เติมกำลังใจให้กัน
Group Blog
 
All Blogs
 
ผู้ชายที่ตามหาความจริง

Copy from e-mail [again]

ผู้ชายที่ตามหาความจริง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใช้เวลาแทบทุกวันนั่งถกเถียงกับเพื่อนๆ ว่า
"ความจริงคือสิ่งใด"

เมื่อเถียงกันจนหาข้อยุติในความหมายของความจริงไม่ได้
ชายหนุ่มผู้นั้นก็ตัดสินใจบอกกับเพื่อนๆ ว่า
เขาจะออกเดินทางเพื่อตามหาความจริงให้พบ

"แล้วฉันจะกลับมาพร้อมกับคำตอบว่าที่แท้แล้วความจริงคืออะไร"
ชายหนุ่มตะโกนบอกเพื่อนๆตอนที่เขากำลังจะเดินทางออกจากหมู่บ้าน

แล้วชายหนุ่มก็เดินทางมาถึงตลาดของเมืองอีกเมืองหนึ่ง

ผู้คนส่วนใหญ่เดินผ่านไปมาด้วยความเร่งรีบและมีสีหน้าวิตกกังวล
มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกถึงความแปลกแยกและตื่นตัว
ชายชราคนหนึ่งเดินผ่านเข้ามาและรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งกับท่าทีของชายหนุ่มที่เดินมองโน่นมองนี่

"นี่เจ้าจะเดินชนข้าหรืออย่างไร" ชายชรากล่าวขึ้น

"ขออภัยท่านผู้เฒ่า ท่านพอจะรู้ไหมว่าความจริงคืออะไร" ชาวหนุ่มตั้งคำถามทันที

"อะไรนะ" ชายชรารู้สึกสนเท่ห์ในคำถาม

"ข้ากำลังตามหาความจริงอยู่ ท่านพอจะรู้ไหมว่ามันคือสิ่งใด
แล้วในเมืองนี้มีความจริงไหม" ชายหนุ่มถามอีก

ชายชรามองหน้าชายหนุ่ม "มีสิ เมืองนี้มีความจริงแน่นอน"

"จริงหรือ" ชายหนุ่มลิงโลด "ถ้าเช่นนั้น
ท่านช่วยพาข้าไปพบกับความจริงหน่อยได้ไหม"

"เจ้ากล้าไปพบจริงๆ หรือ" ชายชรายังคงมองหน้าชายหนุ่ม

"ข้าเดินทางมาแสนไกลก็เพื่อจะตามหาความจริง ทำไมข้าถึงจะไม่กล้าเล่า"
ชายหนุ่มยืนยัน

ว่าแล้วชายชราก็พาชายหนุ่มเข้าไปในพระราชวัง
ทันทีที่ถึงท้องพระโรงชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าที่แท้แล้วชายชราผู้นี้คือเสนาบดีของพระราชาแห่งเมืองนี้น ั่นเอง

"ทำความเคารพพระองค์เสียสิ" ชายชราบอกกับชายหนุ่ม ชายหนุ่มจึงค้อมหัวลง

"เจ้าพาผู้ใดเข้ามา" พระราชาตรัสเสียงดังลงมาจากบัลลังก์

"ชายผู้นี้กำลังมาตามหาความจริงพ่ะย่ะค่ะ" เสนาบดีเฒ่ากล่าว

"เจ้ามาถูกที่แล้วหนุ่มน้อย ข้านี่แหละคือความจริง" พระราชาเอ่ยขึ้น

ชายหนุ่มทำหน้าสงสัย เสนาบดีจึงกระซิบกับชายหนุ่ม
"เจ้าคงไม่เชื่อว่าพระองค์คือความจริง สิ่งใดที่พระองค์พูด
สิ่งนั้นจะเป็นตามนั้น"

"ถ้าเจ้าไม่เชื่อว่าข้าคือความจริง ข้าจะแสดงให้ดู" พระราชาลุกขึ้นยืน
"เจ้าจะต้องถูกโบยสิบที…แล้วเจ้าคอยดูเถิดว่ามันจะเป็นความจริงไหม"
มิทันขาดคำทหารยามสองคนที่ยืนรักษาประตูก็เดินเข้ามาจับชายหนุ่มให้นอนคว่ำหน้าลง

"จะทำอะไรข้า" ชายหนุ่มร้องลั่น

ว่าแล้วทหารยามก็ลงมือโบยชายหนุ่มทันทีจนครบสิบครั้ง
เสียงหัวเราะของพระราชาดังก้องไปทั่วท้องพระโรง "ทีนี้
เจ้าเชื่อหรือยังว่าข้านี่แหละคือความจริง"

