|
I'm coming BACK
หลังจากห่างหายไป 2 ปีเต็ม
เหมี่ยวมันกำลังจะกลับมาค่ะ!!!
อาจเนื่องด้วยตอนนี้อยู่วอร์ดเด็กที่ว่างเกินพิกัด เน็ตเร็วที่หอ ดงบังไม่มีข่าวอะไร update (ยกเว้นเรื่องที่ทะเลาะกับค่ายอยู่)
อีกใม่นานเกินรอแน่นอน
เตรียมพบกับ REVIEW trip เกาะล้าน + เกาะกูด
เร็วๆนี้
จริงๆ
(รับรองต่อไปจะไม่ดองนาน)
2 ปีนี่นานเกิน นานจนลืมไปแล้วว่ากรูเองก็เคยมี blog นี่หว่า
เลยกลับมาจัดการ modified ใหม่เกือบหมด
แล้วก็เห็นว่าความคิดความอ่านอะไรของตัวเองก็เปลี่ยนไปเยอะแยะพร้อมๆกับความเปลี่ยนแปลงของ bloggang
แล้วเจอกันนะ
*ว่าแต่จะมีใครมาทักกันมั่งมั้ยเนี่ย หายไปนานขนาดนี้*
เอารูปไปดูเล่นๆ เป็น Preview ก่อนนะ
เกาะล้าน
แล้วก็เกาะกูด
แล้วเจอกันเน้อ
Create Date : 27 ตุลาคม 2552 | | |
Last Update : 28 ตุลาคม 2552 0:12:10 น. |
Counter : 1081 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
=== อาจารย์ใหญ่... กับกรอสอนาโตมี ===
ขึ้นปี 2 แล้วค่า........
หลังจากที่ปี 1 เต็มไปด้วยความร่าเริงสนุกสนาน โอ้หลั่นล้านอกคณะ
มาปีนี้....
ชีวิตอันสุโขได้จบสิ้นลงแล้ว และไม่มีวันได้กลับมาอีกแล้วด้วย *เศร้า*
ปี 1 ที่ได้เรียนวิชาเลือกมากมายตามใจอยาก (ที่ฉันเลือกดนตรีคลาสสิก ภาพยนตร์ ค่ายพัฒนาชนบท บลาๆๆๆๆ) มาปีนี้มันไม่มีอีกแร้วววววว.......
ขอโทษด้วยที่สัญญาว่าจะอัพตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเวลาซะที
เปิดเทอมมา 2 อาทิตย์แรกเป็นบล็อก intro to medical science ค่ะ ที่จุฬาเรียนเป็นบล็อกค่ะ สบายกว่าที่อื่นเยอะ (รึเปล่า???)
จบเรื่องนึงก็สอบ แล้วก็ลืม!!!
บล็อกแรกจะเป็นการแนะนำให้นิสิตแพทย์รู้จักกับวิชาทางพรีคลินิกทั้งหมดที่ต้องเรียนภายใน 2 ปี ทำพรีเซ็นต์กันเป็นหนังสั้นซะทุกกลุ่ม (ตามกระแสกันเข้าไป) แต่ก็โคตรขำ
จนอาจารย์จะเปลี่ยนชื่อคณะใหม่เป็น "คณะแพทยศาสตร์และการบันเทิง" แล้ว
พอจบ 2 อาทิตย์ปุ๊บก็ขึ้นบล็อกใหม่ (ไม่มีสอบ เพราะเอาไปรวมกับมิดเทอมที่เป็นเนื่อหาส่วนเล็คเชอร์ทั้งหมด)
บล็อกใหม่คือ Musculoskeletal ค่ะ
ฟังจากชื่อคงพอรู้ว่ารายวิชานรกแตกของนิสิตแพทย์ปี 2 ได้เริ่มขึ้นแล้ว
นั่นคือ.........Gross Anatomy หรือการผ่าอาจารย์ใหญ่นั่นเองค่ะ
เชื่อเถอะว่าไม่ว่าจะถามคนไหน ทุกคนต้องเคยรู้สึกกลัวการผ่าอาจารย์ใหญ่มาแล้วทั้งนั้น ฉันก็กลัวเหมือนกัน
วันแรกที่ต้องขึ้นตึกกรอส ทางชั้นปีจัดพวงมาลัยสำหรับไหว้อาจารย์ใหญ่ให้โต๊ะละ 1 พวง นิสิต 6 คน ยืนรอบโต๊ะ และกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าอาจารย์ใหญ่พร้อมกัน
โต๊ะของฉันเป็นผู้หญิงทั้ง 6 คนเลยค่ะ ซึ่งเค้าว่ากันว่า ถ้าโต๊ะไหนไม่มีผู้ชายมักจะผ่าเสร็จช้า
แต่ไม่ใช่โต๊ะฉัน.....
