Group Blog
 
All blogs
 
[ย้ายบ้านมา] กำลังใจ


Post ที่ //pitithana.spaces.live.com เมื่อ: August 20, 2006 3:45 AM

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ทำการย้ายมาจาก //pitithana.spaces.live.com เนื่องจากที่โน่นมีข้อจำกัดหลายอย่าง และไม่สะดวกแก่การใช้งานนัก

เรื่องทั้งหมด ภาษาอาจไม่ถูกต้อง และอาจไม่เหมาะสม เนื่องด้วยสถานการณ์ และอารมณ์ บวกด้วยวุฒิภาวะขณะที่ผมเขียน แต่เนื่องด้วยต้องการคงอารมณ์เดิมของเนื้อหาไว้ จึงจะไม่มีการแก้ไขใดๆ ขอให้เข้าใจตรงกันนะครับ แล้วผมจะพยายามพัฒนาขึ้นเรื่อยๆครับ

ปล. ส่วนของ Comment ผมไม่ได้เอามาด้วย เนื่องจากไม่รู้จะเอามายังไง ใครอยากอ่าน ก็ตามไปอ่านที่บ้านเก่าได้นะครับ

Link ไปที่เก่า: //pitithana.spaces.live.com/blog/cns!2B19BFB8873AA6CA!271.entry


August 20
กำลังใจ
เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา ได้ไปนั่งกินข้าว (เหล้า) กับเพื่อนๆเก่าๆมา ที่เริ่มจากการชวนกันกินข้าวธรรมดาๆ เนื่องมาจาก ผมเบื่อที่จะต้องกินอาหารค่ำ(ดึก)เป็นมาม่าหรือก๋วยเตี๋ยวหน้าที่พักที่คนขายนิสัยดีมาก แต่พูดจาชวนให้มีเรื่องกันตลอด ผมจึงได้ชวนเพื่อนๆไปหาอะไรกินกัน ซึ่งตัวผมเองคิดไว้ในใจเป็นพวก MK หรืออะไรก็ได้ตามห้าง แต่จับพลัดจับผลูมาตกที่ร้านอาหารร้านหนึ่งตีนสะพานหัวช้างซะได้ เพื่อนคนหนึ่งเป็นคนแนะนำ จึงเป็นอันว่าในที่สุดเป็นการกินข้าว 5 + 1 คนในที่สุด

อันที่จริงแล้ว ก่อนออกจากที่ทำงานมา ก็มีน้อง(ที่ตำแหน่งเท่ากับเจ้านาย) ชวนไปเที่ยว แถมพูดงงงงเหมือนผมไปสัญญาว่าจะไปกับมันซะอีก หรือผมสัญญาไปจริงๆก็ไม่รู้ จำไม่ได้ แต่ยังไงซะผมก็ไม่ไป คงเป็นเพราะที่ๆจะไปมากกว่าที่ผมไม่ตกลง (เพื่อนที่นัดไว้เบี้ยวได้ 555) ผมไม่ชอบไปเที่ยวเธค ผับ หรือ ที่ๆเสียงดังๆ คงเป็นเพราะเบื่อแล้ว ผมไปที่พวกนี้มามากพอแล้ว ผมทำอะไรหลายๆอย่างในที่แบบนั้นมามากพอแล้ว ถึงจุดนี้ ผมอยากไปที่ๆมีเพลงฟังสบายๆ เสียงไม่ดัง ผมอยากนั่งคุยกันซะมากกว่า ถ้าเสียงจะดังก็อยากไปที่ๆเล่นดนตรีร็อคสดๆมากกว่า ผมไม่ชอบเพลงแรป ฮิปฮอป หรือ แดนซ์ ฟังได้ แต่ไม่เกิน 15 นาที นั่นเป็นสาเหตุที่ใครมาชวนไปที่แบบนี้ ผมจึงมักจะปฎิเสธไป

มาเรื่องร้านที่เราไป เป็นร้านไม่มีชื่อ อยู่ในซอยตีนสะพานหัวช้างพอดี ฝั่งเดียวกันกับโรงแรมเอเชีย เป็นร้านบรรยากาศสบายๆ แบบบ้านกระจก อาหารอร่อย แต่นาน(มาก) นั่งกันข้างนอก อาหารก็โทรมาสั่งไว้ก่อนแล้ว เลยได้เร็ว (คนแนะนำมันรู้ทัน เลยโทรมาก่อน) เริ่มแรก อิดออดกันว่าจะกินแอลกอฮอลกันหรือเปล่า เลยตกลงว่าเอาเหล้ามาซักแบนกำลังดี ตอนสั่งไป เค้าเอามาให้กลมนึง เลยบอกเค้าไปเปลี่ยน ผมไม่ได้กะมากินเหล้ากัน มากินพอขำๆเฉยๆ เอาเป็นแบนดีกว่า เดี๋ยวเหลือ

