4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
เยอรมันกับแนวคิดตัวตน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ บุรุษโลกตะลึง (ตอนที่ 4)

สิงหาคม ค.ศ. 1934 ประธานาธิบดีถึงแก่อสัญกรรม หนึ่งวันก่อนหน้านั้น คณะรัฐมนตรีได้ผ่านกฎหมายให้มีผลใช้บังคับเมื่อประธานาธิบดีเสียชีวิต ซึ่งล้มล้างตำแหน่งประธานาธิบดีและรวมอำนาจของประธานาธิบดีกับนายกรัฐมนตรี ฮิตเลอร์จึงกลายมาเป็นทั้งประมุขแห่งรัฐและประมุขรัฐบาล มีชื่อทางการว่า ผู้นำและนายกรัฐมนตรี ด้วยกฎหมายนี้ จึงไม่สามารถถอดเขาออกจากตำแหน่งได้ ในฐานะประมุขแห่งรัฐ ฮิตเลอร์จึงเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดด้วย การมอบสัตย์ปฏิญาณของทหารและกะลาสีตามประเพณี ถูกเปลี่ยนเป็นการยืนยันความภักดีต่อฮิตเลอร์โดยตรง วันที่ 19 สิงหาคม การรวมตำแหน่งประธานาธิบดีกับนายกรัฐมนตรีได้รับการอนุมัติโดยการลงประชามติ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุน 90% ของผู้ออกมาใช้สิทธิ

ต้น ค.ศ. 1938 ฮิตเลอร์บีบให้รัฐมนตรีกลาโหมลาออก เมื่อสำนวนตำรวจพบว่าภรรยาใหม่ของบเขาเคยมีประวัติเป็นโสเภณี ฮิตเลอร์ถอดผู้บัญชาการทหารบก โดยสร้างข้อกล่าวหาว่าเขามีส่วนในความสัมพันธ์รักร่วมเพศ นั่นเพราะคนทั้งคู่ได้คัดค้าน ฮิตเลอร์ที่ให้ทั้งสองเตรียมกองทัพบกให้พร้อมเข้าสู่สงครามภายใน ค.ศ. 1938 เขาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ดังนั้น จึงสามารถบังคับบัญชากองทัพได้โดยตรง พลเอก 16 นายถูกถอดจากตำแหน่ง และ 44 นายถูกย้าย พลเอกอื่นอีก 12 นายถูกปลด ทั้งหมดถูกสงสัยว่าไม่นิยมนาซีมากพอ หลังได้เสริมสร้างอำนาจการเมืองของเขาแล้ว ฮิตเลอร์ปราบปรามหรือกำจัดคู่แข่งของเขาด้วยการ "จัดแถว" เขาพยายามหาการสนับสนุนจากสาธารณะเพิ่มเติมโดยสัญญาว่าจะพลิกฟื้นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และยกเลิกสนธิสัญญาแวร์ซาย

ปี ค.ศ. 1935 ฮิตเลอร์แต่งตั้งคนสนิท เป็นผู้มีอำนาจเต็มด้านเศรษ
ฐกิจสงคราม รับผิดชอบการเตรียมเศรษฐกิจเพื่อสงคราม การฟื้นฟูบูรณะและการติดอาวุธใหม่ได้รับจัดหาเงินทุน และการยึดสินทรัพย์ของผู้ที่ถูกจับกุมในข้อหาเสี้ยนหนามแผ่นดิน รวมทั้งยิว การว่างงานลดลงอย่างมาก จาก 6 ล้านคนใน ค.ศ. 1932 เหลือ 1 ล้านคนใน ค.ศ. 1936 ฮิตเลอร์เป็นผู้ดูแลหนึ่งในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคหนึ่งในครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เยอรมนี ซึ่งนำไปสู่การก่อสร้างเขื่อน ทางหลวง ทางรถไฟและงานสาธารณะอื่น ๆ ค่าจ้างลดลงเล็กน้อยในช่วงปีก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น 25% รัฐบาลฮิตเลอร์สนับสนุนสถาปัตยกรรมอย่างกว้างขวาง สถาปนิกแบบคลาสสิกของฮิตเลอร์นำไปปรับกับวัฒนธรรมเยอรมัน ถูกกำหนดให้รับผิดชอบการปฏิสังขรณ์สถาปัตยกรรมในเบอร์ลิน ฮิตเลอร์เปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในเบอร์ลิน เขาการปฏิเสธการจำกัดทางทหารภายใต้สนธิสัญญาแวร์ซาย 





