ต้อง ศุภัชญา
รับพ่อเครียดเหตุยกเลิกแถลงข่าว
บอกที่บ้านสั่งห้ามมาเหยียบและพูดถึงชื่อนักแสดงหนุ่มอีก
ลั่นจากนี้ไปจะไม่พูดถึงหากฝั่งอดีตแฟนไม่รื้อฟื้น
บอกใครทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ รับมีคนเริ่มเข้ามาคุย แต่ยังไม่พร้อมจะเปิดใจ

   
หลังจากเปิดใจเรื่องราวรักร้าวของตัวเองกลาง รายการ ''ล้วงลับตับแตก''
จนเป็นที่ฮือฮา สำหรับนักแสดงสาว ''ต้อง'' ศุภัชญา รื่นเริง
ที่นอกจากตัวเองจะออกมายืนยันผ่านรายการดังกล่าวว่า
ความสัมพันธ์ระหว่างตนและอดีตแฟนหนุ่ม ธันญ์ ธนากร
นั้นได้ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยังออกมายอมรับด้วยวาจาว่า
เกลียดนางเอกสาว
ย.เพราะมองว่าเป็นต้นเหตุทำให้ความรักของตนเองกับอดีตแฟนหนุ่มต้องพังลง

 
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนตีความและพุ่งเป้าไปที่ นางเอกสาว ''ยุ้ย''
จีรนันท์ มะโนแจ่ม ซึ่งฟากนางเอกสาวพร้อมด้วยอดีตแฟนหนุ่ม ''ธันญ์''
ก็ได้ออกมาชี้แจง ยืนยันว่าทั้งคู่เป็นแค่เพื่อนกัน
โดยนางเอกสาววอนขอความเห็นใจผ่านสื่อว่าอย่าเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวในสาเหตุ
ของการเลิกราของทั้งคู่

   
ต่อมาเพียงวันเดียวมีข่าวออกมาว่า ฟากนักแสดงสาว ''ต้อง'' ศุภัชญา รื่นเริง
เตรียมที่จะออกมาแถลงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เหมือนประมาณว่าจะออกมาแฉให้หมดเปลือก
ทำเอาสื่อที่ทราบข่าวหลายสำนักเตรียมทำข่าวกันยกใหญ่
แต่แล้วในวันเดียวกันก็มีข่าวว่า การแถลงข่าวดังกล่าวนั้นถูกยกเลิก
สาเหตุเพราะว่าบิดาของนักแสดงสาว ''ต้อง-ศุภัชญา'' เครียดมาก
ทำให้นักแสดงสาวต้องยกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวสยามดาราจึงได้ต่อสายตรงเพื่อพูดคุยกับ ''ต้อง-ศุภัชญา''
ถึงสาเหตุของการยกเลิกการแถลงข่าว
ซึ่งผู้สื่อข่าวเปิดประเด็นถามทันทีถึงกระแสข่าวที่ก่อนหน้านี้จะออกมาแถลง
เรื่องที่เกิดขึ้น
โดยเจ้าตัวชี้แจงว่าสาเหตุที่ยกเลิกการแถลงเพราะพ่อของตนมีอาการเครียด
และสั่งห้ามไม่ให้พูดถึง

    ''พอดีคุณพอเครียดอะค่ะ
พอดีคุณพ่อสั่งห้ามไม่ให้พูดถึงแล้ว ให้จบแล้ว คุณพ่อไม่โอเค
คุณพ่อก็สั่งห้ามเลยว่าไม่ให้เหยียบบ้านและพูดถึงผู้ชายคนนี้อีก''

 
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าต่อจากนี้ไปจะไม่พูดเรื่องนี้กับสื่ออีกแล้ว
นักแสดงสาวตอบว่า ตนนั้นตั้งใจจะไม่พูดถึงเรื่องดังกล่าวอีก
แต่ถ้าอีกฝ่ายออกมาพูดอีกตรงนั้นค่อยว่ากัน

   
''คือต้องคิดว่าจะ ไม่พูดแล้วดีกว่าค่ะ เหมือนให้มันจบๆ ไป
แต่ถ้าสมมุติว่าถ้าฝั่งโน้นเขาจบนะก็จบค่ะ ถ้าเกิดไม่มีอะไร
แต่ถ้าฝั่งโน้นเขายังไม่จบ หรือออกมาพูดอะไรอย่างนี้ก็คือค่อยว่ากัน
แต่โดยส่วนตัวต้องก็ว่าจบแล้ว เพราะที่บ้านก็ไม่อยากให้พูดถึง ไม่รับแล้ว
ไม่อยากให้เอ่ยชื่ออีก''

    ต่อข้อถามที่ว่า
หลังจากที่ออกมาพูดผ่านสื่อไปแล้วฝ่ายอดีตแฟนหนุ่มได้ติดต่อเข้ามาหรือไม่
ต้องตอบว่าอดีตแฟนหนุ่ม ''ธันญ์''
นั้นได้โทร.เข้ามาเพื่อพูดคุยเรื่องที่ตนจะแถลงข่าว
ซึ่งภายหลังตนก็ได้แจ้งไปแล้วว่าไม่แถลงเพราะที่บ้านไม่พอใจ

