Group Blog
 
All blogs
 
[ย้ายบ้านมา] งานแต่งเพื่อน ภาค 1


Post ที่ //pitithana.spaces.live.com เมื่อ: November 22, 2005 3:06 AM

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ทำการย้ายมาจาก //pitithana.spaces.live.com เนื่องจากที่โน่นมีข้อจำกัดหลายอย่าง และไม่สะดวกแก่การใช้งานนัก

เรื่องทั้งหมด ภาษาอาจไม่ถูกต้อง และอาจไม่เหมาะสม เนื่องด้วยสถานการณ์ และอารมณ์ บวกด้วยวุฒิภาวะขณะที่ผมเขียน แต่เนื่องด้วยต้องการคงอารมณ์เดิมของเนื้อหาไว้ จึงจะไม่มีการแก้ไขใดๆ ขอให้เข้าใจตรงกันนะครับ แล้วผมจะพยายามพัฒนาขึ้นเรื่อยๆครับ

ปล. ส่วนของ Comment ผมไม่ได้เอามาด้วย เนื่องจากไม่รู้จะเอามายังไง ใครอยากอ่าน ก็ตามไปอ่านที่บ้านเก่าได้นะครับ

Link ไปที่เก่า: //pitithana.spaces.live.com/blog/cns!2B19BFB8873AA6CA!133.entry


November 22
งานแต่งเพื่อน ภาค 1
และแล้วก็เป็นอีกวันแล้ว ที่นอนไม่หลับ อาการนี้มันรบกวนสุขภาพและภาพพจน์ของผมมานักต่อนักแล้ว เพราะชอบไปงีบที่ทำงาน ใครๆก็มองไม่ดี เก็บไปพูดกันประจำ แต่ก็ช่างเหอะ ผมคิดว่าผมทำงานสุดฝีมือแล้วนี่เนอะ คนเราต้องมองที่ผลงาน จะงีบบ้าง จะเป็นไรไป 555 เอาน่า เดี๋ยวจะลองออกกำลังกายหนักๆดู จะได้นอนตามเวลากับเค้าบ้าง … นอนไม่หลับ ไม่รู้ทำอะไร เลยมานั่งเล่าเรื่องไปงานแต่งเพื่อนดีกว่า เผื่อจะง่วงบ้าง

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายเดือนก่อน ซัก สอง สาม … เอ … จำไม่ได้ซะนี่ เอาเป็นว่า หลายเดือนแล้วกัน ผมได้ยินข่าวแว่วๆมาจากเพื่อนซักคน ว่าโหน่ง เพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายจะแต่งงาน ตอนแรกผมก็เฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไรนัก อันที่จริง ผมก็ไม่ได้สนิทกับโหน่งถึงขนาดระดับเพื่อนซี้ และหลังจากจบมัธยมปลายไปแล้ว ก็ใช่ว่าจะไปมาหาสู่กันนัก แต่สมัยเรียนเราก็สนิทกันพอดูทีเดียว แต่นั่นก็ยังไม่ได้ทำให้ผมตื่นตัวนักกับข่าวที่ได้รับ คงเป็นเพราะช่วงนั้นผมได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการแต่งงานของคนรู้จักมากมายเหลือเกิน ประเด็นนี้เลยตกไป ตอนนั้นคิดแค่ว่า ถ้ามันเป็นเรื่องจริงคงได้การ์ด แล้วจะได้ถือโอกาสลางานกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านซะทีเดียวเลย

