ยายแก่กับชาวบ้านบ้าคลั่ง
ชาวบ้านล่ำลือกันว่า คุณเป็นผี.. สภาพบ้านสุดโทรมในป่า แยกตัวเอกเทศสนับสนุนแนวคิดนั้น คุณเป็นหญิงชรา แก่ ผัวตายไปหลายปี ลูกไม่มี และไม่มีใครปกป้อง ต้องยอมจำนนดั่งคำพิพากษาที่ไอ้ฟักเคยได้รับ หลายเดือนมาแล้ว สัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน..หายไปไม่เว้นแต่ละวัน บ้างถูกพบเป็นซาก น่าอาเจียน ชาวบ้านลงความเห็นว่าต้องเป็นฝีมือปอบแน่ แม้วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้า แต่ความเชื่อโดยสันดานมนุษย์ยังไม่ถือว่างมงาย ความเชื่อ เคียงคู่หัวใจมนุษย์ตลอดกาลคล้ายสัจธรรมความจริง

ชาวบ้านร้อนใจเกินจุดเดือด เผาพลาญมนุษยธรรมในจิตไปเสียสิ้น รวมตัว ลงความเห็นเฉกเช่นศาลเตี้ย“พวกเราต้องจัดการอีนังปอบนั่น” สุดท้ายตกลงกัน รวมตัว ถือคบเพลิงสว่างไสวท่ามกลางคืนสงัดเดินเรียงแถวมุ่งตรงสู่บ้านคุณ พร้อมเสียงร้องปลุกระดมเรียกความกล้า ซุกซ่อนหลับใหล คุณนั่งเงียบสงบในบ้าน หยากไย่โยงใยพัวพัน บนหลังคาสังกะสี ฝุ่นจับเกาะเครื่องใช้ เสียงโหวกเหวกโวยวายดังด้านนอกตัวบ้าน คุณออกเผชิญหน้า ชาวบ้านหลายสิบล้อมกรอบ สาดคำสบถออกมาไม่ยั้ง คำด่าหยาบคายป่าแทบแตก คุณปฏิเสธ คุณไม่ใช่ปอบ ว่าอย่างนั้น พร้อมวิงวอน ขอความเมตตาธรรม หากยังหลงเหลือ...

อารมณ์เดือดดาล...พุ่งพล่าน เสียงปลุกระดมเกรี้ยวกราดมากขึ้น หนึ่งในนั้นคว้างคบเพลิงลอยคว้าง แล้วโค้งลงตามวิถีเข้าที่ตัวบ้าน ความฮึกเหิมคูณทวี มีสีหน้าคุณเพียงคนเดียวที่แสดงอาการหวาดกลัว นอกนั้นเป็นสีหน้าของผู้กำชัย แสยะยิ้มเย้ยหยัน คบไฟดวงเพลิงติดตามไปอีกหลายสิบโหมกระหน่ำ บ้าคลั่ง บ้านวอดวาย สายน้ำตาคุณไหลเยิ้ม จ้องมองบ้านตัวถูกแผดเผา ความแค้นผุด กลายร่างเป็นเสือยักษ์ ไล่กัดกิน ...




Create Date : 09 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2558 15:19:01 น.
Counter : 563 Pageviews.

0 comment
ขัดเกลา
ต้นไม้
ซึบซับ
อากาศเน่า

คน
ปลดปล่อย
ของเสีย

ขยะ
กองรวม
มหึมา

กิเลศ
ในใจ
ยากชำระ

ขัดแล้ว
ขัดอีก
ขัดเรื่อยๆ

ค่อยๆขาว
ใจเย็นๆ
เดี๋ยวก็เสร็จ

อย่าหยุด
กลางคัน
เสียก่อน

ยึดมั่น
ตั้งมั่น
เข้าไว้

ได้แล้ว
กระทะ
ขาวเอี่ยม



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2558 14:18:52 น.
Counter : 499 Pageviews.