เสร็จเร็วมากกกกก..... (ไม่ใช่ฝั่งฉันหรอก อีกฝั่งหนึ่งตะหาก ที่เสร็จเร็ว แต่ฝั่งฉันก็ไม่ได้ช้านะ ^^) อาจารย์เลยชอบมาใช้อาจารย์ใหญ่โต๊ะฉันเป็น demonstration
*ภูมิใจ*
อาจารย์ใหญ่โต๊ะฉันเป็นผู้ชายค่ะ ท่าทางเหมือนคุณตาใจดีๆ และที่สำคัญยังอยู่ในสภาพดีมากๆ
บางโต๊ะนี่ก็มือแห้งต้องตัดแขนบ้าง ดองนานเกินไปบ้าง แต่อาจารย์ใหญ่ของฉันชั้นไขมันก็ไม่ค่อยหนา กล้ามเนื้อ เส้นประสาท เส้นเลือด บลาๆ ก็หาง่ายหมด
ตอนแรกๆกลัวมาก ไม่กล้าลงมีดเลาะสกินกันเลย แต่พอมีคนเริ่ม ทุกคนก็รุมๆกันทำ เพราะกลัวไม่เสร็จนั่นล่ะ
สรุปแล้ว เรียนกรอสและผ่าอาจารย์ใหญ่มาทั้งหมด 6 วัน (จากทั้งหมด 9 วันตั้งแต่เปิดบล็อกนี้)
มันหนักหนากว่าที่ฉันเรียนมาทั้งหมด 13 ปีซะอีก
โทรไประบายกับแม่บ่อยๆมาก ประมาณว่า "หนูเหนื่อยมากเลย ไม่อยากเรียนแล้ว"
แม่ก็ตอบมาขำๆ ว่า
"ก็ดีแล้วไง แม่จะได้ไปบอกใครต่อใครเค้าซักทีว่า ในที่สุดเหมี่ยวมันก็ต้องใช้ความพยายามและขยันเรียนบ้างแล้ว"
ขอบคุณค่ะ....
นอกจากจะไม่ช่วยแล้ว ยังซ้ำเติมถึงชีวิตในอดีต (และปัจจุบัน) ที่ยังคงนอนอืดไปวันๆ หาสาระมิได้ของฉัน
เอาเถอะ
ชีวิตนิสิตแพทย์ก็เงี้ย ไม่ได้มีแค่คณะเดียวซะหน่อยที่เรียนหนัก ทุกคนเค้าก็มีความหนักหนาของตัวเองแตกต่างกันไปทั้งนั้น
((( แค่ไม่ต้องเรียนเลขกะฟิสิกส์อีกตลอดชีวิตก็ดีใจจนไม่รู้จะไปขอบคุณใครที่ไหนแล้ว )))
เค้าว่าเอาไว้ว่า....
