้าน จะเป็นการแต่งร้านโดย ล้อม space ด้วย ผนังไม้เป็นแนวโค้ง ส่วนด้านขวามือของท้ายร้านจะเป็น ตู้หนังสือที่เอาไม้กระดานมาตีเป็นกล่องสี่เหลี่ยม knock down cupboard ให้สีขาว กลมกลืนกับ background สีเหลืองอ่อน ส่วนด้านซายมือจะเป็นบันไดขึ้นสู่ใช้สองของตึก ซึ่งถามจากพนักงานของร้านแล้วพบว่า เป็นส่วนของ office ของเจ้าของร้านซึ่งเป็น Designer

จบจากการตกแต่ง

มาพูดถึงชา กาแฟ อาหารและขนม กันบ้าง

กาแฟ แก้วกาแฟเป็นแก้วใส สำหรับทุกๆชนิดของกาแฟ

Cappuccino หอม ปริมาณฟองที่เหมาะสมกับขนาดของแก้ว ไม่มากเกินไป ที่จะทำให้รสชาดของกาแฟดูด้อยค่าลงไป

Espresso ของที่นี่ ความหอมไม่ได้เป็นจุดเด่น และความกลมกล่อมของกาแฟ ก็ไม่ได้เด่นกว่าร้านกาแฟดาดดื่น double shot ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขี้นมา ทั้งความข้น ความหอม และปริมาณ ดังนั้น Espresso ที่นี่ทำให้ร้านดูด้อยลงไปหน่อย

Mocha ของร้านนี้ ไม่ผ่าน การประเมินจาก QA ไม่เกิดความรู้สึกหอมและมันของ chocolate เลย มีแต่ความหวานเท่านั้น

กาแฟร้านนี้ ได้แค่เกรด “ดาดดื่น” เท่านั้น

อาหาร

ร้านนี้มีอาหารแนะนำเยอะพอสมควร แต่จากที่มีโอกาสได้ลิ้มลองแล้ว ก็ขอแนะนำพวก ข้าวหมูจิ้มแจ่ว ข้าวเนื้อจิ้มแจ่ว ข้าวผัดน้ำพริกลงเรื่อ และพวก sandwich ที่ทำได้ดีมากกว่าเกรด “ดาดดื่น” รวมรสชาดอาหาร ก็สามารถหักล้างข้อด้อยของกาแฟไปได้มาก

แต่ขอเตือนด้วยว่า ข้าวผัดที่นี่ใช้น้ำมันน้อย เหมาะแก่สาวๆ ที่ต้องควบคุมน้ำหนัก และคนที่กำลัง diet อยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าวที่นี่แข็งกว่า และหอมน้อยกว่า ข้าวผัดของที่อื่น แต่เมื่อรวมรสชาดที่ปรุงแต่งเข้าไป ก็รู้สึกว่า อร่อย พอที่จะแนะนำคนอื่นต่อไปได้

ขนมเค้ก

นี่แหละที่เป็น ทีเด็ด Almond fudge white chocolate คือสิ่งที่สมควรจะได้รับการแนะนำ อร่อยมาก almond เยอะมากๆ white chocolate ก็แข็งอร่อย บวกกับเนื้อ chiffon ของ chocolate ธรรมดาเข้าไป นี่มันเนียนมาก เค้กนี้มีสาม layer เป็นชั้นๆ โดยมี ชั้น almond white chocolate บางๆ เป็นตัวแยก layer