ระหว่างที่อยู่ที่ร้านนั้น ก็คุยกันสนุกสนานมาก เล่าเรื่องเก่าๆ เรื่องใหม่ๆ ขุดกันมา ลามกบ้าง ตลกบ้าง ได้บรรยากาศและผ่อนคลายความเครียดมาก ทั้งๆที่ไม่ได้มานั่งกินกันอย่างนี้เป็นปีแล้ว แต่คุยถูกคอสนุกสนานมาก เพียงแต่โต๊ะข้างๆคงไม่สนุกสนานด้วย เห็นใครมานั่งก็ขอย้ายไปนั่งที่อื่นกันหมด 555 คงเป็นเพราะคำพูดที่ไม่ได้ผ่านการกรองจากกบว บวกกับเสียงที่คุยกันแบบไม่ได้เกรงใจใครเลย คุยไปคุยมากินไปกินมา เอ้า เหล้าหมดแล้ว มองหน้ากัน เอามาอีกแบนแล้วกัน 555

คุยกันไปเรื่อยๆ เรื่องที่พูดมันพาดพิงบุคคลที่ 6 บ่อยมาก เลยมีการโทรไปอัญเชิญให้มาร่วมวงดีกว่า เพื่อนผมคนนี้ก็ใจถึงจริงๆ ห้าทุ่มครึ่ง มันก็ยังมา รู้ก็รู้ว่าร้านกำลังจะปิด อารมณ์ค้างแน่ๆ พอมาถึง เราเลยสั่งเหล้าเพิ่มอีกแบน มาถึงตอนนี้ คนขายแซวแล้วว่า ตอนแรกเห็นหน้าก็เอามาเป็นกลมน่ะถูกแล้ว ดันกระแดะเปลี่ยนเป็นแบนกัน ต้องสั่งเพิ่มเลย เราก็ได้แต่ฮา จริงอย่างเค้าว่า

แต่สิ่งที่เหมือนผมจะคาดไว้แล้วนิดนึงก็เกิด คือเพื่อนที่มาเพิ่ม มันต้องชวนคุยเรื่องจริงจังแน่ๆ มันก็จริงอย่างว่า มันถึงก็ปรัชญาใหญ่เลย ไม่ใช่ไม่ชอบหรอกครับ ก็สนุกดีไปอีกแบบ แต่อยากให้มาสนุกๆกันมากกว่า แถมเรื่องแบบนี้มันคุยกันไม่ได้ทุกคน ถึงผมจะรู้เรื่องและคุยได้ เรื่องพวกปรัชญานี่ แต่ผมอยากให้จบๆ เปลี่ยนเรื่อง เลยแกล้งโง่ๆ ไม่รู้ไป คิดซะว่าไม่มีคนพูดถึง มันคงเปลี่ยนเรื่องกัน แต่ไอ้เพื่อนอีกคนก็ดันไปเป็นลูกคอ ถามนำอยู่ได้ เลยไม่ได้กลับมาเรื่องตลกลามกอีกเลย

