Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 5 คลองชองเกซอน - ดิวตี้ฟรี - ทงแดมุน - ฮงอิก - ละลายเงินวอน
Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 5 ศูนย์สมุนไพร - คลองชองเกซอน - ดิวตี้ฟรี – ตลาดทงแดมุน - ย่านมหาลัยฮงอิก - ร้านละลายเงินวอน - สนามบินอินชอน - สุวรรณภูมิ

ว๊า....รู้ตัวอีกทีก็วันสุดท้ายซะแล้ว ทุกคนรู้สึกเหมือนกันว่ายังไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ต่ออีกซักเดือน โดยเฉพาะตากล้องเด็กแนวของเราไม่รู้ติดใจนมกล้วยรึหนุ่ม Coffee Prince ส่วน MD.ของเราก็ติดใจอาหารเกาหลีอย่างหนัก เจริญอาหารทุกมื้อ ถึงขั้นกลับมายังชวนน้องๆไปกินอาหารเกาหลีกันอยู่เลย ส่วนหัวหน้าทีมปฏิบัติการคืนดุลจะติดใจอะไร ต้องคอยติดตามกันต่อไป คริ คริ...

ก่อนจะเข้าสู่โปรแกรมของวันที่ 5 ต้องขอขอบคุณมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านบล็อค แล้วสรรเสริญกันไปต่างๆนาๆ ทั้งเวิ่นเว้อก็ดี ->เย๊อะก็ดี ->จินตนาการล้ำก็ดี ->สนุกจนหยุดไม่ได้ก็ดี หรือบางคำถามที่ว่าผึ้งมิ้มทำผิดอาชีพ ผิดที่ผิดทางรึปล่าวก็ดี สิ่งเหล่านี้ทำให้นึกถึงสมัยก่อนที่ตระเวนกินและ รีวิวร้านอาหารในเวบบอร์ดพันทิป (จนเจ๊งไปแล้วหลายร้าน ฮาๆ) ถึงแม้ไม่อาจหวนคืนสู่วงการได้อีกครั้ง แต่หากมีทริปไหน ร้านอะไร ที่ประทับใจกันแบบสุดโต่ง ก็จะเอามารีวิวให้อีกเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เยาวชนรุ่นหลังจ้า (ดูยิ่งใหญ่ไปป๊ะเนี่ย 555) อ่านแล้วชอบรึไม่ชอบอย่างไร แอบจิกกัดใครไปบ้าง ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยคร๊า...ทุกอย่างล้วนตั้งใจ เอร๊ย! ไม่ได้ตั้งใจ


เอ๊า!...มาเข้าสู่โปรแกรมวันสุดท้ายกันดีกว่า วันนี้แทบคลานไปอาบน้ำ และละเมอไปกินข้าว ด้วยความง่วงจัด ขึ้นไปบนรถไกด์อธิบายให้ฟังเรื่องสมุนไพรตัวนึงที่ช่วยบำรุงตับ และคนเกาหลีนิยมกินกันเพื่อช่วยเรื่องอาการเมาค้าง แต่ให้ตายเถอะ!จำชื่อสมุนไพรไม่ได้จริงๆ ใครจำได้บอกด้วยนะค๊า

ศูนย์สมุนไพร
เข้าไปในศูนย์สมุนไพร ชักเบลอๆ นี่ช้านไปในศูนย์โสมอีกรอบเหรอ ห้องที่เค้าบรรยายและขายสมุนไพร มันแปลนเดียวกะศูนย์โสมเป๊ะ!เลย ก็แอบไปยืนง่วงอยู่หลังห้อง คนบรรยายก็ถามถึงสรรพคุณสมุนไพร ก็แอบหาวไปตอบไปว่าช่วยบำรุงตับ บลาๆๆ...ถูกเว๊ยเฮ๊ย! เค้าบอกว่าไปยืนแอบตอบทำไมหลังห้อง ให้มาเอารางวัลเป็นชาที่ทำจากสมุนไพรตัวนี้แหละ และก็ไปยืนหน้าๆแทน แล้วเค้าก็เอาสมุนไพรตัวนี้ใส่ในน้ำอัดลมเห็นได้เลยว่าสีมันเปลี่ยนเป็นใสขึ้น และก็ให้คนที่ได้รางวัลออกไปชิมให้ดู อ้าว!ซวยแล้วตู ระหว่างนั้นสมองประมวลผลอย่างเร็ว แล้วโพล่งออกไปว่า “ปกติไม่ทานน้ำอัดลมค่ะ” 555 ออกตัวก่อนเรย เค้าเลยยอมให้ดมอย่างเดียว บรรยายเสร็จก็มีแจกเป็นน้ำสมุไพรตัวนี้ให้ชิม และแล้วท่านซังกุงห้องเครื่องของของเรา ก็ส่งสายตามาบอกใบ้ให้ท่าน MD.รู้อย่างชัดเจนว่า ...แม่อยากลองน่ะลูก.. หุหุ คุณแม่ได้สิทธิ์นั้นเด๋วนี้คร๊า!!! ในที่สุดก็ได้กลับมาลองดังประสงค์ 1 ชุด

คลองชองเกซอน

แล้วเราก็มุ่งหน้าไปต่อที่ คลองชองเกซอน เป็นคลองที่ไหลผ่านตัวเมือง น้ำใสและสะอาดมาก รอบๆคลองทั้งสายถูกตกแต่งไว้อย่างดี ไกด์ให้เวลาพวกเราเดินเล่นที่นี่ 15 นาที เดินมาได้ซัก 5 นาที มีมุมนึงแส่งส่องลงมา สวยมาก ท่าน MD. ของเราก็หาได้รอช้าไม่ รีบปรี่เข้าไปยืนแล้วโพสต์ท่า 32 Acts. ไม่ซ้ำกัน น้องๆยืนดูถึงกับอ้าปากค้าง และคิดในใจพร้อมกันว่า โอ๊ว...แม่เจ้า! แบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่าของจริง 555

ยังค๊า...ยังไม่หมดเท่านั้น สาวๆ iHR กรุ๊ปนี้ก็หาได้อายต่อสายตาใครไม่ ยังงัดกระบวนท่า “ไม่อาวนะเกรงใจ” ออกมาโชว์ ริมคลองชองแกซอนกันได้อีก หุหุ พิจารณาภาพกันดูเอาเถอะ! (ความจริงก็คือบางสถานที่มันไม่ได้มีอะไรน่าจดจำมากมาย พวกเราก็เลยต้องพยามทำอะไรซักอย่างขึ้นมาเพื่อเป็นการสร้างความทรงจำให้กับสถานที่เท่านั้นเองจ้า)