ค.ศ. 1933 เยอรมนีถอนตัวจากสันนิบาตชาติและการประชุมปลดอาวุธโลก แล้วประกาศขยายกำลังพลทหารบกเป็น 600,000 นาย เป็น 6 เท่า ของจำนวนที่สนธิสัญญาแวร์ซายอนุญาต รวมถึงการพัฒนากองทัพอากาศ และการเพิ่มขนาดกองทัพเรือ ทำให้ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และสันนิบาตชาติ ประณามแผนการเหล่านี้ว่าเป็นการละเมิดสนธิสัญญาแวร์ซาย มีนาคม ค.ศ. 1936 เยอรมนียึดครองเขตปลอดทหาร อีกครั้ง อันเป็นการละเมิดสนธิสัญญาแวร์ซาย ฮิตเลอร์ส่งกำลังเข้าไปในสเปนเพื่อสนับสนุนผู้นำทหาร หลังได้รับการขอความช่วยเหลือ ในขณะเดียวกัน เขาพยายามสร้างพันธมิตรอังกฤษ-กับเยอรมนีอย่างต่อเนื่อง ในการสนองต่อวิกฤตเศรษฐกิจที่ลุกลามขึ้นอันเกิดจากความพยายามสร้างเสริมอาวุธขึ้นใหม่

ฮิตเลอร์จึงสั่งคนสนิท เพื่อดำเนินการแผนการ 4 ปี เพื่อให้เยอรมนีพร้อมทำสงคราม ในอนาคต ในมุมมองของฮิตเลอร์ จำเป็นต้องมีความพยายามที่ผูกมัดในการเสริมสร้างอาวุธโดยไม่คำนึงถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลอิตาลี ประกาศเป็นพันธมิตรต่อกันระหว่างเยอรมนีกับอิตาลี และในวันที่ 25 พฤศจิกายน เยอรมนีลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลกับญี่ปุ่น อังกฤษ จีน อิตาลี และโปแลนด์ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมสนธิสัญญาดังกล่าวด้วย แต่มีเพียงอิตาลีเท่านั้นที่ลงนามใน ค.ศ. 1937

ฮิตเลอร์โมโหจึงทิ้งพันธมิตรอังกฤษ-เยอรมนี โดยกล่าวโทษว่าผู้นำอังกฤษ "ไม่เหมาะสม" เขาจัดการประชุมลับที่ทำเนียบรัฐบาล กับรัฐมนตรีกลาโหมและต่างประเทศ ตลอดจนหัวหน้าทหารในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น สั่งเตรียมทำสงครามในทางตะวันออก ซึ่งจะเริ่มขึ้นไม่เกิน ค.ศ. 1943 เขารู้สึกว่าวิกฤตเศรษฐกิจเยอรมนีได้มาถึงจุดที่มาตรฐานการครองชีพในเยอรมนีถดถอยรุนแรง จนต้องใช้เฉพาะนโยบายก้าวร้าวทางทหาร คือ ยึดออสเตรียและเชโกสโลวาเกีย เท่านั้น ฮิตเลอร์กระตุ้นการปฏิบัติอย่างรวดเร็ว ต้น ค.ศ. 1938 ฮิตเลอร์ถือสิทธิ์ควบคุมระบบนโยบายทางทหาร-ต่างประเทศ โดยปลดคนอื่นจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เขาดำเนินนโยบายต่างประเทศซึ่งมีสงครามเป็นเป้าหมายสูงสุด

มโนทัศน์หลักของนาซี คือ แนวคิดความสะอาดเชื้อชาติ ค.ศ. 1935 เขาเสนอกฎหมายสองฉบับ ห้ามการสมรสระหว่างผู้ที่มิใช่ยิว กับเยอรมันเชื้อสายยิว และห้ามการจ้างสตรีมิใช่ยิวอายุต่ำกว่า 45 ปีในครัวเรือนยิว นโยบายด้านพันธุศาสตร์ช่วงแรกของฮิตเลอร์มุ่งไปยังเด็กที่บกพร่องทางกายและการพัฒนา และภายหลังอนุมัติขยายโครงการไปยังผู้ใหญ่ที่บกพร่องทางจิตและกายอย่างร้ายแรง มุ่งการได้มาซึ่งดินแดนใหม่สำหรับการตั้งถิ่นฐานของชาวเยอรมันในยุโรป กำหนดให้ประชากรในยุโรปตะวันออกและสหภาพโซเวียตส่วนที่ถูกยึดครองถูกเนรเทศไปยังไซบีเรียตะวันตก เพื่อใช้เป็นแรงงานทาสหรือสังหารทิ้ง ดินแดนที่ถูกพิชิตจะถูกตั้งเป็นอาณานิคมของผู้ตั้งถิ่นฐานชาวเยอรมันหรือถูกทำให้เป็นเยอรมัน