0 comment
หน้าผาสูงกับความเจ็บปวด

หน้าผาสูงกับความเจ็บปวด

ความมืดครอบคลุมรอบตัวคุณ ราวกับว่าต้องการจะกลืนกินให้หายวับไปกับตา ลมพัดสาดรุนแรง ปะทะร่างสั่นเทิ้ม ขนลุกชัน ตั้งตัวขึ้นสู้ไม่เกรงกลัว หัวใจสั่นรัวยามมองลงไปเบื้องล่าง เสียงน้ำซัดโขดหินเก่าแก่บ้าระห่ำ ราวกับว่ามันเป็นศัตรูกันมาช้านาน ละอองสาดกระเซ็นแตกกระจาย วินาทีนั้นเอง จึงรู้ว่าคู่ต่อสู้ของมันไร้เทียมทาน มันลอยขึ้นมาไม่ถึงยอดผาสูงที่คุณยืนอยู่ ซักครู่หนึ่งย้อนกลับไป รวมหัวกับพรรคพวกดังเดิม พร้อมเตรียมตัวโจมตีครั้งต่อไป ไม่ย่อท้อ วนเวียนซ้ำซ้อนเช่นนี้ชั่วนิจนิรันดร

น้ำตาไหลพราก แยกเป็นสองสาย เหมือนความรักของคุณกับหล่อนที่ไม่มีวันบรรจบ ไม่มีวันสมใจหวัง สถานะของหล่อนสูงเกินกว่าคนอย่างคุณจะเอื้อมถึง และไขว่คว้ามาเป็นของตัว มนุษย์ตัวเล็กๆไม่อาจครอบครองดวงดาวฉันใด คุณกับหล่อนก็เช่นกัน คุณเป็นแค่ลูกชาวนาจนๆที่พยายามไขว่คว้าหาอนาคต คุณเรียนจบปอตรี แค่นี้ก็บุญหัว ใครต่อใครบอกคุณเช่นนี้ คุณเชื่อตามนั้น แต่คุณก็พบกับหล่อน ได้รู้จักได้สานสัมพันธ์รัก แหวกความเชื่อเดิม คุณมาไกลได้อีก…

แต่คงสิ้นสุดแล้วจริงๆ พ่อแม่หล่อนกีดกันทุกวิถีทาง เมื่อรู้ว่าหล่อนคบกับคุณ เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง อนาคตไกล นี่มันพลอตน้ำเน่าชัดๆ-คุณคิด หัวใจแหลกสลาย เมื่อกระทบกระแทกความผิดหวังตั้งตระหง่าน คุณทนไม่ได้ ตัดสินใจปล่อยตัวลงสู่เบื้องล่างหวังปลดเปลื้อง.. ความเศร้าเคล้าน้ำตา น่ารังเกียจ

แรงโน้มถ่วง...ดึงร่างคุณลง เหมือนมีเชือกผูกไว้ แล้วชักสาวรวดเร็ว น้ำตาลากยาว ทิ้งความทรงจำไว้เบื้องหลัง ความหวาดกลัวแทรกเข้าระหว่างเดินทาง มันเกาะกุมหัวใจอยู่ไม่นาน ก่อนตกกระแทก ความเจ็บปวดล้นทะลัก หัวแตกเหวอะ กระดูกแขนขาหัก ซี่โครงทิ่มปอด สภาพน่าสมเพศ คุณไม่ตาย แต่ทรมานแสนสาหัส ทรมานยิ่งกว่าตอนที่รักคุณแหลกสลาย คุณพึ่งคิดได้…

แผลคุณเริ่มสมาน ความเจ็บปวดค่อยทุเลาลง ร่างกายกลับสู่รูปร่างปกติ กระดูกกระเดี้ยวคืนเข้าที่..คุณเดินกลับขึ้นไปบนหน้าผา ยืน ณ จุดเดิมที่เคยยืน รอเวลากระโดดลงมาอีกครั้ง..วนเวียนซ้ำซ้อนชั่วนิรันดร์...




Create Date : 06 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2558 13:24:17 น.
Counter : 386 Pageviews.

