|
Project ศัลยกรรมทำหน่มน้ม 2 : 2 วันก่อนผ่า
10 เมษายน 2552
สองวันก่อนถึงวันผ่าตัด มีพี่พยาบาลโทรมาจากโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาลอส เพื่อสอบถามประวัติเรา แล้วก็อธิบายขั้นตอนต่างๆให้เรารู้ล่วงหน้า ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
ตอนนั้นตื่นเต้นแล้วล่ะค่ะ เราไม่ค่อยห่วงเรื่องนมจะสวยหรือไม่สวย เพราะค่อนข้างมั่นใจในรสนิยมและฝีมือคุณหมอ ชนิดที่ไม่เคยรีเควสต์อะไรเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอเลือกให้หมด ที่ตื่นเต้น เป็นเพราะเรากลัวเจ็บอ่ะ-_-''
เท่าที่ลองหาอ่านดู คนที่ทำก็จะมีทั้งแบบที่บอกว่าทำแล้วเฉยๆอ่ะ 10วันไปเต้นแอโรบิคได้แล้ว กับอีกแบบก็เจ็บเหมือนอย่างที่เค้าว่ากัน คือเหมือนโดนรถบรรทุกทับ แล้วเราจะเป็นแบบไหนก็ไม่รู้ ก็เลยกลัวเรื่องนี้มากหน่อย-_-''
พี่พยาบาลที่โทรมาน่ารักดีค่ะ พูดจาดี ตอบข้อสงสัยแบบไม่มีน้ำเสียงหงุดหงิดรำคาญ ละด้วยความที่ตอนเราไปเจอหมอพี เราไม่ค่อยได้ถามอะไรมาก เพราะดูเหมือนคุณหมอจะรีบๆตลอด เลยไปถามกับพี่พยาบาลคนที่โทรมาแทน
เค้าก็ถามประวัติชื่อจริงชื่อเล่น ประวัติการผ่าตัดและแพ้ยา เราก็บอกว่าเราเคยโดนฉีดยานอนหลับตอนผ่าตัดครั้งนึง แล้วตื่นมาแล้วอาเจียน2ครั้งนะ ไม่รู้เรียกว่าแพ้รึเปล่า
พี่พยาบาลเลยบอกว่าจะเน้นเรื่องนี้กับหมอวิสัญญีให้ ว่าคนไข้มีอาการแพ้ยาสลบ อาจจะให้ฉีดยากันคลื่นไส้อาเจียนตามไปด้วย
ส่วนขั้นตอนการผ่าตัด พี่เค้าบอกว่า เริ่มแรกก็ต้องงดอาหาร6ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เรานัดผ่าตอน2ทุ่ม ก็เรียกว่าตั้งแต่บ่าย2เป็นต้นไปห้ามเอาอะไรเข้าปากเด็ดขาด เพราะจะทำให้สำลักได้ตอนที่สลบไปแล้ว
ถามด้วยว่าใส่คอนแทคเลนส์มั้ย มีแว่นรึเปล่า สายตาสั้นเท่าไหร่ ให้เราเอาแว่นเตรียมไปด้วย เพราะขณะวางยาสลบตาเราจะแห้ง คอนแทคจะบาดกระจกตาได้ เพราะงั้นให้ใส่แว่นไปจะดีกว่า
แล้วให้ไปถึงที่โรงพยาบาลตอน6โมงเย็นเพื่อเตรียมให้น้ำเกลือ และเจาะเลือดไปตรวจความเข้มข้นของเลือด (ถึงตอนนี้เราเริ่มซีด เพราะเกิดมายังไม่เคยโดนให้น้ำเกลือและเจาะเลือดเลย มันจะเจ็บมั้ยนั่น-_-'')
และประมาณทุ่มครึ่งก็จะให้ไปที่ห้องORหรือก็คือห้องผ่าตัด เพื่อให้คุณหมอวาดแบบที่หน้าอก จากนั้นเค้าจะติดเครื่องมือตรวจวัดโน่นนี่ๆตามตัวเราเยอะแยะเลย แล้วคุณหมอวิสัญญีจะให้ยานอนหลับทางสายน้ำเกลือก่อนจะให้ดมยาสลบ
(อันนี้ผิดจากที่เราเข้าใจเอาเองมาตลอดเลย เพราะเรานึกว่าเค้าจะเอาหน้ากากมาครอบเราให้เราสลบ แต่กลายเป็นว่าจริงๆสลบไปก่อนเพราะยานอนหลับแล้วค่อยให้ดม)
การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง โดยที่คุณหมอจะกรีดแผลเล็กๆที่ใต้รักแร้แผลยาวประมาณหนึ่งนิ้ว แล้วก็จะใส่ซิลิโคนเข้าไปทางนั้น
หลังผ่าตัดเสร็จ เค้าจะย้ายเราไปที่ห้องไอซียูเพื่อดูอาการว่าไม่มีอะไรแทรกซ้อน พี่พยาบาลบอกด้วยว่าหลังผ่าตัดเสร็จเราจะฟื้น แล้วคุณหมอบอกให้ทำอะไรก็ทำนะคะ อย่างเช่นให้หายใจลึกๆ อะไรแบบนี้ เพื่อจะได้รู้ว่าเราฟื้นแล้วตามกำหนดจริงๆ
เราก็อืมๆๆๆ
หลังจากอยู่ในไอซียูประมาณ2ชั่วโมง เค้าถึงจะให้เราย้ายไปในห้องพักฟื้นได้
เราก็นั่งฟังแบบหน้าเซียวๆหน่อย-_-'' เพราะกลัวเหลือเกินว่ามันจะเจ็บอ่ะ แผลแค่นิ้วเดียว แต่ยัดซิลิโคน300CCเข้าไปเนี่ยนะ
แต่ถึงตอนนั้นก็พยายามไม่คิดอะไรมากแล้วอ่ะค่ะ ทำไรไม่ได้แล้วนอกจากทำใจ 5555
ช่วงอาทิตย์-2อาทิตย์ก่อนผ่าเราก็ไปเอาดัมเบลอันเล็กๆมายกๆขึ้นลงๆ เผื่อว่ากล้ามเนื้อที่อกและแขนจะแข็งแรงขึ้นมั่ง เพราะปกติเราเป็นคนไม่ค่อยออกกำลังกาย-_-'' และเป็นคนเส้นแข็งด้วย แบบว่าก้มตัวเอามือแตะปลายเท้าไม่ถึงอ่ะค่ะ ป้าเส้นแข็งทั้งตัว-_-''
ก็เลยทำเท่าที่จะทำได้แค่นั้น
ก่อนวางสายเราก็ถามพี่พยาบาลว่า เราจะทำทรงไหนถึงจะดีก็ไม่รู้ เพราะซิลิโคนมีหลายทรงแถมมี2ยี่ห้อ คุยกันไปมา พี่เค้าก็ตอบเหมือนที่ใจเราคิด ว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่หมอพีเลือกก็ได้นะคะ เพราะคุณหมอจะรู้ว่ารูปร่างแบบไหน ฐานหน้าอกแบบไหน ควรจะใช้ซิลิโคนขนาดเท่าใดและทรงใด แล้วคนไข้ของหมอพีที่ผ่านๆมาก็พอใจกับผลงานคุณหมอทั้งนั้น
เราเลยยิ่งไม่ห่วงเรื่องนี้เข้าไปใหญ่^^
ตอนนี้ห่วงอย่างเดียวคือ กลัวเจ็บค่ะ-_-''
เด๋วมาต่อของวันผ่าตอนต่อไปค่ะ...
Create Date : 25 เมษายน 2552 |
Last Update : 25 เมษายน 2552 15:55:52 น. |
|
4 comments
|
Counter : 3292 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: ปูเป้ IP: 119.42.69.220 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:12:14:01 น. |
|
โดย: Aj IP: 110.164.121.179 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:22:35:21 น. |
|
โดย: BB IP: 118.174.92.52 วันที่: 30 ตุลาคม 2554 เวลา:15:01:18 น. |
|
โดย: teawpretty วันที่: 25 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:02:40 น. |
|
|
|
|
pAmp@m |
 |
|
 |
|
แอบน้อยใจคุณแม่เหมือนกันนะ ยังดีที่สามีเป็นช่าวต่างชาติเขาเลยไม่กังวลเรื่องนี้ แต่ตัวเรานี้แหละที่ออายเวลาไส่ชุดว่ายน้ำ
มาดูที่นี้ได้สาระดีมาก ขอบคุณ ด้วยนะที่มาบอกให้เรารู้