วันสุดท้าย ตื่นขึ้นมาก็เกิดอารมณ์ไม่อยากกลับทุกครั้งเลย คงต้องร้องเพลงของสิงโต นำโชค เหมือนที่คุณแบงค์ว่านั่นล่ะ ^^ (อยู่ต่อเลยได้มั๊ย..อย่าเพิ่งปล่อยให้ตัวฉันไป...) ออกมาเดินเล่นหน้าโรงแรม เป็นวันที่อากาศดีมากๆเลย ไม่หนาวมากเหมือนเช้าวันอื่นๆ มีความสุขเจงๆ

ที่แรกของวันนี้เป็น Duty Free ค่ะมาเป็นกรุ๊ปแรกเลยตอน 9 โมง สำหรับ Duty Free ของเกาหลีมี 3 ที่นะคะ ดองวา ชิลลา และ ล็อตเต้ ทริปนี้ไปที่ ดองวาค่ะ มี 2 ตึก โดยตึกแรกที่อยู่ติดถนน ชั้นล่างเป็น ขนม และ คสอ.เกาหลี ชั้นบนก็มีทั้ง คสอ. Brand ต่างๆและ น้ำหอม ตึกที่สองเป็นพวกกระเป๋า Brand name ค่ะ สำหรับ Brand เกาหลีหิ้วของกลับได้เลย แต่ Brand Inter. รับของที่สนามบินนะคะ ตรงข้าม Duty Free มีร้านโกกิมันดู (เกี๊ยวซ่ากิมจิ) ขายด้วย อร่อยดีค่ะ คุณบอลลี่หัวหน้าทัวร์ทริปก่อนเคยแนะนำไว้

ต่อด้วยร้านสมุนไพร ฮ็อกเกตนามู ช่วยบำรุงตับและล้างสารพิษที่อยู่ในตับ อันนี้ใครสนใจก็ซื้อทานเป็นคอร์สนะคะ ประมาณ 3-4 เดือน แล้วก็เว้นได้ไปอีกหลายปีเลย

แล้วก็ไป Trick Eye Museum ค่ะ ถ่ายรูปกันจนหนำใจ ออกมาก็มีเวลาให้เดินลัลล้า Shopping ต่อย่านฮงอิกอีกซักพัก ก่อนลงจากรถเแอบกระซิบให้น้องเมจิกฟังว่า “ที่ฮงอิกมีร้าน Hello Kitty Café ด้วยนะ” ยังเล่าไม่ทันจบ น้องเมจิกรู้หน้าที่มาก เดินไปหาพี่แบงค์กี้หัวหน้าทัวร์ แล้วบอกว่า “นู๋อยากไป Hello Kitty” 5555 เด็กอะไรก็ไม่รู้ ฉลาดจริงๆเลย ^^

 

ก็ได้เวลามื้อเที่ยงค่ะ มื้อสุดท้ายที่เกาหลี สำหรับมื้อนี้ เลือกได้ค่ะ ระหว่างไก่ตุ๋นโสม และบูลโกกิ ดีมากเลย เพราะวัยรุ่นไม่ค่อยปลื้มไก่ตุ๋นโสม ซักเท่าไหร่ แหะๆ
 

ได้เวลาขึ้นรถก็ไปต่อที่โรงงานอเมทิส พลอยสีม่วงค่ะ มีเครื่องประดับทั้งจี้ แหวน ให้เลือกสารพัดเลย เคยพาคุณแม่มากระหน่ำซื้อไปแล้วครั้งนึง รอบนี้เลยงดค่ะ ก็เลยออกมาเดินสำรวจแถวนั้น หาต้นไม้สวยๆถ่ายรูปกัน

เป้าหมายต่อไป เป็นอีก 1 ไฮไลท์ของทริปนี้ค่ะ ชมดอกซากุระบานที่เกาะยออิโด ปีที่แล้วผึ้งมาตอนโดนพายุเข้าพอดี ดอกซากุระก็เลยร่วงบนพื้นหมด คราวนี้เลยสมใจอยากมากเลยค่ะ บานสะพรั่งเต็มต้น ถ่ายรูปกันรัวเลย