คิดจะเป็นหมอ ต้องอดทนเพื่อคนอื่น
เพื่อคนที่เค้าเจ็บปวดทรมาน
ที่ทำได้ตอนนี้ คือ " อดทนเพื่อคนที่เขารออยู่ "
เพราะ....หมอต้องเรียนเพื่อคนอื่น " ไม่ใช่เรียนเพื่อตัวเอง "
--------------------------------------
ป.ล. - เพิ่งไปดัดฟันมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ เหล็กบาดปากเป็นแผลร้อนในเต็มเลย (เวลาพูดเจ็บปวดทรมาน แต่ก็ยังพูดมาได้อีก)
ป.ล. 2 - วันนี้เป็นวันเกิดครบ 12 ขวบของน้องชายฉันค่ะ จะว่าจริงๆแล้ว ฉันก็รักน้องชายของฉันนะ ถึงแม้เวลากลับบ้านจะชอบทะเลาะกันก็เหอะ 55+
ป.ล. 3 - วันนี้ลงจากตึกกรอสตอนเกือบ 2 ทุ่ม เหนื่อยโคดดดดดดด...................
ป.ล. 4 - วันนี้เอากระดูก femur (ต้นขา) ของอาจารย์ใหญ่กลับมาดูที่บ้านด้วยล่ะ
ป.ล. 5 - เมื่อวันอังคารเพิ่งมีการซ้อมสอบแล็บกริ๊งไป ทำได้เกินกว่าที่คาดหมาย เพราะไม่เคยอ่านหนังสือเลยแม้แต่นิดเดียว เอาเท่าที่จำได้ตอนเรียนกะตอนผ่าแค่นั้น
ป.ล. 6 - คงต้องดองแท็กต่อไปนะคะพี่บิว ขอโทษด้วยน้า *โค้งๆๆๆ*
ป.ล. 7 - ฉันยังคงแอบชอบเธออยู่นะ ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่แล้วก็เถอะ
ป.ล. 8 - รักดงบังชินกิ มิกกี้ยูชอน และ เซียจุนซู แล้วเราจะเจอกัน "ต้นปีหน้า" มาให้ได้ตามที่สัญญาไว้ล่ะ
Create Date : 21 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 21 มิถุนายน 2550 23:05:17 น. |
Counter : 1434 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Super Junior in SEED Awardsssss.......!!!!
เมื่อวันพุธที่ 31 ม.ค. 2549 ข้าพเจ้าได้ไปงานซี๊ดที่ BEC tero Hall มาเจ้าค่ะ!
งานซี๊ดเป็นงานประกาศรางวัลสำหรับคนดนตรีที่ตัดสินกันด้วยผลโหวตจากผู้ฟังทั้งประเทศ (จริงอ่ะ???) จุดสนใจหลักของงานนี้สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ไม่ใช่ผลรางวัลหรอกค่ะ
แต่เป็นหนุ่ม Super Junior ทั้ง 12 คนต่างหาก (ที่จริงต้องมา 13 คน แต่เจ๊ฮีชอลดันงอแงไม่มาซะงั้น)
ข้าพเจ้าได้อาศัยใบบุญของเพื่อนบูมใช้สิทธิ์เข้าไปดูด้วย เพราะบัตรเข้างานต้องแย่งชิงกันผ่านทาง sms ที่ข้าพเจ้าพยายามส่งอยู่หลายวันแต่ไม่ได้
ภาพงานโดยรวม >>>>> ไม่ประทับใจ และเสียความรู้สึกกับทางผู้จัดมากๆ
บัตรเข้างานแบ่งเป็น 3 โซน ตามความยากง่ายของช่วงเวลาที่เปิดให้ส่ง sms มาแย่งชิงบัตร มีบัตรนั่ง บัตรยืนพิเศษ และบัตรยืนธรรมดา(ที่ข้าพเจ้าได้มา)
โซนบัตรนั่งจะเป็นอัฒจันทร์อยู่ข้างเวที ใกล้มากๆ (แต่โดนสั่งห้ามยืนโดยเด็ดขาด) บัตรยืนพิเศษจะอยู่แถวหลังโซนที่นั่งของศิลปินที่มาร่วมงาน เป็นโซนเดียวกับบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายแหล่ แถมอยู่ติดกับ Red Carpet อีกต่างหาก ส่วนของฉันอยู่ข้างหลังสื่อมวลชนอีกที มีรั้วแน่นหนา(มาก)กั้นอยู่ แถมยังมีฉากของ Red Carpet มาบังตรงแถวๆกลางเวทีพอดี
จากที่ไกลเวทีอยู่แล้ว ดันมีไอ้ฉากนรกนี่มาบังอีก คนที่จะดูตัวเป็นๆก็ต้องอาศัยดูเอาจากมุมเฉียง หรือไม่ก็ขึ้นบันไดที่อยู่สุดปลายฮอลล์ขึ้นไปด้านบน ซึ่งมีคนคิดวิธีนี้ได้มากมายจนบนบันไดไม่มีที่ยืน
ข้าพเจ้าก็เลยปลง แมร่งงงง....... กรูอุตส่าห์แย่งชิงบัตรมาแทบตายเพื่อดูตัวเป็นๆ ดูทางจอก็ได้วะ ประชดมันให้สะใจไปเลยสาดดดดด.....