หลังจากนั้นเป็นเดือน (ที่คงต้องเติมเอส ตามหลักภาษาอังกฤษ) ผมก้อได้ไปเจอกับนก เพื่อนสมัยมัธยมปลายอีกคน ผมเจอนกโดยบังเอิญในรถไฟใต้ดิน นกเปลี่ยนไปมากทีเดียว แต่ตัวแก่ขึ้นมาก ผมดัดเป็นลอนโกรกสี เสื้อสีแดง และกางเกงสีดำเข้ารูป แถมยังแต่งหน้าซะเข้ม จนผมเห็นแล้วต้องชะงักไปหลายอึดใจ แต่นกนี่แหละที่เป็นคนจัดการกระจายข่าวว่างานจะมีขึ้นที่อุดร ในวันเสาร์ที่ 12 พ.ย. 48 และโทรตรวจสอบว่าเพื่อนแต่ละคนจะไปงานกันอย่างไร และนัดแนะว่าเพื่อนๆ ที่ทำงานที่กรุงเทพ จะไปงานกันอย่างไร

เมื่อได้รับข่าวสารเป็นที่แน่นอนแล้วนั้น แทบไม่น่าเชื่อ ผมกลับตื่นเต้นกับการที่จะได้ไปงานครั้งนี้ขึ้นมา โทรถามเพื่อนคนโน้นก็แล้ว คนนี้ก็แล้ว ว่าจะไปงานกันอย่างไร ถามกันอยู่ตั้งหลายครั้ง แต่จนแล้วจนรอด ด้วยความเชื่อโชคลางนิดๆ ผมจึงเลือกกลับบ้านไปคนเดียวก่อนวันงานซัก สองสามวัน จะได้ถือโอกาสกลับบ้านด้วยเลย แต่ก็ไม่วาย โทรถามเพื่อนตลอดว่าจะไปกันอย่างไร จะเหมารถไป ขับไปเอง หรือจะวิ่งไปดี แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบในบัดดล สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน ให้มันได้อย่างงี้ (ผมคิดในใจ)

สุดท้ายแล้วก็ได้เพื่อนไก่โทรมาบอกว่า ถ้าสรุปกันไม่ได้ก็ขับรถไปด้วยกัน แต่ไก่มีแผนจะค้างด้วย ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่ค่อยอยากค้าง อยากกลับมานอนบ้านมากกว่า ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน กลับบ้านก็อยากอยู่บ้าน จึงตอบแบ่งรับแบ่งสู้ไป และสุดท้ายกว่านั้น ในคืนวันที่ 11 นั่นเอง กิ๊ฟ (หรือ กิ๊ฟซี่ ที่มันเรียกตัวเองว่างั้น) ก็ได้ส่งความหวังมาสู่มวลชน ด้วยการบอกว่า เอาวะ ถ้าไม่มีใครว่ายังไง มึงกับกู ขับรถอีแก่ไปกันสองคนก็ได้ แล้วเราก็กลับมาเที่ยวขอนแก่นกัน ไม่ต้องค้าง (555 นี่นะความหวังสู่มวลชน) แต่มันก็ได้ทำให้ผมกลับมานึกว่า เอ … ไหงเราตื่นเต้นขนาดนี้หว่า อิจฉาก็ไม่ใช่ เพราะไม่รู้จักหน้าตาเจ้าสาวเลย สนิทกับเจ้าบ่าวก็ไม่มาก ถ้าเป็นนัทก็ว่าไปอย่าง แต่ที่ผมคิดได้ก็คือ เพื่อน ผมอยากเจอเพื่อนนั่นเอง นอกจากไก่กับนัทแล้ว ก็เป็นเวลาหลายปีทีเดียวที่ผมไม่ได้เจอเพื่อนมัธยมปลายที่ผมสนิทสนมอย่างมากมายเลย งานนี้เจ้าภาพบอกว่า พยายามชวนมากันทุกคน กะให้พร้อมหน้ากันทีเดียว (ป.ล. เจ้าภาพรวยมาก 555) นั่นไงล่ะ สาเหตุที่ผมตื่นเต้น เอาล่ะไม่ไปไหนซักที ยังไม่ได้ข้อสรุปถึงวิธีการไป แต่ก็ยังดีที่ ท้ายที่สุด กิ๊ฟก็โทรมาบอกว่า โอเค บ่าย 3 โมงเย็น เจอกันที่บ้านกิ๊ฟ เราจะเอารถบ้านนกและบ้านน้ำไปกัน ไปกลับ กลับมาเที่ยวต่อ ผมตอบโอเคอย่างว่าง่าย