เลอร์จึงยุติการเป็นพันธมิตรกับสาธารณรัฐจีน และเข้าเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นที่ทันสมัยและทรงอำนาจกว่า ฮิตเลอร์ประกาศรับรองแมนจูกัว รัฐที่ญี่ปุ่นยึดครองในแมนจูเรีย ฮิตเลอร์สั่งยุติการส่งอาวุธไปยังจีน และเรียกนายทหารเยอรมันที่ทำงานกับกองทัพจีนทั้งหมดกลับ เพื่อเป็นการตอบโต้ พลเอก เจียง ไคเช็กของจีน ยกเลิกความตกลงเศรษฐกิจจีน-เยอรมนีทั้งหมด ทำให้เยอรมนีขาดวัตถุดิบจากจีน แม้จีนจะยังขนส่งทังสเตนซึ่งเป็นโลหะสำคัญในการผลิตอาวุธต่อไป มีนาคม ค.ศ. 1938 ฮิตเลอร์ประกาศรวมออสเตรีย เข้ากับนาซีเยอรมนี เขามุ่งความสนใจไปยังประชากรเชื้อชาติเยอรมันในแคว้นย่อยของเชโกสโลวาเกีย

มีนาคม ค.ศ. 1938 ฮิตเลอร์จัดการประชุมลับขึ้นหลายครั้งในกรุงเบอร์ลิน โดยตกลงว่าผู้นำกบถของแคว้นย่อย ฯ จะเรียกร้องสิทธิปกครองตนเองเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลเชโกสโลวาเกีย ซึ่งจะเป็นข้ออ้างสำหรับการปฏิบัติทางทหารต่อเชโกสโลวาเกีย เมษายน ค.ศ. 1938 ผู้นำกบถของแคว้นย่อย ฯ บอกรัฐมนตรีต่างประเทศฮังการีว่า ไม่ว่ารัฐบาลเช็กจะเสนออะไร เขาจะเรียกร้องสูงขึ้นเสมอ” เพราะนี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะโจมตีเชโกสโลวาเกียอย่างรวดเร็ว เจตนาที่แท้จริงของเขานั้นคือสงครามพิชิตเชโกสโลวาเกีย กันยายน ค.ศ. 1938 ฮิตเลอร์ อังกฤษ เชโกสโลวาเกีย และผู้นำเผด็จการอิตาลี เข้าร่วมการประชุมซึ่งนำไปสู่ความตกลงมิวนิก ซึ่งได้มอบแคว้นย่อยให้แก่เยอรมนี แต่ฮิตเลอร์โกรธกับโอกาสทำสงครามที่พลาดไป เขาผิดหวัง เพราะในมุมมองของฮิตเลอร์ สันติภาพซึ่งอังกฤษเป็นนายหน้านั้น แม้จะอำนวยประโยชน์ต่อการเรียกร้องบังหน้าของเยอรมนี แต่ก็เป็นความพ่ายแพ้ทางการทูต

ในปลาย ค.ศ. 1938 และต้น ค.ศ. 1939 วิกฤตการณ์เศรษฐกิจที่ดำเนินต่อไปซึ่งเกิดขึ้นจากความพยายามสร้างเสริมอาวุธใหม่บีบให้ฮิตเลอร์ตัดงบประมาณป้องกันประเทศลงอย่างมาก ต่อมาก ฮิตเลอร์จึงสั่งให้ทหารรุกรานเมืองปราก และจากนั้นได้ประกาศให้เมืองโบฮีเมียและโมราเวียเป็นรัฐในอารักขาของเยอรมนี

ค.ศ. 1939 ฮิตเลอร์จึงตัดสินใจรุกรานโปแลนด์ ซึ่งเขาถือว่าเป็นเป้าหมายนโยบายต่างประเทศหลักของเยอรมนี ฮิตเลอร์ ขัดใจที่อังกฤษ "รับประกัน" เอกราชของโปแลนด์ สาเหตุหนึ่งที่ฮิตเลอร์เร่งทำสงคราม เพราะความกลัวผิดปกติและหมกมุ่นของเขาว่าจะตายก่อนวัยอันควร และดังนั้น จึงมีความรู้สึกว่า เขาอาจไม่มีชีวิตอยู่จนสำเร็จงานของเขาก็ได้


ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/topsecretthai











Create Date : 10 กรกฎาคม 2557
Last Update : 10 กรกฎาคม 2557 15:49:03 น. 0 comments
Counter : 771 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.