ตอนเข้ามาตอนแรกก็อุตส่าห์ดีใจ ที่โซนยืนเป็นโซนที่เป็นฉากถ่ายรูป Red carpet จะได้มีดารามาโพสท์ให้ถ่ายรูปใกล้ๆ แต่ไปๆมาๆ ไอ่พวกสื่อมวลชนนี่ดิ มายืนบังหมด
ถ้ายืนถ่ายรูปกันเฉยๆ อย่างคนที่มีมารยาทเค้าทำกันจะไม่ว่าเลย นี่อะไร.... มาถือสิทธิว่าตัวเองเป็นสื่อ จะยืนยังไงก็ได้ จะหาลังมาต่อขาสั้นๆ หัวต่ำๆ ของตัวเองให้สูงแค่ไหนก็ได้เหรอไงฟระ??? พอดารามาที ก็ปีนขึ้นลังส่วนตัวที่อุตส่าห์แบกมาเพิ่มความสูงมาบังชาวบ้านเค้า แสรดดดดดเอ๊ยยยยยยยยย..... *แค่สื่อบางตัวเท่านั้น สื่อที่เป็น "คน" ดีๆยังมีอีกเยอะ*
ข้าพเจ้าก็คิดว่าพอเดิน Red carpet กันเสร็จคงจะเลื่อนฉากไปเก็บให้คนดูได้เลื่อนขึ้นไปใกล้ๆ แต่ที่ไหนได้ พอเดินเสร็จ ข้าพเจ้าเดินออกไปหาอะไรกินด้านนอก กลับเข้ามาอีกที ไอ้ฉากนรกนั่นก็ยังคง stand still อยู่ที่เดิม เลยเซ็งเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน..........
ข้าพเจ้าตัดสินใจเดินออกไปรอข้างนอกกับบูม กะว่า Super Junior ขึ้นรับรางวัลเมื่อไหร่ค่อยเข้าไป เพราะยังไงก็ไม่เห็นตัวจริงที่ถูกไอ้ฉากนรกนั่นบังอยู่แล้ว ต้องดูจากจออยู่ดี ดูจากมุมไหนก็ไม่ต่างกัน
ข้าพเจ้าก็เจอกับเพื่อนที่คณะที่ได้บัตรโซนยืนพิเศษ ที่ไม่สามารถเข้าไปในโซนได้เนื่องจากสตาฟไม่ให้เพราะหน้างานระบุให้โซนไฮโซทั้งสองต้องเข้างานก่อน 6 โมงเย็น ทั้งๆที่ในบัตรเขียนว่างานเริ่ม 19.00 - 24.00 น. ไม่ประกาศล่วงหน้าอะไรซักคำ แล้วใครที่ไหนมันจะไปตรัสรู้วะ?????
เพื่อนๆพยายามอ้อนวอนสตาฟอยู่หลายคน แต่ทุกคนตอบแค่ว่า เบื้องบนสั่งมา พี่ทำอะไรไม่ได้ค่ะ น้องเข้าได้แค่โซนยืนธรรมดา
ข้าพเจ้าอยากรู้จริงๆว่า ทำไมไม่ให้เข้าวะ??? ทั้งๆที่คนเดินเข้าเดินออกจากโซนนั้นก็ออกเยอะแยะ ถ้าจะห้ามเข้าจริงๆก็ต้องห้ามออกด้วยดิ สราดดดดด........ คิดว่าบัตรที่ตัวเองแจกเป็นบัตรฟรีแล้วจะทำยังไงก็ได้เหรอไง???