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังลุกขึ้นนั่ง ก็พลันได้ยินเสียงเอะอะมาทางประตู
เสียงนั้นเป็นเสียงของผู้คนจำนวนมากกำลังต่อสู้กัน
แล้วทหารคนหนึ่งก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในท้องพระโรง

"ท่านเสนาบดี! พวกโจรกำลังจะบุกเข้ามาแล้ว"

เสนาบดีได้ยินดังนั้นจึงตะโกนสั่งเหล่าทหาร
"รีบพาพระองค์ไปหลบในที่ปลอดภัยโดยเร็ว"

ขณะที่กำลังหันรีหันขวางด้วยทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มจึงค่อยๆ
คลานมาแอบอยู่หลังเสาท้องพระโรง แล้วเขาก็เห็นพวกโจรนับสิบๆคนวิ่งกรูกันเข้ามา

"จับพวกมันโบยคนละสิบทีแล้วก็เอาไปขังในคุกใต้ดินให้หมด" หัวหน้าโจรร้องสั่ง
ถึงตอนนี้แม้แต่พระราชาก็ถูกกวาดต้อนไปรวมกับพวกเหล่าเสนาบดี

"ปล่อยข้าไป ข้าเป็นพระราชานะ" พระองค์ร้องบอกหัวหน้าโจร

หัวหน้าโจรได้ยินดังนั้นจึงร้องกลับไป "พระราชาที่รีดนาทาเร้นชาวนาอย่างพระองค์
สมควรถูกโบยคนแรก"
ว่าแล้วสมุนมือขวาของหัวหน้าโจรก็เดินเข้าไปจับพระราชานอนคว่ำลงแล้วก็ลงมือโบยทันที

ชายหนุ่มมองเห็นพระราชาถูกโบยก็นึกอยู่ในใจ "ที่แท้พระองค์ไม่ใช่ความจริง
พระองค์เพิ่งพูดคำว่า ปล่อยข้าไป
ก็ไม่เห็นมีใครปล่อยพระองค์อย่างที่พระองค์พูดเลย"

หลังจากที่พวกโจรจับพระราชาและเหล่าเสนาบดีขังคุกแล้ว
พวกโจรก็เข้าไปรื้อเงินและทองที่อยู่ในท้องพระโรงออกมาเพื่อจะขนออกไปนอกเมือง
ชายหนุ่มเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงรู้สึกประทับใจในตัวหัวหน้าโจร
ที่สามารถบังคับความจริงอย่างพระราชาได้ จึงสมัครเป็นลูกน้องติดตามไปด้วย

หลังจากอยู่กับพวกโจรไม่กี่วัน ทันทีที่สบโอกาส
ชายหนุ่มก็ได้เอ่ยปากถามหัวหน้าโจรด้วยความอยากรู้ว่า "ท่านหัวหน้า
ข้าอยากรู้ว่าความจริงคืออะไร ท่านพอจะให้คำตอบข้าได้ไหม"

หัวหน้าโจรมองหน้าชายหนุ่มเหมือนทุกคนที่เคยถูกชายหนุ่มถาม "ความจริงนั่นหรือ
โลกนี้มันมีความจริงเสียที่ไหน"

"หมายความว่าอย่างไรท่านหัวหน้า" ชายหนุ่มถามต่อ

"เจ้าเคยได้ยินคำว่า ไม่มีสัจจะในหมู่โจรไหม
คนเป็นโจรนั้นเขาไม่เชื่อหรอกว่ามีอะไรในโลกนี้ที่เชื่อถือได้"
หัวหน้าหันไปถามสมุนมือขวา "จริงไหมสมุนข้า"

พูดได้แค่นั้นหัวหน้าโจรก็ตาค้าง

"จริงสิหัวหน้า" สมุนมือขวาของหัวหน้าโจรแสยะยิ้ม
พลางดึงดาบออกจากพุงของหัวหน้า เลือดไหลออกมาเป็นทาง
หัวหน้าโจรทรุดลงกองกับพื้นทันที
"สัจจะข้อเดียวที่มีอยู่ในโลกนี้ก็คือไม่เคยมีสัจจะ"

"หัวหน้าถูกแทง" เสียงสมุนคนหนึ่งร้องขึ้น

"มันจะก่อกบฏ" อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นอีก

"ข้าจะอยู่ข้างท่าน"แล้วก็อีกเสียงหนึ่ง

และในวินาทีต่อมา การพันตูกันของกลุ่มโจรก็เกิดขึ้น
ชายหนุ่มผู้ตามหาความจริงอาจจะมองว่านี่คือการแตกคอกันของกลุ่มโจรที่แบ่งเป็นสองฝ่าย
ซึ่งในความเป็นจริงที่ไม่มีใครรู้นั้น บางทีมันอาจจะมากกว่าสองฝ่ายก็เป็นได้