0 comment
ใครในห้อง?
“เฮ้อ – ”ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ยาวๆ“คอนโดในกรุงเทพมีแต่แพงๆทั้งนั้นเลยว่ะ” เขาบ่นกับตัวเองเบาๆเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ล้อเลื่อนแบบที่นิยมใช้กันในสำนักงานสายตามองไปที่จอคอมพิวเตอร์อย่างเหนื่อยหน่ายใจ

“แก จะหาคอนโดไปทำไมวะ – ไอ้บิ๊ก” ชายหนุ่มที่นั่งประจำคอมพิวเตอร์เครื่องถัดไปหันมาถามด้วยความสงสัยเมื่อบังเอิญได้ยินเสียงที่บิ๊กบ่นเมื่อซักครู่ พลางมองไปที่จอคอมพิวเตอร์ของบิ๊กบนจอแสดงรายการเว็บต่างๆ โดยในช่องค้นหามีคำว่า ‘คอนโด เช่าติดรถไฟฟ้า’

บิ๊กเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพฯโดยปกติเขาจะนั่งรถประจำทางจากบ้านที่อยู่แถบชานเมืองแล้วต่อรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยส่วนขากลับก็ทำแบบเดิมคือนั่งรถไฟฟ้าแล้วไปต่อรถประจำทาง แต่พอขึ้นปีสาม งานที่เขาได้รับมอบหมายก็เพิ่มขึ้นอีกทั้งตารางเรียนที่แน่นเอี๊ยดยิ่งกว่ารถติดในเวลาเย็นทำให้เขารู้สึกว่ามันเหนื่อยเกินไปที่จะต้องเดินทางไป-กลับจากบ้านที่อยู่ห่างไกลแบบนี้เขาจึงขอแม่หาเช่าคอนโดที่สามารถเดินทางได้สะดวก(แม่เขาอนุญาตแต่ตั้งงบให้ไม่เกินเจ็ดพันต่อเดือนรวมค่าน้ำ-ค่าไฟ)

เมื่อเรียนเสร็จภาคเช้าและภาคบ่ายไม่มีเรียนต่อหลังจากที่ทานข้าวเสร็จเขาจึงชวนเพื่อนสนิท – ติ๊ก – ขึ้นมานั่งเล่นคอมในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยส่วนตัวเขาก็ใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาคอนโดที่ปล่อยให้เช่าในราคาที่อยู่ภายใต้วงเงินที่ได้รับมา

“ฉันว่าจะมาหาเช่าอยู่ใกล้ๆมหาลัยนี่แหละหรือไม่ก็เอาคอนโดที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าก็ได้ จะได้เดินทางสะดวก”ชายหนุ่มมองหน้าผู้ถาม “เดินทางไป-กลับจากบ้านมันเหนื่อยว่ะ”

“เออๆ เดี๋ยวฉันช่วยหา”ชายหนุ่มหันหน้ากลับไปประจำหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องที่ตัวเองนั่งอยู่ “แล้วแกมีงบเท่าไรวะ”

“หกพัน – จะมีรึเปล่าวะ”

“ยากว่ะ คอนโดที่ติดรถไฟฟ้าส่วนใหญ่อย่างต่ำก็แปดพันแล้ว-แต่เดี๋ยวจะลองช่วยดูให้ไม่ต้องห่วง” ทั้งสองง่วนอยู่กับการค้นหาคอนโดให้เช่าในอินเตอร์เน็ตจนถึงเวลาบ่ายสามโมงจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน – บิ๊กยังไม่ได้คอนโดที่ต้องการ

กว่าบิ๊กจะกลับถึงบ้านก็เกือบหกโมงเย็นแล้วเนื่องจากช่วงเย็นรถที่สัญจรบนถนนมีจำนวนมากทำให้การเคลื่อนที่เป็นไปได้อย่างเชื่องช้าวันไหนที่บิ๊กมีเรียนภาคบ่ายด้วยเขาจะกลับถึงบ้านประมาณสองทุ่มและหากวันต่อมามีเรียนภาคเช้าอีกก็ต้องรีบออกจากบ้านตั้งแต่รุ่งสางเพื่อเลี่ยงการเข้าเรียนสายเนื่องจากรถติด