แต่จากเรื่องที่พูดกันนั้น ผมก็ได้ข้อคิดมาจากคำพูดของผมเอง มันมาจากเรื่องที่เพื่อนผมพูดถึงว่า ชีวิตเรานั้นต้องการอะไร เงินไม่น่าจะเป็นคำตอบของชีวิต เงินไม่น่าจะเกี่ยวกับความรัก แต่เพื่อนอีกคนก็บอกว่า แต่การจะมีความรัก มันต้องมีทุน จริงอย่างไม่น่าเชื่อ!! เพื่อนผมก็พูดอีกว่า ผู้หญิงคือ Realistic เค้าต้องการอะไรที่เป็นความจริง ความฝัน ความรัก (ที่เป็นความรักจริงๆ) ผู้หญิงสมัยนี้ ไม่มีใครต้องการซะแล้ว เอ้อ ก็เหมือนจะจริง แล้วก็พูดมาถึงว่า เพื่อนผมมันท้อ มันเบื่องาน มันลาออกมาจากงานเพราะหัวหน้าไม่ Support มัน มีอะไรก็โยนความผิดมาที่มัน แล้วก็บ่นว่าที่แฟนทิ้งเพราะมันไม่ดี ที่เป็นอย่างงี้ เพราะมันไม่อดทน เพื่อนอีกคนเลยพยายามจะบอกว่า ไม่ใช่เพราะเพื่อนผมมันไม่ดีหรอก เป็นเพราะว่าหัวหน้าไม่ดี ผู้หญิงไม่เหมาะกับเรา พยายามาให้ไอ้เพื่อนคนนี้มันโทษคนอื่นดูบ้าง คุยกันจนเหมือนจะทะเลาะกัน ผมเลยโผลงคำนึงออกไป ที่ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างนั้น ที่เพื่อนผมสองคนคิดไม่เหมือนกัน มันมาจาก “กำลังใจ”

หลังจากที่พูดคำนั้นออกไป แทบไม่อยากจะเชื่อ มันวนอยู่ในหัวผมตลอดจนถึงวันรุ่งขึ้น เหมือนกับผมแกล้งลืม หรือจงใจลืมมันไป เมื่อก่อนผมคิดจะลาออกจากงานทุกวัน หางานใหม่ทุกวัน เพราะคิดว่าผลงานของผมมันได้รับการตอบแทนที่ไม่คุ้ม พอเค้าให้เงินเดือนขึ้นนิดหน่อย ผมก็คิดว่ายังไม่ดีพอ เค้าก็ให้ขึ้นอีกๆ จนถึงทุกวันนี้ ผมคิดว่าเป็นตัวเงินที่คุ้มค่าแล้ว ถึงแม้ต้องต่อสู้ เสียน้ำลาย เสียใจไปเป็นปี กว่าจะได้มา แต่ทุกวันนี้ ผมก็คิดจะลาออกจากงานอยู่เรื่อยๆ ทุกๆอย่างที่ยื้อไว้ คือคำพูดดีๆของหัวหน้านี่เอง

จริงๆหัวหน้าก็ไม่ได้ปฎิบัติเป็นพิเศษกับผมมากนัก อาจจะรำคาญนิดๆ หรือไม่ก็เฉยๆ เนื่องด้วยเราทำงานกันคนละสไตล์ แต่ผมยอมรับเลยว่า งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ พูดกันแบบทั่วๆไป มันหนักเกินไปสำหรับผม ผมถือความเป็นเจ้าของในงานมากกว่าเงินหรือหน้าที่ๆเค้าให้ผม ผมรู้สึกว่าต้องทำมันให้ดีที่สุด งานผมจึงเสร็จเร็ว ถ้าไม่ได้ใส่ใจอะไร จะดูเหมือนผมไม่มีงาน เข้าประชุมก็ไม่มีเรื่องอะไรจะพูด เหมือนบางคนอาจจะคิดว่าผมทำงานน้อยกว่าเค้าด้วยซ้ำ แต่ความเป็นจริงแล้วผมเหนื่อยมากๆ ทำงานหนึ่งอาทิตย์ เหมือนทำงานมาเป็นเดือน ผมปิดงานเร็ว ช่วงที่ว่างก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับงาน ไม่เ่คยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่เคยนั่ง Chat กับใคร ที่ผมกลับดึก เพราะผมมีเป้าหมายของงานในแต่ละวัน แต่บางอย่างมันต้องใช้เวลาในการทดสอบ เอาเป็นว่า ผมเหนื่อยใจอยู่เป็นทุนเดิม ด้วยสภาพเพื่อนร่วมงาน ที่ผมรู้อยู่แก่ใจว่า… (ขอไม่พูด) บวกกับช่วงหลังผมเริ่มเหนื่อยกายด้วย ผมเริ่มกลับมาคิดตลอดเวลาอีกแล้ว ว่า ผมทนอยู่ที่นี่มาได้อย่างไรตั้งนาน แล้วผนจะทนอยู่ต่อไปไหม ถ้าไม่ทนผมจะไปที่ไหนดี ที่ไม่ใช่ไปเพราะผมหนี่ แต่ไปเพราะผมอยากไปอยู่จริงๆ ที่ผ่านมาผมได้กำลังใจจากคนใกล้ชิด บวกกับการมาที่นี่ ทำให้ผมปลดพภาระทางการเงินได้ ถึงหัวหน้าแผนกเก่าจะห่วยแตกไปจนถึงผู้จัดการเลยก็ตาม ผมก็ยังทนมาได้จนมาอยู่ที่แผนกใหม่นี่เอง แต่เหมือนร่างกายที่บอบช้ำมานาน และยังไม่เคยได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ผมต่อสู้ที่แผนกเก่ามานานไปนิด ตอนนี้มันเลยเหมือนว่าหากโดนใครต่อยเบาๆ ก็แทบจะล้มลงตายให้ได้ เรื่องเล็กน้อยที่มากระทบจิตใจ มันเลยแทบจะทำให้ทนไม่ไหวไปซะทุกเรื่อง ยิ่งอดทนเหมือนยิ่งฝืน ผมหาคำตอบกับตัวเองตลอดเวลา ทำไมเราไม่หาทางออก แต่นั่นเองทุกครั้งที่หัวหน้ามาคุยดีกับผม เหมือนผมเสพย์ติดมัน มันทำให้ผมไม่อยากไปไหน แล้วก็วนเวียนอยู่ในวัฎจักรความเจ็บป่วยทางใจนี้