ดิวตี้ฟรี
หลังจากหนุกหนานที่คลองชองเกซอนเสร็จ ก็นัดรวมตัวกันที่หอยใหญ่ เพื่อเดินต่อกันไปที่ดิวตี้ฟรี ที่นี่ มีเครื่องสำอางอันดับ 1 ของเกาหลียี่ห้อ Sulwhasoo ขาย เค้าว่ากันว่าแป้งพัฟดีมากๆเลย แต่ก็อย่างว่าอ่านะ แต่ละคนค่อนข้างที่จะกลัวว่าจะสวยเกินไปกว่านี้ ก็เลยไม่มีใครซื้อมาลอง ระหว่างที่ซื้อของเสร็จแล้วยังมีเวลาเหลืออีกเล็กน้อย เราก็เดินกันไปด้านหลังดิวตี้ฟรี ในส่วนของลานจอด จะเห็นร้านขนมเบเกอรรี่ Paris Baguette ซึ่งก็ประมาณ S&P บ้านเรา แต่สาขาที่เราไปเล็กมากๆๆๆ ขนมเลยค่อนข้างน้อย มีไม่กี่อย่าง ความจริงเห็นที่สนามบินอินชอนก็มีสาขานะ ของเยอะกว่าด้วย ถ้าถามว่าอร่อยมั๊ย ด้วยความที่เราชอบตระเวนกินอยู่แล้ว มันก็มีร้านที่อร่อยกว่านี้อีกเยอะ แต่โดยรวมจัดว่าโอเคอยู่นะ

ตลาดทงแดมุน
แถวนี้ก็ยังมีเครื่องสำอางพวก Skin Foodและ Etude ให้สาวๆได้เลือกช๊อปกันอยู่เผื่อใครต้องการจะเก็บตก ตรงที่ไกด์พาไปจะถูกแบ่งเป็น 2 ตึก ตึกแรกเป็นเสื้อผ้าราคาสูงหน่อย ทั้งเนื้อผ้า คัทติ้ง ดีไซน์ค่อนข้างดี ส่วนอีกตึกราคาจะถูกกว่าประมาณแพลทตินั่มบ้านเรา หลังจากไกด์นัดแนะเวลากันเรียบร้อย ทุกคนก็ตรงดิ่งเข้าไปสำรวจทันที ได้กลับมาคนละชิ้นสองชิ้นแค่พอเป็นพิธี

หลังจากนั้นก็ได้เวลาของมื้อสุดท้ายที่เกาหลี อาหารมื้อนี้อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นไก่ตุ๋นสมุนไพร รสชาติออกรสพะโล้นิดๆหวานๆหน่อย ใส่มัน เห็ดหอม แล้วก็วุ้นเส้น (เป็นวุ้นเส้นแบนๆ เส้นใหญ่ เหนียวนุ่ม )กินกันจบแทบบินออกจากร้านได้เลยทีเดียว หุหุ ว่าแล้วก็อยากกินอีกซักครั้ง... ร้านนี่อยู่แถวย่านฮงอิก เพราะง้านกินข้าวเสร็จแล้วก็เดินไปต่อกันที่ร้าน Hello Kitty และ Coffee Prince กันได้เลย อ้อ...แถวนี้ก็มีเสื้อผ้าแฟชั่นเก๋ๆ บู๊ท กระเป๋า ขายในราคาไม่แพงอีกด้วย


Hello Kitty
ตาม Concept เลย ร้านสีชมพู ขายเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ช็อคโกแลต และแน่นอน latte art ต้องเป็นรูป Kitty เท่านั้น และที่แน่นอนอีกอย่าง นอกจากน้องลาล่าจะเจอบรรพบุรุษหมีที่เทดดี้ แบร์ฟาร์มแล้ว เธอยังเจอ Hello Kitty บ้านเกิดอีกด้วย


Coffee Prince
หลังจากสำเร็จมื้อเที่ยงแล้ว ไม่แปลกใจเล๊ย! ทำไมเหล่าป้าๆ ในทริปนี้ถึงได้โกยกันมาร้าน Coffee Prince เพราะก่อนกินข้าวไกด์พี่น้องโฆษณาไว้ว่า พนักงานขายร้านนี้หล่อขั้นเทพ และเนื่องจากร้านนี้ไม่มีป้ายที่เป็นจุดสนใจซักเท่าไหร่ เราก็เดินเลยร้านไปซะง้าน แล้วค่อยย้อนกลับมา กวาดตาแสกนไป 2 รอบ ไหนอ่า?ไม่เห็นมีเลย เจอแต่ๆพี่ๆทริปเดียวกันนั่งอยู่เต็มร้าน ท่าน MD.กะตากล้องเด็กแนวเลยไปนั่งดื่มด่ำกับกาแฟที่ชั้น 2 ส่วนน้องลาล่าขอไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ Hello Kitty World คนเดียว และแล้วเวลาที่บางคนรอคอยก็มาถึง ขณะที่เดินลงมาชั้นล่าง เห็นพี่ๆในทริปเดียวกันนั่งถ่ายรูปกับพนักงาน Coffee Prince อยู่ ไม่รอช้า ตากล้องเด็กแนวก็ได้ค้นพบว่า ... คนนี้ล่ะ ที่ช้านรอคอย...แล้วก็จัดการยื่นกล้องให้หัวหน้าทีมปฏิบัติการคืนดุลจัดการถ่ายรูปคู่ให้ทันที ทำเอาพี่ๆยืนมองหน้ากันแบบว่า ไม่น่าเชื่อ555 แต่แล้วก็โดนนางอิจฉาอย่างดิช้านแย่งซีนคร๊า! เข้าไปถ่ายรูปท่าซารางเฮโยกะหนุ่ม Coffee Prince ซะง้าน ทำเอาตากล้องเด็กแนวออกอาการเซงเลยทีเดียว โฮะๆๆๆ


ลัล ล้า กันเป็นที่พอใจแล้วก็ได้เวลาเดินไปขึ้นรถ ระหว่างที่ต้องยืนรอรถ สาวๆก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าประโยชน์ ได้เวลาที่หัวหน้าทีมปฏิบัติการคืนดุลจะปล่อยของแล้วละคร๊า! งานนี้หนุ่มเกาหลีมีอาย แต่...ดูยังไง๊! แผนชวน มึน ซุก ในครั้งนี้เราก็เสียดุลอยู่ดี ให้ตายเถอะ 555


ขึ้นบนรถได้ ก็ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงร้านละลายเงินวอน ในระหว่างนี้น้องโรสตากล้องเกาหลีประจำทริปก็เอารูปออกมาแจกจ่ายให้พวกเราอุดหนุนกัน โอ๊ววววโน!มาเป็นปึกเลยคร๊า เยอะมาก คนนึง 20 กว่ารูป ...วิวสวยแต่ทำไมช้านไม่สวยเลยล่ะ...ตัดไปตัดมาก็อุดหนุนไปคนละ 4-5 รูป (ความจริงแล้วทุกคนกระเป๋าฉีก น้องโรสไม่รับรูดบัตรคร๊า) พี่ๆด้านหลังบางคนใจป้ำหน่อยก็เหมาหมด ยังไม่ทันจะข่มตาหลับ ก็ใกล้ถึงถึงร้านละลายเงินวอนละ ได้เวลางัดแบงค์กะเทเหรียญวอนมานับ จะได้เอาไปละลายให้หมดอย่าให้เหลือซากกลับไป