บ่ายสองโมง สามสิบห้านาที วันที่ 12 ผมอยู่หน้าบ้านกิ๊ฟ มาก่อนเวลา กลัวเพื่อนจะรอ บ้านกิ๊ฟก็ยังเหมือนเดิม พี่โก้ก็ยังกินเหล้าจัดเหมือนเดิม ตอนผมถึงไปยังไม่ตื่นเลย แต่สิ่งสุดท้ายที่ต้องตกใจก็คือกิ๊ฟผอมมาก ผอมจนแทบที่จะไม่มีส่วนที่เป็นไขมันอยู่เลย น่าอิจฉาจริงๆ 555 แต่เรื่องที่ทำให้ผมต้องตกใจอีกครั้งคือคำถามจากกิ๊ฟที่ว่า “เราจะไปไหนกันดี” ผมตอบในใจอย่างไม่คิดว่า “ก็ไปบ้านนกซีวะ เดี๋ยวก็ไปงานไม่ทันหรอก กูยิ่งไม่รู้อยู่ว่างานเริ่มกี่โมง จะมาถามอะไร ว่าไปไหนดี” กิ๊ฟเหมือนอ่านใจผมออก รีบพูดต่อทันทีว่า “พวกนกโทรมาบอกว่า อยู่ห้างสรรพสินค้าอยู่ พาตั้ม(เสียเส้น)ไปหาซื้อชุดไปงานอยู่ มันไม่ได้เตรียมมา” 555 เอาอีกแล้วเพื่อนผม ไม่เคยเปลี่ยนเลย แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่รีบ (เพราะยังไม่รู้ว่างานเริ่มกี่โมง ซองก็อยู่กับไก่ซึ่งล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว) ผมเลยตกลงกันว่า ไปหาร้านนั่งกินอะไรรองท้อง เพราะยังไม่มีใครกินกันมา กะไปตายเอาดาบหน้าที่งานแต่งทีเดียวเลย ผมบอกกิ๊ฟว่าเอาที่มีแอร์ เพราะร้อน เลยมาลงเอยมี่ร้านเบเกอรี่และไอศกรีมหน้าพิมานคอนโดปาร์คหลังมอ (ม.ข.)