เนื่องจากเป็นที่ซมซากุระยอดฮิต คนเลยเยอะมากกกก เป็นจุดที่อยู่ริมแม่น้ำ แถว Yoido Full Gospel Church โบถส์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีค่ะ

จากนั้นก็เดินทางไปต่อที่ Supermarket ร้านละลายเงินวอน ระหว่างทางก็ช่วยอุดหนุนรูปถ่ายของน้องตากล้องค่ะ ถึงร้านก็พยามสะกดจิตตัวเองไม่ให้ซื้ออะไรมาก เพราะคงจะไม่สามารถหอบหิ้วกลับไปได้หมดแน่ๆ ที่นี่มีบริการแพ็คกล่องฟรีสำหรับลูกค้าด้วยค่ะ

เดินทางต่ออีก 10 นาทีก็ถึงสนามบิน อินชอน คุณแบงค์ล่วงหน้ามา Check in ให้เรียบร้อยแล้ว รับกิมจิ สาหร่าย สตอเบอรี่และ แพ็คกระเป๋ากันเสร็จก็โหลดได้เลย สำหรับ Korean Air ให้โหลดกระเป๋าได้คนละ 2 ชิ้น ดังนั้นหากของใครเกินจะต้องเอาเทปกาวมาพันประกอบร่างให้กลายเป็นชิ้นเดียวค่ะ

และแล้ว...ก็ได้เวลาร่ำลาคุณคิม คุณแบงค์ และน้องตากล้อง เอ๊ะ!ไม่ใช่สิ คุณแบงค์ต้องกลับไปกับเราด้วย ฮ่าๆๆๆ  ส่วนน้องตากล้องก็ยังกวนจนถึงวินาทีสุดท้าย เลยโดนผึ้งตีส่งท้ายไปอีก 1 ที 555

ผ่าน ตม. แล้วไปรับของดิวตี้ฟรีค่ะ  ผ่านร้านช็อคโกแลต ก็โดนน้องนิวเปี้ยนเบรคไว้ (พวกช็อคโกแลต Godiva  และ Neuhaus ถ้าเทียบระหว่างสนามบินเกาหลี ฮ่องกง สิงค์โปร์ ที่สิงค์โปร์ถูกสุดค่ะ) ก่อนเดินไปเกท ก็จะผ่านทั้งร้าน Snoopy และ Hello Kitty Café  เลย น่ารักมาก เอาไว้หลอกเด็กอย่างน้องเมจิก น้องนิวเปี้ยน และผึ้งมิ้มได้สำเร็จ ลองแวะชิมดูนะคะ อร่อยดี

Take off และหม่ำมื้อดึกเรียบร้อย ก็ถึงเวลานอน อ้อ! Flight นี้แจกของหวานเป็นไอติมรส Cheesecake ด้วย สองคู่ซี้พี่น้องหันมองหน้ากันแล้วยิ้มกริ่มเลย ไม่มีเหลือค่ะ ทั้งไอติม ทั้งไวน์ อิอิ

นอนได้ซักพักก็เป็นหวัดจนต้องกินยา พอยาออกฤทธิ์ เริ่มง่วงเต็มที่ก็ Landing อ๊ากกก...!!! เล่นเอาทั้งมึนและเบลอ แทบลืมตาไม่ขึ้นเลย ร่ำลาครอบครัวน้องเมจิก และครอบครัวอื่นๆเสร็จก็เข็นกระเป๋าไปรอคิวแท๊กซี่ กว่าจะถึงขอบเตียงก็ตีสาม เป็นอันสลบ วันรุ่งขึ้นต้องตื่นไปทำงาน และแล้วช่วงเวลาแห่งความสุขของผึ้งมิ้มก็หมดไปอย่างรวดเร็วมากๆๆๆ 55555 มีเพียงความประทับใจ และความทรงจำดีๆที่ขอเก็บไว้ใน blog นี้จ้า