ร้านละลายเงินวอน
เริ่มเดินจากชั้นสอง เข้าไปมีขนมให้ชิมเยอะแยะเลยเ ราก็ List ไว้บ้างแล้วล่ะว่ามีขนมอะไรอร่อยม่าง ใครอยากซื้อมาม่าเกาหลี โซจูขวดพลาสติก ขนมลอตเต้ ช็อคโกแลตเกาะเชจู ผลิตภัณฑ์จากโสม นมกล้วยแพ็ค 4 ขวด ที่นี่มีขายจ้า ได้ของที่ต้องการก็ลงมาจ่ายเงินที่ชั้น 1 มีบริการแพ็คของใส่กล่องด้วย ขนมรูปปลา ช็อคโกแลตส้ม และก็ Real Brownie อร่อยดี

สนามบินอินชอน
หลังจากแพ็คกระเป๋าอีกรอบ ก็จัดการโหลดกระเป๋ากันให้เรียบร้อย ปัญหาที่ต้องเจอแน่ๆคือ น้ำหนักเกิน แต่ถัวๆกันไปก็คงพอไหวอยู่ เสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาล่ำลาไกด์พี่น้องและผู้ช่วยแอนดริวกับน้องโรส ท่านซังกุงห้องเครื่อง(แม่)หันไปบอกน้องโรสว่า “โรสไปเที่ยวเมืองไทยมั๊ย” ร้อนถึงท่าน MD.ต้องแปลให้อีกแล้วคร๊า เพราะโรสยืนงงเป็นไก่ตาแตกฟังไม่รู้เรื่อง555

บินกลับด้วยสายการบิน Jeju Air เหมือนเดิม ขึ้นเครื่องได้หลับเป็นตายตั้งแต่ยังไม่ Take off เลย ซักพักก็มีอาหารแจก กินเสร็จก็หลับต่อ จำไม่ได้แล้วด้วยว่าเค้าแจกอะไร เพราะละเมอหลับตากิน หุหุ

สุวรรณภูมิ
ถึงสุวรรณภูมิเกือบเที่ยงคืน ผ่านตม. กับศุลกากรเรียบร้อย ไปรับของ ที่สายพาน ก็ได้เวลาล่ำลาพี่ๆร่วมทริป และทุกๆคน นี่แหละ!ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปทำงานต่อ 555 แต่ความประทับใจสำหรับทริปนี้ยังอยู่กับเราไปอีกนานจ้า.....ราตรีสวัสดิ์ and BYE-BYE Korea Trip

ขอขอบคุณ
•ทีมไกด์ Korea Expert ที่น่าร๊ากกกทั้ง 4 ท่าน พี่น้องบี น้องต้น น้องโรส และคุณแอนดริว ที่ดูแลลูกทัวร์อย่างดี


•คณะผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน ที่มาเจอกันจากทั่วสารทิศ


•บริษัท iHR Consulting สปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ^^


คำบอกเล่าความประทับใจ



แม่ของพี่ปลาและพี่หมู (ซังกุงห้องเครื่อง) >>>กำลังรอ<<<
พี่ปลา ( MD.บริษัท) >>>กำลังรอ<<<
พี่หมู (หัวหน้าทีมปฏิบัติการคืนดุล) >>>กำลังรอ<<<
น้องนุ่น (ตากล้องเด็กแนว) “บรรยากาศเริ่ดดดดด ทำให้เจริญอาหารอย่างแรง นอนน้อยแต่ว่าก็หลับฝันดี” (ฝันถึงหนุ่มเกาหลีคนไหนรึปล่าวคะคุณน้องขา 555)
น้องนิว (ลาล่า) >>>กำลังรอ<<<
ผึ้งมิ้ม (ต้นเรื่องแห่งความเวิ่นเว้อทั้งหมด) “บอกได้คำเดียวว่าทริปนี้..น่าร๊ากกกอ๊ะ!”

ปล.1ใครอ่านจบทั้ง 5 ตอนไม่ต้องไปเที่ยวแล้วก็ได้นะ คริๆๆๆ
ปล.2สำหรับหลายคนที่ขอข้อมูลบริษัท หรือข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมมา ลองติดต่อคุณต้นไปที่ 02-1928612-4 แล้วกันนะค๊า น่าจะให้ข้อมูลได้ดีกว่า







Create Date : 17 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 15 มกราคม 2555 14:07:54 น.
Counter : 12438 Pageviews.

25 comment
Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 4 นกฟินิกซ์ - บลูเฮ้าส์ - วังเคียงบก - โซลทาวเวอร์ - เมียงดง
Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 4 อนุสาวรีย์นกฟินิกซ์ - บลูเฮ้าส์ - พระราชวังเคียงบก - ศูนย์โสม - คิม จิวเวอรี่ - ศูนย์เครื่องสำอาง - โซลทาวเวอร์(รวมขึ้นลิฟท์) - ช๊อปปิ้งเมียงดง




วันนี้สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ List เครื่องสำอางหลายยี่ห้อ ทั้งที่ซื้อใช้เอง คุณเพื่อนฝากซื้อและซื้อฝากคุณเพื่อน หุหุ เพราะมีโปรแกรมไปเมียงดง ซึ่งเป็นแหล่งร้วมร้านเครื่องสำอางทั้ง Skin Food, Etude, The Fece Shop, Holika และอีกมากมาย ก่อนไปก็ Search หาส่วนลดของบางร้านไว้ แต่...ยังไม่ถึงเวลาที่รอคอย ก่อนจะถึงเย็นยังมีโปรแกรมเที่ยวอีกเพียบ

มีน้องคนนึงในกลุ่ม (เป็นคนที่คลั่งนักร้องญี่ปุ่นและเกาหลีมาก) เตรียมชุดมาอย่างดีเดินลงจากรถมาอย่างมั่นใจใน Concept เด็กญี่ปุ่น ทุกคนก็ทักใหญ่เลย ว่าญี่ปุ่นมาเชียว ด้วยความที่เราก็รักน้องมากกลัวน้องจะอาย เลยรีบเข้าไปแก้ตัวแทนน้องว่า "ไม่ใช่ค่ะ อันนี้ลาล่าโปงลางสะออน 555" ก็กระโปรงน้องมันให้อ่ะ ขาดแต่ดอกไม้ติดหัวเท่านั้นเอง คริๆ

อนุสาวรีย์นกฟินิกซ์
ถ้าใครเคยดู Harry Porter น่าจะรู้จักนกฟินิกซ์ดี เป็นนกอมตะ ส่วนมีความสำคัญยังไงรู้สึกว่าจะเดินมาไม่ทันไกด์บรรยายมั๊ง รึความจำสั้นก็ไม่แน่ใจ เพราะตอนนี้นึกไม่ออก หุหุ ^^ ถ่ายรูปกับไกด์พี่น้อง พี่เค้าทำท่าแอ๊บแบ๊วน่ารักมาก ระหว่างที่เราวางแผนกันอยู่หน้ากลอง ไกด์น้องต้นก็เดินมาเรียกเพราะคิดว่าพวกเราประชุมแผนขโมยกลองกันอยู่ 555 คิดได้เนอะ (ปฏิบัติคืนดุลการครั้งที่ 2 เริ่มขึ้นอีกแล้ว เมื่อเราเรียกแอนดริวมาถ่ายรูปด้วย แล้วบอกว่าทำท่าซางรางเฮโยนะ เค้าเข้าใจว่าพวกเราจะทำ แต่เราบอกไม่ใช่ Youอ่ะทำ เด๋วI ชี้ ถ่ายเสร็จแอนดริวบอกว่า "ผมเขินนะ" 555แกล้งสำเร็จคับเพ่น้องคับ)