หลังจากที่บิ๊กทานข้าว และอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ กำลังจะนอนอ่านหนังสือเพื่อทบทวนวิชาที่อาจารย์สอนเมื่อช่วงเช้าโทรศัพท์มือถือเขาก็ดังขึ้น หน้าจอแสดงชื่อผู้โทรเข้า

“ว่าไง – ไอ้ติ๊ก”บิ๊กรับโทรศัพท์และกล่าวทักทายเชิงเป็นคำถามในตัว

“แกหาคอนโดได้รึยังวะ”

“ยังเลยว่ะ ว่าจะอ่านหนังสือก่อนพรุ่งนี้ค่อยหาก็ได้-พรุ่งนี้วันเสาร์”

“ฉันเจออยู่ที่อยู่ที่หนึ่ง เดือนละหกพันอยู่ใกล้สถานีเอกมัย ดูจากในรูปภายในห้องแล้ว ฉันว่าโอเคอยู่นะเดี๋ยวฉันจะส่งลิงค์ให้แกดูอีกทีทางเฟสบุ๊คนะ”

“โอเค ขอบใจมาก – เพื่อน”

“อืม ไม่เป็นไร คิดว่าไงก็โทรมาบอกด้วยแล้วกัน-แค่นี้แหละ”ฝั่งตรงข้ามกดวางสายไปก่อน เขาเดินไปเปิดสวิตซ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่มุมหนึ่งของห้องนอน

เขาเปิดลิงค์ที่ติ๊กส่งให้ขึ้นมา รายละเอียดแสดงชื่อ –ปรีชาคอนโด ห้องอยู่ชั้น7 ห้อง28/7 เขากดดูรูปที่แสดงภาพมุมต่างๆภายในห้อง – มันเป็นห้องเล็กๆ มีเตียงเดี่ยวขนาด 6ฟุตตั้งอยู่กลางห้องหัวเตียงชิดติดกับผนัง วางเป็นแนวขวางกับประตูมีระเบียงขนาดกว้างพอจะตั้งราวแขวนเสื้อได้อยู่ทางด้านซ้ายของเตียง(ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับประตูทางเข้า)ซึ่งประตูระเบียงนั้นจะเป็นแบบบานเกร็ดกระจกใสเลื่อนเปิด-ปิดได้โดยมีจะผ้าม่านสีเขียวอ่อนคอยปกปิดมิให้ใครมองทะลุกระจกใสเข้ามาภายในห้องจากตึกอีกฝั่งหนึ่งถัดจากประตูระเบียงเป็นหน้าต่างบานเกร็ดและมุ้งลวดที่เลือนเปิด-ปิดได้และผ้าม่านสีเขียวเช่นเดียวกันด้านขวาของประตูทางเข้าเป็นห้องน้ำที่มีฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นที่สภาพยังใหม่อยู่ปลายเตียงด้านตรงข้ามมีโต๊ะเฟอร์นิเจอร์สำหรับตั้งโทรทัศน์ด้านขวามือของเตียง(ฝั่งประตูทางเข้า)เป็นโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือพร้อมเก้าอี้ถัดไปเป็นตู้เสื้อผ้าวางอยู่ติดกัน

“แถวเอกมัยเหรอ – ” เขาบ่นพึมพำ “ถูกมากเลยนะเนี่ยโชคดีจริงๆ” พลางเลื่อนหน้าจอลงมาเพื่อดูเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อกับเจ้าของห้อง จากนั้นเหลือบมองเวลาที่แสดงไว้ที่มุมหนึ่งของหน้าจอ

“เพิ่งจะทุ่มครึ่ง ยังโทรได้อยู่” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ

เสียงสัญญาณดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมีคนรับสาย

“สวัสดีค่า” เสียงผู้หญิงกล่าวเอ่ยทักทายขึ้นก่อนน้ำเสียงฟังดูร่าเริงและเป็นมิตร

“เอ่อ-” บิ๊กชะงักเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ“คุณวรรณิภาใช่ไหมครับ”

“ใช่ค่า ว่าไงคะ” อีกฝ่ายตอบรับ ฟังจากน้ำเสียง น่าจะเป็นหญิงวัยกลางคนอายุราวสามสิบกว่าๆ ไม่เกินสี่สิบ

