The O World
Group Blog
 
All Blogs
 
สุขไม่จีรัง ทุกข์ไม่ยั่งยืน แล้วอะไรเป็นอมตะ? (2)

“ความทุกข์มาอย่างไร ทำลายวิธีใดก็ไม่ตาย กลับกลายทวีคูณ”

เวลาผ่านไปฉันเริ่มมองคนข้างกายที่ฉันเลือกมาเคียงข้าง ฉันเริ่มรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่สมบูรณ์แบบพอ เขาไม่ใช่ใครที่ฉันคิดไว้ เขาขาดอะไรบางอย่าง ฉันกลัวกลัวว่าสิ่งที่เขาขาดไปจะทำให้ความสุขของฉันลดน้อยลง ความด้อยของเขาทำให้ฉันเริ่มหมดความสนใจในตัวเขา เพียงแค่ได้ยินเสียง ยังไม่ต้องเห็นหน้าก็สร้างความเบื่อหน่ายให้กับฉันได้ไม่น้อย ฉันปล่อยให้ชีวิตของฉันเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดเท่ากับศูนย์เปล่า และอาจจะต้องสูญเสียความสุขไป ฉันเริ่มมองหาใครคนใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่เขาคนนี้ แต่ในขณะเดียวกันถ้าจะให้เดินหันหลังให้กับคนข้างกายในเวลานี้ก็เป็นสิ่งที่ฉันทำไม่ได้ ความสุขในชีวิตฉันจะไม่มีวันน้อยลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นใครคนใหม่ที่เข้ามาในชีวิตฉันต้องให้ฉันได้มากกว่าคนเดิม


ฉันไม่ต้องเสียเวลารอในสิ่งที่ฉันต้องการนานนัก เมื่อคนที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดผ่านเข้ามาในชีวิตฉันอย่างง่ายดาย ด้วยการแนะนำของเพื่อนฉันในฐานะคนสำคัญของเพื่อน แต่ก็แค่คนสำคัญไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะฉะนั้นฉันยังมีสิทธิ์ ในชีวิตการเดินทางของฉันมีจุดหมายที่แน่นอนเพียงอย่างเดียว คือ ความสุขของฉันเอง แล้วฉันจะต้องไปสนใจความรู้สึกของคนอื่นทำไม ถ้าเรื่องแค่นี้เพื่อนกันให้กันไม่ได้ ฉันก็ไม่สนใจหรอก เพราะฉันสามารถสร้างเพื่อนได้ เหมือนกับที่ฉันสร้างและแสวงหาความสุขให้ตัวเองยังไงล่ะ ในที่สุดฉันก็บรรลุในสิ่งที่ต้องการ ถึงแม้จะเสียเพื่อนไปหนึ่งคน กับอดีตคนที่เคยสำคัญอีกหนึ่ง ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับฉัน ในเมื่อวันนี้ฉันยิ้ม ฉันหัวเราะได้มากกว่าวันวาน ความสุขที่ฉันได้รับขยี้คุณค่าของมิตรภาพให้กลายเป็นผงธุลีในพริบตา

ฉันหลงระเริงอยู่กับความสุขที่ฉันขโมยมาจากคนอื่นอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมามองโลกรอบข้าง จนวันหนึ่งฉันอิ่มตัวกับการตักตวงความสุขในจุดนี้ แล้วกำลังเงยหน้ามาแสวงหาความสุขรูปแบบใหม่ ฉันก็พบว่ารอบข้างฉันแออัดไปด้วยความว่างเปล่า เมื่อฉันก้าวเท้าเข้าไปยังกลุ่มคนหนึ่งก้าว คนเหล่านั้นจะถอยหลังมากกว่าหนึ่งก้าวเพื่อเว้นช่องว่างระหว่างฉันกับเข้าไว้เสมอ ยิ่งฉันขยับกายมากเท่าไหร่ ความว่างเปล่าก็ยิ่งขยายตัวกว้างมากกว่านั้น ฉันสัมผัสได้ถึงความกลัว ความขยะแขยง ความรังเกียจของคนเหล่านั้นที่ทิ้งกลิ่นอายไว้ในความว่างเปล่า เมล็ดพันธุ์ของความเหงาเริ่มแตกตัวและเติบโตในหัวใจฉัน คนข้างกายที่เคยมาสร้างความสมบูรณ์แบบในชีวิตฉันส่งสายตารังเกียจมาทางฉัน สายตาที่ฉันคุ้นเคย สายตาแบบเดียวกับที่ฉันเคยมีให้คนรักคนก่อน สายตาที่พูดออกมาเป็นประโยคโดยไม่อ้อมค้อมว่าฉันหมดประโยชน์สำหรับเขาแล้วเช่นกัน