เที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลี

บลูเฮ้าส์
จากอนุสาวรีย์นกฟินิกซ์เดินไปพระราชวังเคียงบก จะต้องผ่านบลูเฮ้าส์ แต่ระหว่างทางเข้มงวดมากห้ามถ่ายรูป หากเห็นใครยกกล้องขึ้นจะถ่ายรูปจะได้ยินเสียงเตือนดังๆจากคนในเครื่องแบบเป็นภาษาเกาหลีว่า...(อะไรซักอย่างที่ฟังไม่ออก) ถ้าอยากรู้ต้องลอง แต่เค้าก็จะมีจุดที่ให้ถ่ายรูปได้ตรงข้ามทางเข้าพระราชวังเคียงบกซึ่งคนเยอะมากเลยไม่ได้ถ่ายกันจ้า



พระราชวังเคียงบก
เป็นพระราชวังเก่าแก่ ปิดทุกวันอังคาร มีเด็กๆเกาหลีมาทัศนศึกษาหลายกลุ่มเลย มีพระที่นั่งยิบย่อยเยอะอยู่ เข้าประตูนั้นออกประตูนี้ หากมัวแต่ถ่ายรูปเพลินเดินไม่ทันไกด์ อาจหลงได้ ก็ต้องใช้วิธี เขียนเบอร์โทรติดข้อมือให้ผู้พบเห็นส่งกลับบ้านเอา เย้อออ!!ไม่ใช่ละ ที่นี่จะมีมุมถ่ายรูปสวยคือมุม 45 องศา จะเห็นภูเขามังกรด้วย (ต้องใช้จินตนาการในการมองอย่างลึกซึ้ง)

เคียงบกเคียงบกเคียงบกเคียงบกเคียงบก


ศูนย์โสม
ที่นี่จะให้ความรู้เรื่องโสม โดยโสมที่ดีที่สุดอายุจะต้อง 6 ปี กินแล้วจะไม่ร้อนวิธีการดูอายุโสมก็ง่ายมาก ดูจากก้านและใบ 1 ปีจะมี 1 ก้าน 5 ใบ (ใช่มั๊ยน๊อ ผู้รู้ท่านใดอ่านเจอแล้วบอกไม่ใช่แย้งมาได้นะค๊า เพราะเราจำไม่ได้ แหะๆ อายเค้ามั๊ยเนี่ย! บอกว่าดูง่ายมาก แต่ปัญหาคือจำไม่ได้ว่าดูยังไงอ่ะ) สำหรับที่นี่รู้สึกว่าจะรูด ปื๊ดๆ กันไปเยอะเลยทีเดียวเพราะราคาก็ค่อนข้างจะสูงมากเช่นกัน

และแล้วก็ได้เวลาของมื้อเที่ยง ไก่ตุ๋นโสม นั่นเอง เสิร์ฟมาคนละตัว ร้อนมาก ถูกเค้าตุ๋นซะเปื่อยเลย ชอบตรงได้แทะกระดูกอ่อนของไก่ทั้งตัวนี่ล่ะ รสชาติก็จะประมาณไก่ตุ๋นฟักบ้านเรา ซุปก็หวานจากกระดูกไก่ ข้างในตัวไก่จะมีข้าว โสม แปะก๊วย... มีเครื่องปรุงทั้งซอสแบบแม๊กกี้ เกลือ พริกไทย และเหล้าโสมจะใส่ลงไปในซุป หรือซดรวดเดียวเลยก็ได้ มื้อนี้ไม่มีใครกินหมดเลยเพราะเยอะมาก ระหว่างที่ทุกคนเริ่มอิ่มทันใดนั้นท่านซังกุงห้องเครื่อง(แม่) ก็ปฏิบัติการแจกจ่ายอาหารของตนทันที แต่ละคนยกถ้วยหนีแทบไม่ทัน555




คิม จิวเวอรี่
ร้านขายจิวเวอรรี่มีทั้งธรรมดาและเกรดพรีเมี่ยม แต่ไม่ได้อุดหนุนเพราะไม่ใช่เป้าหมาย อิอิ ที่นี่จำได้แค่ชุดที่โชว์ตรงทางเข้าติดป้าย ห้ามจับ!!! หลังจากที่ร้านเห็นว่าไกด์คนนึงจับทุกครั้งที่มา คริๆ (แต่แอบจับเค้าก็ไม่เห็นว่าอะไรนะ 555 นิสัย!อะไรที่ห้ามทำหมด)

ศูนย์เครื่องสำอาง
ที่นี่ก็จะมีสาธิตเครื่องสำอางหลายๆอย่างเลยให้ทุกคนลอง ทั้ง Rojukiss, water drop dr.jart, ครีมเมือกหอยทาก ยืดดดเชียว...เป็นพวกเวชสำอางขึ้นชื่อของเกาหลี ราคาถูกกว่าในเมืองไทยเยอะมาก สาวๆก็เหมากันไปเยอะเลยทีเดียว เหลือแค่รอลุ้นว่าอีก 1 เดือนสาวๆกรุ๊ปนี้คงหน้าเด้งกับเป็บแถบ หุหุ

โซลทาวเวอร์(รวมขึ้นลิฟท์)
มาถึงไฮไลท์อีก 1 ที่ ที่นี่เป็นการสร้างหอคอยบนเขานัมซาน จากจุดที่รถจอดต้องเดินต่อประมาณ 10-15 นาที ไกด์บอก 300 เมตรแม้ว ระหว่างทางก็มีบรรยากาศสวยๆให้ถ่ายรูปกันอีกแล้ว ขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นวิวกรุงโซลโดยรอบ จะมีอยู่จุดนึงให้ไปยืนบนจอ แล้วจะมีเอฟเฟคแผ่นดินไหว ตรงนี้นี่เอง ท่านMD.ก็เรียกซังกุงห้องเครื่อง(แม่) มาแกล้งซะตกใจมาก โดนตีเป็นเด็กๆเลย อย่างฮา ส่วนด้านล่างจะเป็นจุดที่หนุ่มสาวมักจะมาคล้องแม่กุญแจไว้คู่กัน แล้วโยนลูกกุญแจทิ้ง เชื่อว่าความรักจะยืนยาว แต่...สาวๆกรุ๊ปนี้บินเดี่ยวทุกคนคร๊า ทำให้เราไม่เปลืองค่ากุญแจ หุหุ ขาลงก็เดิน ลัลล้า อาสาปิดท้ายกันตามเคย เพื่อให้ทุกคนรับรู้ได้ว่าถ้าเห็นกลุ่มนี้มา หมายว่าทุกคนมาครบแว้วนั่นเอง ( อืมม...เหตุผลดูดี )