   
''ก็ ได้โทร.มาค่ะ หลังจากออกรายการเขาก็โทร.มา
ก็อย่างเมื่อวานเขาก็โทร.มา ที่มีข่าวออกมาว่าจะแถลง เขาก็โทร.มา
ซึ่งต้องก็บอกเขาไปว่าไม่ได้แถลงแล้ว เพราะว่าพ่อไม่โอเค
ไม่อยากให้พูดถึง''

  ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า
สาเหตุที่นักแสดงหนุ่มอดีตแฟนนั้นโทร.มา
เพราะต้องการห้ามเรื่องการแถลงข่าวใช่หรือไม่ นักแสดงสาวตอบว่า
ตนนั้นไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าสาเหตุที่อดีตแฟนหนุ่มนั้นโทร.เข้ามาเพื่อ
ต้องการอะไรกันแน่

   
''เขาโทร.มาทำนองถามเราว่าจะแถลงเหรอ จะทำอะไร
ต้องก็บอกเขาว่าต้องก็ทำงานของต้องปกติ เขาก็ถามเราว่าจะแถลงอะไร
จะแถลงเหรอ ต้องก็บอกเขาว่าก็ต้องไม่แถลงแล้วไง
ต้องก็ไม่เข้าใจฟีลเขาเหมือนกันค่ะว่าเขาต้องการอะไร''

   
ดูเขาไม่ค่อยพอใจหรือเปล่า ผู้สื่อข่าวซักต่อ นักแสดงสาวตอบแบบยอมรับว่า
อารมณ์ของอดีตแฟนหนุ่มขณะที่โทรศัพท์มาพูดคุยนั้นไม่ค่อยดี

   
''ใช่ ค่ะ ใช่ประมาณนั้น แต่คือสำหรับเขามันไม่เกี่ยวกับต้องอยู่แล้ว
ถ้าต้องจะแถลงต้องก็จะแถลง แต่ถ้าไม่แถลงก็คือว่าไม่แถลง
คือเขาไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับเราแล้ว''

    ต่อข้อถามที่ว่า
ดูเหมือนจะมองหน้ากันไม่ติด แล้วจากนี้ไป ''ต้อง'' ตอบว่า
ถ้ามองหน้าไม่ติดก็ไม่เป็นไร เพราะอดีตแฟนนั้นทำกับตนไว้หลายเรื่อง

   
''ไม่ ติดก็ได้ ไม่เป็นไร เพราะว่าสิ่งที่เขาทำกับเราหลายๆ
อย่างมันก็ไม่โอเค คือถ้าเป็นเรื่องงานก็ทำงานค่ะ
แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างเดินค่ะ''


ผู้สื่อข่าวถามว่า อย่างนี้จะส่งผลกระทบกับงานละครไหม
เจ้าตัวตอบว่าถ้าเป็นเรื่องงานก็สามารถร่วมงานได้ แต่ถ้าอยู่เฉยๆ
แล้วให้คุยนั้นตนไม่คุย

    ''ถ้าเกิดว่ามีต้องเล่นด้วยกันเล่นได้ค่ะ ถ้าเกิดส่วนตัวจะให้มาคุยกันเหมือนเดิมก็คงไม่คุยแน่นอน''

   
ทั้ง ''ยุ้ย'' และ ''ธันญ์'' ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อก่อนหน้านี้
โดยทั้งคู่ยังยืนยันว่าไม่ได้มีอะไร ตรงนี้เราว่ายังไง
นักแสดงสาวตอบว่าทางครอบครัวให้ตนหยุดพูด ส่วนทางนั้นจะว่าอย่างไรให้พูดไป
เพราะความจริงมันก็คือความจริงวันยังค่ำ

   
''ได้อ่านข่าวคร่าวๆ ค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านเต็มๆ ว่าเป็นยังไง
ก็คือทางครอบครัวก็บอกให้เราหยุดเขาอยากจะพูดอะไรก็ให้เขาพูดไป
เพราะความจริงมันก็คือความจริง ใครทำอะไรมันก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว
จะออกมาพูดให้ตัวเองดูดีหรือจะออกมาพูดอะไรก็ตามก็ปล่อยเขาไป
พฤติกรรมมันก็เห็นกันอยู่ที่บ้านก็เห็นครอบครัวก็เห็น
อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเลย''

  ผู้สื่อข่าวถามว่า
เรื่องราวดูจะหนักหนาสาหัสเอาการ มีผู้ใหญ่มาช่วยไกล่เกลี่ยบ้างหรือเปล่า
สาวต้องตอบว่าไม่ได้มีผู้ใหญ่มาช่วยไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด

   
''ไม่ ไม่ค่ะ
ทางที่บ้านก็พูดกับต้องเองเลยว่าเขาไม่แฮปปี้ที่จะเอ่ยชื่อคนนี้
เขาก็บอกว่าพอดีกว่า อยากจะทำให้ตัวเองดีแค่ไหนก็ตามสบายค่ะ''