ผมพยายามหาคำตอบมาตั้งนานแล้วว่า แล้วเมื่อก่อนนี้เราอยู่รอดมาจากเรื่องต่างๆที่ผ่านมาได้อย่างไร มันแย่กว่าที่เจออยู่นี่ด้วยซ้ำ ผมหาคำตอบไม่เจอ จนตอนที่พูดคำว่า “กำลังใจ” ออกไป มันทำให้ผมคิดได้ว่าที่จริงแล้วผมนั้นต่อสู้ตัวคนเดียวมาโดยตลอด แม้จะมีกำลังใจสนับสนุนจากครอบครัวอยู่ แต่จากการที่ผมมีแนวคิดที่ไม่ค่อยจะเหมือนกับคนอื่น และการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูกของผม คนสนับสนุน และกำลังใจมันเลยมีน้อย ผมเลยต้องสร้างมันขึ้นมาเอง ผมจะมีคำพูดประจำใจอยู่ตลอดเวลา “พรุ่งนี้ทุกอย่างจะเรียบร้อยเองถ้าวันนี้เราทำเต็มที่แล้ว โชคต้องเข้าข้างเราบ้างแหละ” แม้โชคจะไม่เคยเข้าข้างผมเลยตลอดชีวิต และบ่อยครั้งที่ผมผ่าน “วันนี้” ไปอย่างยากลำบากที่สุด แม้ทุกอย่างที่ได้มา มันมาจากสองมือที่ทำเอาล้วนๆ แต่ที่แน่ๆ ผมก็มีพรุ่งนี้อยู่เรื่อยๆ แสดงว่าผมยังมีหวัง

ผมก็ได้มารู้ตัวว่า ที่ผมต้องมานั่งบ่นอยู่นี่ เป็นเพราะผมลืม ลืมกำลังใจจากตัวเองไป ทำเพื่อคนอื่นเสียมาก ลืมทำให้ตัวเอง เพราะฉะนั้น จากวันนี้ไป ผมจะมีพรุ่งนี้ให้ได้ตื่นเต้นที่มันจะมาถึง ผมจะอดทนผ่านวันนี้ไปได้

กำลังใจ หากเราเองยังไม่มี ก็อย่าหวังว่าจะเอาไปให้คนอื่นได้ อย่าหวังว่าใครจะมาช่วยจุดไฟในใจเราถ้าในใจเราไม่มีน้ำมันเชื้อไฟเหลืออยู่เลย จุดอย่างไรก็ไม่ติด ความสนุกหาไม่ได้ในงานเลี้ยง มันเป็นสิ่งที่เราต้องเอาติดตัวไปด้วย


โป๊ะ

+ + + + + + + + + + + + +




Create Date : 22 กันยายน 2549
Last Update : 11 ตุลาคม 2549 10:04:38 น. 0 comments
Counter : 364 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Poetra
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กับเส้นทางที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่ได้ดี ไม่ได้เด่นเหมือนใครๆ แม้มันไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับคนอื่นๆ แต่มันก็น่าจะเพียงพอที่จะมาเล่าสู่กันฟังได้บ้าง ...




Friends' blogs
[Add Poetra's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.