มาถึงมื้อเย็นเร็วหน่อยเพราะจะได้ช๊อปปิ้งยาว ถึงแม้มื้อเที่ยงจะยังย่อยไม่หมด แต่ทุกคนก็บ่ยั่นอยู่แล้ว มื้อนี้มี บิบัมบับ หรือข้าวยำเกาหลี ที่เรารอคอย (แต่แอบชอบรสชาติของร้าน Kimju มากกว่าแฮะ) กินคู่กับชาบู ปิดท้ายด้วยการเดินไปซื้อพุดดิ้ง ที่รับประกันความอร่อยขั้นเทพจริงๆ เนื้อเนียนหวานกำลังดี เริ่ดดดมาก มี 3 รส ออริจินัล ช็อคโกแลต เกาลัด ก็ซื้อมาลองทั้ง 3รสนั่นล่ะ แนะนำโดยไกด์พี่น้อง เหล่าเซเลบเกาหลีชอบมากิน เซเลบไทยเลยจัดไปอย่าให้เสีย ^^ ใครได้ลองอาจจะกลับมาฝันถึงเลยทีเดียว (เว่อร์ไปมั๊ยอ่า) อยากกินอีก มันยี่ห้ออะไรน๊า???? -*-

เมียงดอง
ในที่สุดเราก็ได้ค้นพบว่า ...ช้านเกิดมาเพื่อที่นี่จริงๆ... น่าช๊อปปปป ไปซะหมดเข้าร้านนั้น ออกร้านนี้เป็นว่าเล่น ได้เวลากาง Shopping list แล้ว (ของน้องลาล่า A4 3 ใบ) กว่าจะได้ของครบต้องเข้า Skin Food ไปสี่สาขา ทัวร์ไทยลงร้านไหนเป็นต้องของหมดสต๊อกที่ร้านนั้น ที่เมียงดองมี Skin Food, Etude, The Fece Shop มีหลายสาขามาก เดินวนไปเวียนมาเด๋วก็จะเจอเอง มีสาขานึงหยิบ tester ให้เยอะมากจนเรายืนอ้าปากค้างเลยทีเดียว ก็ไกด์สอนว่าตอนจ่ายตังค์ให้พูดว่า "ของแถมเยอะๆ" นี่นา พอได้ของครบก็เริ่มหนัก และเมื่อยแขนจนต้องเดินวนมาจุดนัดพบเพื่อเอาของมาฝากไว้ที่คุณไกด์สุดน่าร๊ากกกก่อน แล้วก็ลากกันไปเดินต่ออีกรอบ ซีกขวามือจากทางเข้าของเยอะและน่าซื้อมากมาย แต่ซีกซ้ายมือไม่ค่อยมีอะไรนอกจากร้านอาหารและคนเมา ในที่สุดคนเมาก็มอบโชคให้โดยการเดินโซเซมาเหยียบเท้าซ้ำแล้วซ้ำอีกถึง 2 ครั้ง เริ่มปี๊ดดด...แต่น้องลาล่าบอกว่าใจเย็นๆ หุหุ คิดทบทวนแล้วว่าขนาดไม่เมายังคุยกะเค้าไม่รู้เรื่องเล๊ย แล้วนี่เมา เราต้องให้อภัย...หืมมม นี่มันจิตใจนางฟ้าชัดๆ (เค้าไม่อ๊วกใส่ก็บุญแล้วเหอะ หุหุ)



กลับไปโรงแรม คืนนี้โรงแรมดูไฮกว่าทุกคืนนิดนึง เป็นวันที่เหนื่อยและเบลอมากๆ ลงไปเดินเดาสุ่มหาห้องพี่ๆที่ไปด้วย ซึ่งลืมถามเลขห้องไว้ก็หาไม่เจอ ขึ้นมาก็จำเลขห้องตัวเองก็ไม่ได้ น่าน!อาการหนักประมาณคนแบตหมดเลยเชียว นั่งแพ็คกระเป๋าซึ่งงอกเงยจาก 1 เป็น 2 กันจนตี 1 กว่าจะอาบน้ำสระผม ไดร์ผม โอ๊ย! ตี 2 ตื่นมาสภาพคงดูไม่ได้กันเลยทีเดียว หลับเป็นตายยย เหนื่อยโฮกกก แต่ตัวเบาหวิวเลยล่ะ ตังค์หมดกันแล้วนี่!



ราตรีสวัสดิ์... เริ่มหมดพลังแล้วจะเขียนตอนจบไหวมั๊ยเนี่ย






Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:42:41 น.
Counter : 3915 Pageviews.

5 comment
Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 3 โซรัคซาน - เทดดี้แบร์ฟาร์ม - กิมจิแลนด์ - เอเวอร์แลนด์
Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 3 โซรัคซาน(รวมขึ้นเคเบิ้ล) - กิมจิแลนด์ - เอเวอร์แลนด์




เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ที่เกาหลี อากาศดีมาก เย็นสบายใส่เสื้อผ้า 2 ชั้นกำลังดี หลังจากวุ่ยวายกับอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย ด้วยโปรแกรม 6-7-8 ( Morning Call 6 โมง - มื้อเช้า 7 โมง - ล้อหมุน 8 โมง) ทุกคนขึ้นรถตรงเวลาเพื่อไป อช.โซรัคซาน ทริปนี้รวมค่าขึ้นเคเบิ้ลคาร์แล้วเรียบร้อย

โซรัคซาน
ไปถึงปุ๊บ ผู้ช่วยไกด์เกาหลีก็รีบไปจองเคเบิ้ลคาร์ให้ โชคดีได้รอบ 10 โมงไม่ต้องรอนาน ระหว่างนี้ไกด์ไทยอีก 2 ท่าน พี่น้องและน้องต้นก็พาลูกทัวร์ไปถ่ายรูปกะรูปปั้นหมี และเดินไปวัดชิงฮึนซา ระหว่างทางเดินบรรยากาศดีมั๊กๆ ต้นไม้สวย ให้ได้ถ่ายรูปเล่นกัน ขณะที่พวกเรากำลังถ่ายรูปกันเมามันส์ ก็มีหนุ่มเกาหลีจากไหนไม่รู้วิ่งเข้ามาถ่ายรูปให้ (แต่ถ่ายซะเบลอ) และขอถ่ายรูปกับพวกเรา แถมโอบด้วยแฮะ เหวอเลย หลังจากนั้นพวกเราคิดกันว่า ไม่ได้ล่ะ แบบนี้ขาดดุล เราต้องเอาคืนให้หนุ่มเกาหลีได้อายมั่ง 555

โซรัคซานโซรัคซานโซรัคซานโซรัคซานโซรัคซาน

วัดชิงฮึนซา
ระหว่างเดินไปวัดก็มีหัวหน้าไกด์เคยเดินต้อน เพราะลูกทัวร์กลุ่มนี้หยุดถ่ายรูปกับต้นไม้ทุกต้น555 รั้งท้ายตลอด บางทีก็ช่วยถ่ายให้ซะเลย ไปวัดนี้พวกเราทุกคนได้ทำบุญข้าวสารร่วมกัน ด้านล่างฐานพระองค์ใหญ่จะมีเจ้าแม่กวนอิมให้เข้าไปกราบไหว้ได้