ไม่รู้เหรอว่าคนที่เค้าส่ง sms ไปน่ะ เค้าเสียตังค์ให้พวกคุณไปตั้งเท่าไหร่แล้ว... ชริ!!!! สงสารเพื่อนชิบเป๋ง.... *วันนี้ออกจะสถุลเล็กน้อย เพราะเคืองจริงๆ*
เซ็งมันไปแล้วทั้ววันก็เลยดูการประกาศรางวัล การแสดงจากศิลปินอื่นอย่างเนือยๆ นั่งเม้าท์กับเพื่อนไปเรื่อยๆ เพราะ SJ แสดงเป็นวงสุดท้ายก่อนจบงาน (เพราะรู้ว่าคนส่วนใหญ่มาดู SJ ถ้าให้เล่นก่อนคนก็กลับหมด)
บนเวทีทำได้ดีผิดกับงานด้านอื่นๆ พิธีกร การประกาศ การแสดง บลาๆ ดูดีใช้ได้ มีมุขสดจากเหล่าพิธีกรเป็นระยะๆ นั่งรอมาเรื่อยๆ จนถึงการแสดงของ SJ ที่สนุกสุดแล้วในงานคืนนี้
SJ เล่นไป 4 เพลง พร้อมๆกับเสียงกรี๊ดมหาศาลจากทั้งบรรดาแฟนคลับ(อย่างเพื่อนข้าพเจ้า) และที่ไม่ใช่แฟนคลับ(อย่างข้าพเจ้า) พอเล่นเสร็จ เป็นดังคาด ทุกคนกรูกันออก (ด้วยเวลาที่ดึกแล้วหรือด้วยความเหม็นขี้หน้าบรรดาผู้จัดงานก็มิอาจรู้ได้)
เพื่อนข้าพเจ้าก็ลากข้าพเจ้าออกมาด้วยเพื่อไปรอส่งเหล่าบรรดาหนุ่ม SJ ที่ทางออกของรถข้างๆฮอลล์ แล้วข้าพเจ้าก็พบว่ามีคนมากมายมารอส่งเหมือนกัน ยืนเรียงเป็นแถวเต็มข้างทาง รออยู่ไม่นานรถบัสก็ออกมาพร้อมกับเหล่าลิงๆ ที่น่ารักทั้ง 12 ตัว
รถผ่านไปไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่ แต่ข้าพเจ้าเห็นแค่ 3 คน นั่น คือ ป๋าฮันคยอง คิบอม และคยูฮยอน ด้วยความที่ข้าพเจ้าชอบซีวอนและคิบอมเป็นทุนเดิม จึงตั้งใจจดจำตำแหน่งของคิบอมเป็นพิเศษ
แฟนคลับส่วนใหญ่วิ่งตามรถไป (รถต้องวนรอบฮอลล์ไปออกอีกทางหนึ่งเนื่องจากเป็นวันเวย์) ข้าพเจ้ากำลังคิดว่าจะกลับบ้านเพราะตอนนั้นก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่เพื่อนของข้าพเจ้าชวนวิ่งอ้อมไปดักรถตรงทางออก เผื่อจะได้เห็นอีกซักที
พอวิ่งไปถึงรถก็กำลังมาพอดี ตรงแถวๆนั้นมีคนอยู่ไม่มาก (เพราะส่วนใหญ่วิ่งตามอยู่ข้างหลัง 555+)
กรุณานึกภาพตาม>>>
รถบัสค่อยๆวิ่งมาตรงที่ที่ข้าพเจ้ายืนอยู่อย่างช้าๆ เพราะรถค่อนข้างติด เมื่อรถค่อยๆผ่านมาตรงหน้า ข้าพเจ้าและเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ค่อยๆล็อกเป้าหมายของตนเอง (ซึ่งพอดีว่าเป็นคนละคนทั้งหมด)