“ผมเห็นคุณลงประกาศ ให้เช่าคอนโดในอินเตอร์เน็ตน่ะครับ –ผมสนใจ ”

“อ๋อ..ค่ะ – ไม่ทราบว่าประกาศที่คุณกำลังดูอยู่ตอนนี้เป็นคอนโดแถวไหนเหรอคะ”หล่อนถาม คาดว่าหล่อนคงซื้อคอนโดไว้ให้เช่าหลายที่

“เอกมัยครับ – ” เขาตอบ “ปรีชาคอนโด”

“ค่ะ ค่าเช่าหกพันบาทต่อเดือนนะคะ ค่าน้ำ/ค่าไฟจ่ายที่การไฟฟ้าได้เลยมัดจำล่วงหน้าสามเดือน ห้องมีเครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่นให้ส่วนโทรทัศน์ต้องเอามาเองนะคะ ด้านล่างมีที่จอดรถ และมียามเฝ้าตลอด”หล่อนอธิบายรายละเอียด “สนใจเข้ามาดูห้องก่อนไหมคะ”

“ครับ – เอาเป็นพรุ่งนี้ได้ไหมครับ” บิ๊กเสนอ เนื่องจากวันพรุ่งนี้เขาไม่มีเรียน

“ได้ค่ะ เอาเป็นบ่ายโมง – สะดวกไหมคะ”

“ครับ”

“ตกลงค่ะ สรุปเป็นพรุ่งนี้เวลาบ่ายโมงที่ด้านล่างตึกนะคะ”หล่อนย้ำ “ต้องการสอบถามอะไรเพิ่มเติมไหมคะ”

“ไม่ครับ”

“ถ้างั้นขออนุญาตวางสายนะคะ – สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ” หล่อนกดวางสายไปทันทีที่เขาพูดจบ

หลังจากที่เข้าไปดูห้องตามที่นัดไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกแปลกๆกับบรรยากาศภายในห้องนั้นก็ตาม เขารู้สึกอึดอัดหายใจไม่ทั่วท้อง อย่างกับว่าห้องนี้มีคลื่นพลังงานที่ไม่ดีสถิตอยู่ แต่สุดท้ายเขาก็ตอบตกลงจะย้ายเข้ามาอยู่ช่วงต้นเดือนถัดไปพร้อมกับทำสัญญาโดยจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าสามเดือน– เป็นเงินทั้งหมดหนึ่งหมื่นแปดพันบาท

ของที่เขาเอามานั้น มีเพียงแค่เสื้อผ้า หนังสือเรียนและโน้ตบุ๊คที่พึ่งซื้อมาใหม่เท่านั้น เพราะเขาไม่อยากให้ห้องรกเกินไปนัก หลังจากที่แม่เขาซึ่งช่วยขับรถขนของมาส่งกลับไปแล้ว– เขารู้สึกเพลียมากจึงนอนหลับไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่าขณะที่เขาหลับอยู่นั้นมีใครบางคนยืนมองเขาจากหน้าประตูภายในห้องของเขาเอง– ห้องปิดไฟมืดทึบ ผู้หญิงผมยาว บางส่วนของผมปกปิดใบหน้า สวมชุดคลุมนอนสีขาวยาวถึงหัวเข่าใบหน้าซีดเซียวราวกลับไม่เคยมีเลือดมาหล่อเลี้ยงดวงตากลมโตเพ่งมองไปยังร่างบนที่นอนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เธอค่อยๆก้าวเท้าเดินไปทีละข้างในความมืดเธอเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องช้าๆในขณะที่เขานอนหลับอยู่บนเตียง

เขาลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืดพร้อมอาการสะลึมสะลือ สายตาเหลือบมองไปทางประตูห้องน้ำ– ผู้หญิงผมยาวในชุดสีชาวยืนหันหลังให้ เธอยืนนิ่งไม่ไหวติงในความมืดเขายกมือขึ้นลูบหน้า ไม่แน่ใจภาพที่เห็น