โซรัคซานโซรัคซานโซรัคซานโซรัคซานโซรัคซาน

เคเบิ้ลคาร์ หน้าผา
ได้เวลา 10 โมงเราก็ไปรวมกันที่จุดขึ้น เคเบิ้ลคาร์ ใช้เวลาแค่ไม่กี่อึดใจ ระหว่างทางวิวสวย + เปิดเพลงเพราะมาก เราหันไปมองหน้าเพื่อนที่มาด้วย และคงคิดในใจเหมือนๆกัน " บรรยากาศดีๆแบบนี้ ช้านไม่น่ามากับเธอเล๊ย! 555" (ก่อนขึ้นเคเบิ้ลมีปฏิบัติคืนดุล ครั้งที่1)
ออกจากเคเบิ้ลคาร์มีฝนตกปรอยๆระหว่างทางที่เดินไปหน้าผา ทางเดินไม่ลำบาก และไม่ไกลมาก คนเยอะพอสมควร ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และอาจูม่า ซึ่งมีผู้ช่วยไกด์เกาหลี (โรส) คอยดูแลตลอดทาง น่ารักมากก... ถ่ายรูปเสร็จก็เดินลงมาเจอกันที่ เคเบิ้ลคาร์ เพื่อลงด้านล่างและเคลื่อนขบวนไปต่อ

โซรัคซานโซรัคซานโซรัคซานโซรัคซาน

เทดดี้แบร์ฟาร์ม
กรี๊ดดด!!! เดินไปไหนก็เห็นหมี เต้มมมมไปหมด ตั้งแต่ลงจากรถเลย มีมุมถ่ายรูปเยอะและน่าร๊ากกกกมาก เหมาะกับพวกเราอีกแล้วคับท่าน! มีน้องที่ทำงานคนนึงวิ่งถลาเข้าไปกอดแพนด้าประหนึ่งเจอบรรพบุรุษเลยอะ น่ารักดี555 มีแอบผิดผีถ่ายรูปซบไหล่หัวหน้าไกด์ด้วยนิดนึง แบบว่าเผลอบ้างอะไรบ้าง กร๊ากๆๆๆ...

เทดดี้แบร์ฟาร์มเทดดี้แบร์ฟาร์มเทดดี้แบร์ฟาร์มเทดดี้แบร์ฟาร์มเทดดี้แบร์ฟาร์ม

หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจ และบางคนได้น้องหมีมาครอบครองแล้ว ก็ถึงเวลาหม่ำมื้อเที่ยงกัน (มื้อนี้จำไม่ได้จริงๆค๊าว่าไปกินอะไร แถมไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย ท่าทางจะหิวจัด หุหุ)

กิมจิแลนด์
หลังมื้อเที่ยงก็เดินทางไป Everland ซึ่งจะต้องผ่านโรงเรียนสอนทำกิมจิใกล้ๆทางเข้า ที่นี่จะถูกบรรจุให้อยู่ในโปรแกรมทัวร์เพื่อให้รู้จักกับวัฒนธรรมอาหารของเกาหลี เครื่องปรุงถูกเตรียมไว้เรียบร้อย ไปถึงก็ทาๆๆบนผักกาดอย่างเดียว กิมจิที่พวกเราทำจะถูกเอาไปเป็นอาหารของเหล่าทหารเกาหลี เสร็จจากทำกิมจิก็ไปเลือกใส่ชุดฮันบกถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน แอบไปยืมพี่ผู้ชายจากกรุ๊ปอื่นมาถ่ายด้วย ฮาๆ

กิมจิแลนด์กิมจิแลนด์กิมจิแลนด์กิมจิแลนด์

Everland
มีเวลาที่นี่ประมาณ 3 ชม. กว่าๆ วันเสาร์อาทิตย์คนเยอะมาก ถึงมากที่สุด คนเกาหลีเค้าซื้อบัตรสมาชิกรายปีกัน เด็กเยอะมากๆ ประวัติของที่นี่สั้นๆคือเจ้าของซัมซุงสร้างให้เป็นของขวัญลูก ไปถึงก็นั่งกระเช้าลงมาด้านล่าง แล้วก็แยกย้ายกันไปตามจุดที่สนใจ แต่ละจุดใช้เวลาต่อแถวนานเป็นชั่วโมงเลย เพราะง้านทุกคนอาจจะได้เล่นสิ่งที่ตัวเองชอบเพียง 1 อย่าง ใครอยากเสียวสุดแนะนำ T-Express ซึ่งให้ตายช้านนนก็ไม่ขึ้น เสียดายที่นี่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปซักเท่าไหร่ แถมเรายังเป็นโรคปอดและโรคตาซะด้วย เลยเชิ่ดใส่เครื่องเล่นซะ หุหุ หยิ่งจริงๆนะเรา

EverlandEverland

หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันพอสมควร ก็ได้เวลาอาหารเย็น มื้อนี้อร่อยมากกก เกือบจะที่สุดในทริป (แต่มื้อสุดท้ายอร่อยกว่านิดนึง) บุฟเฟต์เติมไม่อั้น เป็นหมูย่าง หมักได้นุ่ม อร่อย ติดมันนิดๆ คนเกาหลีนิยมกินกับโซจู ในเมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ก็เลยลองบ้าง แต่ต้องผสมโค้กเอา เล่นเอามึนกันไปพักนึงเลยทีเดียว ในขณะที่มึนๆ ก็มีน้องลาล่าหวังดีจะเติมโค้กให้ ปรากฎว่าจิบไปนิดนึง แทบพุ่งใส่เตาถ่านเลย เพราะมานคือน้ำจิ้มอะไรซักอย่างสีคล้ายโค๊กเลย แต่รสชาติเกินรับประทานจริงๆ ไอ้ครั้นเราลองคนเดียวไม่สนุก ก็เลยเรียกไกด์มาให้ลอง คนแรกน้องต้น ไหวตัวทัน เลยไม่ได้แอ้ม คนที่สองแอนดริวไกด์เกาหลีแต่พูดไทยได้ โดนเต็มๆ แทบบ้วนไม่ทันเลย หุหุ แกล้งเสร็จถามเค้าว่าโกรธมั๊ย เค้าบอกยังไม่โกรธ (หมายว่า ถ้าแกล้งผมอีกที โกรธแน่ๆ)



ปล. มื้อนี้หมูเวลาย่างจะชิ้นใหญ่มาก ต้องใช้กรรไกรตัดก่อนกิน แอนดริวเลยสอนวิธีการตัดให้ ต้องวางกรรไกรเอียงๆเพื่อให้หน้าตัดชิ้นหมูเฉียง จะอร่อยกว่าตัดตรงๆ (อ่านแล้ว งง มั๊ยคะ?)

นั่งรถกลับไปโรงแรมก็มีเกมส์ สุภาษิตตุ๊ด เล่นกัน ฮามาก หายมึนเลยทีเดียว ตอบกันชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะพี่ๆกลุ่มด้านหลังรถ อันเชิญสุภาษิตสมัยสุโขทัยมา บ่งบอกปีเกิดได้ดีเลยทีเดียว (อิอิ แอบแซวพี่ๆเค้าคงไม่มาอ่านเจอหรอกนะ)

ราตรีสวัสดิ์คืนที่ 2 ที่เกาหลี (ที่พักดีทุกคืนเลย ^^)






Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:41:31 น.
Counter : 5358 Pageviews.