ข้าพเจ้าจ้องตรงไปยังคิบอม (ที่นั่งแถวที่สองจากด้านหน้า) พอดีกับที่คิบอมกำลังมองลงมา (โอ้ววว....กรี๊ดดดด.....นึกถึงทีไรมือไม้สั่น ตอนพิมพ์นี่ก็ตื่นเต้นอยู่) ข้าพเจ้าโบกมือบ๊ายบายให้คิบอมอย่างเอาเป็นเอาตาย (เค้ายังจ้องหน้าชั้นอยู่ อ๊ากกกกก......หล่อมากกกกกก.......หล่อกว่าในรูปกับทีวีอีก......) คิบอมยิ้มตอบฉัน (โคตรน่ารักเลยว้อยยยยยย.....) และพยักหน้าให้นิดนึง พร้อมกับค่อยๆยกมือขึ้นมาบ๊ายบายตอบ
ข้าพเจ้าเข้าใจเลยว่า "เวลาหยุดเดินไปชั่วขณะหนึ่ง" เป็นยังไง มันเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วครู่ เวลาแค่ 3 วินาทีที่เราสบตากันเหมือนเป็นสัก 3 นาทีสำหรับข้าพเจ้า มีความสุขที่สุดในโลกกกก................................. *ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากรูเพ้อได้ขนาดนี้ TT_TT*
ขอสาบานว่าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง เพราะตรงนั้นมีกลุ่มข้าพเจ้ายืนอยู่แค่ไม่กี่คน และแต่ละคนก็จ้องไปแต่เป้าหมายของตัวเองทั้งนั้น โจที่ยืนอยู่ข้างๆก็กำลังชู 2 นิ้วให้คยูฮยอน (และได้รับการตอบกลับมาเป็น 2 นิ้วงามๆของคยูเหมือนกัน) ข้างหลังก็เป็นพุ่มไม้และลานจอดรถที่ไม่มีใคร
และที่สำคัญคิบอมสบตาและพยักหน้าให้ข้าพเจ้าก่อนบ๊ายบายกลับ เหมือนจะบอกว่า ผมรับรู้นะว่าคุณกำลังบ๊ายบายผม
สติของข้าพเจ้าหลุดลอยออกจากร่างหายไปกับสายลม แค่นี้ชีวิตฉันก็ตายตาหลับแล้ว เพื่อนบางคนยังวิ่งตามรถไปจนถึงหัวมุม แต่ข้าพเจ้าไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว (เคลิ้มกับรอยยิ้มงามๆ ของบ่อมบ๊อมอยู่) พอรถผ่านไปก็มีแฟนคลับฝูงหนึ่งวิ่งตามไปส่งจนรถออกถนนใหญ่ไป
พอเรียกสติกลับมาได้ก็เดินไปหาเพื่อน ผ่านกลุ่มเด็กม.ต้นกลุ่มหนึ่งที่ยืนร้องไห้กันอยู่ เลยย้อนนึกถึงตัวเองว่าข้าพเจ้าไม่เคยมีช่วงเวลาเเบบนี้เลย (ที่บ้าดาราตอนม.ต้น) มาบ้าเอาตอนแก่ เข้ามหาลัยแล้ว วุฒิภาวะสูงพอที่จะไม่ร้องไห้
ได้แต่ยิ้มแก้มปริ ปลื้มอกปลื้มใจ เพ้อนิดหน่อย
กะอีแค่เค้ากลับประเทศกัน เดี๋ยวแป๊บๆ ก็กลับมาใหม่ จะไปร้องไห้ให้เค้าทำไมล่ะหนูๆ???
