ชา คำพูดสั้นๆไม่ใช่เย็นชานะ คนเริ่มดื่มชาตั้งแต่เมื่อไหร่กันหล่ะ-ประวัติศาสตร์นอกตำรา EP 3
วัฒนธรรมการปลูกและดื่มชา มีมานานไม่ต่ำกว่า 4,000 ปี ประวัติศาสตร์เล่าขานกันว่า การดื่มชา ถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศจีน โดย จักรพรรดิเสินหนิง (Shen Nung) ที่กำลังต้มน้ำอยู่ใต้ต้นชา และสายลมที่พัดผ่านทำให้ใบชาตกลงไปในกาต้มน้ำโดยบังเอิญ เกิดเป็นเครื่องดื่มรสชาติถูกปาก จนพัฒนาต่อมากลายเป็น
วรรณกรรมชาคลาสสิกฉาชิง (Cha Ching) ที่เป็นตำราเกี่ยวกับการปลูกชา การผลิต วิธีการดื่มและชงชาในประวัติศาสตร์เล่มแรกของโลก
รูปจาก silpa mag.comชาในประวัติศาสตร์จีนต้องใช้เวลากว่า 3,000 ปี ตั้งแต่การค้นพบครั้งแรก กว่าชาจะกลายเป็นเครื่องดื่มที่แพร่หลายในประเทศจีน โดยส่วนใหญ่ใช้ดื่มเพื่อสรรพคุณทางยา บันทึกทางประวัติศาสตร์เล่าว่า เริ่มมีการเก็บภาษีชาเป็นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ถัง และเริ่มมีการแปรรูปชาด้วยการอบไอน้ำและตากแห้งครั้งแรกในสมัยราชวงศ์หมิง ชาที่ผ่านกระบวนการตากแห้ง หรือ “ชาดำ” มักถูกขายเพื่อส่งออก ขณะที่ชาวจีนยังคงวัฒนธรรมดื่มชาสด หรือ “ชาเขียว” ตามวิธีดั้งเดิมแต่โบราณ
ภาพผงและน้ำชาเขียวจาก product nation
ชาในประวัติศาสตร์ยุโรปชาวดัทช์เป็นชาติแรกที่ริเริ่มความนิยมจิบชาในยุโรป โดยเริ่มขนส่งชาไปยังพื้นทวีปในช่วงทศวรรษ 1610 ก่อนจะแพร่หลายไปสู่อังกฤษในทศวรรษ 1650 และแพร่หลายจนกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในที่สุด ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมามีการิเริ่มเขียนตำราการดื่มชาในฐานะวัฒนธรรมของชนชั้นสูงของราชวงศ์และขุนนางอังกฤษ
พื้นที่ปลูกชาในประเทศต่างๆแม้ว่าชาจะถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศจีน แต่ประเทศผู้ผลิตชารายใหญ่ไม่ได้มีแค่จีนประเทศเดียว ราวปี 1191 นักบวชนิกายเซนได้นำเมล็ดชาจากจีนเข้ามาปลูกในญี่ปุ่น และเริ่มมีการเก็บเกี่ยวและดื่มชากันในเกาะทางใต้ของแดนอาทิตย์อุทัย นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบชาในรัฐอัสสัมของอินเดีย ที่เริ่มนำมาจำหน่ายครั้งแรกในอังกฤษเมื่อปี 1839 การล่าอาณานิคมยังทำให้การปลูกชาเริ่มแพร่หลายไปทั้วโลก โดยเจ้าอาณานิคมอังกฤษได้นำชาไปปลูกที่เมืองเคปในทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรกในปี 1687 ก่อนขยายไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น เคนยา มาลาวี และแทนซาเนีย
ประวัติของชาในประเทศไทยหลักฐานจากจดหมายของลาลูแบร์ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์บ่งชี้ว่า คนไทยรู้จักการดื่มน้ำชากันมานานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัยที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับจีน และนิยมเสิร์ฟน้ำชาในการต้อนรับแขก ด้วยวิธีเดียวกับการชงชาในประเทศจีน นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบต้นชาป่าพันธุ์อัสสัมอายุหลายร้อยปี ที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ชาวบ้านขนานนามว่าเป็น “ต้นชาพันปี” ทำให้พบว่าต้นชามีอยู่ในไทยมานานแล้วในแถบที่ราบสูงทางตอนเหนือของประเทศ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน ลำปาง และตาก
ที่มา https://www.thailandcoffee.net/tea-history/