0 comment
Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 2 อินชอน - Le Provence -เกาะนามิ
Korea Fresh : Day 2 สนามบินอินชอน - หมู่บ้านฝรั่งเศสLe Provence -เกาะนามิ - เทดดี้แบร์ฟาร์ม




หลังจากถึงสนามบินอินชอน หัวหน้าไกด์ก็อนุญาตให้บรรดาเด็กๆทั้ง 24 คนเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวก่อนจะไปผ่าน ตม. ซึ่งทำเอาหลายๆคนลุ้นและตื่นเต้นว่าจะผ่านมั๊ย โดยในซองที่ทางบริษัทแจกพร้อมคู่มือเดินทางจะมีข้อมูลสรุปโปรแกรมเที่ยว ที่พัก เที่ยวบินกลับเป็นภาษาเกาหลี เผื่อในกรณีที่บางคนถูกเรียกคุยเป็นพิเศษ สำหรับเราไม่โดนถามอะไรซักคำเลย คงเพราะทำหน้าตาลัลล้า...อยากเที่ยวมาก ฮาๆ เดินเข้าไปก็ Morning เจ้าหน้าที่และยิ้มหวานๆทีนึง แต่มีน้องคนนึง(นุ่นเด็กแนว)ในกลุ่มโดน ตม.ถาม

ตม.ถาม : ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง (Eng)
น้องคงทำหน้าเช๊ย เฉย..นิ่งมากๆ และตอบไปว่า : Up to tour (แทนที่จะเอาโปรแกรมให้เค้าดู 555)
ตม.เลยถามอีกว่า : มากับใคร (Eng)
น้อง : Friends แล้วก็ชี้มาที่เพื่อนอีกช่องนึง
ตม. เลยให้น้องคนนั้นเรียกเพื่อนให้หันมา น้องเลยตะโกนเรียก ก็เลยผ่านมาได้ หุหุ (ถ้าเพื่อนไม่หันล่ะ? )

หลังจากลูกทัวร์ผ่าน ตม.ครบ 24 คน น้องต้นก็พาทุกคนมาเจอกับพี่ที่เป็นไกด์อีกคนที่เกาหลี (พี่น้อง) และคณะผู้ช่วยชาวเกาหลีอีก 2 คน แอนดริวและโรส หลังจากนั้นก็พากันขึ้นรถ และหม่ำมื้อเช้าบนรถกันอีกรอบ

เที่ยวเกาหลี

ระหว่างนี้ก็มีการสอนภาษาเกาหลีกันเล็กน้อย เราก็จำได้ไม่กี่คำ
ขี้สนิม = คนขับรถ
และก็พวกเครื่องเคียง เครื่องปรุงบนโต๊ะอาหาร ก็มี เมียกู คารู คันจัง ประมาณนี้ แต่ก็จำไม่ได้ว่าคำไหนแปลว่าอะไร แหะๆ รู้แต่เวลาขอเครื่องเคียง เครื่องปรุงพวกนี้ ห้ามขอพร้อมกัน 3 อย่างเพราะมานดูไม่งาม ^^

หมู่บ้านฝรั่งเศสLe Provence
ที่แรกเป็น หมู่บ้านฝรั่งเศสLe Provence สีสันสวยมากมาย ประมาณ Palio ช่วงที่ไปเป็น ฮาโลวีน พอดี เลยมีการจัดมุมถ่ายรูปให้เข้ากับบรรยากาศเยอะทีเดียว ไม่รอช้า สาวๆก็ไปแอ๊คท่าถ่ายรูปกันเมามันส์

เที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลี

หลังจากนั้นก็ไปหม่ำมื้อเที่ยง ทัคคาลบี้ เป็นไก่ผัดซอส กะทะใหญ่มากสำหรับ 4 คน กินไปได้ซักพักก็เอาข้าวลงไปผัดด้วย อร่อยดีค๊า เจริญอาหารแทบทุกมื้อเลย

เที่ยวเกาหลี

เกาะนามิ
หลังจากอิ่มท้องเราก็ไปต่อกันที่เกาะนามิ ต้องนั่งเรือข้ามไปประมาณ 5 นาที คนต่อคิวยาวมากกกก แต่เหมือนว่าจะมีสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ ไม่ต้องรอนาน ที่นี่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีถ่ายรูปออกมา เริ่ดดดค๊า... ต้นแปะก๊วยสีเหลือง เมเปิ้ลสีแดง นางแบบทั้งหลายโพสต์กันไม่ยั้งตามเคย จนหลายๆคนที่เห็นรูปบอกว่า อายแทน อิอิ แต่ไหนๆก็ไปทั้งที เลยจัดเต็มจ้า อย่าให้เสียเที่ยว รูปสวยๆต้องยกความดีให้ตากล้องเด็กแนวของเรา

เที่ยวเกาะนามิเกาหลีเที่ยวเกาะนามิเกาหลีเที่ยวเกาะนามิเกาหลีเที่ยวเกาะนามิเกาหลีเที่ยวเกาะนามิเกาหลีเที่ยวเกาะนามิเกาหลี

ที่นี่จะมีรูปปั้นของสามี-ภรรยา เจ้าของเกาะ (ที่พระเอกถามใน กวน มึน โฮ) หุหุ ไม่ใช่นะเด๋วมีคนเข้าใจผิด ส่วนใหญ่หนุ่มสาวเกาหลีจะจูงมือกันมาเที่ยว บ้างก็ใส่เสื้อคู่ น่าอิจฉาเลยทีเดียว ไกด์เล่าว่าส่วนใหญ่หนุ่มเกาหลีมักชวนสาวมาตอนเย็น เพื่อให้นั่งเรือกลับไม่ทัน หลังจากนั้น....เค้าก็คงร้องเพลง Featuring ลัลล้ากัน หุหุ (อาจไม่จริงก็ได้ ไกด์ชอบอำอ่ะ)

เที่ยวเกาะนามิเกาหลีเที่ยวเกาะนามิเกาหลี

ขึ้นเรือกลับเราก็ไม่พลาดที่จะแวะชิม นมกล้วย และขนมของล๊อตเต้ ไอติมเมล่อนซึ่งก็มีขายในร้านทั่วไป ส่วนเทดดี้แบร์ฟาร์ม ตามโปรแกรมในวันนี้ไปไม่ทัน จึงยกยอดไปแทรกในวันต่อไปค๊า

เที่ยวเกาะนามิเกาหลี

หลังจากทานมื้อค่ำ เป็น ชาบู หมู ปลาหมึก ซึ่งอร่อยอีกแล้ว น้ำซุปได้รสหวานของผักสดๆและปลาหมึก ทานคู่กับเครื่องเคียงอีก 6 อย่าง เติมได้ไม่อั้น อิ่มแปล้กันทีเดียว

เที่ยวเกาหลีเที่ยวเกาหลี

แล้วก็ออกเดินทางไปโซรัคซาน ที่พักแถวโซรัคซานจะเป็นสไตล์คอนโด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และครัว เพราะง้านก็ซื้อของจากซุปเปอร์มาร์เก๊ตชั้นล่างที่พักมาทำกินได้ กรุ๊ปเราเลยจัดการ ขนม ราเมียน โซจู+น้ำองุ่น กันเต็มที่ ออกอาการกึ่มๆเลยทีเดียว โดยเฉพาะท่าน MD. ของเรา

ราตรีสวัสดิ์ คืนแรกที่เกาหลี







Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:40:32 น.
Counter : 6171 Pageviews.

