''แอนนี่'' แฮปปี้ได้กลับมาทำงานตามปกติ 10 ต.ค.อุ้ม ''ฑีฆายุ'' ลูกชายออกงาน จ่อเปิดใจฟ้องหรือไม่ฟ้อง ''เมธี'' ที่ออกมาประจานไม่มีชิ้นดี ''แม่-ฟิล์ม'' โผล่กรมบังคับคดี แผนกคดีล้มละลาย คาดแจ้งความประสงค์เดินทางไปต่างประเทศ แต่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้
หลัง จากอดีตดารานักแสดงดาวร้ายชื่อดัง เมธี อมรวุฒิกุล ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์กับ ''แอนนี่ บรู๊ค'' และพฤติกรรมของดาราสาวแบบไม่มีชิ้นดี
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 53 ที่คอนโดบ้านสวนธน ซ.รัชดาภิเษก 36 ซึ่งเป็นที่พักของดาราสาว ''แอนนี่ บรู๊ค'' และลูกชาย ''น้องฑีฆายุ'' มีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งมาเฝ้ารอทำข่าวความเคลื่อนไหวอยู่เป็นประจำ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันดาราสาว และลูกยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องพัก หลังจากบ่ายวานนี้อดีตดาวร้ายตัวโกง ''เมธี อมรวุฒิกุล'' ได้ออกมาแถลงข่าวแฉประจานแอนนี่ยับ
ทางด้าน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า ตนไม่ได้เจอทางดาราสาวมาสองวันแล้ว แต่ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ตอนนี้สภาพจิตใจของทางแอนนี่ดีขึ้นมาก ซึ่งทางแอนนี่ได้เล่าว่าหลังออกไปทำงานก็รู้สึกดีขึ้น ดาราสาวยังเล่าอีกว่าอยากให้เรื่องทุกอย่างจบลง รวมทั้งขอให้ทุกคนที่ไม่หวังดีหยุดออกมาสร้างกระแสได้แล้ว เพราะทางแอนนี่อยากทำงานเพื่อดูแลลูกและแม่ที่ป่วย
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าทางด้านดาราสาวจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดี กับทางนายเมธีหรือไม่ น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวว่า ในวันอาทิตย์ที่ 10 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี บ้านพักฉุกเฉิน ดอนเมือง จะมีการเปิดเสวนาเรื่องสิทธิสตรีโดยจะมีนักวิชาการมาแสดงความคิดเห็นกับ เรื่องดังกล่าว และตนจะพูดเรื่องทั้งหมดในวันนั้นทีเดียว
อย่างไรก็ตามวันอาทิตย์ที่ 10 ต.ค. 53 นี้ เวลา 12.00 น. ''แอนนี่'' และ น้อง ''ทีฆายุ'' จะมีงาน ''บิวตี้ ซีเคร็ทส์'' ที่โกลเด้นโฮม รัชดา ซึ่งคาดว่าดาราสาวจะออกมาพูดอีกครั้งว่าจะมีการยื่นฟ้องต่อไปหรือไม่
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ นาง ''โคมมนต์ ทองมั่ง'' และ ดาราหนุ่ม ''ฟิล์ม-รัฐภูมิ'' ได้เดินทางไปยังกรมบังคับคดี แผนกคดีล้มละลาย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามรายละเอียดไปยังพนักงานที่เป็นเจ้าของสำนวน แต่ไม่ได้รับการยืนยันหรือเปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นข้อมูลลับ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้รับการรายงานจากแหล่งข่าววงในว่า เหตุที่นางโคมมนต์เดินทางมาที่กรมบังคับคดีในวันนี้เพราะมีความประสงศ์ที่จะ เดินทางไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ เนื่องจากทางมารดาของฟิล์มนั้นเคยถูกฟ้องในคดีล้มละลาย จึงมีความจำเป็นต้องมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ หากเดินทางออกนอกประเทศ แต่จะไปพร้อมกับนักร้องหนุ่มหรือไม่นั้น ไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งหลังจากเสร็จเรื่องดังกล่าว ทางนักร้องหนุ่มและมารดาได้รีบเดินทางกลับทันที
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดสอบถามไปทางค่ายเพลงต้นสังกัดของฟิล์ม ก็ไม่ได้รับการยืนยันในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
วันเดียวกันคณะอนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้พิจารณาในวาระประชุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม มีมติเห็นสมควรให้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีที่สื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ราย วันเกือบทุกฉบับนำเสนอข่าวความสัมพันธ์ระหว่างดาราและนักร้อง นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) และนางสาวแอนนี่ บรู๊ค ตั้งแต่กลางเดือนกันยายนต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคมนั้น
เป็นผลให้หลายฝ่ายได้สะท้อนข้อวิพากษ์เกี่ยวกับบทบาทความเหมาะสม ด้านจริยธรรมการทำหน้าที่ของสื่อหนังสือพิมพ์อย่างกว้างขวางนั้น เป็นกรณีศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สังคม และในกลุ่มวิชาชีพสื่อหนังสือพิมพ์ด้วยกันเอง โดยเฉพาะในเรื่องบทบาท หน้าที่ การเคารพสิทธิมนุษยชน ตลอดทั้งข้อพึงตระหนักถึงการนำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของ สังคมโดยรวม ตามหลักจริยธรรมวิชาชีพฯ กล่าวคือ
มีการเปิดประเด็นของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่ระบุชื่ออักษรย่อ จากนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ทางอินเทอร์เน็ต และสื่อมวลชนสาขาต่างๆ อย่างกว้างขวาง แม้กระทั่งบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องออกมาแถลงข่าวโต้ตอบกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับได้ให้ความสำคัญโดยให้พื้นที่ข่าวส่วนใหญ่บน หน้าหนึ่งทั้งการพาดหัวและเนื้อข่าว
จากการติดตามการรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ คณะอนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้บุคคลในข่าวจะเป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งเป็นเหตุผลในการนำเสนอข่าวเพื่อตอบสนองความสนใจของสาธารณชนตามองค์ ประกอบหนึ่งของหลักการประเมินคุณค่าข่าวก็ตาม แต่การนำเสนอข่าวลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และหมิ่นเหม่ต่อจริยธรรมข้อที่ว่าด้วยการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สิทธิเด็กที่พึงระมัดระวังถึงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ในอนาคต ความบังควรหรือไม่บังควรด้านศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะการเสนอภาพเด็กอย่างโจ่งแจ้งปราศจากความระมัดระวัง จะด้วยเจตนาหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม เช่น
การเปิดเผยที่อยู่ของคู่กรณีอย่างเกินความจำเป็น การตรวจสอบรหัสพันธุกรรม (DNA) เพื่อยืนยันความเป็นผู้ปกครอง แม้ประเด็นดังกล่าวจะท้าทายการพิสูจน์ความจริงระหว่างคู่กรณี แต่ก็เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล ที่มิได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนอย่างแท้จริง สื่อมวลชนจึงควรทำหน้าที่ ''สื่อ'' ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ขอแสดงความชื่นชมต่อหนังสือพิมพ์ที่อุทิศพื้นที่ข่าวดังกล่าวในแง่มุมที่ เป็นบทเรียนและมีประโยชน์ต่อสาธารณะ อาทิ นำเสนอความคิดเห็นเชิงเสนอแนะจากนักวิชาการ นักจิตวิทยา นักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี นักสิทธิมนุษยชน บุคลากรในวงการสาธารณสุข ฯลฯ อันเป็นข้อคิดที่ดีที่พึงปฏิบัติแก่เยาวชนและสังคม
คณะอนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สื่อมวลชนทุกแขนงจะตระหนักถึงหลักจริยธรรมทางวิชาชีพในการแสดงบทบาทและทำ หน้าที่ตามมาตรฐานสื่อมวลชนที่ดี เพื่อร่วมสรรค์สร้างจรรโลงสังคมในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่าง ยั่งยืนต่อไป