ที่หลังมอนี้ ถึงแม้จะมีตึกเพิ่มขี้นมาบ้าง แต่ยังไงบรรยากาศก็ยังเหมือนเดิม ทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆสมัยที่ยังเรียนอยู่ รถมอเตอร์ไซค์คันแล้วคันเล่า ชีวิตที่เรียบๆ แต่ไม่ง่าย บรรยากาศก็ยังเหมือนเดิม ผมนั่งกินอะไรกับกิ๊ฟไปซักเกือบชั่วโมง ไม่มีใครโทรมาบอกถึงสถานะล่าสุดของการเดินทางครั้งนี้ กิ๊ฟจึงโทรไปตาม และแล้ว นั่นแหละครับ ถึงได้เรียกว่าเพื่อนกันของแท้ มีเรื่องให้ประหลาดใจไม่สิ้นสุด คุณเธอทั้งหลาย กำลังทำผม และเพิ่งจะเข้าไปด้วย โดยมีเสียเส้นนั่งรอเป็นการตอบแทนที่พาไปถอยชุดใหม่ เออ เอามันเข้าไป แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่รีบ (เพราะไม่รู้เวลางาน) ผมคิดในใจต่อไป แล้วเวลาก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง อุ้มซึ่งเป็นอีกคนที่จะติดรถไปด้วยกันโทรมาถามว่าอยู่ไหนกันจะไปหา ผมกับกิ๊ฟจึงวานให้อุ้มสงเคราะห์ไปรับเสียเส้นที่นั่งฟังเสียงไดร์เป่าผมมานั่งด้วยกันดีกว่า พออุ้มกับเสียเส้นมาถึง เราก็เริ่มวงสนทนา นินทาเพื่อนที่เหลือไล่ไปทีละคนเอาแบบตามเลขที่สมัยเรียนกันไปเลย (ข่าวดีที่ได้พร้อมกับตัวเสียเส้นคือ ช่างทำผมมีคนเดียว นก ดาว น้ำ แชด รอทำผมกันอยู่ กรรมจริงๆ ร้านก็มีตั้งเยอะ ไม่แยกกันไปทำวะ) ในขณะเดียวกันกับที่ไก่ผู้ซึ่งไปถึงอุดรแล้วโทรมาตาม พร้อมกับบอกข่าวว่าหยู เพื่อนอีกคนหนึ่ง ไปงานแต่งตอนเช้า(ที่ไหนไม่รู้ ไม่หนองคายก็สกลนคร ผมเดาเอาเอง)มาด้วยชุดปกติสุข กางเกงยีนส์ขาดนิดๆ ผลที่ได้คือต้องขับรถกลับมาซื้อชุดสูทเต็มยศแล้วจึงกลับเข้าไปในงานได้ เนื่องด้วยบรรยากาศของงานประหนึ่งว่างานเลี้ยงสมาคมชาวเวียตนามแห่งประเทศไทย(ฮา) เรื่องนี้ทำให้พวกผมเกิดไม่มั่นใจในชุดที่จะใส่ไปงานกันทันที เนื่องด้วยกลัวจะต้องไปซื้อสูทที่อุดรซ้ำรอย แต่เอาเถอะ เอาแค่ว่าให้ได้ไปก่อนก็แล้วกัน เพราะยังรอเพื่อนสาวเจ้าของรถทำผมอยู่เช่นเคย

ประมาณราวๆห้าโมงเย็น พวกผมรอกันไม่ไหว เพื่อนก็นินทากันไปจนหมดทั้งรุ่นแล้ว กำลังจะไปถึงแฟนเพื่อน และก่อนจะลามไปถึงผู้ปกครอง กิ๊ฟก็เลยโทรไปจี้เหล่าแม่บ้านทหารบกว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ จึงได้รับไฟเขียวว่า ให้ไปรอที่บ้านนกได้เลย กำลังจะเสร็จแล้ว ที่บ้านพ่อกับแม่อยู่ เข้าไปรอได้เลย พวกผมรับบัญชา และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จ่ายเงินแล้วเคลื่อนขบวนทันที เพราะกิ๊ฟเองก็เริ่มบ่นไม่ค่อยสบาย ไปบ้านนกกันดีกว่า(ตอนนี้ผมรู้แล้วว่างานเริ่ม 18.09)

ตอนนี้ คือว่า ง … ง่วงนอนแล้วคับผม เอาเป็นว่า เอาไว้ต่อกันภาค 2 ก็แล้วกันนะ ที่จริงอยากเล่ารายละเอียดมากกว่านี้จะได้เห็นภาพบรรยากาศและความสนุกเดียวกันกับผม แต่กลัวว่าถ้าเผื่อมีใครหลงเข้ามาอ่านจะเบื่อเอา เลยเอาที่หลักๆ เอาเป็นขอไปนอนก่อนดีกว่า (ฮ้าวววว)

+ + + + + + + + + + + + +




Create Date : 22 กันยายน 2549
Last Update : 11 ตุลาคม 2549 10:03:29 น. 0 comments
Counter : 411 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Poetra
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กับเส้นทางที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่ได้ดี ไม่ได้เด่นเหมือนใครๆ แม้มันไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับคนอื่นๆ แต่มันก็น่าจะเพียงพอที่จะมาเล่าสู่กันฟังได้บ้าง ...




Friends' blogs
[Add Poetra's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.