“สงสัยตาฝาด” เขาหยิบโทรศัพท์มือขึ้นกดดูเวลา “สามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย”เขาลุกขึ้นเตรียมบทเรียนที่จะมีขึ้นในวันถัดไป

หลังเลิกเรียนภาคบ่ายเขาซื้อข้าวกล่องกลับมาทานที่ห้อง –ในขณะที่เขาทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งแว่วมาจากทางด้านหลังของเขา “ขอกินด้วยคนสิ”เขาหันหลังขวับในทันใด แต่ปรากฏว่าภายในห้องนั้นว่างเปล่า – ไม่มีใครเลย

“เสียงใครวะ” เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง รู้สึกกลัวเล็กน้อยบรรยากาศเย็นเฉียบจนน่าขนลุกเขาหยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศเพื่อปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้น แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นความเย็นที่แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกพอตกดึกเขาก็เปิดหนังสือทบทวนบทเรียนเหมือนที่เคยทำจนเคยชิน

ปัง! ปัง!ปัง!

จู่ๆเสียงใครบางคนมาเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นสามครั้งซึ่งมันฟังดูคล้ายจะเป็นเสียงทุบมากกว่า – เขาหันไปมองนึกสงสัยว่าใครมาเคาะประตูแต่ยังไม่ได้ลุกไปเปิดในทันที ทว่าไม่มีเสียงเคาะใดๆดังขึ้นอีกคงเป็นพวกเกรียนมาเคาะห้องคนอื่นเล่นแล้วก็วิ่งหนีไป เขาไม่สนใจ หันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือต่อ

กึงๆๆๆๆ!!!!

เสียงของบานประตูที่ถูกเขย่าอย่างรุนแรงเหมือนมีใครจับลูกบิดอีกฝั่งหนึ่งไว้แล้วพยายามจะเปิดเข้ามา

“เฮ้ย – ใครวะ” บิ๊กตะโกน แต่ประตูห้องของเขายังถูกเขย่าไม่ยอมหยุดเขาตัดสินใจเดินไปดู แต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้าประตู มันก็หยุดไปเสียเฉยๆเขาเปิดประตูชะโงกออกไปดูบริเวณทางเดิน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครเลย – ขณะนั้นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่บนเก้าอี้ที่เขาอ่านหนังสือเมื่อซักครู่สายตาจ้องมองยังแผ่นหลังของเขาที่กำลังหงุดหงิดกับการมองหาใครซักคนที่มาแกล้งเขย่าประตู โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวการนั้น – มายืนอยู่ในห้องของเขาแล้ว

“อะไรวะ” เขาเริ่มหงุดหงิด เพราะคิดว่าคงมีใครมาแกล้ง“ถ้าจับได้นะ – จะตบให้กะบาลลั่นเลย” ทันใดนั้นเองเสียงเขย่าประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้มันดังมาจากในห้องของเขาเอง เขาหันหลังกลับเข้ามาภายในห้องด้วยความตกใจ จ้องมองประตูห้องน้ำที่กำลังสั่นอย่างรุนแรงเหมือนมีใครเขย่ามันอยู่จากด้านในใบหน้าของบิ๊กซีดเผือด เม็ดเหงื่อไหลย้อยลงผ่านแก้มลงไปที่ปลายคางแม้ว่าบรรยากาศภายในห้องเย็นจนน่าขนลุกก็ตาม