   
คุณ พ่อคุณแม่ทราบเรื่องมานานแล้วหรือ เพิ่งมาทราบตอนที่เราออกรายการ
ต้องแจงว่าเรื่องที่ตนมีปัญหากับอดีตแฟนหนุ่มนั้นที่บ้านตนโดยเฉพาะคุณพ่อ
คุณแม่ทราบเรื่องมานานแล้ว

    ''ทราบมานานแล้ว เห็นตลอดค่ะ
เพราะว่าคบกันมาตั้ง 6-7 ปี เขาก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วที่เราคบกัน
ตัวของพี่เขาเองก็เข้าออกบ้านต้องประจำ
รู้จักคุณพ่อคุณแม่ดีเขาก็เห็นพัฒนาการตั้งแต่ตอนคบกันจนถึงตอนที่มีปัญหา
เมื่อปีที่แล้วเกือบสองปีค่ะ เขาก็เห็นว่าเราเสียใจยังไง
เรารู้สึกแย่แค่ไหน เขาก็เสียใจไปด้วย เพราะฉะนั้น
ตอนที่เขาจะไปพอจะเลิกเขาก็ไปของเขาเลย เขาก็ไม่ได้แบบมาสนใจอะไร
เพราะฉะนั้น พ่อแม่ก็ไม่แฮปปี้กับเขาจากหลายเหตุการณ์หลายอย่าง
ทั้งต่อหน้าและส่วนตัว จริงคือมันเกิดขึ้นแล้วเขาเห็นแล้วเขารับไม่ได้
เพราะเขาไม่เคยได้รับคำชี้แจงอะไร จากฝ่ายชาย เพราะฉะนั้น
พอถึงวันนี้เขาเลยพอ เลยไม่ต้องมาอธิบายอะไร มันรู้กันอยู่แล้วว่าเสียใจ''

  ไม่เหลือเยื่อใย?

   
''ค่ะ ก็คือแบบที่บ้านเขาเห็นว่าเราเสียใจ แล้วเขาก็เสียใจด้วย
ถ้าเลิกกันดีๆ จบกันดีๆ มันก็ยังพอคุยกันได้บ้าง
แต่อันนี้บอกได้เลยค่ะว่ามันไม่ดี อะไรที่มันเปลี่ยนแปลงหลายๆ
อย่างที่บ้านก็รับไม่ได้เหมือนกันค่ะ''

    ต่อ
ข้อซักถามที่ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่โสดสนิท มีคนเขามาคุยกับเราไหม
เจ้าตัวกล่าวยอมรับว่ามีคนเข้ามาพูดคุยแต่มองว่าเป็นแค่ในฐานะเพื่อน

   
''ก็ มีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนค่ะ ก็ตามภาษา ตอนแรกไม่มีนะ
ตอนหลังพอไปออกรายการ ก่อนหน้านี้เขาเห็นรักๆ เลิกๆ ไงคะ
เขาก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงดี
แต่พอเราไปออกรายการแล้วเหมือนมันชัดเจนมากเลยว่าเลิกชัวร์ๆ
ก็เลยมีเข้ามาคุยบ้าง''

แสดงว่ามีคนจ้องจะมาดามหัวใจให้อยู่ ผู้สื่อข่าวถาม สาวต้องตอบว่า ตนนั้นยังไม่พร้อมที่จะมีใคร ขอครองชีวิตโสดไปก่อนสบายใจกว่า

   
''(หัวเราะ) จะมีไหมเนี่ย ก็เรื่อยๆ ค่ะ
เพราะเราเพิ่งเลิกได้สักพักเองก็ยังไม่อยากเรียนรู้ใครเหมือนใช้ชีวิตโสดมัน
ก็สบายดี เหมือนมีคนอยากมาเทกแคร์เยอะแยะดี (หัวเราะ) ก็สบายๆ ดี''

   
คิด ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบกับงานละครทางช่องไหม
นักแสดงสาวกล่าวในเรื่องนี้ว่า
ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว
ผู้ใหญ่น่าจะพิจารณางานจากความสามารถมากกว่า

   
''ต้องว่าผู้ใหญ่ ของช่องเขาคงไม่ยุ่งเรื่องแบบนี้ค่ะ ต้องว่านะ
เพราะว่าผู้ใหญ่เขาคงไม่อยากยุ่งเพราะเหมือนมันเป็นเรื่องส่วนตัว
ต้องว่าผู้ใหญ่ที่เขามองในเรื่องการทำงานคงไม่เอาเรื่องแบบนี้มาเป็นประเด็น
ค่ะ เขาก็ต้องมองเรื่องของการทำงานว่าเราเล่นได้ไหม
เราเหมาะสมไหมมากกว่าค่ะ''

    ก่อนวางสาย เจ้าตัวยืนยันกับผู้สื่อข่าวสยามดาราว่า จากนี้ไปคงจะพูดเรื่องดังกล่าวน้อยลง หากฝั่งที่มีปัญหากับตนไม่ออกมาพูดอีก