ความสุขในหีบสมบัติฉันเริ่มละเหยกลายเป็นไอไปแทบจะหมดสิ้น ฉันยังไม่ท้อพยายามเติมเต็มมันอีกครั้งด้วยการสรรสร้างรอยยิ้มที่มุมปากในยามพบปะกับผู้คนแปลกใหม่ คนเหล่านั้นตอบกลับฉันด้วยรอยยิ้มเช่นกัน แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ฉันยิ้มไม่ออก แต่กลับรู้สึกหนาวไปจนจับขั้วหัวใจ รอยยิ้มที่มุมปากเพียงข้างเดียว ที่เหยียดยกขึ้นแสดงความสมเพชฉัน หีบความสุขของฉันตอนนี้ปราศจากซึ่งมวลสารที่เรียกว่าความสุข แต่ก็มิได้เป็นหีบว่างเปล่าดังในอดีตที่ฉันเคยกลัว หากแต่มองไปยังก้นหีบฉันเห็นตะกอนแห่งความทุกข์เริ่มก่อตัวอย่างเงียบเชียบ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังของมันที่แผ่ขยายอยู่ในกายฉัน ความหดหู่ อ้างว้าง หม่นหมองขยายตัวปกคลุมใจฉันอย่างรวดเร็ว

ฉันออกเดินทางอีกครั้งเพื่อหาวิธีกำจัดความทุกข์ให้หมดไปจากชีวิตฉัน ฉันไม่กล้าที่จะหาความสุขในขณะนี้ ระยะทางที่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ก็ทำให้น้ำหนักที่ฉันต้องแบกรักความทุกข์มากขึ้นเท่านั้น ฉันไม่เข้าใจว่าทั้งๆ ที่ฉันไม่พยายามมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กับใคร ไม่วิ่งชนปัจจัยที่จะนำซึ่งความทุกข์มาใส่ตัว แต่ทำไมปริมาณของมันถึงได้ทวีคูณเช่นนี้ ทุกวันเฝ้าสรรหาวิธีที่จะงัดมันออกไปจากใจฉัน แต่ยิ่งพยายามมันยิ่งฝังลึก ยิ่งกลุ้มใจกับมันมันยิ่งเพิ่มจำนวน ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองยิ่งเดินยิ่งหลงทาง ทั้งๆ ที่ฉันก็ใช้หลักการเดินทางแบบเดิม ตั้งจุดมุ่งหมายที่แน่นอน แต่ทำไมไปไม่ถึงซะที จิตใจฉันจะต้องถูกความทุกข์กัดกินอีกเท่าไหร่ถึงจะหมดเวรหมดกรรมต่อกัน ราวกับว่าความทุกข์เป็นอมตะไม่มีวันเสื่อมอายุขัย หรืออาจมีก็คงเทียบเท่ากับชีวิตของฉันคนนี้



Create Date : 01 เมษายน 2551
Last Update : 5 เมษายน 2551 2:54:55 น. 1 comments
Counter : 1061 Pageviews.

 
สู้ต่อไปค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:4:08:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

okasuma
Location :
Shanghai China

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add okasuma's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.