ทันใดนั้นเองประตูที่กำลังสั่นอยู่นั้นก็กระชากเปิดออกอย่างรุนแรงประตูกระแทกกับผนังห้องน้ำด้านในแล้วเด้งกลับมาปิดไว้อย่างเดิม บิ๊กขาอ่อนนั่งทรุดลงไปในทันทีที่เห็นเหตุการณ์เมื่อซักครู่ปากเขาอ้าค้างเหมือนพยายามจะร้องออกมาแต่เหมือนเสียงมันจุกอยู่ในลำคอทำให้เขาร้องไม่ออกประตูห้องที่เขาเปิดทิ้งไว้กระแทกปิดดัง ปัง!เขาสะดุ้งโหยง ตัวสั่นเทา เขาไม่รู้ควรจะทำอย่างไร สติเขาเตลิดหายไปหมดแล้วทำได้เพียงแต่นั่งอยู่ตรงนั้น แล้วไฟในห้องก็ดับลงปล่อยทุกอย่างในห้องนั้นตกอยู่ในความมืดมิดและความเงียบ หัวใจเขาเต้นรัวจังหวะของลมหายใจเข้า-ออกถี่ขึ้น เขาหันมองสำรวจรอบๆห้องด้วยอาการหวาดผวาเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์ที่เขากำลังประสบอยู่มันคืออะไรรู้แค่เพียงว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ ต้องมีอะไรซักอย่างในห้องนี้ บางอย่างที่น่ากลัวจนเขาไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เขาไม่เคยเจอเรื่องลึกลับเช่นนี้มาก่อน(แต่ตอนนี้เขาได้เจอแล้ว!)

ในขณะที่เขากวาดสายตาไปรอบๆห้องนั้นเองสายตาเขาก็ต้องสะดุดชะงักกับบางอย่างเหนือเตียงนอนขึ้นไปบางอย่างในความมืดที่คล้ายกับร่างของมนุษย์ในชุดคลุมสีขาวเป็นชุดคลุมนอนของผู้หญิง ใช่แล้ว! สิ่งที่เขาเห็นอยู่ในขณะนี้คือร่างของหญิงสาวคอพับลงไร้เรี่ยวแรงเช่นเดียวกับแขนและขา เชือกเส้นโตโผล่ออกมาจากเพดานห้องทั้งๆที่ไม่มีขื่อคานให้ผูกมัดเส้นเชือกนั้นคล้ายว่ากำลังคล้องคอของหญิงสาวไว้ ให้ลอยอยู่เหนือเตียงนอนของเขาร่างของเธอลอยกวัดแกว่งไปมาไร้แรงต่อต้าน ลมหายใจของเขาแทบจะหยุดชะงัก ในทันที ความรู้สึกอึดอัดในอกพุ่งพรวดจนแทบอยากจะอ้วกออกมากางเกงขาสามส่วนที่เขาสวมใส่อยู่เปียกแฉะไปด้วยน้ำปัสสาวะที่เผลอปล่อยออกมาด้วยความกลัว– แล้วร่างนั้นก็เริ่มชักกระตุกเบาๆ และเริ่มรุนแรงขึ้น แล้วก็หยุดลงศีรษะเธอเงยขึ้นจากที่เคยก้มลงไร้เรี่ยวแรงดวงตามองลอดผ่านเส้นผมที่แผ่สยายบนใบหน้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา

“มึงต้องออกไปจากที่นี่!”เธอตะคอกเสียงดังรู้สึกได้ถึงความอาฆาตในน้ำเสียงนั้น – ทันทีที่สิ้นสุดเสียงนั้นสติสัมปชัญญะของเขาก็ดับวูบลง–

แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านม่านสีเขียวเข้ามาทางหน้าต่างความมืดมิดก่อนหน้าอันตรธานหายไปสิ้นแล้ว แสงแห่งดวงตะวันกลับมาเป็นผู้กุมอำนาจเหนือรัตติกาลอีกครั้งร่างที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นห้องมาตลอดคืนเริ่มมีปฏิกิริยา – เขาลืมตาตื่น สายตามองจ้องตรงขึ้นไปยังเพดานห้องสีขาวโพลนเคล้าด้วยความมึนงงพลันนึกขึ้นได้ถึงเหตุการณ์ในราตรีผ่านมา เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงรีบลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องไปในทันที

เสียงโทรศัพท์ของหล่อนดังขึ้น

“สวัสดีค่า”หล่อนกดรับและกล่าวทักทาย

“คุณวรรณิภา – ใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ – มีอะไรรึเปล่าคะ”

“หนูเห็นประกาศคอนโดให้เช่าของคุณน่ะค่ะ”




Create Date : 02 ตุลาคม 2558
Last Update : 2 ตุลาคม 2558 21:22:40 น.
Counter : 439 Pageviews.

1 comment

อสูรไม้
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]