5 comment
Review เที่ยวเกาหลี Korea Fresh : Day 1 สุวรรณภูมิ




วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากอัพ blog เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะไปเที่ยวเกาหลีบ้างไม่มากก็น้อย

ปฏิบัติการเที่ยวเกาหลีครั้งนี้เริ่มจากอยากมี Company Trip เล็กๆเป็นสิ่งตอบแทนให้กับตัวเองหลังจากตรากตรำงานกันมา กว่าจะเลือกทัวร์ได้ต้องบอกว่าหาข้อมูลเยอะมากๆ เริ่มจากการ List สถานที่ท่องเที่ยวของเกาหลีที่มี่ในทัวร์ทั้งหมด แล้วก็หาสถานที่ที่เป็น ไฮไลท์ หลังจากนั้นก็เริ่มหาแพ็คเกจของแต่ละบริษัทแล้วทำตารางเปรียบเทียบเพื่อดูความคุ้มค่ากันเลยทีเดียว ( MD. ของบริษัทบอกว่า แหม๊! ทำซะละเอียดกว่างานอีก 555)

List สถานที่ท่องเที่ยวที่ทัวร์ส่วนใหญ่นิยมไป
สวนสนุก EVERLAND (HiLight), กิมจิแลนด์ ชุดฮันบก, เขานัมซาน โซลทาวเวอร์ คล้องกุญแจ(HiLight), เกาะนามิ(HiLight), ป้อมฮวาซอง, สกีรีสอร์ท(HiLight), ศูนย์โสม, เมียงดง ช๊อปปิ้ง, ทงแดมุน ช๊อปปิ้ง, ฮงอิก ช๊อปปิ้ง, บลูเฮ้าส์,วังเคียงบ็อค (HiLight), พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน, Le Provence หมู่บ้านฝรั่งเศส, คลองชองเกชอน, อช.โซรัคซาน ใบไม้เปลี่ยนสี (HiLight), วัดชินฮึงซา, วัดนักซานซา, วัดวาวจองซา, เท็ดดี้ แบร์ฟาร์ม, แอมมาทิส โรงงานพลอย, ร้านละลายเงินวอน, Duty Free, Show Drum Cat

ช่วงที่เราตั้งใจจะไปคือ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะทุกคนรักการโพสต์ท่าถ่ายรูปมากกกก... จากที่หาข้อมูลก็พบว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการดูใบไม้เปลี่ยนสี คือ Week สุดท้ายของ ต.ค. - Week แรกของ พ.ย. ไม่รอช้ารีบ Search หาแพ็คเกจทัวร์ จนเข้ารอบมา 7 แพ็คเกจ ราคามีตั้งแต่ 17,900-23,900 บาท แต่ปัญหาก็คือ อยากไปที่เป็น ไฮไลท์ ให้ครบ ซึ่งแพ็คเกจส่วนใหญ่ ถ้าไปเคียงบ็อคก็จะไม่ไป โซรัคซาน แต่...ในที่สุดเราก็เจอพระเอก โดยบังเอิญ (ความจริงเพราะโทรถามแพ็คเกจอื่นที่ราคาถูกกว่า มันเต็มหมดแล้ว แหะๆ)

สรุปแว่...แพ็คเกจที่ได้คือ Korea Fresh วันที่ 28 ตค.-1 พย. ของบริษัท Korea Expert ได้ไปไฮไลท์ครบ รวมหมดทั้งค่าขึ้นเคเบิ้ลที่โซรัคซานและขึ้นลิฟท์ที่โซลทาวเวอร์ในราคา 23,900 บาท ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว

หลังจากมัดจำ จองทัวร์กันเรียบร้อย สาวๆทุกคนก็วุ่นเรื่องเตรียมPassport และเอกสารที่จำเป็นเผื่อโดน ตม.ที่เกาหลีเรียก ประกอบด้วย เอกสารรับรองการทำงานและเงินเดือน BookBank เอาไปให้หมดทุกธนาคาร แลกเงินวอน (Super Rich เรทถูกสุด) และสรรหาเสื้อผ้า รองเท้าบู๊ท ถุงเท้า แล็คกิ้ง เตรียมไปลัลล้ากันเต็มที่ อากาศในช่วงเวลาที่ไปไม่ได้หนาวมากจนเกินไป ประมาณอากาศที่ภูชีฟ้า ดอยอินทนนท์ ในช่วงหน้าหนาวประมาณนั้นค่ะ บางวันก็พูดออกมาเป็นควันนิดหน่อย ให้มีอะไรสนุกๆเล่น

เที่ยวเกาหลี

ในที่สุดเวลาที่เราทุกคนรอคอย...ก็มาถึง 28 ตค. เวลานัด 3 ทุ่มแต่เรามาถึงกันตั้งแต่ 6โมงเย็น เพราะหลายคนเป็นผู้อพยพ หนีน้ำกันมา ระหว่างนั้นก็หลับรอ MDนั่งปั่นงาน ทริปนี้มีเพื่อนร่วมทางทั้งหมด 24 คน มีพี่ๆกรุ๊ปนึงฮาดี และช๊อปกันเก่งมาก มาจากมหาสารคาม กรุ๊ปอื่นๆก็น่ารัก และหนุกหนานกันทุกคน



เวลา 3ทุ่มเป๊ะ! ก็ไปจุดนัดพบ เจอน้องหมา (น่าร๊ากกอ๊ะ) น้องที่มาส่งทัวร์ และหัวหน้าทัวร์ (น้องต้น) แจกคู่มือเดินทางให้ ไป Check in และ Load กระเป๋า ทริปนี้เราบินไป-กลับกับ Jeju Air หลังจากนัดแนะไปเจอกันที่ Gate ระหว่างนั้นเราก็ไปลัลล้ากันที่ Lounge ของ King Power ผู้ถือบัตร 1 คนพาเพื่อนเข้าไปได้อีก 2 คน กินกันจนอิ่มท้อง อีก 3 คนเลยต้องไปนั่งให้กำลังใจ MD. ปั่นงานต่อที่ Gate

เที่ยวเกาหลี

สายการบิน Jeju Air ก็บริการดีใช้ได้เลยค่ะ แต่รู้สึกปวดคอและเมื่อยขาไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะบินแค่ 5 ชม.เอง ตอนเช้าจะมีขนม แซนวิช โยเกิร์ต น้ำส้มแจก (มีสจ๊วตคนนึงน่าร๊ากกกดี ^^ น้องที่ไปด้วยถ่ายรูปมาซะเยอะเลย)

เที่ยวเกาหลี

หลังจากนอนหลับๆตื่นๆ เราก็ลัดฟ้าสู่สนามบินอินชอนที่เกาหลี เวลาที่เกาหลีจะเร็วกว่าไทย 2 ชม. ไปถึงก็อย่าลืมปรับนาฬิกานะคร๊าเพราะเวลานัดแนะจะเป็นเวลาที่เกาหลี







Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:38:04 น.
Counter : 6814 Pageviews.

16 comment

pheungmim
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



3 อย่างที่เรียกรอยยิ้มจากผึ้งมิ้มได้
คือ น้องหมา ขนมเค้ก และช็อคโกแลตจ้า

เจอกันอย่าทัก ผึ้งรักคนง่าย ฮ่าๆๆ ... ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะค๊าทุกคน
New Comments