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนชายหนุ่มไม่อาจรู้ได้
เขามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีมือเ***่ยวๆเอาน้ำมาลูบหน้า

"ข้าอยู่ที่ไหน"ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า

"เจ้าอยู่ในกระท่อมของข้า"เสียงหญิงชราตอบ
ทันทีที่ชายหนุ่มมองเห็นหน้าของผู้ที่ช่วยชีวิตของเขาชัดเจน
ชายหนุ่มก็ผลุนผลันลุกขึ้นถอยตัวห่างออกมาด้วยความตกใจ
ใบหน้าที่อยู่ข้างหน้าของเขาเป็นของหญิงชราหลังค่อม มีผมสีขาวโพลน
เนื้อตัวเ***่ยวย่นและตามผิวหนังก็มีตุ่มเล็กๆ ขึ้นเต็มไปหมด มองเผินๆ
แล้วเหมือนผิวคากคกมากกว่าผิวมนุษย์

"ท่านเป็นใคร" ชายหนุ่มพูดขึ้น

"ข้าชื่อความจริง" หญิงชราพูดยิ้มๆ
"ข้าพบเจ้านอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ที่ลานบ้านของข้า ดูคล้ายๆ
เจ้าหนีซวนเซมาจากที่ไหนสักแห่ง" ชายหนุ่มฟังแล้วจึงค่อยๆ นึกเหตุการณ์ตาม

"กินข้าวเสีย" หญิงชราดันถาดอาหารมาไว้ที่ตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วจึงค่อยๆ
เดินถือไม้เท้าเลี่ยงออกไป มันเป็นอาหารที่แทบจะดูไม่ออกเลยว่าเป็นอาหารอะไร
แต่ชายหนุ่มก็กินมันจนหมดด้วยความหิว

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็พักอาศัยอยู่กับหญิงชราอีกหลายสัปดาห์เพื่อรักษาตัว
ในระหว่างที่พักอาศัยอยู่นั้น ยามใดที่ได้มีโอกาสนั่งคุยกันกัน
ชายหนุ่มก็มักจะถามหญิงชราเสมอว่า ความจริงคือสิ่งใด
คำตอบเดียวที่ได้รับจากหญิงชราก็คือ ตัวหญิงชราเองนั่นแหละคือความจริง
เมื่อได้รับคำตอบนี้บ่อยๆ เข้า ชายหนุ่มก็ชักเริ่มเบื่อหน่าย

และเมื่อร่างกายของชายหนุ่มแข็งแรงดีขึ้น
เขาจึงเตรียมตัวเดินทางกลับหมู่บ้านของตัวเอง วันที่เขาไปร่ำลาหญิงชรา จู่ๆ
หญิงชราก็เอ่ยขึ้นมาว่า "แล้วเจ้าจะบอกเพื่อนๆ
ของเจ้าว่าอย่างไรเกี่ยวกับความจริง"

ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง แล้วก็พูดขึ้นอย่างขอไปทีว่า
"ข้าคงจะบอกพวกเขาว่าข้าได้พบกับความจริงแล้ว"

"ดีแล้วล่ะ" หญิงชราที่มีชื่อว่าความจริงพูดยิ้มๆ
"อย่าลืมบอกพวกเขาด้วยแล้วกัน"

"เรื่องอะไรหรือท่านความจริง" ชายหนุ่มถาม

หญิงชรามองหน้าชายหนุ่มและพูดด้วยน้ำเสียงเล่นๆ กึ่งจริงจัง
"อย่าลืมบอกพวกเขาว่า… ข้าสาวและสวยเพียงใด"

..............................................................จบ





Create Date : 27 มิถุนายน 2548
Last Update : 27 มิถุนายน 2548 19:07:29 น. 2 comments
Counter : 331 Pageviews.

 
สีเขียว ทำให้พี่ปวดตัวอ่ะครับ อ่านไม่ออกขอโทษทีครับ


โดย: ผู้ชายสีน้ำทะเล IP: 61.47.26.1 วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:20:47 น.  

 
ตัวหนังสือสีเขียวมันแสบตาไปหน่อยนะคะ ถ้าเปลี่ยนสีที่สบายตากว่านี้จะทำให้คนอ่านมีความสุขและสนุกมากกว่านี้นะคะ อ้อ..แล้วอยากถามว่าความจริงเป็นผู้หญิงจริงเหรอคะไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย


โดย: นก IP: 222.123.130.239 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:59:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

foofoo829
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เบอร์โทร 0811563033 ครับผม
อยากมีส่วนพัฒนาเด็ก สร้างโรงเรียน
หรือสนับสนุนครูอาสา โทรมาได้ครับ
Friends' blogs
[Add foofoo829's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.