คืนนั้นก็เลยกลับบ้านแบบเบลอๆ เพ้อๆ ตอนอยู่บนรถบูมก็เพ้อแต่ "คิบอมชิ (คุณคิบอม)" กับ "ยูชอนอุปป้า (พี่ยูชอน)" *ได้ข่าวว่าคนหลังไม่ได้มา แค่ส่งวิดีโอมาทักทาย*
พอถึงบ้านก็นอนไม่หลับ ประมาณว่า หลับตาลงก็เห็นแต่ภาพเธอ 555+ (ขำตัวเอง) วันต่อมาก็มาเพ้อให้เพื่อนๆที่คณะฟัง เหมือนดังที่เล่ามาทั้งหมด
เพื่อนๆคงคิดว่าข้าพเจ้าบ้าไปแล้วแน่ๆ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคงเพ้ออยู่เป็นระยะๆ อารมณ์ดีสุดๆมาหลายวันติดกันแล้ว
สรุปแล้ว สิ่งที่คุ้มค่ากับการไปงานซี้ดครั้งนี้ มีแค่รอยยิ้มของคิบอมเท่านั้น (ที่ตอนนั้นส่งให้ข้าพเจ้าคนเดียว 555+ ยังเพ้อไม่หยุด) และการได้เห็นตัวจริงของเหล่าลิงๆ ทั้งหลาย ที่แม้จะเห็นเป็นตัวเล็กๆ แต่รังสีความหล่อก็เปล่งประกายไม่หยุด
จากที่ตอนแรกข้าพเจ้าไม่ได้เป็นแฟนคลับ ก็กลายมาเป็น semifan(กึ่งแฟนคลับ ไม่เป็นเต็มตัว เพราะชอบอยู่แค่ไม่กี่คน) แล้วตอนนี้
และที่สำคัญ ข้าพเจ้าได้หนุ่มในสังกัดมาเพิ่มอีก 1 คน กลายเป็น 3 คน (ตัดจุนกิออกไปแล้ว เลื่อนตำแหน่งให้เป็นคนสวยในสังกัดกับ hyde แทน 55+) อันได้แก่
Micky Yuchun ณ TVXQ
แวนเนส F4
และสุดท้ายเด็กใหม่สดๆร้อน Kimkibum แห่ง Super Junior
และข้าพเจ้าสามารถหาจุดร่วมสำคัญของ 3 คนนี้ได้แล้วนั่นคือ
เป็นหนุ่มเอเชีย ตาตี่ (ที่โตนิดหน่อยในกรณีของบ่อมบ๊อม) โตเมืองนอกก่อนกลับมาทำงานในวงการบันเทิง(ตกใจมากที่รู้ว่าบ่อมบ๊อมก็มาจากอเมริกาเหมือน 2 คนก่อนหน้า) มาจากวงบอยแบนด์ชื่อดัง มักได้รับหน้าที่ร้องท่อนแร็ป เสียงนุ่มๆ ทุ้มแบบเมสโซเทเนอร์ (จากการฟังเอาเองน่าจะประมาณนี้) เป็นคนคอยสร้างสีสันในวง เต้นเก่งมากกกก...... มีกิริยาส่อวาย (แต่ไม่ใช่คู่เอกของวง) สายตาสั้น (ไม่แน่ใจในกรณีแวนเนส????) ที่สำคัญ หน้าบวมๆ ปากห้อยๆ 555+ (สังเกตได้แต่อะไรแปลกๆอ่ะ)
นี่สเป็กชั้นเป็นอย่างงี้เรอะ?????
จบเหอะนะ!!! ------------------------------------------
ป.ล. - ใครอ่านแล้วไม่เม้นขอให้........
ป.ล. 2 - เรื่องแท็กขอป๊ะไว้ก่อนนะ ทั้งพี่บิว แพร และธนภพ (แท็ก 3 คนต้องทำ 15 ข้อรึเปล่า) สัญญาว่าจะทำให้แน่นอน ตอนนี้ยังนึกเรื่องที่จะเล่าไม่ออก แหะๆ
ป.ล. 3 - ดงบังกำลังจะมีคอนเร็วๆนี้ (คำบอกเล่าจากคนของ SM entertainment ที่มารับรางวัลแทนดงบังในงานซี้ด (เก็บตังค์กันไม่ทันอีกแล้ว ชริ....)
Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2550 | | |
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2550 9:38:53 น. |
Counter : 809 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|